วันจันทร์เป็นวันที่โรงพยาบาลยุ่งที่สุด! ไม่ว่าจะเป็นแผนกผู้ป่วยนอกหรือที่วอร์ด วันนี้เป็นวันที่มีผู้ป่วยเยอะที่สุด
บริเวณโถงของแผนกผู้ป่วยนอกในโรงพยาบาลอันดับสองเต็มไปด้วยความคึกคัก มีทั้งคนมาลงทะเบียน ซื้อยา ติดตามผล…
อย่างไรก็ตาม การไหลเวียนของผู้คนในโถงของแผนกผู้ป่วยนอกค่อนข้างสูง ยิ่งไปกว่านั้นผู้มาเยือนก็ค่อนข้างเฉพาะเจาะจง เป็นสถานที่ที่เหมาะแก่การโฆษณาจริงๆ!
เคยมีธุรกิจหลายอย่างมาติดต่อโรงพยาบาล ถามว่าสามารถติดตั้งหน้าจอขนาดใหญ่เอาไว้บริเวณโถงของแผนกผู้ป่วยนอกที่โรงพยาบาลเพื่อใช้ในการเผยแพร่โฆษณาได้หรือไม่ และสัญญาว่าจะจ่ายเงินให้โรงพยาบาลเป็นจำนวนมาก
อย่างไรก็ตาม เห็นได้ชัดว่าเป็นเรื่องแปลกใหม่เกินไปจึงถูกปฏิเสธ เพราะจะอย่างไรโรงพยาบาลก็เป็นที่สำหรับตรวจรักษาโรค การมีโฆษณาจะทำให้ผู้ป่วยเข้าใจผิดและอาจคิดว่าโรงพยาบาลเป็นผู้สนับสนุน ซึ่งไม่มีประโยชน์ต่อสุขภาพของผู้ป่วยเลย ยิ่งไปกว่านั้น โรงพยาบาลก็เป็นหน่วยงานประเภทหนึ่ง ไม่อนุญาตให้ทำเรื่องเช่นนี้แน่
แต่ว่า…
นี่กลายเป็นแรงบันดาลใจให้โรงพยาบาล ด้วยเหตุนี้จึงมีแผนกต่างๆ จองชั้นหนึ่งของห้องโถงแผนกผู้ป่วยนอกเพื่อจัดคลินิกฟรี ประการแรกเป็นการบริการผู้ป่วย ประการที่สองเป็นการโฆษณาจุดเด่นของแผนก
หัวหน้าพยาบาลเถียนดูฤกษ์ดูยามดูฮวงจุ้ยและศาสตร์ต่างๆ มากมายเพื่อหาที่ดีๆ สุดท้ายจึงตัดสินใจเลือกที่ทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ซึ่งเป็นบริเวณที่ฮวงจุ้ยดีที่สุด จากนั้นจึงนำโต๊ะหลายตัวมาเรียงกัน ทักทายหมอของแผนกที่เดินออกมาให้บริการคลินิกฟรี
หัวข้อสำคัญในวันนี้ก็คือ “การดูแลระบบย่อยอาหาร” และยังมีการให้คำปรึกษาเกี่ยวกับระบบย่อยอาหารที่พบเห็นบ่อยอีกด้วย
อย่างไรเสียผู้ป่วยที่มาโรงพยาบาลก็ไม่แน่ว่าจะมาตรวจโรคเสมอไป อาจมาขอคำปรึกษาหรือมาทำความเข้าใจกับสภาพร่างกายของตัวเองก็เป็นได้ คลินิกฟรีจึงเป็นบริการที่สะดวกสำหรับทุกคน
เถียนเซียงหลานนำรูปภาพที่ฉินเยว่เตรียมไว้มาพิมพ์เป็นแผ่นพับสำหรับแจก นำมากองไว้บนโต๊ะ ด้านในมีหมอเล็กๆ หลายคนกำลังให้บริการปรึกษาฟรีกับผู้ป่วยอยู่
จู่ๆ เถียนเซียงหลานก็พบว่าบริเวณทิศตะวันตกเฉียงเหนือมีโต๊ะของแผนกหนึ่งวางเรียงอยู่ เธอหันไปมองอย่างละเอียด ผมว่าเป็นแผนกศัลยกรรมทั่วไป หัวข้อของอีกฝ่ายคือการรักษาโรคในระบบถุงน้ำดีและไส้ติ่ง ซึ่งรวมไปถึงการป้องกันตลอดจนการผ่าตัดด้วย…
ชนกันเสียแล้ว!
ตอนนี้ไม่ใช่แค่เถียนเซียงหลานที่รู้ตัว อีกฝ่ายก็เห็นแผนกฉุกเฉินแล้วจึงตื่นตะลึงไปเช่นเดียวกัน
พยาบาลของแผนกศัลยกรรมทั่วไปวิ่งเข้ามา “หมอต้วนคะ แผนกฉุกเฉินก็…ก็ทำเหมือนพวกเรา!”
ต้วนปัวได้ยินดังนั้นพลันขมวดคิ้ว ไม่นานก็อธิบายด้วยรอยยิ้มว่า “ไม่เป็นไรครับ ไม่ต้องกังวล ถึงอย่างไรพวกเราก็เป็นแผนกหลัก เป็นแผนกศัลยกรรมทั่วไป พวกเขาเป็นแผนกฉุกเฉิน ถ้าคุณจะผ่าตัด หากเอาสองแผนกนี้มาเทียบกันคุณจะเลือกอะไร?”
พยาบาลพยักหน้า “ต้องเลือกแผนกศัลยกรรมทั่วไปอยู่แล้วค่ะ!”
ต้วนปัวยิ้ม “แบบนี้ถึงจะถูก! ไม่ต้องกังวลนะครับ ผู้ป่วยไม่ใช่คนโง่ ต้องมีความคิดเป็นของตัวเองแน่นอน!”
ต้วนปัวมองไปยังแผนกฉุกเฉินที่กำลังวุ่นวายอยู่ไกลๆ อดยิ้มออกมาไม่ได้ ดูท่าทางช่วงนี้แผนกฉุกเฉินคงมีการผ่าตัดไม่มากเหมือนกันสินะ เริ่มออกมาหาผู้ป่วยแล้ว
หากเรื่องนี้เกิดขึ้นในยามปกติ คงพูดได้ว่าอาจรับผู้ป่วยไปได้จำนวนหนึ่ง แต่วันนี้…จะโชคร้ายเกินไปหรือเปล่า? เลือกวันเดียวกับพวกเราเสียได้!
เมื่อคิดถึงตรงนี้ ต้วนปัวก็อยากหัวเราะ สองสามวันมานี้แผนกศัลยกรรมทั่วไปถูกแผนกฉุกเฉินกดจนต่ำ เมื่อคิดว่าในที่สุดวันนี้ก็ได้ออกมาหายใจ ต้วนปัวก็รู้สึกสบายไปทั้งตัว คิดว่าพอเลิกงานแล้วจะเขียนประวัติผู้ป่วยให้มากสักหน่อย
ตอนเช้ามีผู้ป่วยมาก ผู้ป่วยที่มาลงทะเบียนช้าก็ยังรออยู่ด้านบนจึงคิดลงมาเดินเล่นสักหน่อย เมื่อเห็นแผนกฉุกเฉินและแผนกศัลยกรรมทั่วไปกำลังทำคลีนิกฟรี ทุกคนจึงเข้าไปฟัง
ภรรยาของหยางหมิงเป็นนิ่วในถุงน้ำดี อาการกำเริบอยู่บ่อยๆ รักษาอย่างไรก็ไม่หาย วันนี้ทั้งสองไตร่ตรองแล้วจึงมาลงทะเบียนที่โรงพยาบาลเพื่อปรึกษากับคุณหมอ
หยางหมิงลงทะเบียนกับจางโหย่วฝูผู้เป็นหัวหน้าแผนกศัลยกรรมทั่วไป เขาได้หมายเลขยี่สิบห้า เวลาประมาณสิบโมง ทั้งสองรอไม่ไหวจึงอยากออกไปก่อน จนกระทั่งสิบโมงค่อยมาใหม่
เพิ่งจะลงมาชั้นล่างก็เห็นว่าในห้องโถงบริเวณชั้นหนึ่งมีคลินิกฟรีของแผนกศัลยกรรมทั่วไปอยู่ด้วย ทั้งสองดวงตาเปล่งประกาย รีบเดินเข้าไปขอคำปรึกษาทันที
ต้วนปัวมีความเป็นมืออาชีพสูงและอธิบายให้อีกฝ่ายเข้าใจง่าย ภรรยาของหยางหมิงถูกพูดโน้มน้าวจนทั้งสองคิดจะลงทะเบียนกับต้วนปัวที่นี่ กระทั่งนัดหมายเวลากันเรียบร้อย
ขณะที่ทั้งสองกำลังจะกลับไป จู่ๆ ก็เห็นคลินิกฟรีอีกแห่งหนึ่ง คล้ายจะทำเหมือนกัน ทั้งสองเดินเข้าไปด้วยความสงสัย
“คุณหมอ สวัสดีครับ ขอถามหน่อยครับ พวกคุณไม่ได้ทำคลินิกฟรีกับฝั่งโน้นหรือครับ?” หยางหมิงถามด้วยความสงสัย
หวังหย่งยิ้ม “พวกเราโรงพยาบาลเดียวกันครับ แต่ว่าคนละแผนก ฝ่ายโน้นคือแผนกศัลยกรรมทั่วไป ส่วนพวกเราคือแผนกฉุกเฉินครับ”
หยางหมิงและภรรยาสบตากัน “อ้อ…ต่างกันตรงไหนหรือ?”
หวังหย่งคิดครู่หนึ่งก่อนจะพูดขึ้นว่า “ควรจะบอกว่าแต่ละแผนกก็มีดีไปคนละอย่าง แผนกศัลยกรรมทั่วไปมีขอบเขตงานอยู่ที่งานผ่าตัดและศัลยกรรม จะมีความเข้าใจลึกซึ้งในด้านโรคเฉพาะทาง…ส่วนแผนกฉุกเฉินนั้นจะให้ความสำคัญกับอาการป่วยที่ค่อนข้างอันตราย…แต่พวกเราก็มีห้องผ่าตัดนะครับ…”
หวังหย่งอธิบายโดยไม่ลำเอียง จะอย่างไรคุณก็พูดเรื่องไม่ดีของหมอและแผนกต่างๆ ของโรงพยาบาลให้ผู้ป่วยฟังไม่ได้!
หยางหมิงได้ยินดังนั้นก็นั่งลง “งั้น…ผมมีเรื่องจะปรึกษาน่ะครับ ภรรยาผม เธอเป็นนิ่วในถุงน้ำดี…เธองานยุ่งมาก อยากผ่าตัดถุงน้ำดีด้วยการส่องกล้อง พวกคุณทำได้หรือเปล่าครับ?”
หวังหย่งพยักหน้า ส่งแผ่นพับโฆษณาไปให้ “การการผ่าตัดถุงน้ำดีด้วยการส่องกล้องถือเป็นจุดเด่นของแผนกพวกเราเลยนะครับ ยิ่งไปกว่านั้นพวกเราได้พัฒนาวิธีการผ่าตัดให้ดีขึ้นด้วย คุณลองดูสิครับ…รูปภาพเหล่านี้เป็นภาพเปรียบเทียบระหว่างการผ่าตัดแบบดั้งเดิมและการผ่าตัดที่เป็นเอกลักษณ์ของแผนกพวกเรา…แถมระยะการฟื้นตัวยังสั้นกว่าการผ่าตัดด้วยการส่องกล้องแบบธรรมดาหนึ่งวันเชียวนะครับ”
หวังหย่งอธิบายอย่างละเอียด หยางหมิงและภรรยาเห็นแผ่นพับโฆษณาก็อดตะลึงไม่ได้!
ภรรยาของหยางหมิงหยิบแผ่นพับโฆษณาที่ได้มาจากแผนกศัลยกรรมทั่วไปออกมาเปรียบเทียบกับของแผนกฉุกเฉิน พบว่าแตกต่างกันจริงๆ!
หากเทียบกับการผ่าเปิดท้อง การผ่าตัดด้วยการส่องกล้องย่อมดีกว่ามาก แผลก็เล็กกว่า
แต่…เมื่อนำรูปภาพของแผนกศัลยกรรมทั่วไปมาเทียบกับรูปภาพของแผนกฉุกเฉินก็เห็นความแตกต่างชัดเจน!
ภรรยาของหยางหมิงรีบถามทันที “เอ๋? คุณหมอคะ ฉันขอถามอะไรหน่อยค่ะ รูปภาพนี้ของพวกคุณผ่านการแต่งมาหรือเปล่า?”
หวังหย่งยิ้ม “เปล่าครับ นี่เป็นผลงานการวิจัยของหมอเฉินในแผนกของพวกเรา เขาพัฒนาการผ่าตัดด้วยการส่องกล้องแบบดั้งเดิมให้ดีขึ้นโดยใช้วิธีการพิเศษจัดการบาดแผล ทำให้เห็นรอยแผลเป็นได้ยาก ใช่แล้ว คุณลองไปดูที่แผนกฉุกเฉินก็ได้นะครับ ลองไปปรึกษาดูก่อน”
ภรรยาของหยางหมิงเริ่มหวั่นไหว “แพงหรือเปล่าคะ?”
หวังหย่งส่ายหน้า “การผ่าตัดของโรงพยาบาลพวกเราราคาเท่ากันหมดครับ ซึ่งจะอิงตามราคาตลาดของอันหยางและกระทรวงสาธารณสุข ยิ่งไปกว่านั้นการผ่าตัดที่เป็นจุดเด่นของพวกเราก็ราคาเท่ากับการผ่าตัดแบบทั่วไป”
หยางหมิงลังเลครู่หนึ่ง “นี่คุณ ผมว่าแผนกศัลยกรรมทั่วไปดูน่าเชื่อถือกว่านะ?”
เมื่อผู้เป็นภรรยาได้ยินดังนั้นก็คิดอยู่นาน ความจริงไม่มีผู้หญิงคนไหนอยากมีรอยแผลเป็นอยู่บนร่างกายตัวเอง อีกอย่าง การผ่าตัดของแผนกนี้ยังฟื้นตัวเร็วกว่าด้วย!
เมื่อได้ยินคำพูดของหยางหมิงเธอก็ถลึงตาใส่ “คุณผ่าตัดหรือฉันผ่าตัดกันแน่? อีกอย่างไม่ได้ยินที่หมอพูดหรือ? นี่เป็นแค่การผ่าตัดเล็กๆ แผนกไหนในโรงพยาบาลก็มีทั้งนั้น!”
ทั้งสองจึงตัดสินใจไปดูที่แผนกฉุกเฉิน
……
…..
เมื่อถึงตอนเที่ยง คลินิกฟรีก็สิ้นสุด ต้วนปัวพาพยาบาลกลับไปที่แผนก พบจางโหย่วฝูที่เพิ่งเดินกลับมาจากแผนกผู้ป่วยนอกพอดี
จางโหย่วฝูถามขึ้นว่า “กิจกรรมคลินิกฟรีเป็นยังไงบ้าง?”
ต้วนปัวยิ้ม “ไม่เลวเลยครับ วันนี้มีคนมาลงทะเบียนไม่น้อย ประมาณเจ็ดแปดคนได้ พวกเขาอยากผ่าตัดด้วยการส่องกล้องทั้งหมด”
จางโหย่วฝูได้ยินดังนั้นก็รู้สึกยินดีขึ้นมาโดยพลัน “อืม เสี่ยวต้วน ลำบากแล้ว คุณคุยกับผู้ป่วยให้ดีนะครับ พรุ่งนี้ตอนแลกเวรค่อยคุยกันใหม่”
ต้วนปัวยิ้ม ในที่สุดก็ได้แสดงผลงานต่อหน้าหัวหน้าแผนกแล้ว ไม่เลว สถานการณ์เริ่มดีขึ้นแล้ว
เขาเก็บของด้วยความรู้สึกเบิกบานใจ เมื่อเลิกงานเขาต้องเดินผ่านแผนกฉุกเฉินพอดี จึงเผลอกวาดตามองไปโดยไม่ตั้งใจ จู่ๆ ก็พบว่ามีคนคุ้นหน้าอยู่ในนั้นหลายคน
เมื่อมองให้ดี นั่นไม่ใช่คนที่นัดหมายกันไว้เมื่อตอนเช้าว่าจะทำการผ่าตัดหรือ? ทำไมพวกเขามาแอดมิทที่แผนกฉุกเฉินได้ล่ะ? นี่…ตกลงมันเกิดอะไรขึ้นกันแน่?
เมื่อคิดถึงตรงนี้เขาก็รีบหยิบโทรศัพท์ออกมาโทรไปหาผู้ป่วยเหล่านั้น แต่ว่า…หลังจากรับโทรศัพท์แล้ว เมื่อต้วนปัวถามถึงเรื่องผ่าตัด อีกฝ่ายก็ปฏิเสธ!
ทันใดนั้น…ในใจของต้วนปัวพลันเกิดความรู้สึกเย็นเฉียบ
เมื่อคิดว่าพรุ่งนี้หัวหน้าแผนกให้เขาจัดการการผ่าตัดให้ดี ต้วนปัวก็รู้สึกหนาวยะเยือก…
สวรรค์?
วันนี้ผมไปก่อเรื่องอะไรให้แผนกฉุกเฉินของคุณกัน?
เมื่อคิดถึงเรื่องที่เกิดขึ้นในระยะนี้ ต้วนปัวก็อยากมอบเพลงเพราะๆ ให้ตัวเองเสียจริง ดูเหมือนช่วงนี้จะไม่ค่อยลงรอยกับแผนกฉุกเฉินจริงๆ!
แม้แต่ระดับความน่าเชื่อถือและความสามารถของตนในสายตาของจางโหย่วฝูที่สร้างมาอย่างยากลำบากก็ลดลงอย่างน่าใจหาย ย่ำแย่ลงเรื่อยๆ!
แค่คิดถึงการแลกเวรวันพรุ่งนี้ ต้วนปัวก็รู้สึกเจ็บแล้ว!