บทที่ 496 อาจารย์ ผมรู้สึกว่าตัวเองถูกล้างสมอง!
ทังจินโปเป็นบรรณาธิการหลักของ ‘วารสารศัลยกรรมมือแห่งยุโรป’ และเป็นคนนอกทวีปยุโรปคนแรกที่รับตำแหน่งบรรณาธิการวารสารฉบับนี้ตั้งแต่มี ‘วารสารศัลยกรรมมือแห่งยุโรป’ ขึ้นมา!
‘วารสารศัลยกรรมมือแห่งยุโรป’ ในฐานะที่เป็นหนึ่งในสองวารสารศัลยกรรมมือที่ทรงอิทธิพลที่สุดที่วารสาร SCI ตอบรับ เป็นวารสารศาสตร์ศัลยกรรมมือที่เก่าแก่ที่สุดในโลก
วารสารนี้เข็มงวดเรื่องตรวจสอบและอนุมัติบทความมาก!
ต้องผ่านการตรวจสอบจากกองบรรณาธิการหลายครั้งกว่าจะผ่าน บางครั้งก็มีข้อถกเถียงค่อนข้างมาก ทั้งยังต้องให้บรรณาธิการหลักอ่านบทความด้วยตัวเอง หรือไม่ก็ปรึกษากับผู้เชี่ยวชาญที่เกี่ยวข้อง
จุดประสงค์ของวารสารก็คือพยายามพัฒนาวงการศัลยกรรมมือทั่วโลก!
ส่วนบทความที่เฉินชางบรรยายสรุปตอนนั้น ‘เลือกทิศทางและแนวโน้มการพัฒนาวิธีการเย็บของทังผ่านการวิเคราะห์จุดด้อยและจุดแข็งของวิธีการเย็บเส้นเอ็นในแบบของทัง’
บทความฉบับนั้นไม่ซับซ้อน แต่กลับพิเศษมาก!
พูดให้ชัดก็คือ บทความฉบับนี้ดึงดูดความสนใจของศาสตราจารย์ทังแล้ว!
สาเหตุที่เฉินชางไม่ได้สรุปวิธีเย็บของเฉินและวิธีเย็บอื่นๆ ก็เพราะมีเหตุผลบางอย่างอยู่
เหตุผลแรก ถ้าแม้แต่การตรวจสอบครั้งเดียวจาก ‘วารสารศัลยกรรมมือแห่งยุโรป’ ยังไม่ผ่าน นั่นก็เป็นเพราะคนอื่นไม่ได้ยอมรับคุณเสมอไป!
เหตุผลข้อสอง เพราะตัวเองยังขาดการสนับสนุนจากข้อมูลที่มีประสิทธิภาพ
ในโลกของวิชาการ คนที่ก้าวหน้าเร็วเหมือนเหยียบก้าวเดียวขึ้นถึงฟ้านั้นมีน้อยมาก คนส่วนใหญ่ล้วนต้องก้าวไปทีละขั้นอย่างมั่นคง
บทความฉบับนี้ของเฉินชางก็กำลังดึงดูดความสนใจของศาสตราจารย์ทัง
……
……
หลังจากผ่านการตรวจสอบจาก ‘วารสารศัลยกรรมมือแห่งยุโรป’ สามรอบ ทีมตรวจสอบก็ยังตัดสินใจไม่ค่อยได้
ว่าจะให้ผ่านหรือไม่!
พูดตามตรง ตอนนี้พวกเขายังศึกษาวิธีการเย็บเส้นเอ็นในแบบของทังอยู่เลย
แต่พวกเขาพบว่า เนื้อหาในบทความไปไกลกว่าวิธีการของทังที่พวกเขารับรู้แล้ว
นี่ก็เป็นเหตุผลว่าทำไมบทความฉบับนี้ถึงผ่านการตรวจสอบสามรอบได้อย่างราบรื่นภายในหนึ่งเดือน
ตอนที่กลุ่มบรรณาธิการกำลังกลุ้มใจ จู่ๆ ดอกเตอร์ซิลเบอร์ซึ่งเป็นรองบรรณาธิการก็บอกว่า
“ที่จริงบทความฉบับนี้ ไม่สู้ส่งให้ศาสตราจารย์ทังตัดสินใจเอง นอกจากนี้…ผมเห็นอีเมล์ส่งมาจากประเทศจีน ผมเชื่อว่าศาสตราจารย์ทังจะต้องดีใจมากแน่นอน!”
พอทุกคนได้ยินก็รู้สึกว่าทำอย่างนี้ได้ วันนั้นจึงส่งอีเมล์ไปให้ศาสตราจารย์ทัง
วันต่อมา ทังจินโปที่เพิ่งตรวจเยี่ยมผู้ป่วยกลับมาที่ห้องทำงาน จู่ๆ ก็ได้รับโทรศัพท์จากต่างประเทศ
เมื่อดูหน้าจอให้ดี ก็พบว่าเป็นดอกเตอร์ซิลเบอร์ รองบรรณาธิการของกองบรรณาธิการ ‘วารสารศัลยกรรมมือแห่งยุโรป’
“สวัสดีครับ ดอกเตอร์ซิลเบอร์ ทำไมถึงตื่นเช้าขนาดนี้ได้” ทังจินโปดูเวลาแล้วทักทายด้วยรอยยิ้ม
ดอกเตอร์ซิลเบอร์ยิ้มพร้อมตอบว่า “ศาสตราจารย์ทัง คุณดูอีเมล์ที่ผมส่งไปสักหน่อยครับ เป็นการบรรยายสรุปที่น่าสนใจมาก ผมคิดว่าคุณจะต้องสนใจมากแน่นอน อ้อ ใช่ บทความนี้มาจากประเทศจีนด้วย”
หลังจากทังจินโปได้ฟังดังนั้น ก็เกิดความอยากรู้อยากเห็นอยู่บ้าง ตอบทันทีว่า “ได้ครับ ดอกเตอร์ซิลเบอร์ ขอบคุณครับ แต่ผมคิดว่าคุณควรจะนอนต่ออีกสักหน่อย”
ดอกเตอร์ซิลเบอร์หัวเราะแล้ววางสาย
พอทังจินโปเปิดกล่องจดหมาย ชื่อของบทความบรรยายสรุปก็ดึงดูดเขาทันที
ชื่อแบบนี้อาจจะมีเยอะ แต่ถ้าผ่านการตรวจสอบสามครั้งจาก ‘วารสารศัลยกรรมมือแห่งยุโรป’ ได้ นี่ก็คงเป็นชื่อแรก
พอนึกถึงตรงนี้ ทังจินโปก็พูดกับนักเรียนตัวเองว่า “เสี่ยวหลี่ ช่วยพิมพ์บทความฉบับนี้ออกมาให้ผมหน่อย”
หลี่อวี่พยักหน้า หลายปีมานี้ดวงตาของอาจารย์ค่อนข้างเหนื่อยล้า ไม่ชินกับการดูโทรศัพท์นานเกินไป
ดังนั้นโดยส่วนใหญ่พวกวารสารจึงถูกพิมพ์ออกมา
ตอนที่หลี่อวี่พิมพ์บทความ ก็ได้เห็นชื่อของบทความแล้ว
‘เลือกทิศทางและแนวโน้มการพัฒนาวิธีการเย็บของทังผ่านการวิเคราะห์จุดด้อยและจุดแข็งของวิธีการเย็บเส้นเอ็นในแบบของทัง’
ดูจากชื่อ…อวดดีเกินไปแล้วมั้ง!
ไม่ผิดหรอก ชื่อนี้อวดดีมาก วิเคราะห์จุดด้อยและจุดแข็งของวิธีการเย็บเส้นเอ็นในแบบของทังโดยตรง ทั้งยังเลือกทิศทางและแนวโน้มการพัฒนาวิธีการเย็บแบบทัง!
คนคนนี้ช่าง…
หลี่อวี่ในฐานะแฟนคลับผู้ภักดีของศาสตราจารย์ทัง เป็นผู้สืบทอดวิธีการเย็บแบบทังเช่นกัน ตั้งใจเรียนรู้วิธีการเย็บเส้นเอ็นในแบบของทังมาก เขาไม่คิดว่าจะมีคนเข้าใจวิธีการนี้มากกว่าตัวเอง!
อย่างไรเสีย ศาสตราจารย์ทังก็เป็นคนคิดค้น แล้วตั้งชื่อโดยใช้ชื่อของเขาเอง!
ตอนที่พิมพ์บทความ หลี่อวี่ก็มองบทความปราดหนึ่งด้วยความฉงน
เพียงแต่…การมองครั้งนี้
หลี่อวี่ก็อดถูกดึงดูดความสนใจไม่ได้
อีกฝ่ายเขียนได้…เหมือน…พูดแทนใจของหลี่อวี่แล้วจริงๆ
จริงๆ!
ผู้เขียนเหมือนจะเข้าใจวิธีการเย็บเส้นเอ็นในแบบของทังมาก!
ทั้งยังเข้าใจเยอะกว่าตัวเองมากด้วย
ดังนั้น อาศัยช่วงเวลาที่พิมพ์บทความออกมา หลี่อวี่ก็อ่านจบแล้วโดยไม่รู้ตัว
ส่วนทังจินโปที่รออยู่ข้างๆ พอเห็นหลี่อวี่อ่านอยู่ตรงนั้น เขาก็งุนงงเล็กน้อย แล้วก็อดหัวเราะออกมาไม่ได้ เขาไม่ได้รบกวน แต่…กลับอยากรู้อยากเห็นมากขึ้น
ทังจินโปเป็นคนภาคใต้ขนานแท้ มีลักษณะเป็นผู้ดี ใส่แว่นตากรอบสีทอง แผ่ราศีที่ค่อนข้างน่าเข้าหา
เวลาผ่านไปสิบนาทีโดยไม่รู้ตัว หลี่อวี่ยังอ่านไม่จบ จู่ๆ ก็พลันตระหนักได้ จึงยิ้มแก้เขินให้ศาสตราจารย์ทังพร้อมกล่าวขออภัย “อะแฮ่ม อาจารย์ครับ ขออภัยครับ…”
ทังจินโปหัวเราะเบาๆ “คุณอ่านก่อนเถอะ อ่านจบแล้วค่อยว่ากัน”
หลี่อวี่พยักหน้า แล้วเริ่มอ่านต่อไป
บทความเป็นภาษาอังกฤษทั้งหมด ดังนั้นเวลาอ่านจึงค่อนข้างเหนื่อย
แม้จะเป็นดอกเตอร์แล้ว แต่การอ่านวารสาร SCI ที่เป็นภาษาอังกฤษทั้งหมดแบบนี้ ก็ต้องใช้ทักษะระดับสูงมากเช่นกัน
ยังดีที่หลี่อวี่ติดตามอยู่ข้างกายศาสตราจารย์ทังมาเป็นเวลานานแล้ว ได้รับอิทธิพลจากการเห็นและการฟังเป็นประจำ รับเรื่องเอกสารมานาน พื้นฐานการอ่านจึงนับว่ายังพอได้
ผ่านไปอีกยี่สิบนาที ในที่สุดหลี่อวี่ก็อ่านจบแล้ว!
หลังจากอ่านจบ เขาก็รู้สึกว่า…ตัวเองถูกล้างสมองแล้ว…
ไม่ผิดหรอก!
หลังจากเขาอ่านจบ ก็ไม่น่าเชื่อว่าจะเห็นด้วยกับความคิดเห็นของอีกฝ่ายอย่างน่าตกใจ ถึงขนาดว่ามีความคิดเห็นมากมายของอีกฝ่ายที่ตัวเองยังไม่มีความรู้มากพอ
เรื่องนี้ทำให้หลี่อวี่ค่อนข้างตกตะลึง!
ตอนนี้วิธีคิดของเขากับสิ่งที่เพิ่งอ่านไปแตกต่างกันโดยสิ้นเชิง!
หรือว่า…
หรือว่าอีกฝ่ายศึกษาวิธีการเย็บเส้นเอ็นในแบบของทังได้อย่างถ่องแท้จริงๆ!
พอทังจินโปเห็นลูกศิษย์มีท่าทางแบบนี้ ก็เกิดความอยากรู้อยากเห็นเช่นกัน เขาถือบทความที่พิมพ์ขึ้นมา แต่แทนที่จะอ่านกลับมองหลี่อวี่แทน
“หลังจากอ่านจบแล้วมีความคิดยังไง”
หลี่อวี่สูดหายใจลึกเฮือก ขณะที่มองอาจารย์ เขาก็ตอบตามความจริงว่า “อาจารย์ครับ…ผมรู้สึกว่าอีกฝ่ายเข้าใจวิธีการเย็บเส้นเอ็นในแบบของทังมากกว่าผม ยิ่งไปกว่านั้น ผมขอพูดอะไรจากใจหน่อยนะครับ ผมรู้สึกว่าตัวเองถูกเขาโน้มน้าวแล้ว”
พอทังจินโปได้ฟัง ก็อดขำไม่ได้ “บทความฉบับนี้ผ่านการตรวจสอบสามครั้งจากผู้เชี่ยวชาญของ ‘วารสารศัลยกรรมมือแห่งยุโรป’ สุดท้ายตัดสินใจไม่ได้ก็เลยส่งมาถึงมือผม คนคนนี้ต้องมีระดับทักษะความรู้แน่นอน!”
หลังจากพูดจบ เขาก็หยิบขึ้นมาเริ่มอ่าน!
หลังจากผ่านไปหนึ่งนาที เขาก็เก็บสาระสำคัญหมดแล้ว สีหน้าเริ่มจริงจังทันที
หลังจากผ่านไปห้านาที เขาที่เพิ่งอ่านตอนแรกจบถึงกับต้องสูดหายใจลึกด้วยความตกตะลึงทันที
……
……
หลังจากผ่านไปครึ่งชั่วโมง เขาก็อ่านรอบสอง จากนั้นวางบทความลงแล้วสูดหายใจลึกอีก ก่อนจะพูดว่าหลี่อวี่ว่า
“จองตั๋วเครื่องบิน วันเสาร์ไปมณฑลตงหยาง เมืองอันหยาง!”
หลี่อวี่งงเป็นไก่ตาแตกแล้ว!