จากการผ่าตัดไม่หยุดหย่อน ทุกคนก็ค่อยๆ เข้าใจสถานการณ์มากขึ้น
ปกติเฉินชางจะผ่าตัดไปบรรยายไปโดยไม่ส่งผลกระทบอะไรแม้แต่น้อย และหากดูจากภาพบนหน้าจอก็ไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับปัญหาเรื่องพื้นที่ผ่าตัดไม่เพียงพอ ทุกคนเห็นขั้นตอนการผ่าตัดอย่างชัดเจน หวังหย่งฟังอย่างจริงจัง ดูท่าทางตั้งใจมาก ส่วนฉินเยว่ก็ถือกล้องอย่างระมัดระวังพลางคิดตามไม่หยุด
การผ่าตัดหนึ่งเคสใช้เวลาหนึ่งชั่วโมงกว่า เฉินชางผ่าตัดอย่างตั้งใจและบรรยายโดยละเอียด เรียกว่าทั้งสองคนได้ประโยชน์มาก! ถึงอย่างไรก็เป็นเพื่อนร่วมงานกัน เมื่อพูดคุยแลกเปลี่ยนกันดีๆ ทั้งสองจึงกล้าถามคำถามตามใจโดยไม่มีความรู้สึกลังเลเหมือนตอนคุยกับแพทย์อาวุโสระดับสูง
เมื่อเป็นเช่นนี้ ทั้งสองฝ่ายจึงได้รับประโยชน์มากมาย
ในการเรียนการสอน ไม่ใช่แค่นักเรียนที่จะพัฒนา แต่สำหรับอาจารย์แล้วก็นับเป็นการฝึกฝนที่ดีด้วย เพราะคำถามของนักเรียนค่อนข้างซับซ้อน หรือกระทั่งมีมุมมองและรายละเอียดที่ให้ความสนใจแตกต่างจากคุณ จุดที่คุณไม่สนใจ อาจเป็นจุดที่ได้รับการพัฒนาก็เป็นได้ ดังนั้นเฉินชางจึงได้รับประโยชน์จากคำถามของทั้งสองอยู่บ้าง
การผ่าตัดเพิ่งจะสิ้นสุดลง เสียงแจ้งเตือนก็ดังขึ้น
[ติ๊ง! กำจัดถุงน้ำดีอักเสบเฉียบพลันระดับ 28 สำเร็จ
ได้รับค่าประสบการณ์ทักษะการผ่าตัดถุงน้ำดี +600 แต้ม (ค่าประสบการณ์ 6 เท่า) ค่าประสบการณ์ +300 แต้ม (ค่าประสบการณ์ 3 เท่า)]
บอกตามตรง เฉินชางถูกค่าประสบการณ์มหาศาลทำเอาตกใจไปแล้ว!
เมื่อเปิดแถบคุณสมบัติของตนเองออกดู เฉินชางก็ต้องตื่นตะลึง
[ทักษะการผ่าตัดถุงน้ำดี: ระดับสูง ค่าประสบการณ์: 700/4000]
พริบตาเดียวค่าประสบการณ์ก็เพิ่มขึ้นหกร้อยแต้ม ถ้ามีผู้ป่วยอีกเจ็ดคน วันนี้อาจเพิ่มระดับไปถึงระดับปรมาจารย์ก็ได้? จะเร็วเกินไปแล้ว!
ยิ่งคิดเฉินชางก็ยิ่งตื่นเต้น
เฉินชางเดินออกไปล้างมือเปลี่ยนเสื้อผ้า ส่วนหวังหย่งกำลังเก็บกวาดของเสียต่างๆ ฉินเยว่ยืนนิ่งอยู่เช่นนั้นคล้ายกำลังคิดอะไรบางอย่าง
ความจริงการผ่าตัดเคสนี้ เรียกได้ว่าทำให้ทั้งสองสั่นสะท้านเป็นอย่างมาก! ทำให้พวกเขารู้จักกับเฉินชางใหม่อีกครั้งตั้งแต่หัวจรดเท้า!
เพราะการผ่าตัดของเฉินชางดีเกินไป!
คล่องแคล่ว!
มีหลักการ!
ยิ่งไปกว่านั้น เฉินชางยังตอบข้อสงสัยที่ทั้งสองกล่าวถามได้อย่างไหลลื่น การเปรียบเทียบนี้ทำให้ทั้งสองต้องตื่นตะลึง ระยะห่างปรากฏให้เห็นโดยไม่มีสัญญาณบอกกล่าว!
ในตอนที่คนอื่นมีเงินมากกว่าคุณหนึ่งหยวน คุณอาจไม่ใส่ใจ แต่ตอนที่อีกฝ่ายมีเงินมากกว่าคุณหนึ่งแสนหยวน คุณอาจจะอิจฉาหรือริษยา และในตอนที่อีกฝ่ายมีมากกว่าคุณสิบล้านหรือมากกว่านั้น คุณย่อมสูญเสียความคิดที่จะเปรียบเทียบไปทันที
เรื่องนี้ก็เหมือนกัน
ตอนนี้ทั้งสองจะมีกะจิตกะใจไปคิดเปรียบเทียบเหมือนตอนแรกที่ไหนกัน
หวังหย่งรู้จักตนเองดีทีเดียว หลายวันก่อนหน้านี้เขาขายดาบดอรัน[1]ทิ้งเพื่อซื้ออุปกรณ์เสริมทั้งตัว เตรียมสายตาตัวเองให้พร้อม จะให้เฉินชางแบก[2]ทั้งเกม!
หวังหย่งรู้แล้วว่าเฉินชางเป็นขาท่อนใหญ่ไว้ให้เกาะ เขาไม่สนใจอะไรอีก ตามไปก่อนค่อยว่ากัน ดังนั้นหวังหย่งในตอนนี้จึงไม่ว่างไปคิดเรื่องซับซ้อนขนาดนั้นแล้ว แค่ตั้งใจเรียนไปให้ดี คอยฟังคำบรรยายไปก็พอแล้ว!
หากพูดให้ดูแย่หน่อยก็คือ ตอนนี้ในสมองของเขามีแต่คำว่าถุงน้ำดี มีแต่พวกถุงน้ำดี ท่อน้ำดี ท่อตับ สามเหลี่ยมถุงน้ำดี อะไรพวกนั้น
จู่ๆ เพลง “ถุงน้ำดี” ฉบับ “ราศีเมษ” ก็ปรากฏในสมองของเขาโดยไร้สาเหตุ
ถุงน้ำดีอันซับซ้อน
นามธรรมอันบิดเบี้ยว
ก้อนนิ่วอันชั่วร้าย
มักจะมีจุดจบไม่ดี
ในใจตื่นตระหนก!
แทบจะสูญเสียรูปลักษณ์
บริเวณสามเหลี่ยม (ถุงน้ำดี) เกิดพังผืดอย่างไร้สาระ
ฉันสาบานว่าจะต่อต้านพวกมันอย่างแข็งกร้าว
……
หวังหย่งฮัมเพลงพลางเก็บของ ในใจเต็มไปด้วยความรู้สึกยินดีและกระตือรือร้น ตลอดเวลาที่ผ่านมา ตอนที่เขาติดตามหัวหน้าแผนกเขายังปล่อยวางไม่ลง ระมัดระวังไปทุกอย่าง กลัวว่าจะเกิดความผิดพลาดและไม่กล้าซักถาม ทำให้ได้ความรู้ไม่เต็มที่ ตอนที่ผ่าตัดก็จะกระวนกระวาย แต่การสังเกตการผ่าตัดด้วยการส่องกล้องในวันนี้ทำให้เขาอยากลองทำขึ้นมาแล้ว
เขารู้สึกเหมือนตัวเองจับเทคนิคบางอย่างได้แล้ว
จู่ๆ เขาก็คิดว่าขิงยิ่งแก่ก็ยิ่งเผ็ด การเตรียมการของหัวหน้าแผนกในตอนแรกยอดเยี่ยมมากจริงๆ บางทีเฉินชางอาจเป็นท่อนขาให้เขาเกาะขึ้นไปได้สูงยิ่งขึ้น!
เมื่อไม่มีคนอื่นอยู่ในห้องผ่าตัด หวังหย่งจึงเดินไปหาฉินเยว่ พูดอย่างเขินอายว่า “ฉินเยว่ ผมมีเรื่องอยากคุยกับคุณหน่อยครับ”
ฉินเยว่ชะงักไปเล็กน้อย ใบหน้าแดงก่ำ “มีกล้องอยู่…”
หวังหย่งชะงัก ถูกสาวผู้คลั่งไคล้ในโลกสองมิติทำเอาพ่ายแพ้ไปโดยสมบูรณ์ “คิดอะไรของคุณน่ะ? ผมแค่อยากให้คุณช่วยสักหน่อย อีกเดี๋ยวต้องผ่าตัด คุณช่วยถือกล้องให้หน่อยเป็นไงครับ คือผม…ผมคิดว่าการทดสอบใกล้จะมาถึงแล้ว ผมอยากฝึกให้มากสักหน่อย”
ฉินเยว่ได้ยินดังนั้นก็ส่งเสียงอ้อออกมา “ได้ค่ะ”
ความจริงเธอเองก็อยากทดสอบดูเหมือนกัน แต่เมื่อใคร่ครวญดูแล้วหวังหย่งยังเป็นพนักงานชั่วคราว ฉินเยว่จึงตอบตกลงไป
หลังจากทุกคนล้างมือเปลี่ยนเสื้อผ้าเรียบร้อย การผ่าตัดเคสที่สามก็เริ่มขึ้นตามปกติ
คราวนี้ทั้งสามเข้าใจกันโดยไม่ต้องพูด ฉินเยว่ถือกล้อง หวังหย่งคอยสังเกตการ ส่วนเฉินชางผ่าตัด!
การผ่าตัดราบรื่นจนเหนือความคาดหมายของเฉินชาง ความเร็วก็เพิ่มขึ้นเล็กน้อย การมีผู้ช่วยถือว่าไม่เลวจริงๆ
ตอนนี้เอง เฉินชางก็มองทั้งสองราวกับกำลังคิดอะไรบางอย่าง บางทีหลังจากวันนี้เขาควรฝึกลูกศิษย์ของตนเองสักกลุ่มหนึ่ง ไปข้างนอกก็พาทั้งสองไปด้วย คนหนึ่งเล่นเกมทายนิ้ว อีกคนหนึ่งคอยเป็นหูเป็นตา ถือเป็นตัวเลือกที่ไม่เลวเลย
ตอนบ่าย หลังการผ่าตัดเคสที่สาม…จู่ๆ ก็คิดถึงอะไรบางอย่างขึ้นมาได้ เขามองฉินเยว่แล้วพูดขึ้นว่า “เมื่อกี้คุณตั้งใจดูแผลส่วนที่ผมเย็บหรือเปล่าครับ?”
ฉินเยว่ส่ายหน้า แต่จู่ๆ หยังหย่งก็พูดขึ้นว่า “ผมดูนะครับ!”
เฉินชางชะงักไป รู้สึกแปลกใจเล็กน้อย “อ้อ? คุณลองพูดมาสิครับ”
หวังหย่งพูดว่า “ครั้งแรกที่ผมเห็นแผลที่คุณเย็บหลังผ่าตัดผมก็ให้ความสนใจแล้วครับ เย็บได้ละเอียดมาก ดูเหมือนจะไม่เห็นรอยแผลเป็นเลย ยิ่งไปกว่านั้นยังใช้ไหมละลายในการเย็บด้วย”
“ตอนผ่าตัดเคสที่สอง ผมเลยสังเกตรายละเอียดตอนที่คุณใช้มีดผ่าเปิด เห็นว่าคุณผ่าเบามาก ใช้แรงสม่ำเสมอ เพื่อให้สะดวกในการเย็บภายหลัง เรียกได้ว่าตอนเริ่มลงมีดท่านก็คิดไว้แล้วว่าจะเย็บยังไง!”
หวังหย่งรู้สึกตื่นเต้นมาก! กระทั่งคำว่า “คุณ” ในประโยคสุดท้ายก็พูดเป็น “ท่าน” ไปแล้ว!
เนื่องจากเขาพบว่าเฉินชางเก่งมากจริงๆ รายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ ก็ยังให้ความใส่ใจ การทำงานและความประณีตเช่นนี้ไม่ต้องพูดถึงคนอื่นเลย แม้แต่หลี่เป่าซานก็ไม่แน่ว่าจะมี! ได้เป็นผู้ช่วยให้คนแบบนี้ไม่ต่างอะไรจากได้ MVP[3]!
เมื่อคิดได้เช่นนี้ เขาก็เหลือบมองฉินเยว่ พบว่าเธอไม่ได้มองเขาอยู่ แต่มีท่าทางใคร่ครวญ ไม่รู้ว่ากำลังคิดอะไร
เฉินชางยิ้มเล็กน้อย เขาไม่คิดเลยว่าหวังหย่งที่ยามปกติไม่มีอะไรโดดเด่นจะมีความสามารถแบบนี้ ถึงกับจับรายละเอียดเล็กน้อยได้ไม่เลว นี่ถือเป็นข้อดีอย่างหนึ่ง!
เมื่อคิดถึงตรงนี้ เฉินชางก็มองหวังหย่งพลางพยักหน้าอย่างพึงพอใจ “ไม่เลว ผมตั้งใจทำแบบนี้จริงๆ ผมคิดว่าในเมื่อจุดเด่นอย่างหนึ่งของการผ่าตัดด้วยการส่องกล้องคือเกิดความเสียหายน้อย ถ้างั้นผมจะพัฒนาจุดเด่นนี้ให้ดีขึ้นได้หรือไม่ ทำให้เสียหายน้อยกลายเป็นแทบไม่เสียหายหรือไม่เสียหายเลยสักนิด!”
เมื่อพูดถึงตรงนี้ เฉินชางก็มองไปทางฉินเยว่ “คุณว่าหัวข้อนี้มีค่าพอจะทำวิจัยหรือเปล่าครับ?”
ในที่สุดฉินเยว่ก็พูดขึ้นว่า “เมื่อกี้ฉันกำลังคิดถึงเรื่องนี้อยู่พอดี!”
“มีค่าแน่นอน! มีค่าที่จะทำวิจัยแน่”
“ตอนนี้การผ่าตัดด้วยการส่องกล้องถือเป็นกระแสหลัก แต่ดูเหมือนฉันไม่เคยได้ยินใครพูดถึงการปรับปรุงแผลผ่าตัดมาก่อนเลยค่ะ! เพราะเดิมทีการผ่าตัดด้วยการส่องกล้องก็มีแผลเล็กมากอยู่แล้ว ทุกคนเลยไม่คิดทำวิจัยเรื่องนี้อีก”
“แต่เพราะเป็นแบบนี้ พวกเราจึงทำให้จุดเด่นนี้ดีขึ้นได้! ทำเป็นหัวข้อวิจัยได้เลย!”
เฉินชางยิ้ม “โอเคครับ ถ้างั้นคุณไปตรวจสอบข้อมูลให้หน่อยนะครับ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเอกสารและสรุปข้อมูลจากต่างประเทศ”
ถึงเขาจะเขียนวิทยานิพนธ์ไม่เป็นก็ไม่กลัว ขอแค่มีคนทำได้ก็พอแล้ว เพราะถึงอย่างไรก็ต้องลงชื่อในวิทยานิพนธ์หลายคน
เมื่อเทียบกันแล้ว ผลประโยชน์ที่ผู้ร่วมเขียนจะได้รับไม่แตกต่างกับผู้เขียนหลักมากนัก ทั้งยังมีประโยชน์ในด้านการโน้มน้าวชักจูงอีกด้วย
เกร็ดความรู้: โดยปกติผู้ร่วมเขียนจะหมายถึงผู้รับผิดชอบหัวข้อทั้งหมด โดยจะรับผิดชอบเงินทุนในการวิจัย การวางแผน และเอกสารอ้างอิงสำหรับบทความเป็นต้น และยังเป็นผู้ที่ผู้เขียนติดต่อไปเพื่อขอความร่วมมือในบทความและข้อมูลการวิจัยอีกด้วย
ที่สำคัญก็คือรับหน้าที่ในด้านความน่าเชื่อถือของบทความ ข้อดีของการเป็นผู้ร่วมเขียนก็คือได้สร้างชื่อเสียงต่อโลกภายนอกอย่างกว้างขวางมากขึ้น นิตยสารจะขอสัมภาษณ์คุณเพื่อเขียนข้อสรุป ซึ่งจะช่วยให้ตำแหน่งในวงการวิทยาศาสตร์ของคุณพัฒนาขึ้นมาก
ส่วนผู้เขียนอันดับหนึ่ง โดยปกติจะหมายถึงสมาชิกที่มีส่วนช่วยในการวิจัยมากที่สุด ซึ่งไม่เพียงแต่จะเป็นส่วนสำคัญที่สุดในแผนงาน (เช่นการมีส่วนช่วยที่เป็นรูปธรรม) แต่ยังเป็นคนร่างบทความทั้งหมดอีกด้วย (เป็นมันสมองของบทความ)
หากพูดถึงเรื่องทรัพย์สินทางปัญญา ผลการวิจัยจะถือว่าเป็นของผู้ร่วมวิจัยด้วย
[1]ดาบดอรัน อุปกรณ์จากเกม League of Legends
[2]แบก ภาษาที่นิยมใช้กันในเกม หมายถึงให้ผู้เล่นที่เก่งกว่าช่วยเหลือผู้เล่นที่อ่อนแอกว่าทำภารกิจบางอย่างให้เสร็จสมบูรณ์
[3]MVP (Most Valuable Player) หรือผู้เล่นทรงคุณค่า เป็นรางวัลที่มอบให้กับผู้เล่นที่มีความโดดเด่นในการแข่งขันรายการนั้นๆ ในภาษาเกมจะหมายถึงผู้ที่ทำคะแนนโจมตี (ดาเมจ) บอสได้มากที่สุดและได้ของรางวัลไปครอง