บทที่ 422 โรงพยาบาลอันดับสองคือแหล่งเสือหมอบมังกรซ่อน
ตั้งแต่เดินออกมาจากห้องผ่าตัด แม้จะผ่านไปนานแล้ว โจวหงกวงก็ยังปล่อยวางไม่ได้!
หวังหย่งอายุพอๆ กับเฉินชางแต่กลับร้ายกาจขนาดนี้แล้ว แม้ไม่รู้ว่าเขาผ่าตัดอะไร แต่ดูแค่การจัดการบาดแผลก็ทราบถึงความสามารถเขาแล้ว
เป็นคนหนุ่มที่ไม่เลวเลย!
น่าเสียดายที่พลาดการผ่าตัดของเขา เฮ้อ…
เรื่องนี้ทำให้โจวหงกวงรู้สึกแปลกใจมาก แผนกฉุกเฉินของโรงพยาบาลอันดับสองเล็กๆ แห่งนี้กลับมีเสือหมอบมังกรซ่อนอยู่ด้วย นี่ไม่ใช่แผนกที่โดดเด่นอะไรเลย แต่กลับมีหมอน้อยวัยเยาว์มากความสามารถโผล่ออกมาถึงสองคนแล้ว!
น่าสนใจจริงๆ
คิดถึงตรงนี้โจวหงกวงก็คิดต่อไปว่า นี่เป็นเรื่องบังเอิญหรือเปล่า
ต้องบังเอิญแน่ๆ!
คิดแล้วก็ตัดสินใจว่าจะไปดูการผ่าตัดเคสต่อไปสักหน่อย หวังว่าจะได้เห็นการผ่าตัดเต็มๆ สักเคส
หลี่เป่าซานเห็นท่าทางตกใจของโจวหงกวงเช่นนั้นก็รู้สึกสบายไปทั้งตัว มีความสุขมากๆ ได้หน้าสุดๆ
หลี่เป่าซานที่ตัวพองจนแทบลอย เกือบฮัมเพลงงิ้วออกมาแล้ว…
การผ่าตัดเคสต่อไปอยู่ห้องข้างๆ หมอทั้งหลายพากันเดินเข้าไปด้านใน
โจวหงกวงสงสัยจริงๆ ว่าจะเป็นการผ่าตัดแบบไหน
เมื่อเดินเข้าไปแล้วก็พบสาวน้อยคนหนึ่ง เธออายุไม่มาก ดูแล้วพอๆ กับพวกเฉินชาง ดูเหมือนการผ่าตัดยังไม่เริ่ม ในที่สุดก็ได้เห็นการผ่าตัดเต็มๆ แล้ว!
หลี่เป่าซานพูดยิ้มๆ ว่า “เสี่ยวฉิน ผ่าตัดอะไร”
ฉินเยว่ตอบ “หัวหน้าคะ ผ่าตัดไส้ติ่งค่ะ”
โจวหงกวงยืนอยู่ข้างๆ โดยไม่ส่งเสียงอะไร ผ่าตัดไส้ติ่งหรือ เป็นการผ่าตัดที่ไม่ต้องใช้ทักษะความสามารถอะไรมากมาย แต่ก็ทดสอบฝีมือของศัลยแพทย์ได้ดีที่สุด คงได้เห็นรายละเอียดมากมายจากการผ่าตัดนี้สินะ
คิดแล้วโจวหงกวงก็รู้สึกเฝ้ารอและคาดหวัง
การผ่าตัดเริ่มต้นขึ้นแล้ว ฉินเยว่หยิบมีดผ่าตัดขึ้นมา กดไปตรงจุดที่ทำสัญลักษณ์ไว้แล้วกรีดเบาๆ ปรากฏแผลไม่ถึงสองเซนติเมตร นี่ทำให้โจวหงกวงชะงักไปทันที
แผลเล็กขนาดนี้จะผ่าตัดด้วยการส่องกล้องหรือ
แต่ดูไปดูมาก็ไม่เห็นฉินเยว่ใช้กล้องเพราะเธอกรีดแค่รอยเดียว นี่ทำให้เขาชะงักไปอีกครั้ง
ฉินเยว่เริ่มงานของตนไปอย่างเป็นระเบียบเรียบร้อย โจวหงกวงที่ยืนดูด้านหลังพบว่าการกรีดเช่นนี้ทำให้มีพื้นที่ผ่าตัดค่อนข้างดีทีเดียว จนในที่สุดเขาก็เข้าใจแล้วว่านี่คือการผ่าตัดไส้ติ่งแบบแผลเล็ก
ทว่าผ่านไปไม่นานโจวหงกวงก็พบว่าไส้ติ่งนี้ไม่ง่ายเลย ดูเหมือนจะเป็นไส้ติ่งอักเสบที่ไม่ธรรมดา เป็นไส้ติ่งอักเสบที่มีภาวะเป็นหนองร่วมด้วย หากใช้การผ่าตัดแบบแผลเล็กจะไม่ค่อยเหมาะสมหรือเปล่า
รีบขยายแผลเถอะ!
โจวหงกวงกังวลใจขึ้นมาแล้ว
ทว่าฉินเยว่ดูไม่ทุกข์ร้อนอะไรเลย ในตอนนี้เธอหันไปพูดกับพยาบาลว่า “เคลื่อนไปทางซ้ายสิบห้าองศา กดลงสิบองศา…”
ดูเหมือนพยาบาลคุ้นเคยกับวิธีนี้แล้วจึงรีบปรับเตียงผ่าตัดทันที
ในตอนนี้โจวหงกวงก็ต้องตะลึงอีกครั้ง เขาพบว่าพื้นที่ผ่าตัดดูดีขึ้นกว่าเดิม!
นี่ทำให้เขาตกใจจนตาค้าง
นี่…แผลเล็กนี่ เอามาปรับใช้แบบนี้ด้วยหรือ
ทำไมเมื่อก่อนผมไม่รู้ล่ะ
หรือเป็นเพราะผมไม่สนใจการประชุมเกี่ยวกับเรื่องพวกนี้มาหลายปีแล้ว
ไม่ใช่แน่นอน!
โจวหงกวงให้ความสำคัญเกี่ยวกับข้อมูลและข่าวสารของวงการศัลยแพทย์มาก มักจะอ่านนิตยสารฉบับล่าสุดอยู่บ่อยๆ แต่เหมือนจะไม่เจอเรื่องพวกนี้เลย
เห็นการผ่าตัดของฉินเยว่แล้ว โจวหงกวงก็เริ่มสับสนกับชีวิต การผ่าตัดสามเคสนี้ทำให้ว่าที่นักวิชาการโจวท่านนี้กระสับกระส่ายแล้ว
แม้การผ่าตัดเหล่านี้จะไม่ยาก เรียกได้ว่าถึงขั้นธรรมดาด้วยซ้ำ แต่การแก้ไขและปรับปรุงวิธีการผ่าตัดแบบดั้งเดิมให้ดีขึ้นเป็นเสมือนจิตวิญญาณที่วงการศัลยแพทย์ในปัจจุบันขาดไป มันคือนวัตกรรม!
สิ่งที่โจวหงกวงมองดูไม่ใช่เพียงการผ่าตัดเท่านั้น เขามองไปไกลกว่านั้น และมองลึกว่าใคร ยิ่งเป็นเช่นนี้ เขาก็ยิ่งรู้สึกว่าแผนกฉุกเฉินของโรงพยาบาลอันดับสองไม่ธรรมดาจริงๆ การผ่าตัดทั้งสองเคสนี้ล้วนใช้วิธีการผ่าตัดที่พัฒนามากจากการผ่าตัดแบบดั้งเดิมให้ลึกซึ้งยิ่งขึ้น นี่อาจเปลี่ยนแปลงวงการใดวงการหนึ่งได้เลยทีเดียว
หากจะกล่าวว่าการปรับปรุงการผ่าตัดแบบแผลเล็กให้ดียิ่งขึ้น เหมาะสมกับโรงพยาบาลรากหญ้า เช่นนั้น การผ่าตัดด้วยการส่องกล้องแบบแผลเล็กก็เหมาะสมกับโรงพยาบาลเมืองใหญ่
ทั้งคุ้มค่าและมีความหมาย!
พริบตานั้นโจวหงกวงก็รู้สึกสั่นสะท้านราวถูกคลื่นซัดสาด เขามองฉินเยว่ที่ยังอายุน้อย รู้สึกปลงอนิจจัง…และไม่รู้จะพูดอะไรดี
เฉินชางเห็นการผ่าตัดของฉินเยว่ก็อดชื่นชมไม่ได้ ไม่เลวๆ มีการพัฒนา!
ตอนนั้นฉินเยว่เขียนวิทยานิพนธ์เรื่องการผ่าตัดแบบแผลเล็กร่วมกับเฉินชาง เฉินชางก็คอยสอนเธอเสมอว่าจะผ่าตัดอย่างไร จะปรับมุมมองอย่างไร ตอนนี้ถือว่าพัฒนาไปเร็วทีเดียว
อีกเดี๋ยวเลิกงานแล้วต้องให้รางวัลสักหน่อย!
ว่าแต่ให้อะไรดีล่ะ
ชานมหนึ่งแก้วเหรอ มากไป!
ไม่งั้นก็จุ๊บๆ สักทีแล้วกัน
คิดถึงตรงนี้เฉินชางก็ส่งเสียงหัวเราะออกมา…
……
……
โจวหงกวงดูการผ่าตัดจนจบ ในใจรู้สึกซับซ้อนจริงๆ พอออกมาจากห้องผ่าตัดแล้วก็มองไปที่หลี่เป่าซาน กล่าวชื่นชมจากใจว่า “เฮ้อ! หัวหน้าหลี่เก่งจริงๆ ครับ คิดไม่ถึงเลยว่าแผนกฉุกเฉินจะมีคนหนุ่มคนสาวที่ยอดเยี่ยมอยู่มากขนาดนี้ แต่ละคนแสดงทักษะได้ดีทีเดียว! เป็นแหล่งเสือหมอบมังกรซ่อนจริงๆ!”
หลี่เป่าซานฟังจบก็รู้สึกสบายไปทั้งใจ ถูกคนระดับหัวหน้าแพทย์ของโรงพยาบาลชั้นนำระดับประเทศซึ่งใกล้จะได้เป็นนักวิชาการกล่าวชมเชยเช่นนี้ มันรู้สึกดีขนาดนี้เลยหรือ
มิน่าล่ะ คนเราถึงชอบคำประจบประแจง!
ที่แท้มันก็ดีแบบนี้เอง!
หลี่เป่าซานรีบยิ้มแล้วส่ายหน้า “เกรงใจไปแล้วครับ!”
จางโหย่วฝูที่อยู่ข้างๆ เห็นหลี่เป่าซานยิ้มหวานเหมือนดอกไม้บานก็อยากจะด่าออกไปจริงๆ ตอแหล! ดูทำหน้าเข้าสิ ยิ้มจนฟันจะหลุดออกมาแล้ว เกรงใจบ้างเถอะ!
คิดถึงตรงนี้จางโหย่วฝูก็ถอนใจออกมา นี่เป็นผลงานของเสี่ยวเฉินนะ!
วิธีที่ใช้ในการผ่าตัดทั้งสองเคสเป็นวิธีที่เฉินชางวิจัยออกมาด้วยตัวเอง ขอเพียงตกอยู่ในมือเฉินชาง ไม่ว่าอะไรก็ไม่รอดทั้งนั้น!
เฉียนเลี่ยงจะไม่รู้ได้อย่างไร
ในใจของเขารู้สึกเจ็บแปลบราวกับกำลังหึง เขารู้เรื่องการผ่าตัดไส้ติ่งแบบแผลเล็กอย่างกระจ่างชัด นี่เป็นความสามารถของเฉินชางโดยแท้
โจวหงกวงส่ายหน้า มองไปยังหลี่เป่าซานแล้วพูดอย่างจริงจังว่า “หัวหน้าหลี่ ผมไม่ได้เกรงใจเลยครับ การผ่าตัดสองเคสนี้มีความหมายมากจริงๆ ที่สำคัญก็คือพวกคุณทำให้เกิดนวัตกรรมใหม่ซึ่งเป็นสิ่งที่ศัลยแพทย์อย่างพวกเราขาดไป!”
“โดยเฉพาะการผ่าตัดแบบแผลเล็ก เป็นที่ต้องการของโรงพยาบาลในตัวเมืองจริงๆ! ถ้าเผยแพร่ออกไปอย่างกว้างขวางต้องมีผู้ป่วยมาใช้บริการมากขึ้นเรื่อยๆ แน่นอน!”
“หัวหน้าหลี่ นี่เป็นวิธีการผ่าตัดแบบใหม่ที่คุณวิจัยออกมาหรือครับ ผมว่าพวกเราร่วมมือกันได้นะครับ!”
หลี่เป่าซานได้ยินดังนั้นก็หน้าแดง “คือ…ไม่ใช่ผมหรอกครับที่วิจัยออกมา!”
โจวหงกวงได้ยินดังนั้นก็สงสัยขึ้นมาทันที “หรือว่า…จะเป็นหมอหนุ่มคนเมื่อกี้”
หลี่เป่าซานส่ายหน้า “วิธีพวกนี้…เสี่ยวเฉินเป็นคนคิดครับ! ทั้งการผ่าตัดแบบแผลเล็กและการผ่าตัดไส้ติ่งแบบแผลเล็กที่ถูกปรับปรุงให้ดีขึ้น ล้วนเป็นผลงานวิจัยของเฉินชาง ได้ยินว่าตอนนี้เผยแพร่วิทยานิพนธ์ไปแล้วนะครับ หัวข้อการศึกษาก็ถูกรับรองแล้วด้วย”
โจวหงกวงได้ยินดังนั้นก็ตกใจจนตาค้าง!
ปรับปรุงวิธีการผ่าตัดทั้งสองวิธีให้ดีขึ้น นี่เป็นผลงานของเฉินชางหรือ
นี่…มัน…มันจะน่าเหลือเชื่อเกินไปแล้ว!
โจวหงกวงกลืนน้ำลาย มองไปที่หลี่เป่าซาน อยู่ดีๆ ก็นึกอิจฉาขึ้นมา