บทที่ 553 สารานุกรมสำนวนของแผนกศัลยกรรม
ตอนเฉินชางกลับมาถึงโรงพยาบาลก็เป็นเวลาเที่ยงตรงแล้ว หวังโส้วอยากให้เฉินชางอยู่กินข้าวด้วยกันก่อน แต่เฉินชางปฏิเสธอ้อมๆ
ตอนนี้หวังโส้วกำลังตกอยู่ในสถานการณ์อึดอัด เฉินชางไม่อยากรบกวนอีกฝ่าย
เขาตอบด้วยน้ำเสียงราบเรียบว่า “หัวหน้าหวัง วันหลังมาเป็นแขกที่โรงพยาบาลอันดับสองนะครับ”
พูดจบก็ลุกขึ้นเดินออกไป
หวังโส้วพยักหน้าอย่างปลื้มใจเช่นกัน หมอเฉินคนนี้ไม่เลวเลยจริงๆ “รวบกวนหมอเฉินแล้วครับ ให้คุณมาเสียเที่ยว”
เฉินชางโบกมือ พยักหน้าแล้วเดินออกไป
เรื่องครั้งนี้ลุกลามใหญ่โตแล้วจริงๆ
เพียงแต่พยานในที่เกิดเหตุมีเยอะขนาดนั้น มีบันทึกการผ่าตัดจากกล้องทั้งในและนอกห้องผ่าตัด ดังนั้นการรวบรวมหลักฐานจึงง่ายมาก
สิ่งที่ยุ่งยากก็คือปัญหาความขัดแย้งในครอบครัวของหวังโส้ว
ครั้งนี้โรงพยาบาลจัดการได้อย่างเที่ยงตรงและน่าเชื่อถือมาก บอกหวังโส้วว่า เรื่องครั้งนี้ไม่ว่าจะจัดการอย่างไร ก็จะไม่ส่งผลกระทบใดๆ ต่องานของเขา โรงพยาบาลสนับสนุนทุกการกระทำของหวังโส้ว ไม่ว่าจะยืนอยู่ในมุมของการเมืองหรือศีลธรรม!
เฉียนเลี่ยงยังไม่ไป เขาคอยอยู่คุมสถานการณ์ให้หวังโส้วเช่นเดียวกัน
เป็นเพื่อนร่วมอาชีพเดียวกันมาหลายสิบปี อยู่แผนกเดียวกันสิบกว่าปี ความสัมพันธ์ของทั้งสองเป็นเหมือนคู่แข่ง แต่ก็เป็นเพื่อนร่วมงานกันด้วย
หวังโส้วนึกไม่ถึงว่าคนที่อยู่ช่วยเขากลับเป็นเฉียนเลี่ยง เขาประหลาดใจนิดหน่อย
……
……
หลังจากเฉินชางกินอาหารร้านหลิวมามาตรงประตูโรงพยาบาลอันดับสองแล้ว ก็กลับไปที่ห้องเวรของแผนกฉุกเฉินทันที เขาขี้เกียจกลับไปนอนคิดมากบนเตียงที่บ้านตัวเอง
หลังจากผ่านไปนาน เฉินชางถอนหายใจเฮือกหนึ่ง
ทำอาชีพหมอต้องรู้จักปรับอารมณ์ตัวเองไม่ให้ถูกเรื่องราวต่างๆ ของผู้ป่วยควบคุม
เฉินชางส่ายหน้า ไม่ไปคิดเรื่องพวกนั้นแล้ว
จากนั้นเขาจึงเปิดดูรางวัลที่ได้จากการผ่าตัดโรงพยาบาลประชาชนแห่งมณฑลจิ้นหยางเมื่อวาน
[ติ๊ง! รักษายื้อชีวิตเสร็จสิ้น ผ่าตัดซ่อมแซมเส้นเลือดบริเวณรอบตับที่เสียหายสำเร็จ เย็บตับที่เสียหาย…สถิติรวม ได้รับรางวัล
1. เลเวล +1
2. หนังสือทักษะผ่าตัดหลอดเลือดแดงใหญ่เอออร์ตาตีบตัน
3. ยาบำรุงพลัง +2
4. ถุงนำโชค 1 ใบ]
หลังจากเห็นแจ้งเตือนระบบ จู่ๆ เฉินชางก็อารมณ์ดีขึ้นบ้างแล้ว
ได้ผลตอบแทนเป็นกอบเป็นกำ!
แต่…ผ่าตัดหลอดเลือดแดงใหญ่เอออร์ตาตีบตันไม่ใช่การผ่าตัดระดับสี่หรอกเหรอ
[ผ่าตัดหลอดเลือดแดงใหญ่เอออร์ตาตีบตัน ระดับปรมาจารย์ เงื่อนไขการเรียนรู้: เลเวลเกิน 40 หรือคะแนนอาชีพแผนกศัลยกรรมหัวใจเกิน 50 คะแนน ยังไม่ตรงตามเงื่อนไข]
เฉินชางยักไหล่ คิดแล้วว่าต้องเป็นแบบนี้
เพียงแต่เขาก็เข้าใกล้มากแล้ว เลเวลเพิ่มขึ้นมาหนึ่งเลเวลจากการผ่าตัด สมกับเป็นมอนสเตอร์หายากเลเวลแปดสิบ ตีมอนสเตอร์ชั้นลอร์ดถึงอกถึงใจกว่าจริงๆ ตอนนี้เขาเลเวล 36 แล้ว
พอเปิดถุงนำโชค เฉินชางก็ได้รับคะแนนทักษะ +2 อีกครั้ง
สรุปก็คือ การผ่าตัดเคสเมื่อวานได้รับรางวัลเป็นกอบเป็นกำ!
……
……
ตลอดทั้งช่วงบ่าย ศูนย์แพทย์ฉุกเฉินส่งผู้ป่วยที่ต้องผ่าตัดฉุกเฉินมาสองคน เป็นผู้ป่วยจากอุบัติเหตุทางรถยนต์ทั้งคู่ เฉินชางนำทีมแพทย์เตรียมงานกู้ชีพทันที
แต่ที่น่าเสียดายก็คือ คนแรกเสียเลือดมากระหว่างทาง เกิดภาวะช็อค พอมาถึงโรงพยาบาลผู้ป่วยก็เสียชีวิตแล้ว ยื้อชีวิตไว้ไม่ทัน
แผนกฉุกเฉินก็เป็นอย่างนี้ คุณยังไม่ทันตอบสนองอะไร ก็มีผู้ป่วยอีกคนวิ่งมาหาอย่างเร่งด่วนแล้ว
หมอในทีมฉุกเฉินทั้งห้าคนไม่มีเวลาพักผ่อนตลอดทั้งบ่าย
บางทีเหอทงคงตระหนักได้ถึงความสำคัญของเฉินชาง ทุกครั้งที่จะส่งคนมาถึงตรงหน้า ก็ต้องถามพยาบาลก่อนว่าเฉินชางอยู่หรือไม่ ถ้าเฉินชางอยู่ ผู้ป่วยบางคนก็จะถูกส่งตัวมา
ถ้าไม่อยู่ ก็ย่อมต้องส่งไปที่โรงพยาบาลอื่น
การฝึกที่มีเป้าหมายแบบนี้ สำหรับเฉินชางแล้วถือว่าก้าวหน้าขึ้นเยอะมาก!
สำหรับการผ่าตัดและความเข้าใจที่มีต่อหลอดเลือดใหญ่หัวใจ เขาก็ยิ่งเชี่ยวชาญมากขึ้นแล้วเช่นกัน
ใช้เวลาประมาณหนึ่งสัปดาห์ การผ่าตัดเพิ่มขึ้นทุกวันสามสิบกว่าเคส งานกู้ชีพที่มีระดับความยากสูงแบบนี้ ถือเป็นการฝึกฝนที่ต้องใช้ปณิธานแน่วแน่มากสำหรับทุกคน
ตอนกลางคืน ประมาณห้าทุ่ม ห้าคนในห้องผ่าตัดนั่งพักผ่อนบนพื้น เอนหลังพิงผนังห้อง
ในมือพวกเขาถือถุงกลูโคส
หวังเชียนรู้สึกว่าช่วงนี้เขาก้าวหน้าเร็วที่สุดตั้งแต่เริ่มทำอาชีพแพทย์ เป็นช่วงเวลาที่ได้เติบโตมากที่สุด
เดิมทีเขามาจากแผนกศัลยกรรมทั่วไป มีโอกาสได้เห็นการผ่าตัดแบบนี้เสียที่ไหนกัน
หวังเชียนยิ้ม “เฮ้อ…วันนี้ถือว่ารู้แล้วว่าอะไรเรียกว่าตับลำไส้แตกเป็นชิ้นๆ[1] อาจารย์เฉิน คุณเก่งเกินไปแล้ว เป็นขนาดนี้คุณยังผ่าตัดซ่อมแซมได้!”
เฉินชางส่ายหน้ายิ้มโดยไม่พูดอะไร
โจวเสี่ยวตงที่อยู่ข้างๆ รับมุก “อย่าว่าแต่ตับลำไส้แตกเป็นชิ้นๆ เลย อาจารย์เฉินน่ะต่อให้ป็น [ตับแตกสมองกระจาย[2]] ก็คงจัดการได้ไม่มีปัญหาเหมือนกัน!”
จางเหวินฟู่หัวเราะลั่น “งั้นก็เพิ่ม…[หัวใจฉีกปอดแตก[3]] ไปด้วยเป็นไง”
เฉินชางพูดไม่ออกแล้ว คนพวกนี้เก่งเกินไปแล้ว นำสำนวนมาใช้แบบนี้ก็ได้!
โจวเสี่ยวตงก็นึกสนุกด้วยเหมือนกัน “แล้วยังมีอะไรอีกนะ…อ้อ ใช่ เรียกว่า [ตับและถุงน้ำดีแตก[4]]…[หัวใจทะลุตับแตก[5]]!”
หวังเชียนส่ายหน้า “พวกคุณไม่รู้เหรอ อาจารย์เฉินเชี่ยวชาญเรื่อง [แหวกไส้ผ่ากระเพาะ[6]] ที่สุดแล้ว เขาชอบจัดการกับ [หนังแยกเนื้อปริ[7]] ที่สุด ตอนนี้ระดับของเขาคือ [ผ่าใจแยกตับ[8]] ในด้านความพยายามก็ [มีภาพต้นไผ่อยู่ในใจ[9]]”
กลุ่มแพทย์พากันส่งเสียงหัวเราะ
ความสุขของผู้ชายก็เรียบง่ายแบบนี้!
พยาบาลที่อยู่ข้างๆ กำลังเก็บงานผ่าตัด พอได้ยินเสียงคนพวกนี้คุยกัน พวกเธอก็อดหัวเราะไม่ได้
ย่วนย่วนยิ้มและบอกว่า “พวกคุณโหดขนาดนี้เลยเหรอ เอาแต่ละสำนวนมาพูดจนเลือดไหลหมดแล้ว ต่อไปเวลาพูดถึงสำนวนพวกนี้ ฉันก็ไม่กล้าใช้แล้วค่ะ”
หวังเชียนหัวเราะลั่น “ย่วนย่วน คุณไม่เข้าใจสินะ แบบนี้สิถึงจะเรียกว่าเรียนแล้วนำไปใช้ได้จริง เมื่อก่อนผมไม่ค่อยเข้าใจสำนวนพวกนั้นลึกซึ้งนักหรอก แต่หลังจากผ่าตัดไปไม่กี่คนก็ไม่ต้องพูดถึงเลย…ยิ่งผ่าตัดยิ่งรู้ซึ้งจริงๆ”
“คุณก็เหมือนกับเคสผ่าตัดเมื่อวานนี้ เคส [ดึงไส้แขวนกระเพาะ] นั่นน่ะ คุณว่าไหม ลำไส้เขาบิดม้วนเป็นก้อนเลย จะไม่ทรมานยังไงไหว ต้องร้อนใจขนาดไหนกัน!”
โจวเสี่ยวตงอดเอามือปิดหน้าไม่ได้ “พี่รองเชียน นั่นคือลำไส้อุดตันชัดๆ”
หวังเชียนพยักหน้า “ใช่แล้ว คุณลองบอกมาสิ ลำไส้อุดตันเชียวนะ ไม่กังวลก็แปลกแล้ว คุณว่าในใจเขาจะกังวลมากขนาดไหนกัน! บรรพบุรุษของพวกเราเก่งเกินไปแล้ว บรรยายได้สมจริงมาก สร้างวลีแต่งประโยคได้เยี่ยมมาก!”
เฉินชางฟังพวกเขาหยอกล้อกันก็รู้สึกสุขใจตามไปด้วยเช่นกัน ในช่วงเวลานี้ เพราะพวกเขาปรับตัวเข้าหากันได้ ระดับทักษะจึงก้าวหน้าขึ้นเยอะมาก
ทีมนี้กลายเป็นรูปเป็นร่างอย่างจริงจังแล้ว มีความสามารถขั้นต้นในการรับมือเหตุฉุกเฉินได้แล้ว
แต่เขาก็พบว่าเรื่องนี้…
ความโชคร้ายของตนเป็นเรื่องที่แน่นอน! แต่…หวังเชียน หมอนี่คือสัตว์มงคลของทีม
เดิมทีแผนกฉุกเฉินได้รับโทรศัพท์ให้รับตัวผู้ป่วยเคสหัวใจถูกแทงด้วยของมีคม พอหวังเชียนกับจางเหวินฟู่ไปรับ ผลก็คือพบว่าของมีคมอยู่ห่างจากหัวใจไม่ถึงหนึ่งเซนติเมตร
อีกทั้งผู้ป่วยไม่ได้บาดเจ็บถึงเส้นเลือดใหญ่ด้วย แค่แทงทะลุเยื่อหุ้มปอดจนบาดเจ็บถึงกระดูกซี่โครง!
สาเหตุที่ทำให้เกิดการเบี่ยงเบน ก็เพราะว่ากระดูกซี่โครงหักพอดี ทำให้ตอนที่มีดแทงเข้าไปเกิดการเบี่ยงเบนของมุมเล็กน้อย…
สิ่งนี้ทำให้พวกเขาหัวเราะไม่ได้ร้องไห้ไม่ออก
เฉินชางรู้สึกว่า ถ้าให้ตัวเองรับผู้ป่วยคนนี้ ก็มีความเป็นไปได้สูงมากว่าบังเอิญแทงทะลุผ่านช่องซี่โครงพอดี ทำให้บาดเจ็บไปถึงเส้นประสาทระหว่างซี่โครง ทั้งยังทะลุเข้าหัวใจห้องซ้าย!
ไม่แน่ว่าอาจจะเจอเคสหลอดเลือดแดงใหญ่เอออร์ตาปริแตกอีกแล้วก็ได้…
ระหว่างคนโชคร้ายกับคนโชคดี ความแตกต่างช่างชัดเจนจริงๆ!
……
……
หวังข่ายอันเห็นทุกคนหยอกล้อกันอย่างสนุกสนาน ก็ได้แต่หัวเราะอย่างเดียว เขาพูดน้อยมาก เขาเพิ่งมาที่โรงพยาบาลอันดับสองได้ไม่ถึงหนึ่งเดือน แต่ช่วงนี้กลับเป็นช่วงที่หวังข่ายอันรู้สึกผ่อนคลายที่สุด
แม้ตอนนี้โรงพยาบาลตงต้าสาขาสองให้สวัสดิการเขาค่อนข้างดี แต่เขาไม่เคยเจอสภาพแวดล้อมและบรรยากาศการทำงานแบบนี้มาก่อน
ที่จริงบรรยากาศและสภาพแวดล้อมการทำงานสำคัญกว่าหน่วยงานเสียอีก โรงพยาบาลอันดับสองมีชื่อเสียงน้อยกว่าโรงพยาบาลตงต้าสาขาสองประมาณห้าหกอันดับ ย่อมอยู่ในระดับที่น้อยกว่าอยู่แล้ว
แต่ตอนแรกที่ตัวเองอยู่แผนกศัลยกรรมทรวงอก หัวหน้าแผนกไม่ได้ปฏิบัติกับตนเหมือนแพทย์รองหัวหน้าแผนกเลย ถึงขั้นตำหนิทุกเรื่องด้วย…
เงื่อนไขการทำงานที่โรงพยาบาลเสนอให้เขาก็ไม่ได้แย่ เขาเองก็ทำได้ดี แต่ปัญหาเรื่องความปรองดองในแผนก สุดท้ายก็ยังเป็นโจทย์ที่แก้ยาก
นี่ไม่ใช่เรื่องที่โรงพยาบาลจะปรับปรุงได้
ดังนั้น หลังจากหวังข่ายอันหมดสัญญาจ้างงานแล้ว ก็ตัดสินใจออกจากโรงพยาบาลตงต้าสาขาสองอย่างไม่ลังเล ย้ายมาที่โรงพยาบาลอันดับสองที่ไม่มีแม้แต่แผนกศัลยกรรมทรวงอก
ทางโรงพยาบาลอันดับสองให้สัญญากับหวังข่ายอันไว้ว่าภายในสามปีจะตั้งแผนกศัลยกรรมทรวงอก ให้เขาตั้งทีมศัลยกรรมทรวงอกที่แผนกฉุกเฉินชั่วคราว ให้เขาเป็นผู้นำทีมก่อน จากนั้นใช้เวลาสามปีเพื่อสร้างทีมของเขาเอง
ฉินเสี้ยวยวนให้อิสระกับหวังข่ายอันมากพอสมควร ถึงขั้นให้อำนาจในการสร้างทีมด้วย ถือว่าใส่ใจมากแล้ว
แต่ตอนเพิ่งเข้ามาใหม่ หวังข่ายอันก็ได้เข้าร่วมทีมรักษาฉุกเฉินพอดี
เดิมทีหวังข่ายอันยังไม่เข้าใจว่าทำไมหลี่เป่าซานที่เป็นหัวหน้าแผนกถึงให้เฉินชางมารับผิดชอบทีมรักษาฉุกเฉินทีมนี้ แต่ตอนนี้เขาเข้าใจแล้ว
เป็นเพราะความสามารถของเฉินชาง เขาคือคนที่น่ากลัวมากคนหนึ่ง บางทีใช้คำว่าพรสวรรค์ก็ไม่ค่อยเหมาะสม คนคนหนึ่งมีความสามารถในการผ่าตัดได้หลายประเภทพร้อมกันแบบนี้ ทั้งยังมีความรู้ระดับปรมาจารย์ด้วย แม้แต่การผ่าตัดของแผนกศัลยกรรมทรวงอกที่ตัวเองภาคภูมิใจที่สุด เมื่อเทียบกับทักษะของเฉินชางแล้วก็ยังห่างชั้นกันมาก
อีกทั้ง…เนื่องจากเสน่ห์เฉพาะตัวบางอย่างของเฉินชาง จึงทำให้ทีมนี้กลายเป็นทีมที่มีพลังได้
ดังนั้น แม้จะเป็นหวังข่ายอันที่เรียนปริญญาเอก จะให้เขาเรียกเรียกชางว่า ‘อาจารย์เฉิน’ เขาก็เต็มใจอยู่ดี
……
……
หลังจากย่วนย่วนเก็บงานเรียบร้อยแล้วก็บอกหวังเชียนว่า “พี่รองเชียน กลูโคสเจ็ดถุงวันนี้ ใครเป็นคนเลี้ยงคะ”
“ผมเลี้ยงเอง!” หวังเชียนตอบอย่างไม่ใส่ใจ
แต่จู่ๆ หวังเชียนก็ชะงัก “ย่วนย่วน ทำไมพวกคุณต้องถามผมทุกวันว่าใครเป็นคนเลี้ยง”
ย่วนย่วนอึ้ง แล้วยิ้มอย่างเก้อเขิน “หัวหน้าพยาบาลให้ฉันถามค่ะ”
หวังเชียนได้ยินแล้วหัวเราะทันที “อ้อ! หัวหน้าพยาบาลรู้สึกว่าผมเป็นคนดีสินะ”
ย่วนย่วนตอบอย่างเกรงใจ “หัวหน้าพยาบาลบอกว่าคุณเป็นคนหลงตัวเอง ชอบเลี้ยง แล้วก็บอกว่าอย่าถามหมอเฉิน หมอเฉินทำงานลำบากขนาดนั้น ไม่ต้องมาคิดเรื่องพวกนี้แล้ว ยังบอกด้วยว่าถ้าหมอเฉินถามแบบนี้ ให้ตอบว่าไปเบิกที่ห้องผ่าตัดค่ะ”
พยาบาลที่อยู่ข้างๆ ก็พูดเช่นกันว่า “ใช่ค่ะ! หัวหน้าพยาบาลยังบอกอีกว่า กลูโคสก็เป็นเงินเหมือนกัน ประหยัดได้ก็ประหยัด คุณหมอหวังใจกว้าง ไม่ถือสาเงินเล็กน้อยพวกนี้”
“อ้อ ใช่ พี่รองเชียน ฉันจดบัญชีให้คุณแล้วค่ะ! คิคิ…”
หวังเชียนเผยสีหน้างุนงงทันที “โห ไม่ยุติธรรมเลย…ลูกค้ารายใหญ่นั่งอยู่ตรงนี้ต่างหาก ขูดรีดผมแบบนี้ พวกคุณไม่ปวดใจบ้างเหรอครับ”
ทุกคนได้ยินแล้วหัวเราะลั่นพร้อมกันทันที
แต่หวังเชียนก็ไม่ถือสาเลยจริงๆ กลูโคสไม่กี่ถุงเอง…ฮือๆ…
……
……
เช้าตรู่วันต่อมา เฉินชางมาถึงแผนกฉุกเฉินด้วยความเคยชิน เพียงแต่วันนี้เขากินอาหารเช้ามากไป พุงป่องนิดหน่อย…
ตอนเช้ามีผู้ป่วยค่อนข้างเยอะ ตรงประตูก็มีแถวต่อยาว
เมื่อวานเป็นเวรดึกของหัวหน้าแผนกอัน เขาพูดกับเฉินชางว่า “เสี่ยวเฉินมาแล้วเหรอ รีบไปดูผู้ป่วยนอกเร็ว ห้อง ICU มีผู้ป่วยพิเศษอยู่คนหนึ่ง ผมจะไปจัดการสักหน่อย”
เฉินชางพยักหน้า แล้วให้พยาบาลที่เฝ้าเคาน์เตอร์เรียกคนเข้าไป
ตอนที่เพิ่งนั่งลง ก็มีชายกับหญิงที่เป็นคิวหมายเลขเจ็ดกับแปดเดินเข้ามาแล้ว อายุประมาณห้าสิบกว่า
แต่…ในมือทั้งสองล้วนมีกล่องพลาสติกคนละใบ
หลังจากผู้ชายนั่งลง สีหน้าก็หวาดกลัวเล็กน้อย ถามอย่างกระวนกระวายว่า “คุณหมอครับ ผมคงป่วยแล้วใช่ไหม!”
เฉินชางงุนงงไปชั่วขณะ รีบถามว่า “เกิดอะไรขึ้นครับ”
ผู้ชายคนนั้นถอนหายใจเฮือกหนึ่งแล้วนำกล่องใบหนึ่งที่เหมือนกับกล่องข้าวออกมาจากถุงพลาสติกสีดำ “มันน่าเกลียดนิดหน่อยครับ คุณหมอครับ คุณ…ไม่ถือสาใช่ไหม”
เฉินชางพยักหน้า “ครับ ไม่เป็นอะไร คุณบอกมาก่อนเถอะครับว่าคุณรู้สึกไม่สบายตรงไหน”
ชายคนนั้นส่ายหน้า “ผมไม่ได้รู้สึกไม่สบาย…แค่ตอนเช้าที่ตื่นขึ้นมาเข้าห้องน้ำ ผมเจอว่า…ปัสสาวะของผมเป็นสีเขียว!”
หลังจากพูดจบ ชายคนนั้นก็นำกล่องใสใบหนึ่งออกมา ตอนนี้มองเห็นของเหลวสีเขียวที่อยู่ข้างในกล่องได้
เฉินชางขมวดคิ้วเล็กน้อย “คุณเปิดให้ผมดูหน่อยครับ”
ชายผู้ป่วยพยักหน้าแล้วเปิดกล่องออก
หลังจากเฉินชางเห็นปัสสาวะสีเขียวหม่นก็ขมวดคิ้วแล้วเงยหน้าถาม “ช่วงนี้คุณไปกินอะไรมาหรือเปล่าครับ เช่นอาหารที่ย้อมสี”
ชายคนนั้นรีบส่ายหน้า “เปล่าครับ! กินไม่ต่างจากปกติเท่าไร”
เฉินชางพยักหน้า โดยทั่วไป สีของปัสสาวะที่ปกติคือสีเหลืองอ่อน โปรงแสงและไม่ขุ่น
แต่ของเหลวอย่างน้ำปัสสาวะ สีของมันอาจจะแปลกไปได้หลากหลายสี เช่นแดง ฟ้า เหลือง…
แต่ถ้าเป็นสีเขียวเข้มแบบนี้…ส่วนใหญ่ปัสสาวะสีแบบนี้จะเกี่ยวข้องกับการกินยา ไม่ใช่เพราะเกิดภาวะเจ็บป่วย
แน่นอนว่าถ้าเป็นอหิวาตกโรคหรือโรคไข้รากสาดใหญ่ ก็จะเกิดสีนี้ได้เหมือนกัน แต่สาเหตุเหล่านี้แทบจะไม่ค่อยเกิดขึ้น
พอคิดได้แบบนี้ เฉินชางก็บอกว่า “คุณไม่ได้ป่วยอะไรครับ เคยกินยาอะไรหรือเปล่า ตอนนี้ยังกินอยู่ไหม”
ชายคนนั้นตอบว่า “ผมเป็นความดันเลือดสูง ภาวะหัวใจล้มเหลวเรื้อรัง กินยาเป่ยจิงหลิงฮ่าวกับยาซือฮุ่ยต๋า[10] อย่างอื่นไม่เคยกินครับ”
เฉินชางได้ยินแล้วก็เริ่มเข้าใจ “ยาเป่ยจิงหลิงฮ่าว[11]? กินมานานเท่าไรแล้วครับ”
ชายคนนั้นทำท่าครุ่นคิด “กินมาหลายปีแล้วครับ แต่กินบ้างหยุดบ้าง ช่วงก่อนหน้านี้เท้าบวม คุณหมอเลยให้ผมกินเยอะขึ้นนิดหน่อย…
…คุณหมอ…ผมคงไม่ได้เป็นโรคประหลาดอะไรใช่ไหมครับ”
เฉินชางอดยิ้มไม่ได้ ตอบว่า “ผมคิดว่าคุณไม่น่าจะเป็นอะไรนะครับ แต่ตอนนี้ผมก็ยังให้ข้อสรุปอะไรไม่ได้เหมือนกัน เอาอย่างนี้ครับ คุณไปตรวจปัสสาวะกับตรวจทางกล้องจุลทรรศน์ แล้วเราค่อยมาดูกันอีกที…
…อาจเป็นยารีเซอร์พีน[12] หรืออาจจะเกี่ยวข้องกับยาเป่ยจิงหลิงฮ่าวก็ได้”
“ยาเป่ยจิงหลิงฮ่าวทำให้ฉี่เปลี่ยนเป็นสีเขียวได้ด้วยเหรอครับ” ชายคนนั้นงง
เฉินชางพยักหน้า “ใช่ครับ ถ้าตอนนี้คุณยังไม่มีอาการเจ็บป่วยอย่างอื่นเป็นพิเศษ น้ำปัสสาวะสีเขียวแบบนี้ อาจจะเป็นเพราะ Compound Hypotensive Tablets[13] คุณไปตรวจปัสสาวะดูสักหน่อยเถอะครับ”
ผู้ชายคนนั้นได้ยินแล้วโล่งอก จากนั้นรีบลุกขึ้นเดินออกไปข้างนอก
ไม่ได้ป่วยเป็นโรคร้ายแรงอะไรก็พอแล้ว…
ตอนนี้เอง ผู้หญิงที่อยู่ข้างหลังเดินเข้ามาแล้ว ท่าทางเธอดูเคอะเขินเล็กน้อย
“คุณหมอคะ อุจจาระของฉันทำไมเป็นสีขาวเทา…”
เฉินชางอึ้งทันที เช้านี้เป็นอะไรไปแล้ว
หรือเพราะ…ฉันกินข้าวเช้าเยอะเกินไป
[1] ตับลำไส้แตกเป็นชิ้น 肝肠寸断 เป็นสำนวน อุปมาว่าเสียใจมาก
[2] ตับแตกมันสมองกระจาย 肝脑涂地 เป็นสำนวน หมายถึงพลีชีพ
[3] หัวใจฉีกปอดแตก 撕心裂肺 เป็นสำนวน อุปมาว่าเจ็บปวดทรมานใจมาก
[4] ตับและถุงน้ำดีแตก 肝胆俱裂 เป็นสำนวน อุปมาว่าตกใจกลัวสุดขีด
[5] หัวใจทะลุตับแตก 刺心裂肝 เป็นสำนวน อุปมาว่าเศร้าโศกเสียใจอย่างสุดซึ้ง
[6] แหวกไส้ผ่ากระเพาะ 开肠破肚 สำนวน หมายถึงสืบจนรู้เรื่องราวกระจ่าง
[7] หนังแยกเนื้อปริ 皮开肉绽 สำนวน หมายถึงบาดเจ็บสาหัส ส่วนใหญ่เกิดจากการถูกทำร้าย
[8] ผ่าใจแยกตับ 剖心析肝 สำนวน หมายถึงซื่อสัตย์ภักดี
[9] มีภาพต้นไผ่อยู่ในใจ 胸有成竹 หมายถึง มีความพร้อม มีแผนการอยู่ในใจแล้ว
[10] ยาซือฮุ่ยต๋า 施慧达 ยาแผนปัจจุบัน ใช้รักษาอาการเจ็บแน่นหน้าอกที่เกิดขึ้นเมื่อหลอดเลือดแดงที่ลำเลียงเลือดไปเลี้ยงหัวใจตีบแคบลง
[11] ยาเป่ยจิงหลิงฮ่าว 北京降压0号 ยาแผนปัจจุบัน ชื่อภาษาอังกฤษ bei jing ling hao ใช้สำหรับรักษาความดันโลหิตสูงระดับกลาง
[12] ยารีเซอร์พีน (Reserpine) ใช้เป็นยาชนิดเดียวหรือใช้ร่วมกับยาอื่นเพื่อรักษาภาวะความดันโลหิตสูง ทำงานโดยการทำให้หลอดเลือดผ่อนคลาย
[13] Compound Hypotensive Tablets ยารักษาความดันโลหิตสูง
——————————————