เปิดระบบสุดโกงอัปสกิลหมอ – บทที่ 451 ภารกิจสำเร็จแล้วหรือ

เปิดระบบสุดโกงอัปสกิลหมอ

บทที่ 451 ภารกิจสำเร็จแล้วหรือ

โจวหงกวงไม่พอใจมาก! ถึงเขาจะประทับใจเฉินชาง แต่วิธีการเช่นนี้ ทำให้เขารู้สึกไม่สบายใจ

เฉินชางไม่ได้ขึ้นปราศรัยแม้แต่ประโยคเดียว แต่กลับได้คะแนนเต็มอย่างอธิบายไม่ได้ หากคิดจะประคับประคองใครสักคนต้องทำกันแบบนี้หรือ นี่เรียกว่าใช้ตำแหน่งหน้าที่ในทางที่ผิด

คิดแล้วโจวหงกวงก็มองเฉียนเลี่ยงด้วยสีหน้ามืดครึ้ม กล่าวด้วยน้ำเสียงเคร่งขรึมว่า “นี่มันเรื่องอะไรกันครับ”

เฉียนเลี่ยงชะงักไป ดูท่าทางโจวหงกวงคงไม่ทราบสถานการณ์ จึงได้มีปฏิกิริยาเช่นนี้!

เฉียนเลี่ยงรีบส่งมือถือไปให้เขา “หัวหน้าโจว ดูนี่ก่อนครับ นี่เป็นเหตุการณ์ที่เพิ่งเกิดขึ้นวันนี้ครับ”

โจวหงกวงมองดูโทรศัพท์มือถือด้วยความสงสัย แต่เมื่อเห็นเนื้อหาด้านในก็รีบรับมาอ่าน

อ่านแล้วโจวหงกวงก็ชะงักไปโดยพลัน!

ใช้เวลาไม่ถึงสองนาทีโจวหงกวงก็อ่านจบ ทว่าเขากลับเงียบไปถึงสองนาที

เขาไม่แปลกใจแล้วที่เฉินชางไม่มาร่วมงานและไม่ยอมรับโทรศัพท์ อยู่หน้าเตียงผ่าตัดและผู้บาดเจ็บเช่นนั้นก็เหมือนอยู่ในสงครามแห่งความเป็นความตาย จะให้เขามีเวลารับโทรศัพท์หรือ คิดจะเอาชีวิตผู้บาดเจ็บหรือไง

คิดแล้วโจวหงกวงก็สูดหายใจลึก

สังคมปัจจุบันของพวกเราต้องการหมอดีๆ เช่นนี้ เอาชื่อเสียงผลประโยชน์ส่วนตนไว้ด้านหลัง เอาชีวิตผู้ป่วยไว้เบื้องหน้า นี่จึงจะเป็นลักษณะและความรับผิดชอบที่คนเป็นหมอสมควรมี

มิน่าล่ะถึงได้คะแนนเต็ม!

เมื่อเห็นทุกคนในงานพากันลงคะแนนให้เฉินชาง โจวหงกวงก็อดสูดหายใจไม่ได้

ดูท่าทางทุกคนคงยอมรับเฉินชางแล้วสินะ!

คณะกรรมการมีไม่น้อย หากมีเพิ่มขึ้นอีกหนึ่งคนจะเป็นอะไรไป!

คิดแล้วโจวหงกวงก็ส่งมือถือคืนให้เฉียนเลี่ยงแล้วพูดว่า “หัวหน้าเฉียน ผมมีข้อเสนอ!”

เฉียนเลี่ยงชะงักไป “หัวหน้าโจวพูดมาเลยครับ”

โจวหงกวงกดเสียงต่ำ กระซิบกับเฉียนเลี่ยงว่า “เพิ่มตำแหน่งคณะกรรมการอีกหนึ่งตำแหน่งเถอะครับ ให้กรรมการบริหารโหวตกันที่งานเลย ยังไงซะตำแหน่งคณะกรรมการก็เป็นแค่ตำแหน่งลอยๆ ไม่ควรให้เรื่องนี้มีผลกระทบกับความกระตือรือร้นของทุกคนนะครับ”

ดวงตาเฉียนเลี่ยงเปล่งประกาย มองโจวหงกวงแล้วพูดว่า “หัวหน้าโจวคิดเหมือนผมเลยครับ!”

โจวหงกวงอดยิ้มไม่ได้

เฉียนเลี่ยงพยักหน้า

……

……

ในตอนที่ฉินเยว่เห็นเฉินชางได้คะแนนเต็ม ในใจพลันบังเกิดความรู้สึกเต็มตื้นและภาคภูมิใจ

เธอภูมิใจ!

เธอเลื่อมใสในตัวเฉินชางอย่างถึงที่สุด

เมื่อจางโหย่วฝูเห็นผลคะแนนก็เตรียมให้ฉินเยว่ผู้เป็นพิธีกรประกาศผล แต่ทันใดนั้นเอง จู่ๆ เฉียนเลี่ยงก็สะกิดแขนจางโหย่วฝู ส่งสัญญาณว่ามีเรื่องจะพูดด้วย

จางโหย่วฝูชะงักไปเล็กน้อย จากนั้นจึงพยักหน้ารับ

เฉียนเลี่ยงยืดตัวขึ้นเดินไปด้านหน้าเวที ยกไมโครโฟนขึ้นพูดว่า “ผมเชื่อว่าการที่เฉินชางได้คะแนนเต็มเป็นเพราะทุกคนเห็นข่าวแล้วสินะครับ! นี่คือความภาคภูมิใจของบุคลากรทางการแพทย์อย่างพวกเรา! เป็นแบบอย่างของผู้ทำงานด้านการแพทย์ คนแบบนี้ควรได้รับความชื่นชมแล้ว!”

“แต่พวกเราทุกคนที่อยู่ ณ ที่นี้ล้วนโดดเด่นยอดเยี่ยม การงานของพวกคุณ ผลงานของพวกคุณ ล้วนควรค่าต่อการตระหนักถึงเช่นกัน”

“ดังนั้นผมและหัวหน้าโจวซึ่งเป็นรองประธานสมาคมศัลยกรรมตับและถุงน้ำดีแห่งประเทศจีนจึงตัดสินใจร่วมกันแล้วว่าจะเพิ่มตำแหน่งคณะกรรมการขึ้นอีกตำแหน่งหนึ่ง”

“เฉินชางเป็นสมาชิกของสมาคมศัลยกรรมตับและถุงน้ำดีประจำมณฑลตงหยางของพวกเรา พวกเราจะมอบตำแหน่งคณะกรรมการให้เขาเพื่อแสดงถึงการยกย่อง! นอกจากเฉินชางแล้วจะยังมีตำแหน่งคณะกรรมการอีกห้าตำแหน่ง โดยอิงจากผลการคัดเลือกตามลำดับครับ”

“ลำดับต่อไป ขอเชิญกรรมการบริหารร่วมกันยกมือโหวตว่าจะเพิ่มตำแหน่งคณะกรรมการอีกหนึ่งตำแหน่งหรือไม่!”

กล่าวจบเฉียนเลี่ยงและจางโหย่วฝูก็รอให้รองประธานทั้งหลายคนยกมือโหวต กรรมการบริหารที่อยู่ด้านหน้าทุกคนพากันยกมือแสดงถึงความเห็นด้วย

เมื่อเป็นเช่นนี้ย่อมยินดีกันทุกฝ่าย

ผู้ที่ได้ลำดับหกในการลงคะแนนก็คือแพทย์เจ้าของไข้อายุสามสิบห้าปีคนหนึ่งของโรงพยาบาลในเครือแห่งที่สองของมหาวิทยาลัยแพทย์ตงหยาง เดิมทีเขาคิดว่าตัวเองหมดหวังไปแล้ว นอกจากรู้สึกเสียดายแล้วก็ยังหดหู่เล็กน้อย

เขาไม่ได้คิดจะบ่นว่าอะไร เขาเองก็คิดว่าการกระทำทั้งหมดของเฉินชางสมควรได้รับการยกย่องอย่างแท้จริง เขาเองก็เห็นด้วยกับวิธีของเฉินชาง เพราะหากเป็นเขาก็จะทำเช่นเดียวกัน!

แต่ถึงแม้จะเป็นเช่นนี้ แต่เขาก็ยังคงผิดหวัง เพราะอย่างไรตำแหน่งคณะกรรมการสมาคมก็หมายถึงการได้รับการยอมรับในวงการ ดังนั้นเมื่อได้ยินคำพูดประโยคนี้ของหัวหน้าเฉียนและจางโหย่วฝู เขาก็ดีอกดีใจขึ้นมาทันที

คิดไม่ถึงว่าตัวเองจะยังมีโอกาส!

ชั่วขณะนั้นเขารู้สึกตกตะลึงไปทันใด!

เมื่อพิธีกรประกาศชื่อคณะกรรมการคนใหม่ เขาก็รีบลุกขึ้นยืนแล้วหันไปจับมือกับประธานแต่ละฝ่ายด้วยความดีใจ!

แต่ตอนนี้เอง เฉียนเลี่ยงก็พูดขึ้นว่า “ยินดีกับทุกท่านด้วยนะครับที่ได้เป็นกรรมการสมาคมศัลยกรรมตับและถุงน้ำดีประจำมณฑลตงหยางของพวกเรา ขอให้ทุกท่านพยายามเพื่อแผนกศัลยกรรมตับและถุงน้ำดีของมณฑลตงหยางนะครับ!”

“บางที ในที่นี้อาจไม่ค่อยมีคนรู้จักเฉินชางเท่าไหร่นัก ความจริงผู้เสนอชื่อเฉินชางในตำแหน่งคณะกรรมการก็คือผมกับหัวหน้าจางโหย่วฝูเองครับ เฉินชางเป็นหมอศัลยกรรมตับและถุงน้ำดีที่มีฝีมือยอดเยี่ยมคนหนึ่ง ถึงจะอายุไม่มาก แต่ก็ทำผลงานในตำแหน่งหน้าที่อย่างพวกเราได้อย่างยอดเยี่ยมเลยครับ

แน่นอน การที่ผมเสนอชื่อเฉินชางไม่ใช่เพียงเพราะผมมองว่าเขาดี แต่เป็นเพราะเขาได้สร้างคุณูปการอันยิ่งใหญ่แก่วงการศัลยกรรมตับและถุงน้ำดีด้วยครับ ส่วนรายละเอียดจะเป็นอะไรนั้น…ผมขออุบไว้ก่อน พรุ่งนี้ผมจะเชิญเฉินชางมาร่วมงาน ตอนนั้นทุกคนจะได้ทราบกันแน่นอน!”

ต่อจากนั้นจางโหย่วฝูก็กล่าวปิดงาน งานสัมมนาของวันนี้จบลงแล้ว พรุ่งนี้เป็นเวลาของการแลกเปลี่ยนความรู้ ซึ่งจะเชิญผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางมาบรรยายเทคนิคการผ่าตัดเป็นพิเศษ

พูดง่ายๆ ก็คือ เป็นเวลาของคนใหญ่คนโต

เมื่องานสัมมนาจบลงแล้ว เฉียนเลี่ยงและจางโหย่วฝูก็เดินเข้ามาหาโจวหงกวง “หัวหน้าโจว วันนี้คุณไปรถรอบกี่โมงครับ ผมจะให้คนไปส่งคนที่ป้ายรถ”

โจวหงกวงลังเลอยู่ครู่หนึ่ง “พรุ่งนี้บ่ายๆ ค่อยกลับแล้วกันครับ ถึงยังไงผมก็ตั้งใจพานักเรียนมาดูแนวคิดของเฉินชาง แล้วก็…ถึงวันนี้จะไม่สำเร็จผล แต่ก็ถือว่าได้ให้บทเรียนกับพวกนักเรียนแล้ว สำหรับคนเป็นหมอ คุณธรรมสำคัญกว่าฝีมือ พรุ่งนี้ค่อยกลับแล้วกันครับ!”

เฉียนเลี่ยงได้ยินดังนั้นก็ดีใจขึ้นมาทันที “ได้ครับ!”

โจวหงกวงพูดจบก็พูดกับทั้งสองต่อไปว่า “จริงสิ คืนนี้ก็ไปโรงพยาบาลอันดับสองสักหน่อยเถอะ ผมรู้สึกสนใจการผ่าตัดเคสนั้นน่ะครับ”

เฉียนเลี่ยงและจางโหย่วฝูได้ยินดังนั้นก็พยักหน้า เริ่มติดต่อไปหาโรงพยาบาลอันดับสองทันที

……

……

ฉินเยว่รีบเปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วตรงไปยังโรงพยาบาลอันดับสองโดยไม่สนใจแม้แต่จะกินข้าว เธออยากเอาเรื่องที่เฉินชางได้เป็นคณะกรรมการไปบอกเขาเต็มทีแล้ว!

หวังว่าคนอื่นจะไม่บอกเขาก่อน!

น่าเสียดาย ตอนนี้เฉินชางเหนื่อยมาทั้งวันแล้ว เขาคิดว่าจะไปกินขนมปังและดื่มน้ำในห้องทำงานเพื่อให้พออุ่นท้องได้บ้าง แต่เมื่อเขาเพิ่งผ่าตัดเสร็จก็มีนักข่าวเข้ามาขอสัมภาษณ์

ถึงอย่างไรนี่ก็เป็นครั้งแรกที่เขาจะได้ออกทีวี คงกินขนมปังดื่มและน้ำไปด้วยไม่ได้หรอก

เฉินชางก็มีความคิดอย่างไอดอลอยู่เหมือนกัน

ออกทีวีครั้งแรก หากไม่พูดอะไรดีๆ ก็ต้องเก๊กหน้าให้หล่อๆ

ไม่รู้ว่ากล้องของสถานีโทรทัศน์มีฟิลเตอร์หรือเปล่า

เมื่อสัมภาษณ์จบ เด็กชายก็ซื้อขนมปังและน้ำมาให้ ทำให้เฉินชางมีของกินมาฟื้นฟูเรี่ยวแรงบ้างแล้ว

ส่วนหลี่เป่าซาน หลี่เจี้ยนเหว่ยและเถามี่ก็พาคุณว่าที่พ่อตาไปกินข้าวกับนักข่าวแล้ว

เมื่อคิดว่าพรุ่งนี้โรงพยาบาลอันดับสองจะต้องถูกรายงานไปในเชิงบวกแน่นอน สายตาที่ฉินเสี้ยวหยวนใช้มองเฉินชางก็ดูอ่อนโยนขึ้นมาก

ไอ้หนูนี่ เป็นลูกเขยที่ดีจริงๆ!

วันหลังคงต้องพาเสี่ยวเฉินไปหาปรมาจารย์จางที่เจว๋ซานสักครั้งแล้ว ดูว่าเขาจะว่าอย่างไร

เฉินชางเป็นคนสำคัญของวันนี้ เดิมทีฉินเสี้ยวหยวนจะเรียกเฉินชางไปด้วยกัน แต่…ฉินเยว่บอกให้เฉินชางอยู่ที่โรงพยาบาล ห้ามไปไหนมั่วซั่ว เขาจึงทำได้เพียงปล่อยวาง

ภายภาคหน้าหากเฉินชางหมดความกระตือรือร้นในอาชีพก็ยังมีเศรษฐินีน้อยฉินเลี้ยงดูจนแก่เฒ่า ส่วนตัวเขาก็รับผิดชอบทำหน้าหล่อไปวันๆ ก็พอ!

ยิ่งไปกว่านั้น…แม้เฉินชางจะอยากไปไหนก็ไม่มีเสื้อผ้าใส่อยู่ดี เสื้อเชิ้ตขาวเปื้อนเลือดไปนานแล้ว หากออกไปข้างนอกแล้วคนอื่นเห็นเข้า จะแจ้งตำรวจหรือเปล่าก็ยังพูดยาก

จะใส่เสื้อกาวน์ออกไปก็ไม่ได้!

เดิมทีเขามีชุดสำรองอยู่ที่โรงพยาบาลชุดหนึ่ง แต่…ตอนผ่าตัดเขาให้จูหย่งวั่งไปแล้ว

แล้วอีกฝ่ายก็สวมเสื้อผ้าของเขากลับไป…

เฉินชางอดถอนใจไม่ได้

ต่อไปจะต้องเตรียมชุดสำรองไว้ที่โรงพยาบาลให้มากหน่อย! อีกอย่างสูทที่ใส่ไปวันนี้ก็คงเอาไปใส่ไม่ได้แล้ว คงต้องซื้อใหม่

ถึงอย่างไรสูทตัวนั้นก็เล็กไปหน่อย ถือว่าเป็นการเปลี่ยนเสื้อผ้าชุดใหม่ให้ตัวเองไปเลยแล้วกัน

……

ในตอนนี้เองจู่ๆ ระบบก็แจ้งเตือนขึ้น!

[ติ๊ง! ยินดีด้วย คุณได้เป็นคณะกรรมการสมาคมศัลยกรรมตับและถุงน้ำดีประจำมณฑลตงหยาง!]

เฉินชางชะงักไปถึงหนึ่งนาทีเต็ม!

ชีวิตคนเราช่างน่าทึ่งจริงๆ นี่มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่

ทำไมอยู่ดีๆ เขาก็กลายเป็นคณะกรรมการสมาคมศัลยกรรมตับและถุงน้ำดีไปได้ล่ะ

เปิดระบบสุดโกงอัปสกิลหมอ

เปิดระบบสุดโกงอัปสกิลหมอ

Status: Ongoing

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท