เปิดระบบสุดโกงอัปสกิลหมอ – บทที่ 95 อาจารย์สือ คุณไม่ต้องเครียด!

เปิดระบบสุดโกงอัปสกิลหมอ

เฉินชางคิดครู่หนึ่ง จากนั้นจึงต่อสายไปหาฉินเยว่คนขี้ประจบ

เขาคิดหากมีสาวสวยเจริญหูเจริญตามาจับจ้องตนตอนผ่าตัดสักหน่อยก็เป็นเรื่องน่ายินดี

แน่นอนว่าอย่างไรฉินเยว่ก็จบปริญญาโทจากมหาวิทยาลัยเซียงหย่าจริงๆ ย่อมมีฝีมืออยู่บ้าง

เพียงแต่หวังหย่ง…

จืดชืด ไร้รสชาติ!

แล้วเฉินชางคนเดียวทำได้หรือเปล่า?

แน่นอนว่าได้!

แต่เมื่อเฉินชางคิดว่าหวังหย่งเป็นส่วนสำคัญในการกระตุ้นระบบศิษย์อาจารย์ จึงคิดจะให้โอกาสเขาสักครั้ง อยากชี้แนะให้เขาฝึกฝน

ส่วนฉินเยว่…หากจะบอกว่าเพราะรู้สึกเบื่ออย่างเดียวก็ไม่ใช่ เฉินชางยังไม่ว่างขนาดคิดหาเรื่องให้ตัวเอง

สาเหตุสำคัญยังคงเป็นเพราะงานของฉินเยว่ ตอนนี้เธอทำงานทางด้านการเก็บข้อมูลและวิจัยเกี่ยวกับการผ่าตัด เฉินชางลองประเมินดูแล้ว เขาคิดว่าตนต้องทำงานร่วมกับฉินเยว่ให้มากสักหน่อย เพื่อหาผลสรุปในด้านประสบการณ์การผ่าตัดของตนเองว่าจะนำไปเขียนเป็นวิทยานิพนธ์ได้หรือไม่

ห้องผ่าตัดถูกเตรียมเรียบร้อยแล้ว ผู้ป่วยคนแรกยังไม่ได้รมยา เขาเป็นนิ่วในถุงน้ำดีที่อักเสบเฉียบพลัน จากผลอัลตร้าซาวด์พบว่ามีการขยายตัวของถุงน้ำดีด้วย!

เนื่องจากสือน่ายังรู้สึกไม่วางใจ เธอจึงตัดสินใจตามมาดูเฉินชางในการผ่าตัดเคสแรก และให้ฉินเยว่ไปเข้าเวรแทนตน

ฉินเยว่เดินมาที่ห้องทำงานด้วยความรู้สึกแปลกใจ ส่วนสือน่าตามเฉินชางเข้าไปในห้องผ่าตัดแล้ว

ฉินเยว่อดถามพยาบาลเวรไม่ได้ว่า “เฉินชางมีผ่าตัดอะไรหรือคะ?”

พยาบาลชะงักไปครู่หนึ่ง “น่าจะเป็นผ่าตัดถุงน้ำดีค่ะ ฉันเช็คแล้ว เป็นผู้ป่วยเตียงสิบสองค่ะ”

ฉินเยว่ได้ยินดังนั้นก็ก้าวฉับๆ ไปที่ห้องทำงานแล้วเปิดคอมพิวเตอร์ดูประวัติผู้ป่วยเตียงสิบสองทันที

บันทึกก่อนการผ่าตัดถูกเขียนเรียบร้อยแล้ว! เป็นการผ่าตัดถุงน้ำดีด้วยกล้องเอนโดสโคป จากการวินิจฉัยก่อนการผ่าตัดพบว่าเป็นถุงน้ำดีอักเสบเฉียบพลัน และมีการขยายตัวของถุงน้ำดีด้วย

เฉินชางผ่าตัดถุงน้ำดีได้ด้วยหรือ?

โอ้โห?

จริงหรือเนี่ย?

ขณะนั้นเอง หวังหย่งวิ่งเข้ามาอย่างเร่งรีบ เมื่อเห็นฉินเยว่นั่งอยู่ในห้องทำงานก็มีสีหน้าไม่พอใจ

“เฉินชางล่ะครับ?” หวังหย่งถามเสียงหอบ

ฉินเยว่กล่าวตอบ “ไปผ่าตัดกับอาจารย์สือแล้วค่ะ คุณมาทำไมคะ?”

หวังหย่งถอนใจอย่างจนใจ “ตอนนี้ผมเป็นผู้ติดตามของลูกพี่เฉินแล้วครับ ลูกพี่เฉินโทรหาผม ผมเลยต้องรีบมายังไงล่ะ!”

ฉินเยว่ได้ยินก็หัวเราะออกมา

หวังหย่งถลึงตาใส่ฉินเยว่ “คุณยังมาหัวเราะผมอีก คุณกับผมไม่เหมือนกันหรือไง? ก็เป็นผู้ติดตามของเฉินชางเหมือนกันนั่นแหละ”

คำพูดนี้ของเขาทำให้ฉินเยว่โกรธจนรู้สึกเหมือนสมองระเบิดดังตู้ม!

หวังหย่งหัวเราะ “ดูสิ ผมว่านะ คุณตอนโกรธยังดูดีกว่าตอนหัวเราะอีก”

ฉินเยว่รู้สึกอยากอัดคนจริงๆ!

หวังหย่งอดถามไม่ได้ “เฉินชางผ่าตัดอะไรหรือครับ? ตอนโทรหาผมเขาไม่ได้บอกให้ชัด”

ฉินเยว่พูดอย่างไม่สบอารมณ์ “ดูเองสิ!”

หลังจากดูเสร็จหวังหย่งก็ชะงักไปครู่หนึ่ง “ผมตกใจเลยนะครับเนี่ย ผ่าตัดถุงน้ำดี เฉินชางทำการผ่าตัดนี้ได้ด้วยหรือ? เขาผ่าตัดกับอาจารย์สือสินะครับ?”

ฉินเยว่ส่ายหน้า “อาจารย์สือเป็นหมอศัลยกรรมกระดูกนะคะ! ไม่เคยผ่าตัดถุงน้ำดีเลย ฉันติดตามอาจารย์สือมานานขนาดนี้ยังไม่เคยเห็นเธอผ่าตัดถุงน้ำดีเลยสักครั้ง”

หวังหย่งได้ยินพลันเบิกตากว้าง “คุณจะบอกว่า…อาจารย์สือไปเป็นผู้ช่วยให้เฉินชางหรือครับ? ส่วนเฉินชางเป็นศัลยแพทย์หลัก?”

ฉินเยว่ได้ยินดังนั้นพลันมีปฏิกิริยาขึ้นมาทันที ดวงตาที่กลมโตอยู่แล้วยิ่งเบิกว้างเข้าไปใหญ่ จนดูเหมือนตัวการ์ตูนอย่างไรอย่างนั้น “เฉินชางเก่งขนาดนี้เลยหรือ?”

ทันใดนั้น ทั้งสองรู้สึกคันปากอยากซุบซิบขึ้นมาโดยพลัน

……

……

ภายในห้องผ่าตัด วิสัญญีแพทย์รมยาให้ผู้ป่วยเรียบร้อยแล้ว

การผ่าตัดถุงน้ำดีค่อนข้างยุ่งยากและใช้เวลานาน ยิ่งไปกว่านั้นนี่ยังเป็นการผ่าตัดถุงน้ำดีด้วยกล้องอีกด้วย

สือน่ารู้สึกใจสั่นจนแน่นหน้าอก เพราะจะอย่างไรเธอก็ผ่าตัดประเภทนี้ไม่เป็น ทำให้เกิดความรู้สึกหวาดกลัวอยู่ตลอด!

การผ่าตัดไม่ใช่การเชือดหมูที่แค่ลงมีดไปก็สำเร็จ การผ่าตัดคือการช่วยชีวิตคน คุณไม่อาจสะเพร่าได้แม้แต่น้อย

เมื่อมายืนอยู่ในห้องผ่าตัด สือน่าพลันมองไปยังเฉินชางด้วยความกังวล

ทำไมถึงรู้สึกว่าห้องผ่าตัดวันนี้ดูแคบลงล่ะ?

สรุปคือสือน่ารู้สึกไม่สบายใจนั่นแหละ!

เฉินชางเห็นดังนั้นก็ยิ้มออกมา “อาจารย์สือ ไม่ต้องเครียดไปครับ”

สือน่าหน้าแดง ใครเขาเครียดกัน? พูดจาเหลวไหล!

อีกอย่าง ครั้งแรกใครไม่เครียดบ้าง แพทย์ศัลยกรรมกระดูกที่สง่าเผยอย่างฉันต้องมาดูคุณผ่าตัดถุงน้ำดี ไม่เครียดก็แปลกแล้ว!

สือน่าจัดการอารมณ์ของตนก่อนกล่าวเสียงต่ำว่า “เริ่มเถอะ!”

เฉินชางเริ่มจากฆ่าเชื้อบริเวณผิวหนังอย่างที่ต้องทำเป็นปกติ วางผ้าเจาะรูลงไป… จากนั้นจึงเริ่มเจาะรูที่ท้องแล้วใส่แก๊ส!

ในการผ่าตัดด้วยกล้องจะต้องอัดแก๊สเข้าไปจนพองเพื่อให้สะดวกในการตรวจสอบและการผ่าตัด ทุกคนน่าจะจำเพลงอัดแก๊สได้ คงไม่จำเป็นต้องร้องแล้วสินะ

เฉินชางผ่าเปิดแผลขนาดหนึ่งจุดห้าเซนติเมตรบริเวณสะดือ สอดเข็มฉีดยาสำหรับอัดแก๊สผ่านทางกล้อง จากนั้นจึงเริ่มการอัดแก๊สคาร์บอนไดออกไซด์

ขั้นตอนการอัดแก๊สเป็นขั้นตอนที่พิถีพิถันและเปลืองแรงมาก แต่อย่างที่กล่าวกันว่าครั้งแรกยังใหม่แต่ครั้งต่อไปจะเริ่มคล่อง เมื่อความดันแก๊สปรากฏถึงสิบสามมิลลิเมตรปรอทก็นับว่าสร้างแก๊สในช่องท้องสำเร็จแล้ว!

เฉินชางดึงเข็มสำหรับอัดแก๊สออกมา จากนั้นจึงประกอบปลอกสำหรับใช้สอดเครื่องมือขนาดสิบมิลลิเมตรเข้ากับกล้องเพื่อใช้จัดการกับอวัยวะภายในผ่านทางอุปกรณ์ ขณะนี้พื้นที่สำหรับการผ่าตัดพร้อมแล้ว อวัยวะในช่องท้องก็ปรากฏบนจอมอนิเตอร์แล้ว!

[ตับ] สีเขียว ไม่พบอาการผิดปกติ

[เยื่อบุช่องท้อง] สีเขียว ไม่มีอาการติดเชื้อ มีสารคัดหลั่งซึมออกมา

[กระเพาะ] สีเขียว ปกติ

ในตอนที่ [ถุงน้ำดี] ปรากฏออกมา พลันมีข้อมูลบางอย่างไหลสู่สมองของเฉินชาง

[ถุงน้ำดีอักเสบ ระดับ 28 ขนาด 50x21x18 มิลลิเมตร สีหม่น ผนังหนา 4 มิลลิเมตร มีเลือดคั่งและบวมน้ำ แรงตึงสูง มีนิ่วบริเวณท่อน้ำดี ขนาดของนิ่ว…]

เฉินชางต้องประหลาดใจเมื่อพบว่าข้อมูลในคราวนี้เยอะกว่าในอดีตมาก ข้อมูลอย่างละเอียดถูกส่งตรงไปยังสมองของเฉินชาง ทำให้เขามีความมั่นใจในการรักษามากขึ้น!

หลังจากตรวจสอบแล้ว เฉินชางจึงพูดกับสือน่าว่า “อาจารย์สือครับ จับกล้องให้ดีนะครับ อยู่ในพื้นที่ผ่าตัดนี้แหละครับ”

สือน่าพยักหน้า เฉินชางจึงเริ่มลงมือขั้นต่อไป

เฉินชางเริ่มจากการเจาะรูบริเวณท้องสามรู หนึ่งรูเพื่อใช้สำหรับตรวจสอบภายใน หนึ่งรูเพื่อดำเนินการผ่าตัด อีกหนึ่งรูเพื่อสนับสนุน

ความจริงสือน่ารู้สึกเครียดเล็กน้อย เนื่องจากงานต่อไปก็คือการผ่าตัดบริเวณสามเหลี่ยมถุงน้ำดี[1] ซึ่งเรียกกันว่าเป็นสามเหลี่ยมแห่งความตาย

โชคดีที่บริเวณสามเหลี่ยมถุงน้ำดีชัดเจน แยกออกง่าย

เฉินชางใช้มือซ้ายถือคีม ดึงส่วนปลายของถุงน้ำดีขึ้น ห้ามเลือดบริเวณถุงน้ำดีแล้วแยกท่อน้ำดีออกไป

กระบวนการนี้ดูผิวเผินเหมือนง่ายดายไม่ซับซ้อน แต่ความจริงต้องฝึกฝนมานับครั้งไม่ถ้วนจึงจะเชี่ยวชาญ หากไม่ระวังจะไปทำร้ายอวัยวะบริเวณสามเหลี่ยมถุงน้ำดีได้

การแยกอวัยวะบริเวณสามเหลี่ยมถุงน้ำดีออกจากกันเป็นส่วนที่ยากที่สุดในการผ่าตัดถุงน้ำดี เพราะหากอวัยวะบริเวณสามเหลี่ยมถุงน้ำดีติดกันแน่นเกินไปจะแยกออกยาก

ขณะที่กำลังผ่าตัด อยู่ๆ เฉินชางก็พบเรื่องน่าประหลาดใจ!

[ก้อนหิน] สีแดง!

ขณะที่เฉินชางกำลังดำเนินการอยู่บริเวณสามเหลี่ยมถุงน้ำดี จู่ๆ เขาก็เห็น [ก้อนหิน] ที่มีสัญลักษณ์สีแดงปรากฏขึ้น!

สำหรับเฉินชางแล้ว ข้อมูลนี้ถือเป็นเรื่องน่ายินดีคับฟ้าอย่างไม่ต้องสงสัยเลย

ทำไมหลังผ่าตัดถุงน้ำดีออกไปจึงปรากฏอาการแทรกซ้อนมากมายขนาดนั้น?

นั่นเป็นเพราะมีเศษก้อนนิ่วเหลืออยู่มาก ซึ่งอาจหลงเหลืออยู่ในถุงน้ำดีหรือในท่อถุงน้ำดี ถือเป็นความล้มเหลวในการผ่าตัด!

ความรุนแรงของอาการจะเลวร้ายไปตามเวลา หากทิ้งไว้ ไม่เพียงแต่จะเป็นนิ่ว อาจกลายเป็นเนื้องอกเลยก็ได้ ซึ่งของแบบนี้ไม่ได้พบกันง่ายๆ ขนาดนั้น! แต่ตนมองเห็นอาการที่ซ่อนอยู่ ซึ่งนับเป็นวาสนาของผู้ป่วยอย่างหนึ่ง

เมื่อคิดถึงตรงนี้ เฉินชางจึงค่อยรู้ตัวว่าต่อไปดวงตาคู่นี้ของตนจะเป็นเหมือนของวิเศษ และบางทีอาจมีประโยชน์อีกหลายอย่างที่ตนยังไม่รู้ก็เป็นได้

แน่นอนว่ามันจะเป็นอาวุธสำหรับต่อกรกับอาการป่วยและช่วยชีวิตคน!

ทักษะในการค้นพบอาการซ่อนเร้นที่เปลี่ยนแปลงง่ายเช่นนั้นเป็นสิ่งสำคัญสำหรับศัลยแพทย์มาก!

หลังจากดีใจเสร็จแล้ว เฉินชางก็เริ่มผ่าตัดต่อไป

เขาใช้คีมคีบถุงน้ำดีและเส้นเลือดใหญ่แล้วจึงเปลี่ยนเป็นอุปกรณ์สำหรับใช้ตัด การผ่าตัดถุงน้ำดีดำเนินไปอย่างราบรื่น!

ในที่สุดสือน่าก็เบาใจลงได้!

ตัดออกไปได้ก็ดีแล้ว!

ตัดออกไปได้ก็ดี…

ต่อไปคือการเอาถุงน้ำดีออก เฉินชางสอดคีมสำหรับหลอดเลือดขนาดกลางเข้าไป ตัดเปิดแผลเล็กๆ เพื่อฟอกน้ำดี

ขณะนี้การผ่าตัดใกล้มาถึงส่วนสุดท้ายแล้ว!

ตอนนี้ต้องเอาก้อนนิ่วและถุงน้ำดีออกมา!

ขั้นตอนการผ่าตัดเป็นไปอย่างสะดวกราบรื่น ราบรื่นจนสือน่ารู้สึกว่าทุกสิ่งทุกอย่างนี้ไม่ใช่ความจริง

[1] สามเหลี่ยมถุงน้ำดี หรือ Calot’s triangle เป็นสามเหลี่ยมสมมติที่ถูกล้อมรอบด้วยอวัยวะสามอย่างคือ ตับ ถุงน้ำดี และท่อน้ำดี

เปิดระบบสุดโกงอัปสกิลหมอ

เปิดระบบสุดโกงอัปสกิลหมอ

Status: Ongoing

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท