ตอนที่ 1155 เฉินช่าวเย่…
ในวันที่สิบห้า…เมืองด้านในของค่ายซางจิงถูกปิดกั้นหมดทุกทางแล้วเรียบร้อยคนที่เดินทางเข้าเมืองนั้นไม่ใช่แค่ต้องแสดงหลักฐานยืนยันตัวเท่านั้น แต่จะต้องถูกตรวจสอบด้วยมาตรฐานสูงสุดจากภายในและภายนอกอย่างครบถ้วน
นอกจากนี้ที่ด้านนอกของอาคารประชุมยังมีการต่อแถวเข้าคิวยาวเหยียดโดยในแถวนั้นมีแต่เจ้าหน้าทหารที่มียศตำแหน่ง ซึ่งแต่งชุดเครื่องแบบยืนเรียงแถวกันยาวเพื่อรับการตรวจอย่างถี่ถ้วนก่อนเข้าไปในอาคารประชุม แสดงให้เห็นถึงการจัดการอย่างจริงจังและเข้มงวด รวมถึงความสำคัญของการประชุมในครั้งนี้
พันโทครับรบกวนฝากปืนก่อนด้วยครับ เจ้าหน้าที่คนหนึ่งหยุดเฉินช่าวเย่ที่กำลังจะเข้าไปในอาคารไว้ น้ำเสียงที่ใช้ไม่ได้อ่อนน้อมสักเท่าไหร่ เฉินช่าวเย่เหลือบมองปืนไรเฟิลพิเศษที่ไพล่ไว้ที่หลังของตัวเองและก็ฉุกคิดว่าอาวุธของเขามันไม่เหมาะสมที่จะนำเข้าไปในห้องประชุมจริงๆอย่างที่อีกฝ่ายแจ้ง
ดังนั้นเฉินช่าวเย่จึงยอมมอบปืนของเขาให้กับเจ้าหน้าที่ไปโดยไม่ได้คิดอะไรแต่เขาก็พลันฉุกคิดได้ก่อนว่าน้ำหนักของปืนไรเฟิลพิเศษของเขามันเกินกว่าที่คนธรรมดาจะรับได้ไหว ดังนั้นเฉินช่าวเย่เลยชักปืนไรเฟิลกลับมาและนำมันไปวางลงไปในกล่องแทนเอง
เจ้าหน้าที่ที่เห็นเช่นนั้นก็พูดกับเฉินช่าวเย่ ท่านจะได้รับอาวุธของท่านคืนหลังจากที่การประชุมจบลงครับ มั่นใจได้
อืม! เฉินช่าวเย่พยักหน้ารับอย่างมึนๆ อดไม่ได้ที่จะมองไปยังผู้คนที่เข้าแถวแยว จากนั้นก็ถอนหายใจและกำลังเดินเข้าไปในห้องประชุมต่อ
รอก่อนครับท่านพลโท เจ้าหน้าที่คนเดิมหยุดเฉินช่าวเย่เอาไว้อีกครั้ง มองไปที่เอวของเฉินช่าวเย่พร้อมอมยิ้ม ปืนพกนี้ก็ต้องถูกฝากไว้ก่อนด้วยเหมือนกันครับ
เฉินช่าวเย่นิ่วหน้า ฉันว่ามันไม่จำเป็นหรอก ใช่มั้ย? ฉันจะเอาปืนพกไว้ป้องกันตัวบ้างเลยไม่ได้เหรอ?
พลเอกคนหนึ่งที่อยู่ข้างหลังแทรกตัวเข้ามาส่งมอบอาวุธให้กับเจ้าหน้าที่แทนเขาหันกลับมามองเฉินช่าวเย่และส่งยิ้ม โทษทีพลโท มันเป็นกฏ ทุกคนต้องทำตาม
ความหมายนี่คือ…แม้แต่พลเอกยังทำตามกฏระเบียบแล้วเมื่อไหร่เฉินช่าวเย่จะทำตามกฏซะที?
เฉินช่าวเย่ชำเลืองมองตวนเจียงเหว่ยที่กำลังส่งมอบอาวุธอยู่ข้างๆตวนเจียงเหว่ยพยักหน้าอย่างเห็นด้วย ใช่ ที่คุณพูดก็มีเหตุผล รอสักครู่!
หลังจากพูดจบเฉินช่าวเย่ก็แทบจะสลัดเครื่องแบบทหารของเขาออกจนหมดเพื่อปลดอาวุธทั้งหลายที่ซ่อนไว้ตามตัว จากนั้น…
ตึง!(*&^%^&@$!%&! ปืนไรเฟิลที่ยังไม่ได้ประกอบปืนกระบอกอัตโนมัติพร้อมลำกล้องขนาดใหญ่และปืนพกขนาดเล็กสามกระบอก ราวกับมายากล เฉินช่าวเย่วางอาวุธทั้งหมดลงด้วนสีหน้านิ่งๆ
เจ้าหน้าที่ยืนนิ่งงันอย่างจกใจ
พระเจ้า!
มีปืนซ่อนอยู่มากขนาดนี้เลย!
คนมากมายที่ยืนต่อแถวยาวอยู่ข้างหลังต่างก็มองมาด้วยสีหน้าตกใจไม่แพ้กันอาวุธทั้งหลายที่ถูกวางจากมือเฉินช่าวเย่นั้นทุกคนต่างเป็นประจักษ์พยาน พวกเขาแทบไม่อยากจะเชื่อสายตาตัวเองกับภาพที่ได้เห็น
ทุกคนรวมถึงตวนเจียงเหว่ยก้าวเข้าไปในห้องประชุมหลังจากผ่านกระบวนการทุกอย่างเรียบร้อยก็ต้องชะงักค้างกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
สีหน้าของเฉินช่าวเย่นั้นนิ่งเรียบเขายังคงยืนอยู่ที่เดิม เสื้อผ้าเปิดออกหลุดรุ่ย หน้าท้องขนาดใหญ่ถูกเปิดออกพร้อมกับปืนอีกห้ากระบอกที่ยังไม่ได้นำออกมาจากในเสื้อผ้า
เฉินช่าวเย่สังเกตได้ถึงบรรยกาศที่เงียบสนิทโดยที่เขาไม่เข้าใจว่ามันเกิดอะไรขึ้น โอ้ ดูสิ ยังไม่หมดเลย?
เจ้าหน้าที่คนเดิมซึ่งมีหน้าที่ในการดูแลอาวุธของเฉินช่าวเย่กลืนน้ำลายลงคออย่างยากลำบาก พลโทครับ ตรงจุดอื่นบนตัวท่านยังมีอาวุธซ่อนอยู่อีกมั้ยครับ?
เฉินช่าวเย่ฉุกเงียบไปครู่หนึ่ง อาวุธเหรอ? มี
อะไรนะ?
และแล้ว…
สีหน้าของเจ้าหน้าที่คนเดิมก็กลายเป็นเขียวและตะโกนออกมาเสียงดัง กรุณาฝากอาวุธทั้งหมดด้วยครับ! อาวุธทั้งหมด!
โอ้ เฉินช่าวเย่เหมือนจะไม่เข้าใจว่าทำไมเจ้าหน้าที่คนนี้จะต้องทำท่าทางแบบนี้ด้วย
ในขณะที่กลุ่มคนด้านหลังเริ่มส่งเสียงฮือฮาเพราะหลังจากนั้นเฉินช่าวเย่ก็เปิดเสื้อ กางเกง รองเท้า หมวก ถุงเท้า และแม้แต่ผ้าพันคอ เขามีอาวุธซ่อนไว้ทั้งหมดในทุกจุดบนตัว
มีกริชมากกว่าสิบเล่มใบมีด ตะปูเหล็แหลมจำนวนมากถูกดึงออกไปกองกันพะเนินสูง
ครั้งนี้ไม่ใช่แค่เจ้าหน้าที่คนเดิมที่ตัวแข็งค้างแต่สีหน้าของทุกคนที่เห็นต่างหน้าดำหน้าเขียวกันหมด สายตาที่มองไปที่เฉินช่าวเย่นั้นราวกับมองตัวประหลาด…คนบ้าอะไรพกอาวุธในตัวได้มากขนาดนี้ ซ่อนทั้งหมดนี้ไว้ในตัวได้ยังไงกัน?
ขณะนั้นเองเจ้าหน้าที่คนเดิมก็เริ่มกลัวจนเหงื่อตก เมื่อนึกถึงอาวุธรุนแรงมากมายหลายชิ้นที่ถูกหยิบออกมา เขาก็โพล่งใส่เฉินช่าวเย่ นี้ท่านจะเอาทั้งหมดนี้เข้าไปในห้องประชุม? ผมบอกแล้วไม่ใช่เหรอว่าจะต้องฝากอาวุธทั้งหมดก่อนเข้าไป? มันยังมีอะไรอีก มีอาวุธอะไรที่ซ่อนไว้ตามตัวอีก ช่วยนำทั้งหมดออกมาด้วยครับ?!
เฉินช่าวเย่มองกลับไปด้วยแววตาใสซื่อ นายถามฉันแค่เรื่องปืนไม่ได้พูดว่าอาวุธ…
เจ้าหน้าที่คนเดิมพูดอะไรไม่ออกเขาจ้องเฉินช่าวเย่อย่างไม่อยากเชื่อสายตา
สิ่งที่เจ้าหน้าที่คนนี้ไม่คิดก็คือเฉินช่าวเย่จะหยิบอาวุธมากมายขนาดนี้ขึ้นมาจากในตัว แบบนี้รวมด้วยเหรอ? มันเคย…
ไม่จำเป็นต้องอธิบายถึงจุดประสงค์มนการซื้อของพวกนี้นอกเหนือจากอาวุธปืนที่เฉินช่าวเย่ซ่อนไว้ไม่น้อยแล้ว แม้แต่อาวุธอื่นๆเขาก็มีไม่น้อยหน้าเหมือนกัน
พระเจ้าแม้แต่กางเกงในก็ยังใช้ซ่อนอาวุธเหรอ?
เฉินช่าวเย่นายมันพิเศษเรื่องอะไรกันแน่?
ทุกคนมองมาที่เฉินช่าวเย่ด้วยสายตาอึ้งๆพวกเขามองไปที่เฉินช่าวเย่อย่างเงียบๆโดยพูดอะไรไม่ออก แม้แต่เจ้าหน้าที่คนอื่นๆยังลืมหน้าที่ของพวกเขา พวกเขาไม่เคยเห็นคนที่พวกอาวุธในตัวมากขนาดนี้มาก่อนเลย!
เฉินช่าวเย่กระพริบตาปริบๆและเอ่ยเสียงกระซิบ ตื่นเต้นจัง ฉันเป็นคนอ้วนและมีพื้นที่ในการซ่อนน้อย ถ้าเป็นคนจากทีมความลับของพระเจ้า พวกเขาสามารถซ่อนของได้มากกว่าฉันซะอีก
ดังนั้นต่อมาคือพริกป่น เนื้อแห้ง ซาลาเปา และแม้แต่น่องไก่ ทุกอย่างที่ไม่รู้ว่าเอาไปซ่อนไว้ตรงไหนมากมายถูกหยิบขึ้นมา
ทุกคนอ้าปากค้างอย่างพูดอะไรไม่ออกแม้แต่ตวนเจียงเหว่ยที่ได้สร้างพันธมิตรกับเขี้ยวหมาป่าแล้วก็ยังช็อคค้างไม่ต่างกัน มันเป็นความสามารถในการซ่อนของได้ดีเยี่ยมเกินไป
และที่เฉินช่าวเย่พูดสมาชิกของทีมความลับของพระเจ้าสามารถซ่อนได้มากกว่านี้อีก?
พระเจ้า!
แสดงว่าที่ผ่านมากองทัพเขี้ยวหมาป่าสามารถซ่อนของมากมายขนาดนี้ไว้ในเสื้อผ้ามาได้ตลอดเลยเหรอ?
ประเพณี?
พระเจ้า!นี้มันความคิดใครกันเนี่ย?
ไม่จำเป็นต้องเดาเพราะความคิดแรกที่แวบเข้ามาในหัวทุกคนนั้น วิธีการที่ไม่เหมือนใครและป่าเถื่อนแบบนี้ จะมีใครได้ถ้าไม่ใช่ชูฮัน?
ดังนั้นหลังจากที่เหตุการณ์เป็นที่รู้กันไปทั่วมันก็ได้สร้างความเข้าใจใหม่ในใจของทุกคนที่มีต่อชูฮันและเขี้ยวหมาป่า…
ในที่สุดหลังจากที่กล่องบรรจุเต็มแน่น เจ้าหน้าที่คนเดิมก็เงยหน้าขึ้นมองเฉินช่าวเย่อย่างเป็นกังวล ยังมีอีกมั้ยครับ? หรือหยิบออกมาหมดแล้ว?
เฉินช่าวเย่กลืนน้ำลายชำเลืองมองน่องไก่ในกล่อง ฉันส่งน่องไก้ไปก่อนหน้านี้ แล้วนี้มันหายไปไหนแล้ว!
เชิญเชิญเข้าไปได้เลยครับ เจ้าหน้าที่คนเดิมถอนหายใจอย่างโล่งอก เขาหัวหมุนจนหน้าเกือบมืด!