บทที่ 430 อาจารย์เมิ่ง ทำไมคุณโง่แบบนี้!
เมิ่งซีเห็นเฉินชางไม่พูดอะไร หัวใจพลันเต้นตึกตัก!
หรือเฉินชางคิดว่าตนสอนอะไรไม่ได้เลย
จะรังแกกันเกินไปแล้ว!
ดูถูกกันเกินไปแล้ว!
คิดถึงตรงนี้ เมิ่งซีก็รู้สึกเหมือนเลือดลมตีกลับ รู้สึกเหมือนเสื้อผ้ารัดแน่นยิ่งขึ้น!
เธอคิดว่าเธอควรแสดงฝีมือให้เฉินชางเห็นสักหน่อย ให้เขารู้ถึงฝีมือที่แท้จริงของเธอบ้าง
เมื่อเห็นท่าทางของหัวหน้าเมิ่งในตอนนี้ เก่อฮว๋ายที่อยู่ข้างๆ พลันหน้าเปลี่ยนสี เขาที่โสดมาสามสิบสามปีรู้สึกรับไม่ได้จริงๆ ต้องทราบว่าหัวหน้าเมิ่งเป็นเหมือนเทพธิดาในใจของเก่อฮว๋ายมาตลอด…
ส่วนหมอดีกรีปริญญาเอกอีกสองคนเห็นดังนั้นก็รู้สึกว่าการทำโอทีนี่มันดีจริงๆ!
ตอนนี้พวกเขาเข้าใจแล้วว่าทำไมเก่อฮว๋ายถึงทำโอทีทุกวัน!
การทำโอทีมันหอมหวานแบบนี้เอง!
การทำโอทีก็มีสวัสดิการแบบนี้ด้วย!
ต่อไปจะต้องทำโอทีให้มาก ทำโอทีให้ดี!
จะให้เก่อฮว๋ายยึดอาหารตาไว้คนเดียวไม่ได้
…………
อันที่จริงตอนนี้เฉินชางกำลังพิจารณาอย่างจริงจัง สาเหตุหลักที่เขาลงทะเบียนกับเมิ่งซีเพราะอาชีพลับ สาเหตุรองเป็นเพราะความสามารถในการวิจัยของเมิ่งซี ซึ่งถือเป็นความสามารถเฉพาะตัวบุคคลที่หาได้ยากในมณฑลตงหยาง
แต่…ตนวางแผนการเรียนปริญญาโทไว้อย่างไรกันแน่
ควรจะพูดอย่างไรดี
เฉินชางคิดแล้วก็ตอบว่า “อาจารย์เมิ่ง เรื่องแผนการเรียนปริญญาโทของผม ผมคิดว่ามีหลักสำคัญมีอยู่สองอย่าง อย่างแรกก็คือความสามารถในด้านงานคลินิก อีกอย่างหนึ่งก็คือความสามารถในการวิจัย ความสามารถในการวิจัยของคุณเป็นที่ประจักษ์ชัดแล้ว
คุณเป็นเพียงคนเดียวในมณฑลตงหยางที่ได้รับการเผยแพร่วิทยานิพนธ์กับวารสาร The Lancet ผมคิดว่าถ้าติดตามคุณคงได้เรียนรู้อะไรมากมาย ยิ่งไปกว่านั้น หากพูดถึงเรื่องความสามารถทางด้านงานคลินิก ผมเพิ่งเข้ามาได้ไม่นาน ยังมีอะไรต้องเรียนรู้จากอาจารย์เมิ่งอีกมาก…”
“แต่ผมคิดอยู่เสมอว่าอาจารย์เป็นผู้นำทาง ส่วนการเดินทางอยู่ที่ตัวคน ขอเพียงติดตามอาจารย์เมิ่งให้ดี ตั้งใจเรียนรู้และสังเกตให้มาก จะได้เรียนรู้อะไรมากมายแน่นอน!”
……
เมื่อเมิ่งซีได้ยินคำพูดของเฉินชาง ได้เห็นสายตาจริงใจของเขา เธอพลันสัมผัสได้ว่านี่เป็นคำพูดที่เขากลั่นออกมาจากหัวใจ
จะต้องเป็นความจริงแน่นอน!
ไม่เลว ดูแล้วเฉินชางสายตากว้างไกลจริงๆ!
[ติ๊ง! ค่าความรู้สึกดี +5!]
เมื่อได้ยินเสียงแจ้งเตือนจากระบบ เฉินชางก็ชะงักไป
เฉินชางคิดว่าเวลาที่ตนใช้ไปกับไป๋ตู้ในช่วงนี้ไม่เสียเปล่าเลยสักนิด เพราะทำให้เขาพบเรื่องลึกลับบางอย่าง นั่นก็คือ ผู้หญิงชอบให้ชม ไม่ว่าจะอายุเท่าไร ขอเพียงชมให้ดี ทุกอย่างก็จะดีเอง!
ในตอนนี้ เก่อฮว๋ายเห็นแววตาของทั้งคู่ก็ยิ่งรู้สึกเหมือนมีอะไรไม่ถูกต้อง สองคนนั้นมองกันและกันด้วยสายตาเหมือนแฝงความนัย มีประกายวิบวับคล้ายสื่อถึงกัน ทันใดนั้น หัวใจของเขาก็เกิดหวาดระแวง!
พริบตานั้น เก่อฮว๋ายก็เกิดหึงหวงขึ้นมา คิดขัดทั้งสองคน จึงพูดขึ้นอย่างเร่งร้อนว่า “หัวหน้าเมิ่ง เตรียมห้องผ่าตัดเสร็จแล้วครับ พวกเรา…เตรียมผ่าตัดกันเถอะ”
เมิ่งซีพยักหน้าเล็กน้อย “อ้อ เสร็จแล้วเหรอคะ เร็วขนาดนี้เชียว”
เก่อฮว๋ายหัวเราะเสียงเย็น เร็วงั้นเหรอ เร็วที่ไหนกัน คุณคุยกับเฉินชางจนลืมเวลาน่ะสิ!
เก่อฮว๋ายพยักหน้า “ครับ เสร็จแล้ว ทางห้องผ่าตัดเพิ่งส่งข้อความมาบอกผม”
เมิ่งซีมองเฉินชางแล้วพูดว่า “ไปกันเถอะเสี่ยวเฉิน วันนี้มีผ่าตัดเยื่อหุ้มหัวใจอักเสบแบบบีบรัดพอดี”
เก่อฮว๋ายถือประวัติผู้ป่วยกำลังจะเดินตามไป แต่จู่ๆ เมิ่งซีก็ยิ้มออกมา “งั้น หมอเก่อ วันนี้คุณเลิกงานไปพักผ่อนให้เร็วหน่อยเถอะค่ะ ช่วงนี้คุณลำบากมากแล้ว เรื่องผ่าตัดก็ให้ฉันกับเฉินชางทำกันก็พอ!”
เก่อฮว๋ายได้ยินก็ตะลึงพรึงเพริดไปทันที!
หัวหน้าเมิ่งกำลังแสดงความใส่ใจต่อเขาเหรอ
รู้ว่าเขาลำบากด้วยหรือ
เมื่อคิดถึงตรงนี้ เขาก็มองเมิ่งซีด้วยความซาบซึ้งใจ แววตาอ่อนโยน กล่าวด้วยน้ำเสียงสนิทสนม “หัวหน้าเมิ่ง ไม่เป็นไรครับ ผมไม่เหนื่อย!”
เมิ่งซีได้ยินดังนั้นก็ขมวดคิ้วโดยพลัน!
ทำไมเจ้านี่ไม่ให้ความร่วมมือเลย
อีกอย่าง…วันนี้เธอจะให้เฉินชางสอนผ่าตัด ไม่ใช่เธอสอนเฉินชาง ดังนั้นจึงไม่อยากให้พวกชอบวุ่นวายเห็น
คิดถึงตรงนี้เมิ่งซีก็ทอดถอนใจออกมา “อ้อ! ถ้างั้นคุณก็จัดระเบียบประวัติผู้ป่วยที่จะออกจากโรงพยาบาลวันนี้ไปนะคะ จริงสิ พรุ่งนี้มีผู้ป่วยที่จะออกจากโรงพยาบาลอีกสองคน คุณก็ไปดูเรื่องค่าใช้จ่ายและพวกยาให้หน่อยนะคะ ไม่ต้องผ่าตัดแล้ว อีกเดี๋ยวผ่าตัดเสร็จฉันจะมาเซ็นชื่อให้คุณเอง!”
จากนั้นเมิ่งซีก็หันมามองเฉินชาง พูดด้วยรอยยิ้มว่า “ไปกันเถอะค่ะ เสี่ยวเฉิน!”
เฉินชางไม่เข้าใจว่าทำไมเมิ่งซีไม่พาเก่อฮว๋ายไปด้วย แต่ว่า…เห็นอาจารย์เมิ่งอารมณ์ดีเช่นนั้นแล้วก็ทำได้เพียงมองเก่อฮว๋ายด้วยความเป็นห่วงเล็กน้อย จากนั้นก็เดินตามอาจารย์ตัวเองไป
ทางด้านเก่อฮว๋าย เมื่อเห็นเฉินชางส่งสายตาเป็นห่วงเป็นใยมาให้ก็โมโหขึ้นมาทันที!
ทว่าดูจากฝีเท้าของเมิ่งซีในวันนี้แล้ว…ดูเหมือนจะเบาสบาย ท่าทางอารมณ์ดีไม่น้อย
เก่อฮว๋ายทอดถอนใจออกมา!
……
……
ภายในห้องผ่าตัด เมิ่งซีมองเฉินชางด้วยท่าทางกระอักกระอ่วน ตอนแรกคิดจะแสดงฝีมือ ผลกลับกลายเป็นว่าวันนี้มีผ่าตัดเยื่อหุ้มหัวใจอักเสบแบบบีบรัดไปได้
ไม่มีที่ให้แสดงฝีมือแล้ว!
เพราะการผ่าตัดนี้เฉินชางทำได้ดีกว่าเธออีก
ใครจะแสดงฝีมือก็ยังไม่แน่!
แต่จะให้เธอเอ่ยปากพูดออกมาเองก็รู้สึกไม่ดีเท่าไร มีอาจารย์ที่ไหนบ้างขอความรู้จากลูกศิษย์ พูดออกไปคงอายคนแย่!
แต่เมิ่งซีคิดว่าตนควรขอความรู้โดยไม่อาย ถือเป็นการแลกเปลี่ยนซึ่งกันและกัน ไม่อาจละเลยความกระหายการเรียนรู้ของตนเพียงเพราะเรื่องนี้!
คิดถึงตรงนี้ เมิ่งซีก็สูดหายใจลึก สงบอารมณ์อันซับซ้อนของตน มองเฉินชางแล้วพูดว่า
“เสี่ยวเฉิน ความจริงฝีมือผ่าตัดโรคเยื่อหุ้มหัวใจอักเสบแบบบีบรัดของอาจารย์อยู่ในระดับธรรมดาค่ะ คราวที่แล้วเห็นเธอผ่าตัด เห็นว่ามีพัฒนาการไม่น้อย ช่วยสอนฉันหน่อยได้หรือเปล่าคะ”
เมื่อเธอพูดเช่นนี้ออกมา ไม่ใช่แค่เฉินชางที่ตะลึงพรึงเพริดไปแล้ว กระทั่งวิสัญญีแพทย์ที่อยู่ข้างๆ ก็ยังตกใจจนตัวแข็ง
นี่คือหัวหน้าเมิ่งที่หยิ่งยโสคนนั้นหรือ ถึงกับพูดเองว่าทำไม่เป็น ให้นักเรียนช่วยสอน…
เรื่องแบบนี้ พูดออกไปคงไม่มีใครเชื่อ
หรือ…เขาถูกยาของตัวเองรมจนเพ้อไปแล้ว
วิสัญญีแพทย์มองเข็มฉีดยาในมือ รู้สึกลังเลเล็กน้อย…
เฉินชางได้ยินดังนั้นก็ชะงักไป จากนั้นจึงรีบพูดว่า “เอ่อ อาจารย์เมิ่งเกรงใจไปแล้วครับ จะบอกว่าสอนได้ยังไง อันที่จริงคนที่ทำงานในวงการแพทย์อย่างพวกเราก็ควรแลกเปลี่ยนความรู้ซึ่งกันและกันอยู่แล้ว เป็นการร่วมมือกัน ช่วยกันพัฒนาฝีมือ!”
“อาจารย์เมิ่ง คุณเคยบอกผมเองนะครับ ไม่ว่าเมื่อไหร่จงอย่าอายที่จะถาม แบบนี้นักเรียนจะได้ประโยชน์มาก!”
เมิ่งซีได้ยินดังนั้นก็ตาค้างไปแล้ว!
เธอมองเฉินชาง จู่ๆ ก็รู้สึกว่าเจ้าเด็กนี่ไม่เลวเลย รู้จักพูด รู้ความ!
[ติ๊ง! ช่วยเมิ่งซีพัฒนาฝีมือการผ่าตัดเยื่อหุ้มหัวใจอักเสบแบบบีบรัดจนถึงระดับปรมาจารย์ เมื่อสำเร็จภารกิจจะได้รับรางวัลต่อไปนี้:
1. ค่าความรู้สึกดีของเมิ่งซี +20
2. สุ่มรับทักษะของเมิ่งซี 1 ทักษะ!]
เฉินชางได้รับการแจ้งเตือนจากระบบ ดวงตาพลันสว่างวาบ
ไม่เลวๆ
ไม่นานการผ่าตัดก็เริ่มต้น เฉินชางพูดว่า “อาจารย์เมิ่ง คุณมาทำเถอะครับ”
เมิ่งซีพยักหน้า รับมีดผ่าตัดมาแล้วเริ่มทำงานของตน
ทักษะพื้นฐานของเมิ่งซีดีเยี่ยม แต่มีบางส่วนที่ยังไม่ดีพอ ซึ่งเป็นเพราะยังมีประสบการณ์ไม่มากพอ
ความสามารถของเฉินชางก็ได้มาจากการสั่งสมประสบการณ์จากการผ่าตัดหลายพันเคสในมิติฝึกฝน
“อาจารย์เมิ่ง นี่…”
“อาจารย์เมิ่ง คุณดูตรงนี้…”
“อาจารย์เมิ่ง คุณ…เฮ้อ…”
……
“อาจารย์เมิ่ง ทำไมคุณโง่แบบนี้…”
เฉินชางเห็นเมิ่งซีเหงื่อท่วมตัวก็คิดว่า คนคนนี้ ทำไมในสมองไม่มีอะไรอยู่เลยล่ะ
ต้องพูดตั้งหลายรอบ!
ส่วนเมิ่งซีก็มีท่าทางถ่อมเนื้อถ่อมตัว แต่…วิสัญญีแพทย์ที่อยู่ข้างหลังเหงื่อแตกพลั่กแล้ว!