บทที่ 362 ปล่อยคุณเสแสร้งไปเถอะ!
เลน่าคอร์นถือสัญชาติที่มีหลายภรรยาได้ เขามีแฟนหลายคน ซึ่งผู้หญิงของเขาก็ชอบสร้างปัญหา แต่เขามีความสุขกับเรื่องนี้จนไม่รู้จักความเหน็ดเหนื่อย!
ในความคิดของเขา หากไม่มีการแข่งขันก็ไม่มีการพัฒนา เหล่าแฟนสาวก็เป็นเช่นเดียวกัน หากไม่มีการเปรียบเทียบ พวกเธอก็จะไม่พัฒนาทักษะและฝีมือการบริการของตัวเอง
แฟนสาวของเลน่าคอร์นรับรู้การมีอยู่ของกันและกันทั้งหมด มีกระทั่งงานเลี้ยงรวมตัวด้วยซ้ำ
ปรัชญาการทำงานของเลน่าคอร์นก็เป็นเช่นนี้ เมื่อมีการแข่งขันถึงจะลดเงินทุนและรายจ่ายลงได้ ขณะเดียวกันก็เพิ่มคุณภาพการบริการได้อีกด้วย
ตัวอย่างเช่น เลน่าคอร์นพบว่าเลี้ยงดูแฟนสาวคนหนึ่งต้องใช้เงินเดือนละสองหมื่นดอลลาร์สหรัฐฯ แต่หากเลี้ยงดูแฟนสาวสองคนจะใช้เงินเพียงสองหมื่นห้าพันดอลลาร์สหรัฐฯ สามคนใช้เงินเพียงสามหมื่นดอลลาร์สหรัฐฯ
ในความคิดของเขา นี่เป็นปรัชญาที่น่าสนใจ
เมื่อเขาได้ยินว่าเจิ้งกั๋วถานมีเพื่อนเช่นนี้อยู่ก็รีบพูดขึ้นทันที “หวังว่าต่อไปจะมีโอกาสได้ทำความรู้จักกันนะครับ!”
เจิ้งกั๋วถานมีสีหน้ายินดี รีบตอบรับไปโดยพลัน
เลน่าคอร์นเป็นซีอีโอของบริษัทเกี่ยวกับการลงทุนแห่งหนึ่งในต่างประเทศ เจิ้งกั๋วถานอยากรู้จักนานแล้ว คิดไม่ถึงว่าจะมีโอกาสสานสัมพันธ์กับอีกฝ่าย เจิ้งกั๋วถานย่อมคว้าโอกาสนี้ไว้แน่นอน
เขาถึงกับพูดยิ้มๆ ว่า “แผลที่ขาของเสี่ยวสวี ผมจ่ายเงินค่ารักษาไปแค่หนึ่งหมื่นดอลฯ เองครับ”
เลน่าคอร์นได้ยินดังนั้นก็รีบพูดขึ้นทันทีว่า “ต้องเป็นเพื่อนกันจริงๆ สินะครับ ไม่งั้นราคานี้คุณคงไม่ได้เห็นแม้แต่เงาของหมอ คุณเจิ้ง ถ้ามีโอกาสจะต้องแนะนำเพื่อนของคุณให้ผมรู้จักด้วยนะครับ ผมชอบคบเพื่อนเยอะๆ โดยเฉพาะเพื่อนที่มีความสามารถ”
เลน่าคอร์นพูดจาตรงไปตรงมาเป็นอย่างยิ่ง เขาเป็นชายหัวล้านอายุห้าสิบกว่าปีที่มีรูปร่างบึกบึน
ในใจของเจิ้งกั๋วถานรู้สึกผิดไปนานแล้ว ตอนแรกเขาคิดว่าเจ็ดแปดหมื่นก็ไม่น้อยแล้ว ทว่าตอนนี้เมื่อคิดดูอีกครั้งก็รู้สึกไม่สบายใจเลยจริงๆ
ยิ่งคิดถึงตอนที่ตนพาตัวเฉินชางมาถึงบ้าน เชิญให้อีกฝ่ายรักษารอยแผลเป็นบนใบหน้าของภรรยาตนเองอีกครั้ง เขาก็ยิ่งรู้สึกไม่ดี
ตอนนั้นตัวเขายังลำพองใจอยู่ แต่ตอนนี้พอคิดดูแล้ว หากพูดออกไปก็มีแต่จะอับอายขายขี้หน้า ดังนั้นเมื่อเห็นว่าเฉินชางโทรมาจึงรีบออกมารับโทรศัพท์ทันที
เฉินชางยิ้มเล็กน้อย “ประธานเจิ้ง ผมมีเรื่องจะรบกวนหน่อยน่ะครับ”
เจิ้งกั๋วถานได้ยินดังนั้นก็รู้สึกดีใจขึ้นมาทันที คนที่พัฒนามาจนถึงระดับฐานะแบบเขา สิ่งที่กลัวที่สุดก็คือการติดหนี้น้ำใจ
เฉินชางมาให้ช่วยถึงที่แล้ว เจิ้งกั๋วถานย่อมดีใจ
“อ้อ เสี่ยวเฉิน คุณเกรงใจไปแล้วครับ บอกมาได้เลย หากเป็นเรื่องที่ช่วยได้ ผมเจิ้งกั๋วถานจะต้องช่วยคุณแน่นอน”
เฉินชางยิ้ม “คือแบบนี้นะครับประธานเจิ้ง ผมถูกใจห้องชุดห้องหนึ่งของอพาร์ทเมนท์ในเขตไห่อันใหม่ อยากจะซื้อไว้น่ะครับ ผมเตรียมเงินแล้ว แต่อาจมีคนซื้อไปก่อนก็ได้ ผมเลยอยากรบกวนคุณหน่อยน่ะครับ”
เจิ้งกั๋วถานได้ยินดังนั้นก็ยิ้มทันที คิดว่าเป็นเรื่องใหญ่อะไรซะอีก นั่นห้องของบริษัทอสังหาริมทรัพย์ของเขาเอง
เมื่อคิดถึงตรงนี้ เจิ้งกั๋วถานก็เกิดความคิดบางอย่างขึ้นมาโดยพลัน ใช่แล้ว!
ภรรยาของตนก็ได้เฉินชางช่วยเอาไว้ เช่นนั้นก็ให้เขาไปเลยดีกว่า
หากทำเช่นนั้น ประการแรกจะได้ตอบแทนหนี้น้ำใจ นอกจากนี้ยังอาจจะได้คบเป็นสหายกับเฉินชางอีกด้วย ภายภาคหน้าหากมีอะไรให้ช่วยเหลือจะได้คอยช่วยเหลือกันและกัน
คุยกันถึงตรงนี้แล้วเจิ้งกั๋วถานก็บอกไปว่า “อ้อ เสี่ยวเฉิน คุณบอกเลขห้องผมมาได้เลยครับ เดี๋ยวเรื่องนี้ผมจัดการให้คุณเอง”
เฉินชางพยักหน้าแล้วบอกเลขห้องไป
เจิ้งกั๋วถานจดเอาไว้แล้วพูดกับเฉินชางว่า “เอาละ เสี่ยวเฉิน เดี๋ยวเรื่องนี้ผมจัดการให้เองนะครับ คุณกลับไปพักผ่อนก่อน เดี๋ยววันหลังผมจะให้ผู้จัดการเอาไปมอบให้คุณเอง หรือจะพูดให้ชัดเจนก็คือ พอถึงเวลาผมจะให้ผู้จัดการติดต่อไปหาคุณนะครับ คุณสะดวกให้โทรเบอร์นี้ใช่ไหมครับ ผมจะได้ให้เขาติดต่อคุณ”
เฉินชางได้ยินดังนั้นก็ชะงักไป “ถ้างั้นรบกวนประธานเจิ้งด้วยนะครับ”
เจิ้งกั๋วถานโบกมือ “เอาละๆ พวกเราเป็นเพื่อนกันไม่จำเป็นต้องเกรงใจกันหรอกครับ ผมประชุมอยู่ เดี๋ยววันหลังจะไปเป็นแขกที่บ้านคุณนะครับ”
หลังจากวางโทรศัพท์แล้ว เจิ้งกั๋วถานก็กลับมาที่ออฟฟิศ เขามองทุกคนแล้วถามขึ้นว่า “ใครเป็นคนรับผิดชอบอพาร์ทเม้นท์ที่เขตไห่อันใหม่”
ทันใดนั้นผู้จัดการอายุสี่สิบกว่าปีคนหนึ่งก็ลุกขึ้นยืนแล้วพูดว่า “ผมเองครับประธานเจิ้ง”
เจิ้งกั๋วถานพยักหน้า “เพื่อนของผมคนหนึ่งถูกใจห้องชุด ยูนิตเก้า ตึกสอง ห้อง 808 คุณจัดการให้ทีนะครับ เดี๋ยวผมส่งเบอร์และชื่อของเขาให้คุณ คุณก็ไม่ต้องประชุมแล้ว รีบไปจัดการเรื่องนี้ก่อนเลย”
ผู้จัดการได้ยินดังนั้นจะยังไม่เข้าใจอีกหรือ
นี่เป็นเรื่องดี!
ช่วยหัวหน้าจัดการเรื่องส่วนตัว ไม่มีอะไรเป็นเกียรติยิ่งกว่าเรื่องนี้แล้ว
เมื่อคิดได้ดังนี้ เขาก็ลุกขึ้นยืนแล้วรีบออกไปจัดการให้ทันที
……
……
ณ ฝ่ายขายของเขตไห่อันใหม่ เมื่อจางฝานคิดถึงท่าทีผิดหวังของเฉินชางและฉินเยว่ก็รู้สึกสะใจจริงๆ
บางครั้ง หากมีเงินก็ทำได้ทุกอย่างจริงๆ
คุณชอบคนอาชีพเดียวกันไม่ใช่หรือไง
บ้านผมเปิดบริษัทเกี่ยวกับการรักษาพยาบาลก็ถือเป็นเพื่อนร่วมอาชีพไม่ใช่หรือ
เมื่อคิดถึงตรงนี้ จางฝานก็อยากหัวเราะจริงๆ
“เอาละ จองเลยครับ เอาเป็นห้องนี้แหละ”
พนักงานฝ่ายขายได้ยินดังนั้นก็ดวงตาเป็นประกาย “คุณผู้ชายยอดเยี่ยมจริงๆ ค่ะ แฟนคุณโชคดีมากเลยนะคะ!”
จางฝานยิ้มแล้วส่ายหน้า
ทั้งสามเดินไปด้วยกัน เมื่อเดินลงไปชั้นล่างก็เห็นเฉินชางยืนรอฉินเยว่อยู่พอดี
จางฝานยิ้มอย่างอดไม่อยู่ “หมอเฉินตาแหลมจริงๆ นะครับ ห้องนั้นผมซื้อแล้ว แต่…ผมปล่อยเช่าให้คุณได้นะครับ ยังไงพวกเราก็เป็นเพื่อนกัน”
เฉินชางชะงักไปก่อนพูดยิ้มๆ ว่า “ครับ ยินดีกับคุณด้วยนะครับ”
ตอนนี้อยู่ในที่สาธารณะ ทะเลาะกับอีกฝ่ายไปก็ไม่มีความหมายอะไร เขาไม่เชื่อว่าเจิ้งกั๋วถานจะจัดการเรื่องห้องให้ไม่ได้
ตอนนี้เอง โทรศัพท์ของพี่สาวฝ่ายขายก็ดังขึ้น
“เสี่ยวเฮ่อ ยูนิตเก้า ตึกสอง ห้อง 808 ห้ามขายนะครับ ต่อไปคุณไม่ต้องพาแขกไปดูห้องนี้แล้ว” พนักงานฝ่ายขายคนนั้นตกใจจนตาค้าง
“ทำไมคะผู้จัดการ! ฉันคุยกับลูกค้าไว้แล้วนะคะ! ราคาก็ตกลงกันเรียบร้อยแล้ว ตอนนี้รอเซ็นสัญญาอย่างเดียวแล้วค่ะ!” เธอไม่พอใจจริงๆ
ผู้จัดการส่ายหน้า “ผมก็ไม่ค่อยทราบเหมือนกันครับ ผมเพิ่งได้รับโทรศัพท์จากประธานหวัง บอกว่าให้ระงับการขายห้องนั้นที่อยู่ในเขตไห่อันใหม่ไปก่อนชั่วคราว เอาละ คุณไม่ต้องถามแล้ว ผมยังมีธุระอื่นอีก”
เมื่อวานโทรศัพท์แล้ว พนักงานขายก็รู้สึกกระอักกระอ่วน
“เอ่อ…คุณจางคะ ขอโทษด้วยค่ะ ห้องที่คุณดูเมื่อกี้นี้มีปัญหาเล็กน้อยจึงระงับการขายชั่วคราว…คุณว่า…เปลี่ยนห้องดีไหมคะ”
จางฝานชะงักไปทันที!
เมื่อเขาเห็นรอยยิ้มที่คล้ายกำลังดูเรื่องสนุกของเฉินชางก็รู้สึกใจกระตุก
นี่ล้อฉันเล่นหรือไง
เตรียมเซ็นสัญญาแล้วแต่คุณไม่ขายเนี่ยนะ
เมื่อคิดถึงตรงนี้ จางฝานก็รู้สึกโมโหขึ้นมาแล้ว
ตอนนี้ฉินเยว่เพิ่งเดินออกมาจากห้องน้ำ เธอเดินมาหาเฉินชางด้วยท่าทางเบิกบานใจ
เธอพบว่าทุกครั้งที่เธอเห็นเฉินชาง ทุกครั้งที่ได้พบเฉินชาง เธอจะอารมณ์ดีมาก
เพิ่งออกมาก็ได้ยินเรื่องที่ทางบริษัทระงับการขายห้องนั้นชั่วคราว ฉินเยว่ก็ยิ่งอารมณ์ดี
ดีใจจนแทบคลั่ง!
อยากยิ้มแต่ก็เกรงใจ
เธอมองจางฝาน คุณเสแสร้งต่อไปสิ!