เปิดระบบสุดโกงอัปสกิลหมอ – บทที่ 283 ในเวลานี้จำเป็นต้องมีผู้นำทีม

เปิดระบบสุดโกงอัปสกิลหมอ

บทที่ 283 ในเวลานี้จำเป็นต้องมีผู้นำทีม

ด้านหนึ่งเป็นด้านของความเร่งด่วนที่เกี่ยวกับชีวิตและความเป็นความตาย เป็นส่วนงานของแผนกศัลยกรรมหัวใจ แผนกศัลยกรรมกระดูก แผนกเอกซเรย์ แผนกศัลยกรรมทรวงอก!

อีกด้านหนึ่งเป็นส่วนงานของห้องไอซียู ห้องผ่าตัด แผนกวิสัสัญญีวิทยา แผนกธนาคารเลือด แผนกห้องปฏิบัติการเทคนิคการแพทย์ หลายแผนกต่างให้ความร่วมมือกันในการรักษาผู้บาดเจ็บอย่างพร้อมเพรียง!

ลำดับต่อไปจะเป็นการเผชิญกับการต่อสู้อย่างสุดชีวิตกับการผ่าตัดที่อาจกินเวลายาวนานหลายสิบชั่วโมง!

ภายในห้องผ่าตัด!

เฉินชางแผนกฉุกเฉิน จิ่งหรานแผนกศัลยกรรมทรวงอก หวังเชียนแผนกฉุกเฉิน จางเสวียเหลียงแผนกกระดูก ทั้งสี่คนต่างรอคอยการผ่าตัดที่กำลังจะเริ่มขึ้นด้วยความกระสับกระส่าย!

นี่เป็นทีมแพทย์กู้ชีพที่อายุเฉลี่ยไม่ถึงสามสิบเอ็ดปี!

เป็นการกู้ชีพเร่งด่วนที่เกี่ยวโยงกับความเป็นความตาย!

และเนื่องจากเป็นเคสฉุกเฉิน เป็นเหตุการณ์ที่เกิดอย่างกะหัน แพทย์ที่หยุดในวันนี้ต่างก็กำลังเดินทางมา ส่วนหัวหน้าแต่ละแผนกก็ใกล้จะมาถึงแล้ว

ทีมแพทย์กู้ชีพที่จัดตั้งขึ้นชั่วคราวนี้จำเป็นต้องมีแพทย์หนึ่งคนที่รับหน้าที่เป็นผู้นำทีมสำหรับการผ่าตัดครั้งนี้

จิ่งหรานค่อนข้างขลาดกลัว!

ทว่าเขาเป็นหมอเพียงคนเดียวในทีมที่มีตำแหน่งเป็นรองหัวหน้าแพทย์ เขาจำเป็นต้องลุกขึ้นมารับหน้าที่นี้!

หลบหนี?

สาเหตุที่คุณคิดถอยหนีเป็นเพราะคุณหวั่นเกรงพญามัจจุราชอย่างไม่ต้องสงสัย!

ทว่าการที่คุณหวั่นเกรงไม่ได้ทำให้พญามัจจุราชมอบความห่วงใยให้คุณ สิ่งเดียวที่พญามัจจุราชจะมอบให้คุณคือเสียงหัวเราะเย้ยหยัน!

เมื่อคิดมาถึงตรงนี้ จิ่งหรานกัดฟันกรอด เขาปลุกขวัญกำลังใจให้ตนเอง!

จิ่งหรานสู้ๆ!

ในเวลานี้ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของความรับผิดชอบในหน้าที่ หรือจะเป็นเรื่องอื่นๆ การรักษาผู้บาดเจ็บในครั้งนี้จำเป็นต้องทุ่มเทอย่างสุดความสามารถ

ณ ขณะนี้!

ภายในห้องผ่าตัดพรั่งพร้อมด้วยพยาบาลประจำห้องผ่าตัดทุกคน วิสัญญีแพทย์ แพทย์แผนกธนาคารเลือด แพทย์แผนกห้องปฏิบัติการเทคนิคการแพทย์ และในเวลานี้จำเป็นต้องมีผู้นำทีม

เพราะต้องมีหนึ่งคนในทีมที่เป็นผู้วางแผนและสื่อสารกับคนในทีมสำหรับการผ่าตัดครั้งนี้

จิ่งหรานกำลังจะเอ่ยขึ้น ทันใดนั้นเฉินชางก็กล่าวนำไปก่อนแล้ว!

เฉินชางหันมากล่าวว่า…

“เตรียมใส่ท่อช่วยหายใจ!”

“เตรียมใส่สายสวนหลอดเลือดดำ!”

เมื่อพยาบาลได้ยินคำสั่งของเฉินชาง เธอก็รีบทำตามคำสั่งทันที จิ่งหรานเองก็ไม่ได้ลังเลใดๆ เริ่มร่วมมือในการผ่าตัดทันที

ไม่กี่นาทีผ่านไป!

“ใส่ท่อช่วยหายใจสำเร็จ ใส่สายสวนหลอดเลือดดำสำเร็จ”

เฉินชางพยักหน้า กล่าวต่อด้วยน้ำเสียงเคร่งขรึม “เตรียมทำบายพาสหัวใจและปอด[1]”

“เครื่องบายพาสหัวใจและปอดพร้อม”

เฉินชางเริ่มดำการขั้นตอนต่อไปอย่างเป็นระเบียบแบบแผน!

“เตรียมพลาสมา[2]!”

“ให้พลาสมาผู้ป่วย!”

“ใส่พอร์ต[3]ให้ผู้ป่วย”

การเรียกระดมทีมแพทย์แบบฉุกเฉิน!

การร่วมมือกันของทีมแพทย์!

มาตรการความปลอดภัยแต่ละมาตรการปรับปรุงให้เหมาะสมกับสถานการณ์ตลอดเวลา!

แผนการรักษาแต่ละรูปแบบที่มีผลบังคับใช้!

และการต่อกรกับพญามัจจุราชเพื่อยื้อแย่งชีวิตของผู้ป่วยกลับมา…

เฉินชางสูดลมหายใจเข้าลึกๆ หนึ่งที เขารู้ว่าในเวลานี้เป็นช่วงเวลาที่เขาจะคลายความตื่นตัวไม่ได้เด็ดขาด เพราะในลำดับต่อไปอาจต้องเผชิญกับการกู้ชีพที่โหดหินที่สุดอย่างที่ไม่เคยเจอมาก่อน!

เป็นอีกครั้งที่เฉินชางเป็นแกนนำหลักของทีม ทุกคนรอคำสั่งจากเฉินชางทุกขั้นทุกตอน!

ไม่มีใครสงสัยในตัวเฉินชาง เพราะในเวลานี้ไม่ใช่เวลาที่จะตั้งข้อสงสัย

หลิวเจี้ยนวิสัญญีแพทย์มองเฉินชางด้วยความตกตะลึง แววตาของเขาเต็มไปด้วยความรู้สึกที่เหมือนกำลังมองคนแปลกหน้า!

นี่ใช่เฉินชางหรือเปล่า

แม้แต่หวังเชียนเองก็ยังรู้สึกว่าเฉินชางมีกลิ่นอายบางอย่างที่ให้ความรู้สึกเหมือนไม่เฉินชางที่เขาเคยรู้จัก ดูไม่เหมือนหมอหนุ่มขี้เล่นคนนั้นเลย

พยาบาลสาวทุกคนในห้องผ่าตัดต่างรู้สึกได้เช่นกันว่าในเวลานี้เฉินชางมีพลังงานบางที่แผ่กระจายออกมา!

มั่นใจ!

เคร่งครัดและละเอียดถี่ถ้วน!

เคร่งขรึมจริงจัง!

เผด็จการ!

ถูกต้อง ลึกลงไปในจิตวิญญาณของเฉินชางในเวลานี้ไม่ใช่ตัวตนของเฉินชาง!

แต่เป็นนายแพทย์ที่ชื่อว่านอร์แมนเบธูน ที่กำลังใช้ความรู้กับประสบการณ์กู้ชีพทั้งหมดที่สั่งสมมาชั่วชีวิตในการช่วยเฉินชางช่วยชีวิตผู้บาดเจ็บในครั้งนี้ให้ดีที่สุด!

ใต้แสงไฟที่สาดส่องลงมาบนเตียงผ่าตัด คือลานสนามรบแห่งมหาสงครามที่ปราศจากเขม่าควันปืน สถานการณ์กำลังดำเนินไปด้วยความตึงเครียด

หมอหนุ่มอ่อนประสบการณ์สองสามคนยืนอยู่หน้าเตียงผ่าตัด พยายามทุ่มเทความรู้ที่มีทั้งหมดอย่างสุดพลังความสามารถ!

ภายในห้องผ่าตัด บุคลากรทางการแพทย์เจ็ดแปดคนเตรียมทุกสิ่งทุกอย่างพร้อมอยู่ตลอดเวลา

การผ่าตัดขั้นที่หนึ่งเริ่มขึ้น อันดับแรกก็คือต้องเข้าใจสภาพบาดแผลอย่างลึกซึ้ง!

ถึงแม้ว่าข้อมูลจากฟิล์มเอกซเรย์จะพึ่งพาได้ แต่มีหลากสิ่งหลายอย่างมากที่การเอกซเรย์มักมองจากฟิล์มไม่เห็น

ดังนั้นสิ่งที่จะต้องทำในลำดับต่อไปคือการผ่าเปิดทรวงอก

แต่วิธีนี้เปรียบเสมือนปัญหาหนักอึ้งที่วางอยู่ตรงหน้าทุกคน ปัญหาคือจะเลือกวิธีผ่าเปิดทรวงอกด้วยวิธีใด!

ในเวลานี้ วิธีที่ใช้ในการกรีดเปิดบาดแผลมีความสำคัญยิ่ง ต้องรับประกันความปลอดภัยของผู้ป่วยได้อย่างแท้จริง และไม่เพิ่มปัจจัยที่จะทำให้ผู้ป่วยต้องเสียเลือดปริมาณมาก ไม่ทำให้เนื้อเยื่อโดยรอบเสียหาย อีกทั้งยังจำเป็นต้องซ่อมแซมส่วนที่เสียหายใหญ่ๆ ได้ทั้งหมดได้ด้วย ในขณะเดียวกันก็ต้องช่วยให้ง่ายต่อการนำเหล็กเส้นแบบเกลียวที่เสียบลึกอยู่ในทรวงอกออกมาได้ด้วย

การกรีดเปิดบาดแผลต้องรับประกันเงื่อนไขทั้งหมดข้างต้นได้

จิ่งหรานค่อนข้างรู้สึกลังเล

จะทำยังไงดี…

ถ้าเป็นนักวิชาการหลิวอาจารย์ของตน ในสถานการณ์เช่นนี้…เขาจะทำอย่างไร

นี่เป็นวิธีคิดที่จิ่งหรานทำจนเป็นนิสัย

เวลาที่เจอกับปัญหาใดๆ ก็ตามที่เขาแก้ปัญหาไม่ได้ เขาก็จะเริ่มคิดว่าถ้าหากเป็นอาจารย์ของเขาเจอกับสถานการณ์เช่นนี้ อาจารย์ของเขาจะจัดการปัญหาด้วยความสุขุมเยือกเย็นอย่างไร!

เฉินชางหันไปมองหมอที่มาจากแผนกเอกซเรย์ กล่าวขึ้นว่า “เปิดไฟตู้อ่านฟิล์มเอกซเรย์ทีครับ ผมจะดูฟิล์มเอกซเรย์สักหน่อย”

หมอแผนกเอกซเรย์พยักหน้าทันที

ตอนนี้เฉินชางเริ่มวิเคราะห์ทุกความเป็นไปได้อย่างต่อเนื่อง เริ่มประมวลผลในหัว และวิเคราะห์ออกมาเป็นแนวคิด

เวลาแต่ละนาที แต่ละวินาทีแสนล้ำค่า!

ทว่าการผ่าตัดไม่มียารักษาความรู้สึกเสียใจภายหลัง!

ทุกการลงมีดผ่าตัดหมายถึงการมีชีวิตรอด!

ทุกการลงมีดผ่าตัดหมายถึงความตาย!

เฉินชางต้องระมัดระวังและละเอียดรอบคอบ

เสียงเครื่องมือทางการแพทย์ในห้องยังคงดังไม่หยุด เครื่องบายพาสหัวใจและปอดยังคงทำงาน เสียงหายใจด้วยความวิตกกังวลของคนอื่นๆ ในห้องผ่าตัดยังคงดังเคล้าอยู่ทั่วห้อง

ผ่านไปหนึ่งนาทียี่สิบวินาที เฉินชางหันไปมองจิ่งหราน หวังเชียน จางเสวียเลี่ยง

เขาเริ่มถ่ายทอดสถานการณ์อย่างละเอียดทุกท้อยทุกคำ อธิบายแผนการผ่าตัดทั้งหมดที่ตนคิดพิจารณ์แล้วให้กับทุกคนฟัง ซึ่งทุกคนที่กล่าวถึงนี้รวมถึงหลิวเจี้ยนวิสัญญีแพทย์และพยาบาลในห้องผ่าตัดทุกคนด้วย!

เฉินชางต้องการการรับประกันว่าการผ่าตัดครั้งนี้จะไม่มีข้อผิดพลาด!

ในเมื่อไม่มีแพทย์ผู้อาวุโส!

ผมก็จะทำหน้าที่นี้เอง!

แผนการผ่าตัดของเฉินชางแบ่งออกเป็นสามขั้นตอน…

ขั้นตอนที่หนึ่ง: ผ่าเปิดทรวงอก เย็บหลอดเลือด เอาแท่งเหล็กเส้นออก

ขั้นตอนที่สอง: ซ่อมแซมอวัยวะภายในที่ได้รับบาดเจ็บเสียหาย

ขั้นตอนที่สาม: เปลี่ยนท่านอนของผู้ป่วยเพื่อซ่อมแซมกระดูกที่หัก และเย็บบาดแผล

เฉินชางรับมีดผ่าตัดมา เริ่มลงมือผ่าตัดตามขั้นตอนที่ตนวางไว้!

ชั่วขณะนี้เวลาหยุดชะงักอยู่ที่สิบเอ็ดโมงสิบนาที

สัญญาณชีพของผู้ป่วยปกติ การหายใจสม่ำเสมอ ความดันโลหิตกลับมาปกติ ออกซิเจนในเลือดอยู่ในเกณฑ์ปกติ และในตอนนี้ การผ่าตัดกำลังจะเริ่มขึ้นอย่างเป็นทางการ

มีดผ่าตัดกรีดลงบนผิวหนัง จิ่งหรานรีบนำผ้าก๊อซมาห้ามเลือด เขาเตรียมการทุกอย่างพร้อม

เมื่อจิ่งหรานเห็นตำแหน่งเฉินชางเลือกกรีด เขาก็ขมวดคิ้วครุ่นคิด!

ตำแหน่งนี้…เขาคิดไม่ถึงเลย!

นัยน์ตาของจิ่งหรานเปล่งประกาย ด้วยวิธีนี้ ก็จะหลีกเลี่ยงไม่ให้กระทบหลอดเลือดแดงใหญ่ได้พอดี แล้วก็ทำให้เย็บหลอดเลือดได้เลย!

แต่…ตำแหน่งนี้ค่อนข้างเหนื่อยมากจริงๆ!

เฉินชางจะยืนหยัดได้นานแค่ไหน

การผ่าตัดครั้งนี้เป็นเหมือนการสู้รบอย่างแท้จริง ระยะเวลาจะต้องยาวนานมากแน่

ตำแหน่งที่เฉินชางเลือกกรีดเปิดบาดแผลนั้น ทำให้จิ่งหรานรู้สึกว่าไม่ว่าจะอยู่องศาไหนก็ไม่สะดวก เพราะจำเป็นต้องเอียงตัวเพื่อให้ได้องศาที่เหมาะสม และลงมีดอย่างเชี่ยวชาญ

และด้วยวิธีการเช่นนี้ จะยิ่งทำให้สูญเสียกำลังแรงกายไปไวมาก

ไม่นานช่องทรวงอกก็เปิดออก สิ่งที่ปรากฏสู่สายตาของทุกคนคือภายในช่องทรวงอกที่บาดเจ็บสาหัสมาก เป็นภาพที่โหดร้ายมาก!

ส่วนเฉินชางก็เห็นชื่อกำกับที่เป็นตัวอักษรสีแดงที่ปรากฏขึ้นหลายชื่อ

[1] การทำบายพาสหัวใจและปอด เป็นเทคนิคทางการแพทย์ที่จะใช้เครื่องควบคุมการทำงานของหัวใจและปอดชั่วคราวระหว่างการผ่าตัด

[2] พลาสมา (Plasma) หมายถึง น้ำเหลือง เป็นส่วนประกอบของเลือดที่ได้หลังจากแยกเม็ดเลือดแดง เม็ดเลือดขาวออกแล้ว พลาสมาช่วยในเรื่องของการแข็งตัวของเลือด การหยุดเลือด

[3] พอร์ต (Port-A-Cath) อุปกรณ์ทางการแพทย์ที่ฝังไว้ใต้ผิวหนังผู้ป่วย เพื่อง่ายต่อการเจาะเลือด การให้ยาต่างๆ รวมทั้งน้ำและสารอาหารเข้าสู่หลอดเลือดดำ

เปิดระบบสุดโกงอัปสกิลหมอ

เปิดระบบสุดโกงอัปสกิลหมอ

Status: Ongoing

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท