บทที่ 493 แกมันชาติหมา!
มณฑลตงหยางเป็นมณฑลที่สภาพอากาศแบ่งเป็นสี่ฤดูกาลชัดเจน อุณหภูมิในฤดูหนาวต่ำมาก
ฤดูใบไม้ร่วงกำลังจะเปลี่ยนเป็นฤดูหนาว เลยกลางเดือนพฤศจิกายนไปแล้ว เป็นเวลาที่โครงการก่อสร้างทยอยกันหยุดงาน
แต่ช่วงนี้จูเซวียนเหวินค่อนข้างงานยุ่ง ถึงอย่างไรก็เป็นเวลาปลายปีแล้ว ถึงเวลาคำนวณเงินทุนและเบิกเงินคืน ไม่อย่างนั้นถ้าติดหนี้ค่าวัสดุตอนปลายปี เขาก็คงสำรองจ่ายเองไม่ไหว
ช่วงนี้จูเซวียนเหวินเดินทางบ่อยมาก เพื่อรีบตรวจสอบโครงการก่อสร้างและนำเงินมาไว้ในมือ จะได้พาภรรยาและลูกไปฉลองปีใหม่ที่เมืองซานย่าได้อย่างราบรื่น
เดิมทีขั้นตอนก็เหมือนกับปีที่ผ่านมา ปีนี้แค่ทำเหมือนเดิมอีกครั้งหนึ่ง!
แต่ตอนที่ตรวจสอบ ก็พบว่าปีนี้เจอปัญหามากมายเกินไป!
“หัวหน้าจู โครงการเหอซีของพวกเราไม่ผ่านมาตรฐานครับ อีกฝ่ายไม่ให้ผ่านการตรวจสอบ!” ผู้จัดการโครงการเหอซีโทรศัพท์มาแจ้งข่าว
จูเซวียนเหวินขมวดคิ้ว “เอาละ ผมรู้แล้ว”
พอวางโทรศัพท์ จูเซวียนเหวินก็ครุ่นคิดว่าตัวเองทำพลาดจนเกิดปัญหาในขั้นตอนไหน
พอนึกถึงตรงนี้ ก็มีสายเข้าอีกแล้ว!
“หัวหน้าจู โครงการที่พวกเราจะร่วมมือกับจงเถี่ย อีกฝ่ายไม่อยากร่วมงานกับเราแล้วครับ ทั้งยังขอให้พวกเรารีบดำเนินการตามมาตรฐาน ตอนนี้…ทุกอย่างไม่ผ่านมาตรฐาน ปีหน้าให้พวกเราทำงานใหม่อีก!”
“หัวหน้าจู พวกเรา…”
ตอนรับโทรศัพท์สายแรก จูเซวียนเหวินก็สงสัยว่าตัวเองทำงานมีปัญหาตรงไหน ทำพลาดตรงไหนไป!
แต่พอมีโทรศัพท์โทรมาสายที่สองที่สามติดต่อกัน จูเซวียนเหวินก็เหงื่อกาฬแตกพลั่กแล้ว!
มีหรือที่เขาจะยังไม่เข้าใจว่าตัวเองคงไปก่อเรื่องอะไรไว้
แต่ว่า…พอคิดไปคิดมา จูเซวียนเหวินก็ยังสับสนอยู่ดี
นี่ฉันไปหาเรื่องท่านเทพที่ไหนมา
เขายิ่งคิดยิ่งกลัว!
คนที่ทำให้งานของตนไม่ผ่านการตรวจสอบทั้งหมดได้…ต้องเป็นใครกัน
ใครกันที่มีความสามารถมากขนาดนั้น
พอคิดถึงตรงนี้ จูเซวียนเหวินก็เหงื่อแตกไม่หยุด!
เขาไม่ใช่คนโง่ ยอมรู้ว่าไม่มีทางที่จะเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นโดยไร้ที่มาที่ไป
จูเซวียนเหวินพยายามทำให้ตัวเองใจเย็น แต่จะใจเย็นไหวได้อย่างไร
สำรองจ่ายเงินล่วงหน้าไปเยอะขนาดนี้ ทั้งยังมีคนรอทวงหนี้เป็นโขยง ถ้าเบื้องบนไม่ให้ผ่านการตรวจสอบและไม่จ่ายเงินให้ ต่อให้ตัวเองโดนฆ่า หรือโดนขาย ก็แก้ไขปัญหาพวกนี้ไม่ได้อยู่ดี!
ตอนนี้เอง เขาหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาโทรหาพ่อตาแล้ว
“คุณพ่อครับ…ผมเจอปัญหาแล้ว!” จูเซวียนเหวินบอกทันทีที่โทรติด!
อีกฝ่ายชะงักนิดหน่อย “มาคุยกันหน่อย”
หลังจากวางโทรศัพท์ จูเซวียนเหวินก็รีบยืนขึ้นแล้วขับรถไปที่เขตพักอาศัยเดิม
พอเข้าประตูบ้านมา จูเซวียนเหวินก็แทบจะคุกเข่าขอร้อง
“คุณพ่อครับ! ต้องช่วยผมด้วยนะครับ!”
“ผมเจอปัญหาใหญ่เข้าแล้ว!”
เมื่อเห็นจูเซวียนเหวินทำตัวไม่ได้เรื่องแบบนี้ ชายชราก็ถอนหายใจเฮือกหนึ่ง แล้วส่ายหน้าอย่างจนใจ “นั่งลง ค่อยๆ คุยกัน”
ตอนนี้จูเซวียนเหวินถึงได้เล่าเรื่องที่เพิ่งเกิดขึ้นให้ฟัง
เมื่อเห็นคนที่โตป่านนี้พูดจาด้วยเสียงสะอื้น ท่าทางเหมือนจะร้องไห้ออกมา ชายชราก็ค่อนข้างดูถูกพฤติกรรมนี้!
แต่ถึงอย่างไรอีกฝ่ายก็เป็นลูกเขยของตัวเอง
หลังจากฟังจบ ชายชราก็ยกหูโทรศัพท์ขึ้นมา ลังเลอยู่ครู่เดียวก่อนจะโทรหาอดีตผู้ใต้บังคับบัญชาคนหนึ่ง
อีกฝ่ายเคารพชายชราผู้นี้มาก หลังจากโทรติดแล้วก็กล่าวทักทายว่า “สวัสดีครับหัวหน้า”
ชายชราขานรับแล้วบอกว่า “เสี่ยวอู๋ ผมวานให้คุณไปสืบเรื่องบางอย่างให้หน่อย วันนี้ที่มณฑลมีข่าวพิเศษอะไรหรือเปล่า”
คำพูดนี้อ้อมค้อมมาก แต่หลังจากอีกฝ่ายได้ฟังแล้วก็เงียบไปพักหนึ่ง
จากนั้นก็ตอบว่า “หัวหน้าครับ ผมบอกความจริงกับท่านแล้วกัน คราวหลังบอกให้ลูกเขยของท่านเอาการเอางานหน่อย ทำตัวสงบเสงี่ยมหน่อย อย่าเอาแต่ก่อเรื่องทั้งวัน แล้วก็มีอีกเรื่องครับ ทางที่ดีรีบจัดการโครงการของบริษัทจื้อต๋าคอนสตรัคชั่นให้เสร็จเรียบร้อย ไม่อย่างนั้นเบื้องบนจะไม่ให้เงินสักหยวน อย่าให้เขาอวดฉลาดเพราะความโลภ หลังจากนี้ให้เขายุบบริษัทเถอะครับ หรือไม่ก็ออกไปดูข้างนอกบ้าง สรุปสั้นๆ ก็คือ อย่าอยู่ที่ตงหยางเลยครับ”
เขาอธิบายได้ชัดเจนมากแล้ว!
ชายชราฟังอย่างสงบเยือกเย็น ชีวิตนี้ผ่านอุปสรรคขึ้นลงมามากมาย มีเรื่องไหนบ้างที่มองไม่ขาด
ผู้ใต้บังคับบัญชาคนนี้ถือว่าค่อนข้างรู้ใจเขา เมื่อได้ยินอีกฝ่ายพูดแบบนี้ เขาก็พยักหน้าแล้วไม่ได้ถามรายละเอียดอีก
“อืม เข้าใจแล้ว ขอบใจมากเสี่ยวอู๋”
พอวางโทรศัพท์ ชายชราก็มองจูเซวียนเหวินที่กำลังเสียขวัญ พร้อมกล่าวเนิบๆ ว่า “ได้ยินหมดแล้วใช่ไหม”
จูเซวียนเหวินจะไม่ได้ยินได้อย่างไร
เขาได้ยินตั้งแต่ต้นจนจบ!
แต่ก็เพราะอย่างนี้เอง เขาถึงได้ขวัญเสียขนาดนี้
ตอนนี้พ่อตากลายเป็นฟางช่วยชีวิตเส้นสุดท้ายของเขาแล้ว!
พอนึกถึงตรงนี้ จูเซวียนเหวินก็รีบบอกว่า “คุณพ่อครับ ต้องช่วยผมนะครับ ผม…ตอนนี้ผม…”
“ช่วงนี้แกไปหาเรื่องใครไว้” ชายชราถามตัดบทเขา
จูเซวียนเหวินอึ้งทันที!
คนที่เขาหาเรื่องมีน้อยเสียที่ไหน
ใครจะไปจำได้หมด!
ช่วงนี้…
ช่วงนี้มีสิบเจ็ดสิบแปดคนแล้วมั้ง…
“ผมไม่แน่ใจว่าใครครับ!”
ชายชรามองลูกเขยอย่างจนใจ ถอนหายใจเฮือกหนึ่งแล้วบอกว่า “แกเล่ามา เดี๋ยวฉันจะวิเคราะห์ให้”
จูเซวียนเหวินพยักหน้า “มีหัวหน้าแผนกสาธารณูปโภคของเฉิงซี อายุประมาณห้าสิบกว่า เขา…”
“ผู้จัดการคนหนึ่งของเฉิงไท่กรุ๊ป…”
“เจ้าหน้าที่คนหนึ่งของสำนักสันติบาล…”
“ผู้จัดการฝ่ายพัฒนาธุรกิจของธนาคารพาณิชย์อุตสาหกรรมแห่งประเทศจีน…”
……
จูเซวียนเหวินพูดไปพูดมา ชายชราก็รู้สึกปวดหัวใจอยู่พักหนึ่ง อดเอามือกุมตรงหัวใจไม่ได้ สูดหายใจลึกเฮือกหนึ่ง กลัวว่าตัวเองจะเป็นอะไรไป!
ไอ้เจ้าชาติสุนัขที่ไม่เป็นโล้เป็นพาย ช่วงนี้ไปหาเรื่องคนไว้เยอะขนาดนี้เลยเหรอ
ตอนแรกฉันคงตาบอดไป
ขณะที่เห็นจูเซวียนเหวินกำลังจะบ่นยาวเหยียดเหมือนป้ากวาดถนน ชายชราก็ตัดบทเขา!
“เน้นหนักที่ประเด็นสำคัญ!”
จูเซวียนเหวินคิดไปคิดมา เน้นหนัก…หนักเท่าไร สองร้อยชั่งเหรอ จู่ๆ เขาก็นึกขึ้นได้ถึงคนคนหนึ่ง!
เขารีบตอบว่า “อ๋อ! มีผู้อำนวยการโรงพยาบาลอันดับสองคนหนึ่ง ชื่อฉินเสี้ยวยวน วันนั้นมือผมบาดเจ็บเลยไปทำแผลที่นั่น ผลปรากฏว่า…โดนด่าแล้ว”
“ตอนหลังผมก็เลยสั่งให้คนหลายคนไปใส่ร้ายเขาที่สำนักสุขภาพ”
พอพูดมาถึงตอนนี้ ก็สีหน้าเปลี่ยนทันที!
“แกไม่เป็นอะไรแล้วจะไปก่อเรื่องซี้ซั้วที่โรงพยาบาลทำไม!”
“ยังไปหาเรื่องผู้อำนวยการโรงพยาบาลซ้ำอีกเหรอ รู้หรือเปล่าว่าผู้อำนวยการโรงพยาบาลคนหนึ่งมีคอนเนคชั่นกับแวดวงสังคมกว้างขนาดไหน สถานที่ที่อีกฝ่ายบริหารมาทั้งชีวิต แกเอาอะไรไปทำตัวอันธพาลที่นั่น! ทำไมแกไม่ไปทำตัวอันธพาลที่สถานีตำรวจล่ะ”
ชายชรายิ่งพูดก็ยิ่งอารมณ์ขึ้น!
ลูกเขยที่ไม่เป็นโล้เป็นพายคนนี้ช่างอวดดีจริง ไปเกเรที่ไหนก็ไม่ไป ดันไปที่โรงพยาบาล!
ทั้งยังเป็นผู้อำนวยการโรงพยาบาลอีก!
แม่งเอ๊ย น่าโมโหจริงๆ
พอนึกถึงตรงนี้ ชายชราก็ไม่อยากพูดอะไรกับเขาอีกแล้วจริงๆ
“รีบไปขอโทษ!”
จูเซวียนเหวินอึ้งไปชั่วขณะ “คุณพ่อ ไม่ถึงขนาดนั้นมั้งครับ”
ชายชราหัวเราะหึหึแล้วบอกว่า “ไม่ถึงขั้นนั้นเหรอ ฉันจะบอกแกให้นะ มีความเป็นไปได้สูงว่าเรื่องนี้จะเป็นฝีมือผู้อำนวยการโรงพยาบาล ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อ”
พอจูเซวียนเหวินได้ยินก็รีบลุกขึ้นเตรียมจะเดินออกไป
ตอนนี้เอง โทรศัพท์ของชายชรามีเสียงแจ้งเตือนดังขึ้น
พอเปิดวีแชทดูก็พบว่าเป็นผู้ใต้บังคับบัญชาคนเมื่อครู่นี้ส่งคลิปวิดีโอมา
ชายชราแปลกใจ จึงเริ่มเปิดดูคลิปวิดีโอทันที
นี่ก็คือคลิปที่จูเซวียนเหวินอวดเบ่งบารมี!
หลังจากดูจบ ชายชราก็โมโหจนแทบเขวี้ยงโทรศัพท์ทิ้ง!
ให้มันได้อย่างนี้!
ดี!
สุดยอดไปเลย!
ตอนนี้อีกฝ่ายโทรเข้ามาแล้ว “หัวหน้าครับ ตอนนี้หัวหน้าคนปัจจุบันเห็นคลิปนี้แล้ว”
หลังจากชายชราได้ยินก็โมโหจนตัวสั่น แล้วพูดกับจูเซวียนเหวินว่า “ไสหัวไป! แกไสหัวออกไปจากบ้านฉัน! ไม่ต้องเข้ามาที่บ้านฉันอีก!”
จูเซวียนเหวินอึ้งทันที ตอนนี้เขาจะออกไปได้หรือ
ไม่ได้อยู่แล้ว เพราะนอกจากพ่อตาแล้ว ยังจะมีใครช่วยเขาได้อีก
ถ้าไม่ช่วยเขาก็ต้องนึกถึงลูกสาวตัวเองบ้างสิ!
จูเซวียนเหวินรีบบอกว่า “คุณพ่อครับ ใจเย็นก่อนครับ อย่าวู่วาม ตอนนี้ไม่ใช่เวลามาโมโห พวกเราคิดหาวิธีกันเถอะ!”
ขณะที่ชายชรามองเจ้าคนหน้าด้านคนนี้ ก็รู้สึกโมโหจนหน้ามืด “ไสหัวออกไป!”
จูเซวียนเหวินถอนหายใจ ไม่ถือสาเช่นกัน เขานั่งลงบนโซฟา แล้วคิดว่าจะทำอย่างไรดี
ชายชราสูดหายใจลึกเฮือกหนึ่ง ตอนนี้เขาจนใจอย่างที่สุด เป็นเพราะตัวเองแท้ๆ!
ช่วงไม่กี่ปีมานี้ฉันให้ท้ายเขามากเกินไป