Martial god space ตอนที่ 337 ลอบโจมตี
แน่นอนว่า ร่างกายของสัตว์อสูรเหล่านี้แข็งแกร่งมาก แต่ร่างกายของ เย่ ซีหวิน ก็แข็งแกร่งเช่นกัน สัตว์อสูรลมปราณระดับตำนานทั่วไปไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเขา
” บูมมม! ” ด้านหน้าของ เย่ ซีหวิน มีสัตว์อสูร ระดับ 3 ลมปราณระดับตำนานบินอยู่เหนือท้องฟ้า มันอ้าปากขนาดใหญ่ และพ่นไฟออกมาราวกับเสาเพลิงขนาดใหญ่ ใบหน้า เย่ ซีหวิน สัมผัสถึงรังสีความร้อนที่แผ่ออกมาจากเปลวไฟ
เย่ ซีหวิน รีบยิงปราณฝ่ามือออกไปทันที มันก่อตัวกลายเป็นฝ่ามือขนาดใหญ่ต้านเปลวเพลิงของสัตว์อสูรเอาไว้ เปลวเพลิงของมันไม่สามารถทำลายปราณฝ่ามือของเขาได้ มันพุ่งตรงเข้าไปหาสัตว์อสูรโดยที่ความเร็วไม่ได้ลดลง และกระแทกลงบนร่างของสัตว์อสูร
” ปังงงง! ” แรงกระแทกส่งร่างของสัตว์อสูรหมุนเคว้งไปในอากาศ ก่อนร่างของมันจะร่วงลงไปกลางกลุ่มของสัตว์อสูร แรงกระแทกที่รุนแรงทำให้พื้นดินกลายเป็นหลุมขนาดใหญ่ สัตว์อสูรตัวอื่นๆ ที่อยู่ใกล้กับจุดตก พวกมันได้รับบาดเจ็บสาหัส และล้มตายไปหลายตัว
เย่ ซีหวิน ตอนนี้เขาไม่ต่างจากเครื่องจักรสังหาร ดูเหมือนเขาจะสนุกที่ได้บดขยี้สัตว์อสูรเหล่านี้ พวกมันพากันล้มตายลงเป็นจำนวนมาก ไม่ว่าเขาจะก้าวไปทางไหนก็ไม่มีอะไรสามารถหยุดยั้งของเขาได้
เย่ ซีหวิน สังหารสัตว์อสูรอย่างต่อเนื่อง พลังของเขาค่อยๆ เพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ ในขณะเดียวกันจักรวาลในจุดตันเถียนของเขา ก็ขยายตัวอย่างต่อเนื่องเช่นเดียวกัน นอกจากนี้ กลิ่นอายของเขาก็แข็งแกร่งมากขึ้นกว่าเดิม
จอมยุทธกว่าหนึ่งพันคน เห็นการต่อสู้ของ เย่ ซีหวิน พวกเขาต่างยอมรับว่าเขาแข็งแกร่งจริงๆ
” นั่นเขาไปเอาความกล้ามาจากไหน! ถึงคิดว่าจะสามารถจัดการกับกองทัพสัตว์อสูรทั้งหมดได้ด้วยตัวคนเดียว? “
หลายคนไม่อยากเชื่อสายตาตัวเอง เย่ ซีหวิน สามารถบุกฝ่ากองทัพของสัตว์อสูร และสังหารพวกมันได้อย่างง่ายดาย พวกเขาไม่รู้ว่าเขาทำมันได้อย่างไร
แรงกดดันอันน่าสะพรึงกลัวกระจายออกไปทั่วสนามรบ มันเป็นของสัตว์อสูร ระดับ 8 ลมปราณระดับตำนาน เพียงจิตสังหารของมันก็ทำให้ผู้คนรู้สึกหนาวสะท้านไปถึงกระดูกสันหลัง
ทันใดนั้น! ดวงตาของ เย่ ซีหวิน ก็เปล่งประกาย สัตว์อสูรเหล่านี้มีพลังของดวงดาว ยิ่งพวกมันแข็งแกร่งมากเท่าไหร่ พลังของดวงดาวในร่างของมันก็ยิ่งมากเท่านั้น และไม่ต้องคำนวนให้เสียเวลา หากเขาสามารถสังหารสัตว์อสูร ระดับ 8 ลมปราณระดับตำนานได้ เย่ ซีหวิน จะพัฒนาอย่างก้าวกระโดดในเวลาอันสั้น เขาจะสามารถปรับแต่งจักรวาลในจุดตันเถียน และสร้างดาวเคราะห์ดวงใหม่ หรือ ดาวศุกร์
เย่ ซีหวิน กำลังสร้างระบบสุริยะของตนเองขึ้นมาภายในจักรวาลขนาดเล็กของเขา เย่ ซีหวิน คุ้นเคยกับระบบสุริยจักรวาลจากโลกเดิมมากที่สุด ตอนนี้ทั้งระบบสุริยะของเขามีดวงอาทิตย์ และดาวพุธแล้ว และดาวเคราะห์ดวงต่อไปก็คือ ดาวศุกร์
หลังจากการสร้างดาวศุกร์ สิ่งต่อไปคือ โลก และดาวอังคาร ทั้งหมดคือ ระบบสุริยะชั้นใน หลังจากเขาสร้างระบบสุริยะชั้นในสำเร็จแล้ว เย่ ซีหวิน มั่นใจเป็นอย่างมากว่า เขาจะสามารถทะลวงขอบเขตลมปราณระดับตำนานได้ในคราวเดียว เมื่อถึงเวลานั้น พลังจักรวาลทั้งหมดในจุดตันเถียนจะทำให้เขาแข็งแกร่งในระดับที่เหลือเชื่อ
ด้านหน้าของเขา มีสัตว์อสูรขนาดมหึมาปรากฏขึ้น ลำตัวของมันสูงจากพื้นดินราวหกฟุต มันเหมือนกับเนินเขาลูกเล็กๆ ลูกหนึ่ง ยามที่มันวิ่งทำให้พื้นดินสั่นสะเทือน
ร่างกายของมันปกคลุมไปด้วยเกล็ดหนา และมีปีกบางใสคู่หนึ่งอยู่ด้านหลังของมัน
จอมยุทธมากมายที่ยืนอยู่บนกำแพงเมือง ต่างพากันตกตะลึงเมื่อเห็นสัตว์อสูรตัวนี้ ใบหน้าของเขาเปลี่ยนเป็นขาวซีดทันที หลังจากสัมผัสได้ถึงพลังอันน่าสะพรึงกลัวของมัน
ใครจะเป็นคนหยุดสัตว์อสูรตัวนี้? หากจะกล่าวให้ถูกต้องคือ ไม่มีใครในที่นี่สามารถหยุดสัตว์อสูรตัวนี้ได้
การปรากฏตัวขึ้นของ สัตว์อสูร ระดับ 8 ลมปราณระดับตำนาน ท่ามกลางกองทัพของสัตว์อสูรเหล่านี้ เรียกได้ว่าเป็น หายนะ สำหรับศิษย์ใหม่อย่างแท้จริง
เย่ ซีหวิน ยังคงท่าทีที่สงบนิ่ง ถึงแม้เขาจะเป็นเพียงจอมยุทธขอบเขตลมปราณครึ่งก้าวตำนานขั้นกลาง และสามารถต่อกรกับจอมยุทธระดับ 8 ลมปราณครึ่งก้าวตำนานทั่วไปได้อย่างสูสี
แต่เห็นได้ชัดว่าสัตว์อสูรตัวนี้แตกต่างจากตัวอื่นๆ มันเป็นสัตว์อสูรที่แข็งแกร่งที่สุดในบรรดาสัตว์อสูรลมปราณระดับตำนานทั้งหมด
เจตจำนงแห่งดาบก่อตัวขึ้นกลายเป็นดาบในมือของ เย่ ซีหวิน แรงกดดันอันน่าสะพรึงของปราณดาบอันทรงพลังกระจายออกไปทั่วทุกทิศทาง
สายตาของมันจ้องมอง เย่ ซีหวิน ราวกับว่ามันได้พบเหยื่ออันโอชะ เพียงชั่วพริบตา มันก็ปรากฏตัวขึ้นที่ด้านหน้าของ เย่ ซีหวิน
” แคร๊งงง! ” เจตจำนงแห่งดาบของ เย่ ซีหวิน ฟันลงไปบนเกล็ดของสัตว์อสูร แต่ก็สร้างได้แค่รอยขีดข่วนเท่านั้น เกล็ดของมันหนาและแข็งแกร่งมาก เกิดประกายไฟ และเสียงเหมือนโลหะสองชนิดปะทะกัน ดังอย่างต่อเนื่องบนท้องฟ้า
” บรึ้มมม! “
การต่อสู้อันดุเดือดระหว่างพวกเขาทั้งสอง ทำให้เกิดคลื่นแรงกระแทกอันรุนแรงกระจายออกไปทุกทิศทาง ส่งผลให้พื้นที่บริเวณโดยรอบพังทลายเกิดเป็นหลุมขนาดใหญ่หลายแห่ง
แรงกระแทกผลักร่างของ เย่ ซีหวิน ให้ถอยหลังไปสองถึงสามก้าว ในระหว่างการปะทะกันที่น่ากลัว ใบหน้าของเขาก็เปลี่ยนสีเล็กน้อย สัตว์อสูรตนนี้แข็งแกร่งมาก ถึงแม้เขาจะมีเคล็ดวิชากายาแห่งราชันย์สีทองก็ตาม ขอบเขตลมปราณของเขาด้อยกว่ามันแค่หนึ่งระดับ แต่ก็เพียงพอที่เขาจะรับมือกับสัตว์อสูรที่ทรงพลังในระดับนี้ได้
แม้แต่จอมยุทธ ระดับ 8 ลมปราณระดับตำนานเอง ก็ยากที่จะหลีกเลี่ยงการบาดเจ็บในระหว่างการต่อสู้ครั้งนี้
คลื่นแรงกระแทกน่าสะพรึงกลัวของสัตว์อสูรตนนี้ถูกถ่ายโอนไปยังจักรวาลภายในร่างของ เย่ ซีหวิน มันสูญหายไปโดยไร้ร่องรอย เหมือนกับหยดน้ำฝนที่ซึมลงไปบนพื้นทราย พลังมหาศาลเหล่านั้นก็ไม่ส่งผลกระทบต่อจักรวาลในจุดตันเถียนของเขา
” ก๊าซซซซ์! ” สัตว์อสูร คำรามเสียงดังด้วยความดุร้าย ออร่าอันน่าสะพรึงกลัวปะทุออกมาจากร่างของมันอีกครั้ง กรงเล็บทั้งสองข้างที่มันกวัดแกว่ง ก่อให้เกิดสายลมอันแหลมคมพุ่งตรงไปที่ร่างของ เย่ ซีหวิน สัตว์อสูรตนนี้พลังของมันแข็งแกร่งยิ่งกว่าสัตว์อสูรทั้งหมดรวมกัน
ดวงตาของ เย่ ซีหวิน เปล่งประกายเป็นรัศมี เขายกดาบชี้ตรงไปข้างหน้า และพุ่งตรงเข้าไปโจมตีราวกับลำแสงสีทอง
” ปังงงงง! “
การปะทะกันระหว่างทั้งสองฝ่ายครั้งนี้รุนแรงยิ่งกว่าครั้งที่ผ่านมา คลื่นแรงกระแทกอันน่าสะพรึงกลัว ทำให้พื้นที่บริเวณโดยรอบเกิดเป็นหลุมลึกขนาดใหญ่ ก้อนหินขนาดใหญ่ และต้นไม้แตกสลายกลายเป็นฝุ่นผงในทันที เจตจำนงแห่งดาบของ เย่ ซีหวิน ครั้งนี้สามารถสร้างบาดแผลที่น่ากลัวบนหน้าอกของสัตว์อสูร
สัตว์อสูร กรีดร้องด้วยความเจ็บปวด บาดแผลของมันมีเลือดสาดกระจายออกมาราวกับน้ำพุ
การโจมตีครั้งนี้ เย่ ซีหวิน เองก็บาดเจ็บไม่น้อยเช่นกัน กรงเล็บของสัตว์อสูรตนนี้เกือบจะฉีกร่างของเขาให้ขาดออกเป็นสองส่วน
ร่างของ เย่ ซีหวิน สั่นสะท้านเพราะความเจ็บปวด แม้ว่าเขาจะมีเคล็ดวิชากายาแห่งราชันย์สีทอง แต่ความรุนแรงจากการโจมตีด้วยกรงเล็บของสัตว์อสูรครั้งนี้ ทำให้เขาเจ็บปวดแทบจะทนไม่ไหว หากเป็นจอมยุทธทั่วไปร่างของพวกเขาคงฉีกขาดออกเป็นสองส่วน และเสียชีวิตในทันที
” เขาจะไม่ตายใช่มั้ย? ” ในเวลานี้หลายคนเริ่มกังวลเกี่ยวกับ เย่ ซีหวิน ถึงแม้อีกหลายคนจะไม่รู้จักเขาเลย แต่พวกเขาก็อดเป็นห่วงเขาไม่ได้ เพราะตอนนี้ เย่ ซีหวิน ถือเป็นความหวังสุดท้ายของพวกเขา
นี่ไม่ใช่จุดจบ แต่เป็นเพียงจุดเริ่มต้น
เย่ ซีหวิน ไม่อาจยอมรับความพ่ายแพ้ได้ แม้ใบหน้าของเขาจะบิดเบี้ยวเต็มไปด้วยความเจ็บปวด แต่บาดแผลของเขากำลังได้รับการฟื้นฟูอย่างรวดเร็วด้วย เคล็ดวิชาพลังกำเนิดใหม่ฟีนิกซ์
เย่ ซีหวิน ระเบิดพลังศักดิ์สิทธิ์สีทองออกมาจากภายในร่างของเขาอีกครั้ง เขาผสานพลังทั้งหมดเอาไว้ในเจตจำนงแห่งดาบ พร้อมกับตะโกนเสียงดังออกมาอย่างเกรี้ยวกราด ” ตายซะ! “
เย่ ซีหวิน รวบรวมพลังทั้งหมด และพุ่งตรงไปโจมตีสัตว์อสูรตนนี้อีกครั้ง
” เฟี้ยววว! ” เย่ ซีหวิน กระชับเจตจำนงแห่งดาบในมือ และพุ่งตรงเข้าไปอย่างรวดเร็วยิ่งกว่าสายฟ้า
” เปรี้ยงง! “
” แคร๊งง! “
” ปังงงงง! “
ทั้งสองฝ่ายเข้าปะทะกันมากกว่าร้อยครั้ง ต่างฝ่ายต่างได้รับบาดเจ็บ เลือดไหลออกมาจากปากแผลไม่หยุด ทั่วร่างของสัตว์อสูรเต็มไปด้วยบาดแผลเหวอะหวะ แม้ว่าร่างของ เย่ ซีหวิน จะอาบไปด้วยเลือด แต่ก็ไม่มีร่องรอยของบาดแผล ซึ่งต่างจากสัตว์อสูรที่กำลังหายใจหอบด้วยความอ่อนล้า มันกำลังตกเป็นฝ่ายเสียเปรียบ
สัตว์อสูรตัวนี้ไม่มี เคล็ดวิชาพลังกำเนิดใหม่ฟีนิกซ์ เหมือน เย่ ซีหวิน หลังจากได้รับบาดเจ็บมันไม่สามารถฟื้นตัวในเวลาอันสั้น อย่างไรก็ตาม ด้วยความแข็งแกร่งของ เคล็ดวิชากายาแห่งราชันย์สีทอง ทำให้ เย่ ซีหวิน นั้นน่าเกรงขามเป็นอย่างมาก
บาดแผลเหล่านี้ถึงแม้จะไม่ทำให้มันถึงตาย แต่ถ้าหากมีมากเกินไป ก็เพียงพอที่จะฆ่ามันได้
นี่เป็นครั้งแรกที่ เย่ ซีหวิน ต่อสู้กับสัตว์อสูร ระดับ 8 ลมปราณระดับตำนาน ถ้าไม่ได้รับการช่วยเหลือจาก เคล็ดวิชาพลังกำเนิดใหม่ฟีนิกซ์ เขาคงตายไปแล้วนับครั้งไม่ถ้วน สัตว์อสูรตัวนี้ทำให้เขาบาดเจ็บสาหัสหลายต่อหลายครั้ง หากเป็นจอทยุทธทั่วไปพวกเขาคงไม่มีโอกาสรอดชีวิตมาจนถึงตอนนี้ได้ มีเพียง เย่ ซีหวิน เท่านั้นที่สามารถทำได้
ในที่สุด เย่ ซีหวิน ก็สามารถบังคับให้สัตว์อสูรต้องจนมุม
ทั่วร่างกายของสัตว์อสูรตอนนี้เต็มไปด้วยบาดแผล และหนำซ้ำยังมีเลือดไหลออกมาอย่างต่อเนื่องไม่หยุด ในไม่ช้ามันก็อ่อนแอจนไม่เรี่ยวแรงที่จะต่อสู้ได้อีกต่อไป
” ได้เวลาตายของเจ้าแล้ว! ” เย่ ซีหวิน ตะโกนเสียงดัง พร้อมกับตวัดเจตจำนงแห่งดาบในมือ ปราณดาบสีทองอันน่าเกรงขามก็พุ่งแหวกอากาศออกไปอย่างรวดเร็ว
” บรึ้มม! ” เกิดเสียงระเบิดขึ้น เจตจำนงแห่งดาบตัดผ่านหัวของสัตว์อสูรทันที หัวของมันระเบิดออกพร้อมกับเลือด และเศษชิ้นส่วนสีขาวของสมองมากมายกระจายไปในอากาศ
” ตึ้งงงง! ” จากนั้นร่างขนาดใหญ่ของสัตว์อสูรล้มลงกับพื้นดิน ถึงแม้ศิษย์ใหม่ที่ยืนอยู่บนกำแพงเมืองไม่ไกล พวกเขาก็สัมผัสได้ถึงแรงสั่นสะเทือนที่รุนแรง
ในที่สุด เย่ ซีหวิน ก็ฆ่าสัตว์อสูรตัวนั้นได้ พวกเขาพากันตกตะลึง และไม่อยากเชื่อสายตาของตัวเอง เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในวันนี้มันเป็นเหมือนยิ่งกว่าฝันร้าย หากไม่ใช่เพราะ เย่ ซีหวิน พวกเขาทุกคนคงถูกสังหารหมู่โดยสัตว์อสูรต่างโลก
เย่ ซีหวิน ถอนหายใจด้วยความโล่งอก เขากำลังเดินเข้าไปตรวจสอบซากศพของสัตว์อสูรลมปราณระดับตำนาน แต่ทันใดนั้น สัญชาตญาณการรับรู้ถึงอันตรายของเขาก็ตื่นตัวขึ้นมาโดยฉับพลัน
ลำแสงอันหนาวเย็นพุ่งตัดเข้ามาด้วยความเงียบอย่างรวดเร็ว เพียงชั่วพริบตา มันตรงเข้ามาถึงด้านหน้าของ เย่ ซีหวิน ประกายลำแสงที่ดูสวยงาม แต่กลับแฝงไปด้วยพลังอันน่าสะพรึงกลัว