เปิดระบบสุดโกงอัปสกิลหมอ – บทที่ 199 เฉินชางคนนี้กับเฉินชางคนนั้นจะใช่คนเดียวกันหรือเปล่านะ

เปิดระบบสุดโกงอัปสกิลหมอ

บทที่ 199 เฉินชางคนนี้กับเฉินชางคนนั้นจะใช่คนเดียวกันหรือเปล่านะ

เฉียนหลินฮัมเพลงเล็กน้อยขณะเดินไปหยุดที่หน้าประตูห้องทำงานของเฉียนเลี่ยง หลังจากที่ลังเลอยู่นาน เขาก็เริ่มบิวท์อารมณ์ให้อยู่ในโหมดที่ต้องการ

ไม่กล่าวไม่ได้ว่ามนุษย์เป็นสิ่งมีชีวิตที่มีพรสวรรค์

และฝีมือในการแสดงของเฉียนหลินก็ระดับเจ็ดถึงแปดดาวทีเดียว

ไม่ถึงหนึ่งนาที อารมณ์ของเฉียนหลินก็เปลี่ยนจากกระหยิ่มยิ้มย่องอิ่มอกอิ่มใจมาเป็นอารมณ์เรียบเฉยถึงขั้นทอดถอนหายใจ ผิดหวังจนจะร้องไห้…

ได้อารมณ์นี้แล้ว ก็คงไม่มีปัญหาอะไรแล้ว เมื่อคิดมาถึงตรงนี้เขาก็เคาะประตู

“เข้ามา!”

น้ำเสียงที่น่าเกรงขามดังลอดออกมา เฉียนหลินสะอื้นเล็กน้อย พยายามถลึงตาไว้หวังจะทำให้ตาแห้งจนมีน้ำตาซึมๆ สักหน่อย

แล้วทันทีหลังจากนั้นเขาก็ผลักประตูเข้าไป

“คุณลุง…”

เฉียนหลินให้คะแนนตนเองเต็มสิบสำหรับสีหน้าอันเศร้าสร้อย

เฉียนเลี่ยงชะงักงัน เมื่อเห็นเฉียนหลินเดินเข้ามาในห้องด้วยสีหน้าหมดอาลัยตายอยากเช่นนี้

เมื่อเห็นลักษณะเช่นนี้ของเฉียนหลิน เฉียนเลี่ยงไม่เพียงแต่ไม่รู้สึกสงสาร แต่กลับอยากจะหัวเราะออกมาแทบขาดใจ

“เป็นอะไรไป” เฉียนเลี่ยงกลั้นเสียงหัวเราะไว้ ทำทีไอกลบเกลื่อนแล้วเอ่ยถาม

เฉียนหลินสูดลมหายใจลึกๆ เดินเข้าไปนั่งข้างๆ คุณลุง “คุณลุงครับ ผมห่วยมากเลยใช่มั้ยครับ”

เฉียนเลี่ยงตรึกตรองอยู่ครู่หนึ่ง “อืม นิดหน่อย”

เฉียนหลิน ….%%&

เฉียนหลินทอดถอนหายใจพร้อมกล่าวว่า “ผมห่วยมากเลยครับคุณลุง ผมทำให้คุณต้องอับอายขายหน้าอยู่ตลอด จริงครับ ผมหนังหน้าหนาขายหน้านิดหน่อยก็ไม่เป็นไร แต่ผมกลัวว่าผมจะทำให้คุณขายหน้า!”

เมื่อเฉียนเลี่ยงได้ฟังเช่นนี้ก็รู้สึกแปลกใจ

เฉียนหลินคนนี้เขารู้นิสัยดี ถึงจะไร้ยางอาย แต่มีความสามารถ ไม่ว่าจะเป็นความรู้พื้นฐานทางการแพทย์หรือความรู้องค์รวมจัดว่าดีมาก

เมื่อคิดมาถึงตรงนี้เฉียนเลี่ยงอดถามไม่ได้ว่า “เกิดเรื่องอะไรขึ้น”

เฉียนหลินถอนหายใจออกมา “อาจารย์เมิ่งซีไม่เลือกผม”

เมื่อได้ฟังเช่นนี้เฉียนเลี่ยงก็เข้าใจทันที แล้วเขาพลันหัวเราะออกมา “อ๋อ เสี่ยวเมิ่ง ฮ่าๆ ไม่เลือกก็ไม่แปลก เสี่ยวเมิ่งยังเด็ก มาตรฐานสูง เพิ่งจะอายุสามสิบก็ได้เป็นอาจารย์ที่ปรึกษาของนักศึกษาปริญญาโทแล้ว ดังนั้นจะเลือกลูกศิษย์ทั้งทีก็ต้องเลือกให้มากถือเป็นปกติ…”

“…เอางี้นะ ลุงไปคุยกับเสี่ยวเมิ่งให้ ถึงยังไงก็ต้องมีลูกศิษย์ เสี่ยวเมิ่งเองก็รู้สึกดีกับเธออยู่บ้าง!”

เมื่อพูดมาถึงตรงนี้ เฉียนเลี่ยงก็บอกกับเฉียนหลินพร้อมรอยยิ้ม “ไปกัน ไปแผนกศัลยกรรมหัวใจกับลุง”

เมื่อเฉียนหลินได้ยินเช่นนั้นสีหน้าก็พลันเปลี่ยน เขารู้สึกหวาดกลัวขึ้นมาทันใด “มะ มะ มะ…ไม่ได้หมายความว่าแบบนั้นครับ คุณลุงครับ ที่นี่เป็นโรงพยาบาล คุณลุงเป็นรองผู้อำนวยการ ทุกการกระทำทุกคำพูดของคุณลุงเป็นที่จับตา คุณลุงจะเสียเพราะเรื่องส่วนตัวไม่ได้!…”

“…ถ้าพ่อแม่ผมรู้ว่าเพราะเรื่องผม ทำให้ลุงต้องเสียงาน พวกท่านจะต้องตีผมตายแน่”

เฉียนเลี่ยงโบกไม้โบกมือแย้ง “ไม่เป็นไรๆ นี่ไม่ใช่เรื่องใหญ่โตอะไร ตอนแรกเลยลุงเป็นคนชวนเสี่ยวเมิ่งเข้ามาทำงานที่นี่ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เสี่ยวเมิ่งยังไม่มีลูกศิษย์”

เมื่อเฉียนหลินได้ฟังเช่นนี้ เขาก็รีบขัดขวางเฉียนเลี่ยงทันที “คุณลุงครับ ผมแพ้ประลอง เลยโดนชิงตำแหน่งลูกศิษย์ไป อาจารย์เมิ่งซีตอนนี้มีลูกศิษย์แล้วครับ!”

เมื่อเฉียนเลี่ยงได้ยินว่าเมิ่งซีมีลูกศิษย์แล้ว เขาก็สนใจขึ้นมาทันที “เอ๊ะ? ใครน่ะ ใครกันที่เข้าตาเมิ่งซีได้ แถมยังชนะเธอด้วย”

เฉียนหลินสูดลมหายใจเข้าลึกๆ “คนที่หน้าตาหล่อมาก! หล่อมากเป็นพิเศษ อีกทั้งสามารถยังล้ำเลิศมากด้วย…”

“…การเปลี่ยนเวรของแผนกศัลยกรรมหัวใจต้องใช้ภาอังกฤษ ผลคือ…”

เฉียนหลินกล่าวอย่างสมจริง (เติมไข่ใส่สี)!

หลังจากที่เฉียนเลี่ยงได้ฟังแล้ว เขาก็มองเฉียนหลินด้วยสีหน้าจริงจัง พร้อมกล่าวอย่างเอาจริงเอาจัง “เสี่ยวหลิน เธอขี้โม้ไม่ใช่นิสัยที่ดีนะ…”

เฉียนหลินถึงกับอึ้ง นี่…นี่มันไม่ใช่คำพูดตามบท

เฉียนหลินรีบกล่าวต่อทันที “จริงๆ ครับ เฉินชางคนนี้เก่งกาจมาก เขา…”

เมื่อเฉียนเลี่ยงได้ยินชื่อ ‘เฉินชาง’ เขาก็ถึงกับชะงักทันใด และกล่าวขัดจังหวะเฉียนหลินเลยทันที “เดี๋ยวๆ เธอบอกว่าใครนะ”

เฉียนหลินถลึงตาโต “เฉินชางไงครับ! อ๋อ ก็คนนั้นไงครับ ที่ประลองกับผม”

หลังจากที่เฉียนเลี่ยงคอนเฟิร์มแน่ชัดแล้ว ในใจก็เกิดความสงสัย เฉินชางคนนี้กับเฉินชางคนนั้นจะใช่คนเดียวกันหรือเปล่านะ

เมื่อคิดมาถึงตรงนี้ เฉียนเลี่ยงก็ยกหูโทรศัพท์ขึ้นมาต่อสายไปที่สำนักงานบัณทิตวิทยาลัย “ฮัลโหล ผมเฉียนเลี่ยงนะครับ”

เมื่อกวนเหว่ยได้ยินชื่อ เขาก็ยิ้มออกมา “สวัสดีครับอธิการบดีเฉียน”

เฉียนเลี่ยงไม่ได้เป็นแค่รองผู้อำนวยการโรงพยาบาลตงต้า แต่ยังเป็นอธิการบดีของมหาวิทยาลัยการแพทย์แห่งมณฑลตงหยางด้วย ทั้งยังเป็นรองอธิการบดีชั่วคราวสาขาเวชศาสตร์คลินิกของมหาวิทยาลัยด้วย เขาคนเดียวควบหลายตำแหน่ง กล่าวไม่เกินจริงเลยสักนิดว่ายิ่งตำแหน่งสูงก็ยิ่งมีอำนาจมาก

เฉียนเลี่ยงขานรับ “อืม เสี่ยวกวน ผมขอคุยอะไรกับคุณเรื่องหนึ่ง คุณรู้จักนักศึกษาปริญญาโทปีนี้ที่ชื่อเฉินชางมั้ยครับ”

กวนเหว่ยชะงักงัน ทำไมอยู่ดีๆ อธิการบดีเฉียนถึงได้มาสืบเรื่องเฉินชางล่ะ

หรือว่าอธิการบดีเฉียนจะรู้เรื่องที่รับเฉินชางเข้ามาด้วยระบบโควตาแล้ว

กวนเหว่ยจึงกล่าวตามความจริง “อธิการบดีเฉียนครับ ผมยังไม่ได้รายงานเรื่องนี้ให้คุณทราบ เฉินชาง นักศึกษาปริญญาโทใหม่ของปีนี้ ฉินเสี้ยวยวน ผู้อำนวยการโรงพยาบาลอันดับสองเป็นคนขอโควตาด้วยตัวเองเลยครับ”

หลังจากที่เฉียนเลี่ยงได้ยินชื่อฉินเสี้ยวยวนแล้ว ในใจคิดว่าไม่น่าจะเป็นใครอื่นไปได้แล้ว “เฉินชางที่อยู่แผนกฉุกเฉินของโรงพยาบาลอันดับสองใช่มั้ยครับ”

กวนเหว่ยถึงกับตะลึง ทำไมอธิการบดีเฉียนถึงรู้จักเฉินชาง

ในสายตาของเฉียนเลี่ยง เฉินชางน่าจะเป็นแค่คนตัวเล็กๆ ที่ไม่ความหมายอะไร!

“ใช่ครับ ใช่ๆ เฉินชางคนนั้นที่อยู่แผนกฉุกเฉินของโรงพยาบาลอันดับสอง”

เมื่อฟังมาถึงตรงนี้ เฉียนเลี่ยงก็เข้าใจแล้ว “ครับ รู้แล้วครับ เอ่อ…เสี่ยวกวน ต่อไปเรื่องที่เกี่ยวกับเฉินชางคุณช่วยบอกผมด้วยนะ เรื่องเกี่ยวกับเขาคุณแจ้งผมสักหน่อย อ้อ จริงสิ ประชุมใหญ่นักศึกษาปริญญาโทตอนเปิดภาคเรียนปีนี้ คุณเตรียมสุนทรพจน์ให้ผมชุดหนึ่ง ผมไม่ได้ไปร่วมพิธีมาหลายปีแล้ว ปีนี้ยังไงก็ต้องไปร่วมสักหน่อย”

กวนเหว่ยรีบพยักหน้า “ได้ครับๆ ลำบากอธิการบดีแล้ว ถึงตอนนั้นผมจะรายงานอธิการบดีเฉียนล่วงหน้านะครับ”

หลังจากวางสายแล้ว เฉียนเลี่ยงก็นิ่งเงียบไม่พูดจาอยู่นาน

ฉินเสี้ยวยวนว่องไวใช้ได้จริงๆ เดิมทีเฉียนเลี่ยงยังคิดอยู่เลยว่าปีหน้าจะให้เฉินชางเรียนปริญญาโท แล้วก็ถือโอกาสนี้ให้เฉินชางเป็นลูกศิษย์ของเขาเลย ผลคือคิดไม่ถึงว่าฉินเสี้ยวยวนจะลงมือไวขนาดนี้!

ปีนี้ก็ขอโควตาให้เฉินชางได้แล้ว เปลืองแรงไปไม่น้อยสินะ

คาดการณ์พลาดไป!

เด็กหนุ่มที่ความสามารถล้ำเลิศขนาดนี้ คิดไม่ถึงว่าจะไม่ได้เป็นลูกศิษย์ตน

เมื่อคิดมาถึงตรงนี้ เฉียนเลี่ยงก็อดหดหู่ใจไม่ได้

เฮ้อ…

คิดดูแล้วก็จริงอยู่ เมื่อเทียบกับเฉียนหลินแล้ว เฉินชางทั้งหล่อ ฉลาดปราดเปรื่อง สง่าผ่าเผย ปราดเปรียว ฝีมือผ่าตัดยอดเยี่ยม เป็นคนสุขุม อ่อนน้อมถ่อมตัว…เมิ่งซีไม่ถูกใจก็แปลก!

เมื่อคิดเชื่อมโยงไปถึงเรื่องที่เฉียนหลินเล่าเมื่อครู่นี้ คิดไม่ถึงว่าทักษะภาษาอังกฤษของเสี่ยวเฉินจะดีขนาดนั้น น่าเสียดายจริงๆ เลย!

วัยหนุ่มสาวที่เปี่ยมคุณภาพ

เฉียนเลี่ยงยิ่งคิดก็ยิ่งรู้สึกเสียดาย

เดิมทีคิดว่าเป็นตัวละครที่เฉียนหลินแต่งขึ้น คิดไม่ถึงว่าจะเป็นเสี่ยวเฉิน เฮ้อ…ดูทรงแล้วหมอนี่ไม่ได้โกหก

แพ้เสี่ยวเฉินก็ไม่แปลก!

ถ้าเสี่ยวหลินชนะเสี่ยวเฉินสิน่าแปลก

เฉียนหลินชะงักงัน เกิดอะไรขึ้นกันแน่

ทำไมคุณลุงไม่พูดไม่จา

แถมยังโทรหาสำนักงานบัญฑิตวิทยาลัยสืบเรื่องเฉินชางด้วย?

แย่แล้ว!

คงจะไม่ได้หาเรื่องเฉินชางหรอกนะ

เมื่อคิดมาถึงตรงนี้ เฉียนหลินก็ถึงกับตัวสั่นเทิ้มในทันใด…

“คุณลุงครับ เฉินชาง…”

เฉียนเลี่ยงหันมาถลึงตาใส่เฉียนหินทีหนึ่ง “อืม ลุงรู้แล้ว เธอไปหาเถามี่แล้วกัน ตอนฝึกอบรมก็ไปฝึกที่โรงพยาบาลอันดับสอง ส่วนเรื่องอื่น…เรียนรู้จากเฉินชางให้มากๆ เด็กหนุ่มนั่นไม่เลว”

เมื่อคำพูดเหล่านี้เข้ามาในหูของเฉียนหลิน สบายใจจัง…

ชีวิตแสนสุขของผมคนแซ่เฉียนคนนี้เริ่มต้นแล้ว!

เปิดระบบสุดโกงอัปสกิลหมอ

เปิดระบบสุดโกงอัปสกิลหมอ

Status: Ongoing

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท