บทที่ 538 คงมาก่อกวนที่อาณาเขตคนอื่น
ตอนนี้เอง แพทย์สาวในหมู่บ้านก็นำเครื่องวัดความดันโลหิตกับหูฟังแพทย์วิ่งเข้ามา พอฉินเยว่วัดความดันโลหิตแล้วก็ถอนหายใจเฮือกหนึ่งแล้วบอกว่า “120/70mmHg! ความดันเลือดปกติ”
ส่วนเฉินชางก็ใช้หูฟังแพทย์ฟังที่ท้อง พบว่าเสียงในลําไส้หายไป ลำไส้ต้องเกิดความเสียหายแล้วแน่นอน ส่วนเดียวที่ไม่แน่ใจก็คือตับ แต่ตอนนี้มองไม่เห็นและคลำไม่ได้ ทำได้เพียงรอรถฉุกเฉิน!
ยังดีที่ตอนนี้ยังมีสัญญาณชีพมั่นคง
รอรถฉุกเฉินก็แล้วกัน!
ขั้นตอนนี้ทั้งยาวนานทั้งน่ากระวนกระวาย
ภรรยาของเหล่าเฮ่อดูอยู่ข้างๆ อย่างปวดใจ เธอโทรหาลูกที่อยู่ไกลถึงปักกิ่งพลางร้องไห้สะอึกสะอื้น
เฉินชางเห็นว่าสถานการณ์ของผู้ป่วยยังปลอดภัย จึงพูดขึ้นมาว่า “ขับรถส่งไปที่โรงพยาบาลในเมืองเถอะครับ ไม่ต้องรอรถฉุกเฉินแล้ว เทียวไปเทียวมาเสียเวลา”
เฉินชางพิจารณาอย่างระมัดระวังเช่นกัน ตอนนี้หล่าเฮ่อสัญญาณชีพปกติ ยังไม่มีความเสียหายมากนัก รถฉุกเฉินต้องขับออกมาจากในเมือง บวกกับตอนขับกลับไปก็มีแต่เสียเวลา
ตอนนี้เฉินชางรับประกันอาการของผู้ป่วยตอนนี้ได้ ยังไม่อันตรายถึงชีวิต
เมื่ออยู่ภายใต้เงื่อนไขที่รับประกันอาการของผู้ป่วยได้ ทางเลือกที่ดีที่สุดก็คือส่งตัวไปโรงพยาบาลให้เร็วที่สุด อย่ามองว่ารถฉุกเฉินมหัศจรรย์ขนาดนั้น โดยเฉพาะเมื่อเจอกับผู้ป่วยที่ได้รับบาดเจ็บภายนอกแบบนี้
พอเฉินต้าไห่ได้ยินแบบนั้น ก็รีบกลับบ้านไปขับรถตู้ออกมา
นี่คือรถที่ปกติเฉินต้าไห่ใช้ขับไปซื้อกับข้าวและสินค้ามาตุนไว้ที่บ้าน
ส่วนเฉินชางก็รวบรวมคนให้ขนกระดานประตูมาแผ่นหนึ่ง คนสี่ห้าคนหามชายผู้บาดเจ็บขึ้นไปอย่างระมัดระวัง จากนั้นพับเบาะหลังของรถตู้ แล้วหามเหล่าเฮ่อขึ้นไป
เฉินชางกับฉินเยว่ขับรถพาภรรยาของเหล่าเฮ่อไปที่โรงพยาบาลด้วยกัน
ระหว่างทาง ภรรยาของเหล่าเฮ่อคุยกับเหล่าเฮ่อไม่หยุด เธอกลัวว่าเขาจะหลับไป
ส่วนเหล่าเฮ่อก็เจ็บจนยิงฟันร้องโอดโอย
เหล่าเฉินขับรถนิ่งมาก ฉินเยว่คอยความดันเลือดให้ทุกห้านาที กลัวว่าจะเกิดปัญหา
ตอนนี้ความดันเลือดยังเสถียรอยู่ที่หนึ่งร้อยขึ้นไป เฉินชางไม่ถึงขั้นกังวลเกินไปนัก…
แต่ถ้าต้องรอขึ้นรถพยาบาลไปจริงๆ ก็ต้องรออีกสักพักแน่นอน
เวลาผ่านไปนาทีแล้วนาทีเล่า ใช้เวลาไปประมาณสี่สิบนาทีรถก็มาจอดตรงประตูแผนกฉุกเฉินของโรงพยาบาลประชาชนแห่งมณฑลตงหยาง
เฉินชางกับเหล่าเฉินและเหล่าหยางที่ขับรถตามมาช่วยกันหามผู้ป่วยเข้าแผนกฉุกเฉินอย่างระมัดระวัง
“มีการบาดเจ็บที่ช่องท้อง เข็นเตียง” เฉินชางเข้ามาที่แผนกฉุกเฉินแล้วพูดกับพยาบาลด้วยความเคยชิน
พยาบาลที่อยู่ด้านข้างเบิกตากว้าง สีหน้าเต็มไปด้วยความประหลาดใจ
ก็ยังดีที่หมอที่อยู่ข้างๆ ไหวตัวเร็ว รีบบอกว่า “มัวยืนเหม่อทำไม รีบไปเข็นเตียงครับ!”
เสิ่นซิวหย่วนรีบก้าวขึ้นไปตรวจผู้ป่วย “เกิดอะไรขึ้นครับ”
เฉินชางตอบว่า “เฮ่อหย่งกาง เพศชาย อายุ 62 ปี แต่งงานแล้ว เกษตรกร เมื่อหนึ่งชั่วโมงก่อนกลิ้งตกจากเขา ส่วนท้องมีบาดแผลถูกแทง ตอนนี้ยังมีสิ่งแปลกปลอมอยู่ในท้อง อาการปัจจุบัน เจ็บท้องด้านบนขวาต่อเนื่องหนึ่งชั่วโมง…ยังรู้สึกตัว พูดชัด จากการให้ความร่วมมือในการตรวจร่างกาย ท้องด้านบนขวามีแผลไม่เป็นรูปร่างเส้นผ่านศูนย์กลางสี่เซนติเมตร แผลลึกไปถึงช่องท้อง เยื่อโอเมนตัมใหญ่[1]โผล่ออกมาภายนอก ทั้งท้องมีอาการกดเจ็บ[2]กึ่งอาการปล่อยเจ็บ[3] ความดันเลือด 100/60mmHg ไม่มีเสียงลําไส้แล้ว สงสัยว่ามีความเสียยหายที่ตับ ยังไม่มีสัญญาณของการเสียเลือดจำนวนมาก…ประวัติการป่วย เป็นความดันโลหิตสูงมา 13 ปี กินยา…”
เฉินชางสอบถามสถานการณ์ของผู้ป่วยจากคนในครอบครัวไว้เรียบร้อยแล้ว จึงบอกอาการอย่างชำนาญจนเสิ่นซิวหย่วนอึ้งไปเลย
แม่งเอ๊ย…เป็นมืออาชีพมาก!
เหมือน…เป็นมืออาชีพกว่าฉันซะอีก…
ขนาดพยาบาลแผนกฉุกเฉินที่อยู่ข้างๆ ยังมองจนตาค้าง
มีคนโหดโผล่มาแล้ว จะมาก่อกวนในอาณาเขตคนอื่นเหรอ
เห็นได้ชัดว่าไม่ใช่!
หลังจากผลักประตูออกมาแล้ว ทุกคนก็หามเหล่าเฮ่อขึ้นไป เฉินชางมองเสิ่นซิวหย่วนพร้อมบอกว่า “คุณหมอ ลำบากคุณแล้วครับ!”
เสิ่นซิวหย่วนงงนิดหน่อย “ไม่ลำบากครับ ไม่ลำบาก!”
เสิ่นซิวหย่วนบอกพยาบาลข้างๆ “ให้ออกซิเจน! เตรียมเครื่องตรวจวัดคลื่นไฟฟ้าหัวใจ”
“เตรียมเจาะเลือดจากเส้นเลือดดำ ตรวจหากรุ๊ปเลือด ตรวจความเข้ากันได้ของเลือด”
……
เสิ่นซิวหย่วนยังนับว่าแจกจ่ายงานอย่างเป็นขั้นเป็นตอน เฉินชางเห็นแล้วโล่งใจ
เขาไม่มีทางเลอะเลือนไปแทรกแซงการรักษาของคนอื่น ยิ่งไม่มีทางบุ่มบ่ามบอกอีกฝ่ายว่าตัวเองเป็นอย่างนั้นเป็นอย่างนี้ด้วย
อย่างไรเสียฐานะของเขาตอนนี้ก็คือญาติผู้ป่วย
ตอนที่รายงานอาการป่วยเมื่อครู่นี้ เขาก็พยายามทำให้แพทย์ฉุกเฉินเข้าใจอาการของผู้ป่วยขั้นต้นให้เร็วที่สุด
ในห้องฉุกเฉินตอนนี้ เสิ่นซิวหย่วนกำลังดูสัญญาณชีพของผู้ป่วย รวมทั้งสถานการณ์ที่ต่อเนื่องกัน พอนึกย้อนไปถึงคำพูดของชายหนุ่มเมื่อครู่นี้ เขาก็เริ่มอึ้งนิดหน่อย!
เพราะอีกฝ่ายรายงานอาการป่วยได้สอดคล้องกันตั้งแต่ต้นจนจบ ทั้งยังรายงานได้เป็นมืออาชีพ จริงจังและน่าเชื่อถือกว่าตนเสียอีก
พยาบาลที่อยู่ข้างๆ ถามเสียงเบาว่า “หมอเสิ่น เอ่อ…สุดหล่อคนเมื่อกี้คงจะเป็นหมอมั้งคะ!”
เสิ่นซิวหย่วนใช้กรรไกรตัดเสื้อของผู้ป่วยออก ตรวจดูบาดแผลพร้อมพยักหน้าขานรับ “คงจะใช่!”
พยาบาลโล่งใจ “แต่…ตอนที่เขารายงานอาการป่วยเมื่อกี้นี้ ดูมีออร่าสุดๆ ฉันนี่ตกใจเลยค่ะ ถ้าไม่รู้คงนึกว่าหัวหน้าแผนกมาเอง!”
เสิ่นซิวหย่วนอึ้งทันที ไม่ต้องพูดถึงเลย เหมือนจริงๆ!
เฉินชางทำการรักษาฉุกเฉินมาเป็นเวลานาน เผชิญกับสถานการณ์พิเศษอยู่บ่อยๆ บางครั้งพูดจากับแพทย์ในแผนกได้เด็ดขาดรวดเร็วมาก ให้ความรู้สึกเหมือนไม่มีอะไรต้องกังขา จึงทำให้พยาบาลที่ได้ยินอึ้งนิดหน่อย
เฉินชางที่อยู่ด้านนอกพาภรรยาของเหล่าเฮ่อไปทำเรื่องรักษา จากนั้นก็รอด้วยความอดทนและกระวนกระวาย
เมื่อเห็นเธอค่อนข้างวิตกกังวลจนเกือบสติหลุด เฉินชางก็เริ่มปลอบใจ
เป็นครั้งแรกที่เขานั่งอยู่ตรงนี้ด้วยฐานะญาติผู้ปป่วย เฉินชางบอกตามตรงว่าไม่มีความรู้สึกปลอดภัย!
ไม่แปลกใจที่ญาติผู้ป่วยทุกคนพากันกระวนกระวายใจ
แต่การที่ญาติผู้ป่วยวิตกกังวล ก็เพราะเป็นห่วงว่าสถานการณ์ของผู้ป่วยเป็นอย่างไรกันแน่
สิ่งที่เฉินชางกำลังคิดตอนนี้ก็คือ ตอนนี้ควรตรวจอาการที่เกี่ยวข้อง สอดท่อเข้ากระเพาะอาหาร ใส่เครื่องดูดเพื่อลดความดันในช่องท้อง…ใช้ยาปฏิชีวนะที่มีประสิทธิภาพ ผู้ป่วยที่มีการบาดเจ็บช่องท้องแบบนี้ ควรฉีดวัคซีนป้องกันบาดทะยักให้เสร็จสมบูรณ์โดยเร็วที่สุด…
จากนั้นก็รีบผ่าท้องเพื่อตรวจอย่างอื่นที่เกี่ยวข้องโดยเร็วที่สุด!
ถึงยังไงข้างในก็มีแท่งไม้ที่ไม่มั่นคงเสียบอยู่ในท้อง!
ทุกอย่างล้วนเป็นปัจจัยที่ไม่คงที่!
…
ความรู้สึกแบบนี้เหมือนให้คนขับรถผู้มากประสบการณ์นั่งตรงเบาะข้างคนขับ แล้วคอยดูคนอื่นขับรถแทน
ความรู้สึกแบบนี้ไม่มีความปลอดภัยเลย อยากจะสลับตำแหน่งเพื่อให้มีอำนาจเบ็ดเสร็จในการควบคุมพวงมาลัยเสียตอนนี้เลย…
เมื่อนึกถึงตรงนี้ เฉินชางก็รีบส่ายหน้า เป็นผู้ป่วยก็ต้องเชื่อมั่นในตัวหมอ
หลังจากเสิ่นซิวหย่วนเตรียมงานเสร็จ ก็ส่งตัวผู้ป่วยไปที่ห้องผ่าตัดทันที เตรียมผ่าท้องกำจัดสิ่งแปลกปลอม
แต่หลังจากเขาผ่าท้องแล้ว ก็พบว่ากิ่งไม้ที่แทงท้องไม่ใช่แค่แท่งไม้ธรรมดาแท่งเดียว ยังมีกิ่งไม้เล็กๆ ที่แตกแขนงออกมาด้วย มันแทงเข้าไปในตับแล้ว!
ปลายแหลมของง่ามกิ่งแทงลึกเข้าไปในลำไส้ เผยให้เห็นแผลทะลุขนาดใหญ่หนึ่งรอย
ส่วนตับที่อยู่อีกด้านหนึ่งกลับเป็นจุดที่อันตรายที่สุด ง่ามกิ่งที่แหลมเล็กแท่งหนึ่งเสียบอยู่ในเส้นเลือดบริเวณรอบตับ ตอนนี้มีเลือดซึมออกมาไม่หยุด
เสิ่นซิวหย่วนสีหน้าเปลี่ยนทันที หันไปบอกพยาบาลว่า “โทรหาหัวหน้าแผนก ให้เขามารักษาฉุกเฉินเดี๋ยวนี้เลย!…
…แล้วก็เตรียมหนังสือแจ้งภาวะเจ็บป่วยวิกฤต ให้ญาติผู้ป่วยเซ็นชื่อ”
สถานการณ์ตอนนี้ ไม่ใช่สิ่งที่เสิ่นซิวหย่วนจะรับมือไหวแล้ว!
ยังดีที่อีกฝ่ายส่งตัวมาถึงโรงพยาบาลทันเวลา ไม่อย่างนั้นก็จะเกิดปัญหาใหญ่กว่านี้ ตอนที่เห็นเส้นเลือดบริเวณรอบตับมีเลือดซึมไม่หยุด เสิ่นซิวหย่วนก็เหงื่อซึมเต็มหลัง!
[1] โอเมนตัมใหญ่ (Greater omentum) เป็นชั้นเยื่อบุช่องท้องที่หุ้มรอบอวัยวะภายในช่องท้อง
[2] อาการกดเจ็บ (tenderness) เป็นอาการแสดงทางการแพทย์อย่างหนึ่ง หมายถึงเมื่อตรวจร่างกายแล้วพบว่าผู้ป่วยมีอาการเจ็บที่อวัยวะหนึ่งเมื่อถูกกดหรือสัมผัส
[3] อาการปล่อยเจ็บ (rebound tenderness) คือค่อย ๆ กดหน้าท้องลงไปช้า ๆ (ระวังอย่าให้คนไข้เจ็บ) จนคนไข้เริ่มเจ็บหรือเริ่มรู้สึกตึงฝ่านิ้วมือที่กด แล้วให้ยกมือขึ้น (เลิกกด) ทันที ถ้าคนไข้สะดุ้ง หรือนิ่วหน้า หรือร้องเพราะเจ็บ แสดงว่าหน้าท้องบริเวณที่ตรวจนั้นมี “อาการปล่อยเจ็บ”