บทที่ 474 ผมทำเอง!
เมิ่งซีกำลังเปลี่ยนเสื้อผ้าอยู่ในห้องเปลี่ยนชุดของห้องผ่าตัด เธอคาดหวังกับการผ่าตัดต่อไปจริงๆ!
สองวันมานี้เธอฝึกผ่าตัดเยื่อหุ้มหัวใจอย่างหนัก วันหยุดก็ไม่ได้พักผ่อน ในที่สุดก็ก้าวหน้าไปไม่น้อย วันนี้ถึงเวลาทำให้เฉินชางตกตะลึงแล้ว
เธอจะทำให้เขารู้ซึ้งถึงความเก่งกาจของอาจารย์ให้ได้!
อันที่จริงเมิ่งซีที่เพิ่งเคยเป็นอาจารย์ครั้งแรก เธอก็ไม่รู้เช่นกันว่าการเป็นอาจารย์ควรทำอย่างไร
เธอซึมซับแนวคิดต่างๆ จากชาวตะวันตกมาเป็นเวลานาน ไม่ค่อยคุ้นเคยกับความคิดโบราณของชาวจีนที่ว่าเป็นอาจารย์หนึ่งวันก็เปรียบเสมือนเป็นมารดาไปชั่วชีวิต
เธอชอบความสัมพันธ์กึ่งเพื่อนกึ่งอาจารย์กับเฉินชางมากกว่า!
แต่…จะอย่างไรเธอก็เป็นอาจารย์ จะปล่อยให้ตัวเองด้อยกว่าลูกศิษย์ไม่ได้
คิดแล้วเมิ่งซีก็สวมเสื้อผ้าเร็วขึ้นหลายนาที!
น่าเสียดาย วันนี้เสื้อก็ยังเล็กเกินไป มันรัดจนน่าอึดอัด แต่หากเปลี่ยนเป็นไซส์ใหญ่กว่านี้ คอเสื้อก็จะกว้างจนดูไม่ดี นี่ทำให้เธอนึกถึงตอนล้างมือคราวที่แล้วที่ทำเอาเฉินชางลำบากใจ คิดแล้วก็หัวเราะออกมา สุดท้ายก็ตัดสินใจเปลี่ยนเป็นเสื้อตัวใหญ่ที่ใส่สบายๆ!
อืม สบายขึ้นมากจริงๆ ด้วย!
……
……
ขณะล้างมือ คราวนี้เฉินชางไม่หวั่นไหวแม้แต่น้อย ดวงตาจับจ้องอยู่ที่มือทั้งสองของตนเองโดยไม่มีเสียสมาธิ นี่ทำให้เมิ่งซีหัวเราะออกมา
เฉินชางได้ยินเสียงหัวเราะของเมิ่งซีย่อมรู้สึกขุ่นเคืองใจ
อีกเดี๋ยวพอถึงเวลาผ่าตัดจะตำหนิให้เข็ดไปเลย! เป็นอาจารย์ที่ไม่ดีจริงๆ!
คิดแล้วเฉินชางก็ขบฟันแน่น ตัดสินใจว่าจะต้องทำให้ได้!
การผ่าตัดเริ่มต้นขึ้นแล้ว คราวนี้มุมการกรีดเยื่อหุ้มหัวใจของเมิ่งซีทำให้เฉินชางตกตะลึงจริงๆ!
ไม่เลวเลย เป็นมุมที่ยอดเยี่ยมมาก!
หากกรีดจากตรงนี้ก็จะไปถึงส่วนที่ต้องผ่าตัดได้พอดี ไม่เลวๆ
เฉินชางกล่าวชมเชยไปว่า “กรีดได้ดีไปเลยครับ!”
เมิ่งซีหัวเราะอย่างไร้เสียง ทำเป็นสุขุมเยือกเย็น
เฉินชางแค่นเสียงเย็นออกมาครั้งหนึ่ง
ยังจะวางมาดอีกหรือ
ผมมองเห็นความคิดคุณหมดแล้ว!
[ติ๊ง! ค่าความรู้สึกดีของเมิ่งซี + 1!]
แค่นี้ก็ดีใจแล้วหรือ แล้วยังมาทำเป็นไม่รู้สึกรู้สาอะไรอีก…
เด็กน้อยจริงๆ!
เฉินชางลอบยินดีอยู่ในใจ ดูเหมือนเขาจะค้นพบหนทางสู่ความมั่งคั่งเสียแล้ว สำหรับอาจารย์เมิ่งต้องใช้วิธีปราบให้เดี้ยงแล้วเลี้ยงให้เชื่อง! ต้องกดดันก่อนแล้วค่อยชมเชย เช่นนี้ก็จะได้รางวัลมากขึ้นแล้ว
การผ่าตัดต่อไปของเมิ่งซีทำให้เฉินชางอึ้งจริงๆ
ดูเหมือนวันนี้เมิ่งซีจะแตกต่างจากก่อนหน้านี้อย่างสิ้นเชิง ฝีมือเธอก้าวหน้าไปมาก ที่สำคัญก็คือเก็บรายละเอียดได้ดี ราวกับว่าในเวลาเพียงชั่วพริบตาเดียว เธอก็เดินก้าวออกมาจากเงาในอดีตของตัวเองได้แล้ว!
ราวกับได้เปลี่ยนเนื้อถอดกระดูก!
ยิ่งไปกว่านั้น การกระทำบางอย่างของเธอก็ทำให้เฉินชางทึ่งไม่น้อย ไม่กล่าวไม่ได้ว่าในการผ่าตัด หมอแต่ละคนจะมีการตระหนักรู้ด้วยตัวเองอยู่ด้วย
เมื่อเป็นเช่นนี้ ขณะผ่าตัดให้ผู้ป่วย ทั้งสองก็วิจารณ์และแลกเปลี่ยนกันไปด้วย แต่ละคนได้ประโยชน์มหาศาล แม้กระนั้นเฉินชางก็ไม่ได้ชมเชยอาจารย์เมิ่งน้อยลงเลย ทั้งยังทำเป็น ‘ตกใจ’ ในบางครั้งด้วย
วิธีนี้ใช้กับอาจารย์เมิ่งได้ดีจริงๆ!
การผ่าตัดนี้ทำให้เขาได้รับค่าความรู้สึกดีเพิ่มขึ้นถึงห้าแต้ม ยังจะมีอะไรดีกว่านี้อีกล่ะ
การผ่าตัดเคสที่สองเป็นการผ่าตัดเอาซีสต์บริเวณเยื่อหุ้มหัวใจออก เป็นการผ่าตัดที่ไม่ค่อยยากเท่าไหร่นัก แม้เฉินชางจะทำเพียงคอยช่วยเหลือ แต่ก็ยังคิดว่าตนผ่าตัดเคสนี้เองได้
การผ่าตัดหัวใจมีอยู่ไม่กี่อย่าง หนึ่งคือการผ่าตัดส่วนประตูเยื่อหุ้มหัวใจชนิดต่างๆ สองคือการผ่าตัดหลอดเลือดแดงหรือหลอดเลือดต่างๆ สามคือการผ่าตัดหลอดเลือดและลิ้นหัวใจและการผ่าตัดโรคที่เกี่ยวกับลิ้นหัวใจ หากเป็นการผ่าตัดระดับสูงขึ้นมาอีกก็คือการผ่าตัดตัวหัวใจที่ค่อนข้างซับซ้อน รวมถึงการปลูกถ่ายหัวใจด้วย
นับได้ว่าเฉินชางค่อยๆ เรียนรู้กระบวนการผ่าตัดไปทีละนิด
การผ่าตัดเคสที่สองเสร็จสิ้นตอนประมาณสี่ทุ่ม ทั้งสองพูดคุยแลกเปลี่ยนกันด้วยรอยยิ้มและเตรียมออกจากห้องผ่าตัด ขณะนั้นโทรศัพท์ของเมิ่งซีก็ดังขึ้น
เธอกดรับโทรศัพท์ พบว่าเป็นพยาบาลจากแผนกศัลยกรรมหัวใจ “หัวหน้าเมิ่ง เกิดเหตุฉุกเฉินกับผู้ป่วยระหว่างผ่าตัดทรวงอก ต้องการความช่วยเหลืออย่างเร่งด่วน คุณยังอยู่ในห้องผ่าตัดไหมคะ”
โชคดีที่ตอนนี้เมิ่งซียังไม่ได้ออกไป เมื่อได้รับข้อมูลจากอีกฝ่ายก็ขมวดคิ้วแล้วรีบถามขึ้นทันทีว่า “ฉันยังอยู่ค่ะ พวกคุณอยู่ห้องผ่าตัดไหนคะ”
พยาบาลตอบว่า “ห้องผ่าตัดเบอร์ 12 ค่ะ คุณไปถามหมอเวรที่ห้องผ่าตัดได้เลย”
เมิ่งซีสีหน้าเปลี่ยนไปโดยพลัน เธอรีบเดินไปยังห้องผ่าตัดเบอร์ 12 ทันที
นี่แสดงให้เห็นถึงความแตกต่างระหว่างแผนกศัลยกรรมของโรงพยาบาลตงต้าและโรงพยาบาลอันดับสอง ยังไม่ต้องพูดถึงว่ามีห้องผ่าตัดมากเท่าไหร่เลย ตอนนี้เป็นเวลาสี่ทุ่มแล้วแต่โรงพยาบาลตงต้ายังใช้ห้องผ่าตัดกันอยู่ตั้งหลายห้อง!
ส่วนโรงพยาบาลอันดับสอง ตอนนี้จะมีใช้อยู่กี่ห้องกัน
ดังนั้นเรื่องนี้ก็เป็นปัจจัยหนึ่งที่ทำให้เห็นภาพรวมได้อย่างรวดเร็ว ทำให้จินตนาการได้เลยว่าแตกต่างกันมากเพียงใด!
ดูเหมือนว่าตอนนี้พยาบาลประจำห้องผ่าตัดจะได้รับข่าวนี้แล้วจึงรีบเดินเข้ามา “หัวหน้าเมิ่ง ห้องผ่าตัดเบอร์ 12 ต้องการความช่วยเหลือจากแผนกศัลยกรรมหัวใจค่ะ”
เมิ่งซีพยักหน้าแล้วรีบไปล้างมือ จากนั้นก็เข้าไปในห้องผ่าตัด!
การเกิดเหตุฉุกเฉินในห้องผ่าตัดเช่นนี้เป็นเรื่องที่พบเห็นได้บ่อยมาก ปกติจะเจอทุกวัน และการช่วยเหลือระหว่างแผนกเช่นนี้ก็เป็นการสะท้อนให้เห็นถึงศักยภาพของโรงพยาบาลได้เช่นกัน
เมิ่งซีพาเฉินชางเดินเข้าไปอย่างเร่งร้อน พยาบาลเวรรออยู่นานแล้ว เมื่อเห็นพวกเขาก็รีบเข้ามาช่วยเปลี่ยนเสื้อผ้าทันที!
เมิ่งซีเปลี่ยนเสื้อผ้าพลางเงยหน้าขึ้นถามว่า “เกิดอะไรขึ้นคะ”
จิ่งหรานขมวดคิ้ว “สถานการณ์ค่อนข้างซับซ้อนครับ หัวหน้าเมิ่ง คุณมาดูหน่อยเถอะว่าควรจัดการยังไง”
เฉินชางชะงักไปเล็กน้อย ที่แท้ก็เป็นจิ่งหรานนี่เอง
อย่างไรก็ตาม ดูเหมือนจิ่งหรานไม่ได้สนใจเฉินชางเลย ตอนนี้อยู่ระหว่างการผ่าตัด เขาจึงไม่กล้าผ่อนคลาย
เฉินชางเดินตามเมิ่งซีเข้าไป ชะโงกหน้าไปใกล้เตียงผ่าตัด เห็นสภาพภายในช่องอกพอดี
จิ่งหรานพูดว่า “นี่เป็นการผ่าตัดเอาสิ่งแปลกปลอมที่ตกค้างอยู่ภายในออก สิบปีก่อนผู้ป่วยเข้ารับการผ่าตัดช่องอกครั้งหนึ่ง ตอนนั้นเนื่องจากปัจจัยหลายอย่างทำให้มีผ้าก๊อซหนึ่งชิ้นตกค้างอยู่ในช่องอกของผู้ป่วย ผ่านไปหลายปีผู้ป่วยก็ยิ่งรู้สึกว่าบริเวณหน้าอกของตัวเองไม่ปกติ!”
“พอมาตรวจที่โรงพยาบาลถึงค่อยรู้ว่ามีสิ่งแปลกปลอมอยู่ภายใน ผมเลยเตรียมผ่าเปิดช่องอกเพื่อตรวจสอบ! ตอนนี้สภาพของผู้ป่วยก็อย่างที่คุณเห็นเลยครับ ผมไม่กล้าเอาผ้าก็อซออกมามั่วซั่ว เพราะตอนนี้มันติดแน่นอยู่กับหลอดเลือดแดงในช่องอกไปแล้ว สถานการณ์ค่อนข้างยุ่งยากเลยทีเดียว!”
เป็นจริงดังนั้น ตอนนี้ผ้าก๊อซที่อยู่ในช่องอกย่อยสลายจนเหลือเพียงกาก แต่กากของผ้าก็อซเหล่านี้กลับไปรวมกับเมือกและไปพันหลอดเลือด หลอดอาหารและหลอดลมไว้ด้วยกัน!
สภาพของช่องอกค่อนข้างแย่ มีการติดเชื้อและมีพังผืดมาก ดังนั้นตอนนี้จิ่งหรานจึงไม่กล้าทำอะไรมั่วๆ เพราะกลัวว่าตอนแยกพวกมันออกจากกันจะทำให้หลอดเลือดแดงใหญ่เสียหายจนมีเลือดออกเป็นจำนวนมาก
อย่างไรก็ตาม เนื่องจากมีสิ่งแปลกปลอมเข้าไป ทำให้ผนังหลอดเลือดเสียหายจนเนื้อเยื่อเป็นแผลมานานแล้วจนส่งผลให้เส้นเลือดขอด!
เฉินชางพบว่า เนื่องจากผู้ป่วยมีอาการเส้นเลือดขอดเป็นเวลานาน ทำให้ร่างกายสร้างเส้นทางบายพาสขึ้นมาใหม่ เมื่อเป็นเช่นนี้ การผ่าตัดจึงยุ่งยากมากขึ้น
เมิ่งซีขมวดคิ้ว คิดใคร่ครวญว่าจะจัดการเช่นไรดี! ในสมองปรากฏความเป็นไปได้แต่ละอย่างขึ้นมาไม่หยุดหย่อน
ผ่านไปพักใหญ่ เมิ่งซีก็สูดหายใจลึก “ต้องแยกพวกมันออกจากกันก่อน ไม่งั้นถ้าเลือดออกก็จะหยุดเลือดไม่ได้แล้ว! แต่ตอนแยกจะต้องระวังไม่ให้หลอดเลือด หลอดอาหารและหลอดลมเสียหาย ค่อนข้างยากเลยค่ะ”
คำพูดของเมิ่งซีชัดเจนมาก ขั้นแรกจะต้องแยกหลอดเลือดออกมาก่อน แต่หากจะทำเช่นนั้น ผู้ลงมือจะต้องมีความสามารถทั้งด้านศัลยกรรมหัวใจและศัลยกรรมทรวงอก
ในตอนนี้จิ่งหรานรู้สึกกดดันมากจริงๆ
เขาสูดหายใจลึกแล้วพยักหน้า “ครับ เอาแบบนี้แล้วกัน หัวหน้าเมิ่ง คุณคอยดูหลอดเลือดไว้นะครับ แล้วเดี๋ยวผมจะเป็นคนแยกออกมาเอง!”
จิ่งหรานรู้ดีว่าตอนนี้ไม่ใช่เวลาหลีกเลี่ยง สิ่งที่เขาสมควรทำจะล่าช้าไม่ได้แม้แต่น้อย!
นี่ทำให้เฉินชางนับถือเขาจริงๆ!
อันที่จริง จิ่งหรานเป็นคนที่มีความสามารถคนหนึ่ง ไม่เพียงแต่จะมีความสามารถในฐานะหัวหน้าแผนกเท่านั้น แต่เขายังมีความรับผิดชอบอย่างที่หัวหน้าแผนกคนหนึ่งสมควรมีอีกด้วย!
คนเช่นนี้ ไม่ว่าจะอย่างไร อนาคตย่อมสดใสแน่นอน!
———————————————–