บทที่ 291 ของขวัญของจิ่งหราน
ถานจงหลินกับอันเยี่ยนจวินเดินตามเฉินชางออกมาจากห้องทำงาน
ปณิธานอันยิ่งใหญ่ที่เดิมทีทั้งสองมีอยู่ ในตอนนี้ดูห่อเหี่ยวไร้ชีวิตชีวา
เดิมทีคิดว่าจะได้โชว์ฝีมือ ทำให้เฉินชางต้องทึ่ง ทว่าหลังจากที่ไปถึงห้องผ่าตัดแล้วยังไม่ได้พูดอะไรสักคำ เฉินชางก็แสดงฝีมือที่เรียกว่าศักยภาพที่แท้จริงให้เห็นอย่างประจักษ์แล้ว!
ถานจงหลินกำลังจะถอนหายใจออกมา จู่ๆ เขาก็มองอันเยี่ยนจวินทีหนึ่ง
เขาตระหนักโดยพลัน ใช่แล้ว! ตนจะไปเปรียบเทียบอะไรกับเฉินชาง
ตนมาที่นี่ก็เพื่อเรียนวิธีเย็บเส้นเอ็นของเฉิน แล้วเฉินชางก็คือคนที่วิจัยวิธีเย็บของเฉินขึ้นมา อันเยี่ยนจวินกับเขาก็เป็นเหมือนศิษย์ในสำนักเดียวกัน แล้วศิษย์จะไปวัดฝีมือกับอาจารย์ได้อย่างไรกัน
ทำแบบนี้จะไม่เท่ากับการหาเรื่องให้ตนเองร้อนใจเปล่าอย่างนั้นหรือ
จะว่าไปแล้วการผ่าตัดรักษากระดูกนิ้วมือหักก็เป็นเทคนิคที่ใช้บ่อยในแผนกศัลยกรรมมือ เฉินชางทำได้ก็สมเหตุสมผลแล้ว
ส่วนเรื่องที่เฉินชางเรียนรู้วิธีจัดกระดูกนิ้วมือและดามกระดูกนิ้วมือจากตนเรื่องนั้น…
นั่นเป็นความสามารถของเฉินชางเอง ตนยังไม่ได้สอนอะไรเลย เฉินชางก็ทำได้แล้ว
วิธีของเฉินล้ำค่ากว่าการผ่าตัดรักษากระดูกนิ้วมือที่หักมาก เสี่ยวเฉินทุ่มเทถ่ายทอดวิชาให้ตนอย่างเต็มที่ ท่าทีที่ทุ่มเทด้วยความจริงใจเช่นนี้ถึงจะควรค่าแก่การเรียนรู้
ถึงอย่างไรเสียแพทยศาสตร์ก็เป็นแขนงของวิทยาศาสตร์เชิงประจักษ์ที่มุ่งเน้นการลงมือปฏิบัติทดลองด้วยตนเอง ทุกคนล้วนมีประสบการณ์และทัศนคติเฉพาะบุคคลที่แตกต่างกันออกไป
การแลกเปลี่ยนประสบการณ์และทัศนคติจึงเป็นสิ่งที่ช่วยผลักดันให้เกิดการพัฒนา
และด้วยความเป็นคนใจกว้างของเฉินชาง กล่าวตามตรงว่าถานจงหลินรู้สึกเลื่อมใสจากใจจริง!
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง วิธีของเฉินเป็นเทคนิคชั้นสูงและเป็นเทคนิคที่ต้องใช้ความรู้ความเชี่ยวชาญระดับลึกซึ้ง ในตอนนี้ถานจงหลินยังไม่ถึงระดับแตกฉาน นับว่าวิธีนี้เป็นวิธีเย็บเส้นเอ็นขั้นสูงจริงๆ
คิดจะเทียบฝีมือตนเอวกับเสี่ยวเฉิน เรียกว่าหาเรื่องให้ตนเองต้องกลุ้มใจเปล่าๆ!
ถานจงหลินคิดไปคิดมา จู่ๆ เขาก็รู้สึกว่าตนต้องแข่งขันกับหัวหน้าอันเท่านั้น ตีนหมูที่กินมาตลอดช่วงไม่กี่วันนี้จะได้ไม่เสียเปล่า
หลังจากที่ตัดสินใจแน่วแน่แล้ว ถานจงหลินก็รู้สึกสบายใจและอารมณ์ก็ดีขึ้นมาทันใด
แต่สิ่งเดียวที่ถานจงหลินค่อนข้างประหลาดใจคือ ทำไมหัวหน้าอันในตอนนี้ถึงดูสงบเยือกเย็นได้ขนาดนี้
หรือว่าหัวหน้าอันมั่นใจว่าตนเองจะต้องชนะเขาได้แน่?
เมื่อคิดมาถึงตรงนี้ ถานจงหลินก็ค่อนข้างกระอักกระอ่วนด้วยความประหม่า ความรู้สึกประหม่าที่ถานจงหลินไม่เคยรู้สึกมาก่อนเลยนับตั้งแต่เรียนจบมหาวิทยาลัยมาจนตอนนี้ก็นับหลายสิบปี…
ขณะที่ฉินเยว่เดินนำหน้าหัวหน้าทั้งสองคนไปพร้อมกับเฉินชาง เธอก็เกิดความรู้สึกไม่ค่อยสบายใจ!
ถึงอย่างไรเสีย ปกติแล้วมีหมออายุน้อยเดินนำหน้าหมอระดับหัวหน้าแบบนี้ที่ไหนกัน
แต่…
เมื่อมองเฉินชางที่เดินอย่างสง่าผ่าเผยอยู่ข้างหน้า แล้วหัวหน้าอันกับหัวหน้าถานเดินตามหลังอย่างสุภาพเรียบร้อย ความรู้สึกเช่นนี้เป็นความรู้สึกแปลกๆ…
และที่สำคัญที่สุดคือ ในตอนนี้เธอยืนอยู่ข้างเฉินชาง สิ่งนี้บ่งบอกชัดเจนว่าเธอดูเหมือนคนที่ไร้มารยาทมาก
แต่ทุกครั้งเวลาที่ตนชะลอฝีเท้า เพื่อให้หัวหน้าทั้งสองท่านเดินนำไปก่อน เฉินชางเองก็จะชะลอฝีเท้าเช่นกัน ทว่าทันทีที่เฉินชางชะลอฝีเท้า หัวหน้าทั้งสองที่เดินตามหลังมาก็ชะลอฝีเท้าด้วย…
ฉินเยว่ถึงกับคลั่ง หัวหน้าสองท่านนี้เป็นอะไรไปแล้ว
แต่ต่อหน้าหัวหน้าทั้งสองเธอก็ไม่กล้าพูดอะไร แล้วก็ไม่กล้าถามด้วย
หรือว่า…หรือว่าเฉินชางมีไพ่ที่เหนือกว่าพวกเขาอยู่ในมือ
เมื่อคิดมาถึงตรงนี้ นัยน์ตาของฉินเยว่ก็เปล่งประกาย นัยน์ตากลมโตของเธอเต็มไปด้วยคำว่า ‘อยากซุบซิบ’ กับคำว่า ‘อยากรู้จัง’
[ติ๊ง! ภารกิจเย็บเส้นเอ็นห้าร้อยเคสเสร็จสิ้น ได้รับรางวัล: คู่มือฟื้นฟูเส้นเอ็น]
[ติ๊ง! ภารกิจบรรลุเป้าหมายเล็กการผ่าตัดห้าร้อยเคส ได้รับรางวัล: ของขวัญของจิ่งหราน]
เมื่อมองของรางวัลทั้งสองไอเทมที่ได้ เฉินชางก็ชะลอฝีเท้าลงโดยไม่รู้ตัว คู่มือฟื้นฟูเส้นเอ็นอันนี้เข้าใจได้ ทว่าคงยังไม่ได้ใช้คู่มือนี้ชั่วคราว แต่ไอเทมนี้ต้องเป็นของดีแน่นอน
ของรางวัลชิ้นที่สอง ของขวัญของจิ่งหราน?
[ของขวัญของจิ่งหราน: หลังจากเปิดแล้ว รับทักษะพื้นฐานของจิ่งหรานได้หนึ่งรายการ]
เฉินชางปลื้มปีติ ที่แท้ได้ของดี!
เมื่อคิดถึงเรื่องที่ภารกิจเหล่านี้มาจากจิ่งหรานทั้งนั้น เฉินชางเดาว่า ถ้าตนทำภารกิจสำเร็จก็จะเก็บเกี่ยวทักษะของจิ่งหรานได้ตามอำเภอใจใช่หรือเปล่านะ
เมื่อคิดมาถึงตรงนี้ เฉินชางก็กดเปิดของขวัญ
[ติ๊ง! เปิดของขวัญของจิ่งหราน ได้รับทักษะพื้นฐาน: ทักษะการเจาะปอด[1] (ระดับปรมาจารย์)]
เฉินชางเงียบงัน ทำไมเป็นทักษะที่ธรรมดาขนาดนี้ แทบจะไม่ต้องใช้เทคนิค ทักษะขั้นพื้นฐานแบบนี้ผมก็มี…
การเจาะปอดเป็นหนึ่งในกระบวนการรักษาที่ใช้บ่อยมากที่สุดขั้นตอนหนึ่ง ตั้งแต่เฉินชางมาทำงานในโรงพยาบาล เขาเรียนรู้ทักษะนี้มาไม่ต่ำกว่าแปดถึงสิบครั้ง แม้แต่ทุกวันนี้ก็ยังใช้ทักษะนี้อยู่แทบทุกวัน ฝีมือการเจาะปอดของเฉินชางจัดว่าไม่เลว มักจะได้รับคำเชิญจากไปร่วมประชุมวินิจฉัยโรคอยู่บ่อยครั้ง เพื่อช่วยวิเคราะห์เคสเจาะปอดที่เป็นเคสยาก
แน่นอนว่าหมอโรคปอดส่วนใหญ่รับมือกับเคสเหล่านี้ได้ แต่มีบางเคสที่ผู้ป่วยค่อนข้างมีอาการทางโรคที่พิเศษ ถึงอย่างไรการมีหมอแผนกฉุกเฉินหรือหมอผ่าตัดเข้ามาให้ความช่วยเหลือก็เป็นเรื่องที่ค่อนข้างดี
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เฉินชางค่อนข้างมีชื่อเสียงในด้านนี้ เขามักจะได้รับเชิญจากฝ่ายอบรมบุคลากรให้เป็นผู้บรรยายหัวข้อการเจาะปอดให้กับแพทย์ฝึกหัดอยู่บ่อยครั้ง
ถึงอย่างไรเสียศัลยแพทย์ก็ค่อนข้างมีความเข้าใจในเรื่องของกายวิภาคศาสตร์ของทรวงอกกับโรคที่เกี่ยวกับปอดเหล่านี้
ทักษะการเจาะปอดของเฉินชางอยู่ระดับสูงแล้ว แถมยังมีคุณสมบัติพิเศษด้านความปลอดภัยด้วย
ดังนั้นการได้รับทักษะเช่นนี้มาหนึ่งทักษะ เฉินชางบอกตามตรงว่าค่อนข้างรู้สึกว่าเป็นสิ่งที่ไม่มีค่าอะไร
แต่ก็ยังดีกว่าไม่ได้อะไรเลย ถือเสียว่าเป็นการยกระดับทักษะของตนก็แล้วกัน
[ติ๊ง! ตรวจพบว่าทักษะการเจาะปอดของคุณอยู่ในระดับสูงแล้ว จึงยกระดับเป็นระดับปรมาจารย์อัตโนมัติ และยังคงไว้ซึ่งคุณสมบัติพิเศษ]
[ทักษะการเจาะปอด: ระดับปรมาจารย์
คุณสมบัติพิเศษ:
1.กำหนดตำแหน่งได้แม่นยำ
2.กำหนดตำแหน่งอัลตราซาวนด์ได้แม่นยำ
3.ปลอดภัย]
ในตอนที่เฉินชางได้รับข้อความอธิบายจากระบบ ทันใดนั้นเขาก็ถึงกับตกตะลึงจนตาค้าง ระบบคือผู้ให้กำเนิดตนที่แท้จริงๆ!
ถูกต้อง พ่อดีที่สุดเลย!
คิดไม่ถึงว่าจะมีคุณสมบัติพิเศษที่เจ๋งแบบนี้ด้วย
เมื่อคิดมาถึงตรงนี้ เฉินชางก็อดดีใจไม่ได้
ถึงจะเป็นระดับปรมาจารย์ แต่ก็มีคุณสมบัติพิเศษถึงสามอย่างแล้ว แถมคงไว้ซึ่งคุณสมบัติด้านความปลอดภัยที่ตนมีอยู่ และเพิ่มคุณสมบัติพิเศษใหม่ขึ้นมาสองอย่าง: กำหนดตำแหน่งได้แม่นยำกับกำหนดตำแหน่งอัลตราซาวนด์ได้แม่นยำ
ไม่ว่าจะเป็นทักทักษะใดก็ตาม ระดับปรมาจารย์เป็นระดับที่มีช่วงระยะของความต่างมากที่สุดระดับหนึ่ง
เพราะระดับปรมาจารย์มีช่วงระยะของความต่างที่ห่างไกลระดับสมบูรณ์มากเกินไป จนคุณต้องพัฒนาศักยภาพของตนเองอย่างต่อเนื่อง เพื่อทำให้คุณเพียบพร้อมด้วยคุณสมบัติเศษบางอย่าง หลังจากที่คุณเพียบพร้อมด้วยคุณสมบัติพิเศษแล้ว ทักษะของคุณถึงจะมีแนวโน้มที่จะยกระดับเป็นระดับสมบูรณ์ได้
ทักษะการเจาะปอดที่เฉินชางมีอยู่ตอนนี้ เป็นผลมาจากศักยภาพของเฉินชางกับจิ่งหรานรวมเข้าด้วยกัน
อันที่จริงได้กล่าวไว้อย่างชัดเจนแล้วเกี่ยวกับระดับปรมาจารย์ ซึ่งก็คือการที่คุณมีความเข้าใจเกี่ยวกับเคสผ่าตัดเคสนี้ของคุณมากพอ ก็จะเกิดคุณสมบัติพิเศษขึ้นสองอย่าง
ผลที่ได้จัดว่าไม่เลว!
ดูแล้วต่อไปจะต้องเร่งวางแผนเรียนรู้ทักษะจิ่งหรานสักหน่อยแล้ว เพื่อพยายามยกระดับความสามารถของตนให้ได้
วันนี้ยังมีเคสเย็บเส้นเอ็นอีกสองเคส เดิมทีเฉินชางไม่อยากรับเคสต่อแล้ว แต่ถานจงหลินกับอันเยี่ยนจวินจะลากเฉินชางไปด้วยให้ได้ ฉินเยว่ยืนดูเหตุการณ์อยู่ข้างๆ ด้วยสีหน้างุนงง
เธอเดินตามพวกเขาไปภายใต้ความรู้สึกสงสัย
แต่…
ภาพสถานการณ์ที่เห็นในห้องผ่าตัดเกินความคาดหมายของเธอ
เคสที่หนึ่ง หัวหน้าอันเป็นแพทย์ผู้นำทีมผ่าตัด ถานจงหลินเป็นผู้ช่วย หลังจากที่เฉินชางพบว่าฝีมือของหัวหน้าอันในวันนี้ยกระดับขึ้นแล้ว เขาก็เปิดโอกาสให้หัวหน้าอันได้ฉายเดี่ยว ฝีมือของหัวหน้าอันพุ่งทะยานอย่างรวดเร็ว ดูมีความเชี่ยวชาญในวิธีของเฉินระดับลึกซึ้ง
เฉินชางอดพยักหน้าไม่ได้ กล่าวจากใจ “ไม่เลว หัวหน้าอันฝีมือไม่เลวจริงๆ ครับ วิธีเย็บเส้นเอ็นเช่นนี้ผมให้ผ่าน”
หลังจากที่อันเยี่ยนจวินได้ยินเฉินชางประเมินแล้ว เขาก็รู้สึกปีติทันใด ใบหน้าของเขาแฝงไว้ด้วยรอยยิ้ม แม้แต่แววตาที่มองถานจงหลินก็ยังเต็มไปด้วยความลำพองใจกับความรู้สึกเหนือกว่าในฐานะเมียหลวง!
ส่วนถานจงหลินกลับรู้สึกโกรธจนถลึงตาพร้อมกับพ่นลมออกจมูก อยากจะแสดงฝีมือเต็มทน
ในที่สุดเคสผ่าตัดเส้นเอ็นเคสที่สองก็มาถึงเสียที เขาไม่พูดพร่ำทำเพลงใดๆ แต่เริ่มลงมือเลยทันที!
ต้องกล่าวว่าขิงแก่ย่อมเผ็ดจริงๆ ฝีมือการเย็บเส้นเอ็นของถานจงหลินก้าวหน้ากว่าเดิมมาก ทำได้เหมือนแบบฉบับของวิธีของเฉินมาก เฉินชางพยักหน้าอย่างต่อเนื่อง
ทั้งสามคนต่างยิ้มให้กัน
ความสุขของผู้ชายเรียบง่ายเช่นนี้!
เส้นเอ็นหนึ่งเส้นก็ทำให้รู้สึกอารมณ์ดีขนาดนี้ได้
ฉินเยว่มองทั้งสามคน จู่ๆ เธอก็รู้สึกว่าคนพวกนี้คิดอะไรเหมือนเด็ก!
เหมือนกับบรรดาเด็กอนุบาลที่ชอบเปรียบเทียบกันเองว่าของเล่นของใครดีกว่ากัน ลายมือใครสวยกว่ากัน ใครทำการบ้านได้เรียบร้อยกว่ากัน
น่าเอือมระอา!
แต่…พอคิดอีกทีแล้ว ทำไมเฉินชางถึงได้เก่งกาจได้ขนาดนี้นะ!
คิดไม่ถึงว่าหัวหน้าทั้งสองท่านจะชิงดีชิงเด่นกันเพื่อให้ได้รับความโปรดปรานจากเขา
[1] การเจาะปอด (thoracentesis/ thoracocentesis) เป็นการแทงเข็มเข้าไปในช่องเยื่อหุ้มปอดเพื่อดูดของเหลวหรืออากาศออก ตำแหน่งที่ใช้เจาะจะขึ้นอยู่กับสิ่งที่ต้องการดูดออก ถ้าเป็นอากาศจะเจาะบริเวณทรวงอกด้านหน้าส่วนบน ระหว่างกระดูกซี่โครงที่สองและสาม แต่ถ้าเป็นของเหลวเจาะบริเวณทรวงอกด้านหลังส่วนล่างต่ำกว่าระดับของของเหลวซึ่งอาจอยู่ระหว่างกระดูกซี่โครงที่หกและเจ็ด หรือเจ็ดและแปด