บทที่ 295 อาการปวดท้องปริศนา!
ช่วงเวลาต่อไปเป็นช่วงเวลาทำงานตามปกติ เข้างานตามปกติ
มีเพียงสิ่งเดียวที่ต่างไปจากเดิมคือหลังเลิกงาน เฉินชางจำเป็นต้องติดตามอาจารย์เมิ่งไปผ่าตัด และด้วยเหตุนี้ ตารางเวลาของเขาจึงยิ่งรัดตัวมากยิ่งขึ้น
ทุกวันทำงานตั้งแต่เช้าจรดค่ำ เมื่อกลับถึงบ้านหัวถึงหมอนก็หลับทันที
ตอนนี้เฉินชางรู้สึกเลื่อมใสเมิ่งซีมาก อายุแค่สามสิบก็จบปริญญาเอกจากมหาวิทยาลัยแคโรลินสกา ทำอย่างไรถึงก้าวมาถึงระดับนี้ได้
ในขณะที่หญิงสาวคนอื่นๆ ต่างดื่มด่ำไปความงามเพริดพริ้ง เธอกลับสวมชุดกาวน์ เดินเข้าห้องผ่าตัด
น้อยครั้งมากที่เฉินชางจะเห็นเมิ่งซีแต่งหน้า ต่อให้แต่งหน้าก็แต่งน้อยมาก แค่ทาลิปสติกเท่านั้น
แต่ถึงจะเป็นเช่นนี้ก็ยังคงสวยมาก!
เมื่อเทียบกับฉินเยว่แล้ว เมิ่งซีดูเป็นผู้หญิงที่มีความเป็นผู้ใหญ่และเป็นตัวของตัวเองมากกว่า
น่าเสียดายที่ผู้หญิงคนนี้แต่งงานกับวิชาการแพทย์ไปแล้ว
เมื่อคิดมาถึงตรงนี้ เฉินชางยังคงค่อนข้างรู้สึกโชคดีที่ได้เป็นศิษย์เธอ
ดีที่ผู้หญิงอย่างเมิ่งซีแต่งงานให้กับวิชาการแพทย์ไปแล้ว ไม่อย่างนั้นโลกใบนี้คนต้องเกิดความวุ่นวายเพิ่มขึ้นเพราะความงามของเธอ
เมื่อเทียบกันกับฉินเยว่ที่ชอบสวมเสื้อหลวมๆ เมิ่งซีชอบสวมเสื้อผ้าเข้ารูปเน้นสัดส่วน ทุกครั้งเวลาที่เธอถอดชุดกาวน์ออก เฉินชางอดแอบมองไม่ได้ รูปร่างดีมาก!
…
…
เวรเช้าในวันพุธเวลาค่อนข้างยาวนาน สิ่งเดียวที่แก้เบื่อได้ก็คือการหยอกล้อกับฉินเยว่คนขี้ประจบ
เมื่อคิดอย่างละเอียดรอบคอบแล้ว เฉินชางพบว่าชีวิตของตนไม่เลวเลยจริงๆ!
ที่โรงพยาบาลอันดับสองมีฉินเยว่คนขี้ประจบ
ที่คลินิกศัลยกรรมจื้อซินมีสวีโหรวคนป่าเถื่อน
ที่แผนกศัลยกรรมหัวใจโรงพยาบาลตงต้ามีเมิ่งซี…
เอาละ อาจารย์เมิ่งยังไม่มีฉายา เว้นว่างไว้ก่อนชั่วคราว
และด้วยเหตุนี้ เฉินชางจึงพบว่าความจริงแล้วการเรียนแพทย์เป็นเรื่องที่ดีมากทีเดียว ทำงานอยู่ที่โรงพยาบาลก็ไม่เลว มีมิตรภาพรอบตัว แล้วจะมีที่ไหนสบายกว่าโรงพยาบาลได้อีก
แพทย์ประจำบ้านก็คือแพทย์ประจำบ้าน ถึงอย่างไรก็โสดกันหมดอยู่แล้ว จะต้องกลัวใครมาสวมเขา?
เมื่อไม่นานมานี้เฉินชางอ่านข่าวข่าวหนึ่ง
หมอบางคนอยู่แต่โรงพยาบาลไม่ค่อยกลับบ้าน ภรรยาก็เลยแอบนอกใจ
หลังจากที่อ่านข่าวนี้แล้ว เฉินชางถึงกับตกใจ ถึงขั้นที่หวาดผวาอยู่นาน และจิตใจว้าวุ่นอย่างหนัก
แต่แล้วเขาเริ่มรู้สึกดีใจที่ตนโสด
อย่างน้อยก็ไม่ต้องกลัวว่าจะโดนสวมเขา
…
…
ตอนบ่ายโมงกว่า จู่ๆ ก็มีเด็กสาวอายุไม่มาก แค่สิบเจ็ดสิบแปดปีเท่านั้น กำลังอยู่ในช่วงวัยแรกแย้ม เธอกุมท้องส่งเสียงกรีดร้องโอดครวญเข้ามาในแผนก
คนที่มากับเด็กสาวเป็นพ่อแม่ของเธอ เด็กสาวเรียนอยู่ชั้นมัธยมศึกษาปีที่หก เธอเพิ่งจะเปิดภาคเรียน เพื่อที่จะให้ลูกสาวได้เรียนอย่างเต็มที่ พ่อแม่จึงจะให้ลูกสาวอยู่หอพักของโรงเรียน
โรงเรียนมัธยมปลายตงหยางซื่อลิ่วเป็นหนึ่งในโรงเรียนมัธยมที่มีชื่อเสียงมากที่สุดในมณฑลตงหยาง เลียนแบบการบริหารโรงเรียนแบบทหารของโรงเรียนมัธยมเหอเป่ยเหิงสุ่ย การจัดการภายในโรงเรียนมีความเข้มงวดกวดขันมาก
ในตอนที่พ่อแม่นำตัวลูสาวมาที่โรงพยาบาล ทั้งสองดูร้อนใจมาก
“หมอคะ! วันนี้อาการของเด็กกำเริบหลายครั้งมาก เจ็บปวดรุนแรงทุกครั้ง สาเหตุเพราะอะไรกันแน่”
ครั้งนี้เฉินชางได้รับประสบการณ์ของเหยาจื้อเหวินเมื่อครั้งที่แล้วมาแล้ว เขาตรวจร่างกายของเด็กสาวอย่างละเอียดก่อน!
ฟังเสียงหัวใจและปอด อีกทั้งยังตรวจช่องท้องด้วย
เวลาที่กดลงตรงบริเวณช่องท้องตำแหน่งขวาล่างผู้ป่วยมีอาการเจ็บ แต่ไม่ชัดเจนมากนัก ไม่ถึงขั้นเจ็บจนกระตุก
เฉินชางสงสัยว่าจะเป็นไส้ติ่งอักเสบเฉียบพลันหรือเปล่า
เฉินชางสอบถามประวัติอาการป่วยอย่างละเอียด “ปวดท้องนานแค่ไหนแล้วครับ ปวดแบบไหน”
ตอนนี้เด็กสาวไม่ได้ปวดมากขนาดนั้นแล้ว แต่ตอบด้วยใจที่ยังคงหวาดกลัวกับความเจ็บปวด “ช่วงนี้เดือนหนึ่งปวดบ่อยมาก แล้วทุกครั้งที่ปวดจะปวดนานถึงสองชั่วโมง พอผ่านไปสักพักอาการก็ทุเลาลงค่ะ ตอนนี้ไม่ปวดแล้ว”
เฉินชางถามต่อ “แต่ก่อนเคยเป็นอาการแบบนี้มั้ยครับ”
เด็กสาวส่ายหน้า “ไม่เคยค่ะ เพิ่งจะช่วงนี้ที่เริ่มมีอาการปวดท้อง ในช่วงหนึ่งเดือนนี้ปวดท้องสี่ห้าครั้ง ถี่มาก อาการกำเริบบ่อยตอนกลางคืน วันนี้ตอนเรียนหนังสือจู่ๆ ก็กำเริบขึ้นมาอีก อาจารย์ก็เลยติดต่อที่บ้านให้ค่ะ”
สิ่งแรกที่เฉินชางคิดคือต้องทำซีทีสแกน แต่พอคิดมาถึงตรงนี้ จู่ๆ เฉินชางก็หยุดความคิดนี้ไว้ก่อน
ทำซีทีสแกนไม่ได้!
กรณีที่ตั้งครรภ์จะทำอย่างไร
เมื่อคิดมาถึงตรงนี้ เฉินชางก็ก้มหน้าไปถามเด็กสาวว่า “ช่วงนี้ประจำเดือนมาปกติมั้ยครับ”
เด็กสาวชะงักเล็กน้อย ใบหน้าถอดสี ตอบว่า “ไม่ค่อยปกติค่ะ…ปกติประจำเดือนหนูมาไม่ค่อยปกติอยู่แล้ว”
เฉินชางรู้สึกสะอึกอยู่ในใจ “มีแฟนแล้วหรือยังครับ เคยมีเพศสัมพันธ์กันหรือเปล่า”
เมื่อได้ยินคำถามนี้ของเฉินชาง ผู้ปกครองทั้งสองของเด็กสาวก็ค่อนข้างตื่นตระหนกจนหน้าถอดสี
เมื่อเด็กสาวเห้นสีหน้าของพ่อแม่ เธอก็รีบกล่าวทันทีว่า “ไม่มีค่ะ! ไม่มีแฟน แล้วก็ไม่เคยมีเพศสัมพันธ์ด้วย!”
คำพูดรุนแรง!
เฉินชางต้องระมัดระวังในการสอบถามมากขึ้น
เด็กสาววัยนี้เป็นวัยที่พ่อแม่เป็นห่วงมากที่สุด ดังนั้นจำเป็นต้องใช้วิธีตรวจการตั้งครรภ์ด้วยวิธีตรวจปัสสาวะ
ถึงแม้เด็กสาวจะบอกหมอว่าไม่มีแฟน และไม่เคยมีเพศสัมพันธ์ก็ตาม
แต่เฉินชางไม่เชื่อแน่นอน เพราะ…ผู้ป่วยมักจะโกหก นี่ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร สิ่งที่สำคัญที่สุดคือ เด็กสาวปฏิเสธด้วยคำพูดที่รุนแรง และเพราะมีพ่อแม่ยืนอยูข้างๆ ต่อให้เด็กสาวเคยมีเพศสัมพันธ์มาก่อน ก็ไม่กล้าบอกแน่!
เพราะเธอเพิ่งเรียนอยู่ชั้นมัธยมปลาย!
เมื่อคิดมาถึงตรงนี้ เฉินชางไม่ได้พูดกับเด็กสาว แต่เงยหน้ามองผู้ปกครองของเธอแทน อธิบายอย่างตั้งใจว่า
“เอ่อ…ตอนนี้ยังตัดความเป็นไปได้อื่นๆ ออกไม่ได้ เพื่อความปลอดภัย ผมแนะนำว่าต้องเก็บปัสสาวะไปตรวจครับ ทางเราจะตรวจการปัสสาวะเพื่อตรวจการตั้งครรภ์ดูก่อน”
หลังจากที่พ่อแม่ของเด็กสาวได้ยินเช่นนั้น ถึงแม้หน้าจะถอดสี แต่ก็พยักหน้าทันที!
“ได้ค่ะ! ได้! รบกวนคุณหมอด้วยนะคะ เราให้ความร่วมมือในการตรวจทั้งหมดอย่างเต็มที่ค่ะ ลูกสาวเรากำลังเรียนมัธยมชั้นปีที่หก เราไม่อยากให้เสียเวลานานเกินไป แล้วก็อะไรตรวจได้ก็ตรวจได้เลยค่ะ…อัลตราซาวด์อะไรทำนองนี้…”
ความจริงแล้วแม่ของเด็กสาวลุกลี้ลุกลนไปหมดแล้ว
ถ้าหาก…ถ้าหากท้องขึ้นมาจริงๆ จะทำไง
สมัยนี้เด็กๆ อยู่โรงเรียนทำอะไรกัน คนเป็นพ่อแม่ไม่ค่อยรู้แน่ชัดนัก นี่เพิ่งไปอยู่หอของโรงเรียนได้นานแค่ไหนกันเชียว
เมื่อคิดมาถึงตรงนี้ ผู้เป็นแม่ก็รู้สึกหวาดหวั่น มือของเธอสั่นระริก!
เธอรู้ว่าหลังจากที่ทราบผลว่าตั้งครรภ์แล้วก็จะต้องตรวจอัลตราซาวด์จึงจะเห็นตัวอ่อนในครรภ์ ด้วยเหตุนี้เธอจึงบอกเฉินชางด้วยคำพูดเป็นนัยๆ เพราะเป็นห่วงว่าลูกสาวจะคิดมาก
ถึงแม้ว่าเด็กสาวจะไม่เต็มใจให้ตรวจ แต่ก็ขัดพ่อแม่ไม่ได้ ทำได้แค่ไปปัสสาวะเพื่อตรวจต่อไป
พ่อของเด็กสาวเองก็ต้องการจะตามไปด้วย แต่โดนผู้เป็นแม่ถลึงตาใส่ทีหนึ่ง “คุณรออยู่ที่นี่ ฉันไปเป็นเพื่อนลูกเอง”
เพราะอยู่ที่แผนกฉุกเฉิน ผลตรวจก็เลยออกมาค่อนข้างเร็ว
ผลตรวจชี้ชัดว่าไม่ตั้งครรภ์
ไม่ตั้งครรภ์จริงๆ ไม่ตั้งครรภ์ก็ดีแล้ว
พ่อแม่ของเด็กสาวถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งใจในที่สุด…
แต่เฉินชางสังเกตเห็นว่าเด็กสาวก็ถอนหายใจเช่นกัน
เฉินชางทำได้แค่ถอนหายใจไปกับครอบครัวนี้ด้วย
แต่ลำดับต่อไป ยังจำเป็นต้องรีบวินิจฉัยอาการของผู้ป่วยให้เร็วที่สุดว่าอาการปวดท้องของผู้ป่วยมาจากสาเหตุใดกันแน่
ภายใต้คำร้องขอที่หนักแน่นของพ่อแม่ เฉินชางก็เลยทั้งตรวจอัลตราซาวด์ช่องท้อง ทั้งตรวจอัลตราซาวด์ทางสูตินรีเวชให้กับเด็กสาว
แต่…
แต่พ่อแม่ของเด็กสาวยังแอบเดินเข้ามาในห้องทำงาน ถามเฉินชางว่า “หมอเฉินคะ…จะทำยังไงถึงจะตรวจได้ว่าลูกสาวฉันว่าเคยมีเพศสัมพันธ์มาแล้วหรือเปล่า ฉันยังสงสัย…ไม่ใช่! ฉันเป็นห่วงลูกสาวน่ะค่ะ อยู่มัธยมปลายเอง เพิ่งอยู่หอพักของโรงเรียนได้แค่สองเดือน กลัวจะเกิดปัญหาจริงๆ!”
เฉินชางคิดอยู่นานมากแต่ก็คิดไม่ออก!
คุณกำลังทำให้ผมลำบากใจจริงๆ
ถ้าผมรู้ความลับนี้ ผมก็จะเก่งกาจเกินไปแล้ว
เมื่อพ่อแม่ของเด็กสาวเห็นว่าเฉินชางไม่มีวิธีที่จะช่วยไขข้อข้องใจได้ เธอก็เลยเดินออกไปปรึกษาหารือกับสามีที่หน้าห้องทำงาน ทั้งสองลงความเห็นว่าให้ลูกกลับมานอนที่บ้านค่อนข้างปลอดภัยกว่าอยู่หอพักของโรงเรียน เหนื่อยหน่อย…แต่ก็…
