ทะลุมิติสู่ยุค 70 ไปแต่งงานกับผู้ชายคลั่งรัก – ตอนที่ 139 ไม่ต้องกลัว มีผมอยู่

ทะลุมิติสู่ยุค 70 ไปแต่งงานกับผู้ชายคลั่งรัก

ตอนที่ 139 ไม่ต้องกลัว มีผมอยู่

ตอนที่ 139 ไม่ต้องกลัว มีผมอยู่

ฟู่ซวี่ตงออกจากเกสต์เฮาส์และคิดตามหาคนในบริเวณใกล้เคียง เพียงแต่เมื่อเขาเดินผ่านตรอกซอยหนึ่งเข้าก็ต้องชะงักลงทันที พลางก้มหยิบกิ๊บติดผมสีแดงอันหนึ่งขึ้นมาจากพื้น เห็นชัดเจนว่านี่คือของที่ติดอยู่บนผมของเสิ่นหรูฮวน

เมื่อหยิบกิ๊บติดผมขึ้นมาถือในมือ ฟู่ซวี่ตงก็รู้สึกสับสนขึ้นมานิดหน่อย

เสื่นหรูฮวนแค่ออกไปเดินเล่นจริงเหรอ หล่อนไม่ได้คุ้นเคยกับสถานที่นี้ คงไม่ได้มีเรื่องไม่ดีเกิดขึ้นกับหล่อนใช่ไหม คิดได้เช่นนั้นสีหน้าของฟู่ซวี่ตงก็เริ่มเป็นกังวลและเคร่งขรึม รีบออกตามหาคนโดยเร็ว

ภายในใจรู้สึกกังวลมากยิ่งขึ้น บุคลิกสบายๆ เมื่อครู่เปลี่ยนเป็นตื่นตัวจริงจังทันที นี่เป็นกิ๊บติดผมของเสิ่นหรูฮวน เป็นไปได้ไหมว่าจะมีอะไรเกิดขึ้นกับหล่อน

ฟู่ซวี่ตงพิจารณาโดยรอบอย่างถี่ถ้วนแล้วก็พบเบาะแสบางอย่างเข้า มีร่องรอยขีดข่วนบริเวณกำแพงกลางซอย ดูเหมือนว่าจะเป็นร่องรอยที่ทิ้งเอาไว้ เขาจึงเดินเข้าไปข้างในตามตรอกซอย

ตรอกซอยนี้ค่อนข้างลึกแคบหากเดินเข้าไปอีก ก็จะยิ่งมืด

เมื่อเดินตามซอยเข้าไปจนสุดทาง ฟู่ซวี่ตงก็ต้องขมวดคิ้ว นอกจากเครื่องหมายตรงกำแพงนั้นก็ไม่มีสิ่งใดผิดปกติตรงอื่นเลย หรือว่าเขาจะคาดเดาผิดไป?

แต่บริเวณนั้นมีบ้านทรงเตี้ยหลังหนึ่งตรงหัวมุม ซึ่งฟู่ซวี่ตงไม่เห็น

“คุณหนูเสิ่น ให้โอกาสผมหน่อยเถอะ คุณใจร้ายมากเลย คิดอยากจะหมั้นหมายกับผมก็เข้ามาพูดคุยเป็นหมั้นเป็นเหมาะ พอไม่ต้องการแล้วก็ปฏิเสธการหมั้นหมายของผม คุณทำกับผมเหมือนหมา เรียกให้มาก็มาแล้วก็ทิ้งหายไป น่าเสียดายที่ผมจะไม่มีทางให้คุณหนีรอดไปได้อีกแล้ว นอกจากผมคุณอย่าได้คิดจะแต่งกับชายอื่นเลย”

เสิ่นหรูฮวนได้ยินคำพูดนี้ก็ตัวสั่นเทาด้วยความโกรธ

แต่น่าเสียดายที่ตอนนี้หล่อนถูกผ้ายัดปากอยู่ จึงไม่สามารถพูดอะไรออกมาได้

เจิ้งเต๋อข่ายเห็นเสิ่นหรูฮวนเป็นแบบนั้นจึงหัวเราะ แล้วพูดขึ้น “ทำไม คุณมีอะไรจะแก้ตัวอีกไหม ผมก็อยากจะได้ยินว่าคุณจะพูดตอแหลอะไรบ้าง”

หลังจากพูดจบ เจิ้งเต๋อข่ายก็ดึงผ้าออกมาจากปากของเสิ่นหรูฮวน อยากจะฟังว่าเสิ่นหรูฮวนจะพูดอะไร

ความจริงเขาแอบตามเสิ่นหรูฮวนมาที่นี่ หลังจากเจอร่องรอยของหล่อนแล้ว เขาก็ยังไม่กล้าทำอะไรบุ่มบ่าม แต่นั่นก็ใช้เวลาเพียงไม่นานนัก หลังจากสำรวจบริเวณโดยรอบก็เจอสถานที่นี้เข้า จากนั้นจึงพาตัวเสิ่นหรูฮวนมาที่นี่ทันที ซึ่งสถานที่นี้ค่อนข้างรอดสายตาผู้คนยากที่จะสังเกตเห็น

หลังจากที่ผ้าถูกดึงออกจากปากของเสิ่นหรูฮวน ในที่สุดหล่อนพูดออกมาได้ “เจิ้งเต๋อข่าย คุณทำตัวมีปัญหาเองแท้ ๆ เป็นเพราะเรื่องความสัมพันธ์ที่ไม่ชัดเจนของคุณกับซูอวี้เจี๋ยต่างหาก ตระกูลของเราก็เลยยกเลิกการหมั้นหมาย แล้วจะมาโทษอะไรฉันอีก ทำไมคุณถึงหน้าด้านแบบนี้”

เมื่อได้ฟังคำพูดของเสิ่นหรูฮวน เจิ้งเต๋อข่ายก็เอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงเย็นชา “ผมกับลูกพี่ลูกน้องต่างบริสุทธิ์ใจ ไม่ได้มีอะไรในกอไผ่ มีแต่คุณนั่นแหละที่คอยใส่ร้าย”

ถึงแม้ว่าคำพูดหล่อนจะแทงใจดำอยู่บ้าง แต่เจิ้งเต๋อข่ายก็ยังคงเอ่ยทั้งที่อึดอัด รู้สึกว่าตระกูลเสิ่นกับหรูฮวนควรขอโทษเขา

“เหอะ…ระหว่างคุณกับซูอวี้เจี๋ยแค่มองก็ดูออกแล้ว ยังคิดจะปฏิเสธอยู่อีกเหรอ ฉันไม่อยากได้ผู้ชายอย่างคุณหรอก ถึงได้ถอนหมั้นกับคุณไง”

“คุณ…”

เจิ้งเต๋อข่ายได้ยินสิ่งที่เสิ่นหรูฮวนเอ่ย ก็มีสีหน้าขึงขัง จากนั้นก็หัวเราะขึ้นมา จ้องมองเสิ่นหรูฮวนด้วยสีหน้าทะนงตัวแล้วพูดขึ้น “เอาเถอะ คุณไม่อยากหมั้นกับผมไม่เป็นไร แต่หลังจากวันนี้พวกเราได้เสียเป็นสามีภรรยากันแล้ว ต่อให้คุณไม่ต้องการ ผมจะคอยดูว่าคุณจะยังปฏิเสธผมอีกไหม”

ตอนแรกเสิ่นหรูฮวนคิดว่าเจิ้งเต๋อข่ายลักพาตัวเธอมาเพียงเพื่อจะแก้แค้น แต่ฟังจากสถานการณ์ตอนนี้แล้ว เหมือนว่า….เขาจะขืนใจตน

“ค..คุณอย่าเข้ามานะ”

“เหอะ เหอะ…เสิ่นหรูฮวน วันนี้คุณต้องเป็นของผม ที่นี่ไม่ใครสักคน ฉินมู่หลานเพื่อนสนิทของคุณกับคนอื่น ๆ ก็กลับเข้าฐานทัพกันแล้ว ไม่มีใครรู้หรอกว่าคุณหายไป”

เมื่อได้ยินสิ่งนี้ สีหน้าของเสิ่นหรูฮวนก็เต็มไปด้วยความสิ้นหวัง

ใช่แล้ว มู่หลานกับสามีรวมถึงฟู่ซวี่ตงก็กลับไปกันหมดแล้ว พวกเขาคงไม่มาจนกว่าจะเช้า ถึงตอนนั้นหล่อนคงตกเป็นของเจิ้งเต๋อข่ายไปเรียบร้อยแล้ว

เมื่อคิดได้เช่นนั้น ความเศร้าในใจของเสิ่นหรูฮวนก็ปะทุขึ้นมา วันนี้เธอต้องตกอยู่ในน้ำมือของเจิ้งเต๋อข่ายอย่างนั้นหรือ

เมื่อเห็นสีหน้าสิ้นหวังของเสิ่นหรูฮวน เจิ้งเต๋อข่ายจึงเอ่ยพูดด้วยสีหน้าบูดบึ้ง “คุณจะเล่นตัวอะไรขนาดนั้น ตอนนี้คุณก็เลยเวลาที่ต้องแต่งงานแล้ว ถ้าผมทนมีอะไรกับคุณได้ คุณก็ยังใช้ได้แหละนะ”

โชคดีที่เสิ่นหรูฮวนเป็นคนสวย ถึงแม้จะไม่ใช่ผู้หญิงที่อยู่ในวัยแต่งงานแล้ว แต่เขาก็สามารถรับได้

ในตอนนี้ ฟู่ซวี่ตงที่เดินไปมาอยู่ในตรอกซอยอยู่ ๆ ก็หันหลังกลับมา เขารู้สึกว่าที่นี่มีบางอย่างผิดปกติ จึงเชื่อสัญชาตญาณของตัวเอง แล้วเดินกลับไปอีกครั้ง

“ไปให้พ้น ไปเดี๋ยวนี้…ฮือ….”

ด้วยเสียงลมพัดผ่าน เสียงร้องครวญครางจึงดังแว่วมา ท่าทางของฟู่ซวี่ตงเปลี่ยนไปทันที เขารีบวิ่งไปที่ต้นเสียงด้วยความเร็วดุจดั่งสายฟ้า เมื่อเขาเดินเข้าไปในบ้านโทรม ๆ หลังหนึ่ง ก็เห็นเจิ้งเต๋อข่ายกำลังฉีกทึ้งเสื้อผ้าของเสิ่นหรูฮวน และใบหน้าของเสิ่นหรูฮวนก็เต็มไปด้วยน้ำตา กำลังร้องไห้ด้วยความสิ้นหวัง

เมื่อเห็นเหตุการณ์ตรงหน้า ฟู่ซวี่ตงก็รู้สึกเหมือนดวงตาของเขาแทบจะระเบิด ไม่สามารถควบคุมร่างกายของตัวเองได้ ก่อนจะพุ่งตรงเข้าไปกระชากเจิ้งเต๋อข่ายแล้วปล่อยหมัดใส่

“พลั่ก…”

เจิ้งเต๋อข่ายล้มลงไปนพื้นอย่างแรง ยังไม่รู้ตัวว่าเกิดอะไรขึ้น แต่เมื่อเขาเห็นฟู่ซวี่ตง สีหน้าก็เต็มไปด้วยความประหลาดใจ “แก…ไม่ใช่ว่าแก…”

“อึก…”

แต่ยังไม่ทันจะเอ่ยจบ เจิ้งเต๋อข่ายก็พ่นเลือดออกมาอย่างเต็มปากเต็มคำ ก่อนที่จะเป็นลมล้มพับลงไป

เสิ่นหรูฮวนกำลังอยู่ในความสิ้นหวังไม่คิดว่าเหตุการณ์จะพลิกผัน จู่ๆ ฟู่ซวี่ตงก็ปรากฏตัวขึ้น จนถึงตอนนี้หล่อนก็ยังดึงสติกลับมาไม่ได้ ก่อนจะหันมองฟู่ซวี่ตงด้วยสายตาว่างเปล่าแล้วเอ่ยถาม “คุณ…คุณกลับไปแล้วไม่ใช่เหรอคะ ทำไมถึงมาอยู่ที่นี่ได้?”

“อยู่ ๆ ผมก็นึกขึ้นได้ว่ายังไม่ได้ถามคุณเลยว่าพักอยู่ห้องไหน กลัวว่าตอนผมมาอีกครั้งจะหาคุณไม่เจอ ก็เลยย้อนกลับมาหาคุณอีกครั้ง”

ตอนนี้ฟู่ซวี่ตงรู้สึกหวาดกลัวไปครู่หนึ่ง หากว่าตนไม่กลับมา คงได้เกิดเรื่องกับเสิ่นหรูฮวนแน่นอน ดฯฌซ,ฑ๊โฌฮฤ

เสิ่นหรูฮวนได้ยินสิ่งนี้ น้ำตาก็ร่วงหล่นเป็นสายราวสร้อยไข่มุก ถึงกับพุ่งตัวเข้าไปอยู่ในอ้อมแขนของฟู่ซวี่ตง “ฮือ…โชคดีเหลือเกินที่คุณมา ฉันกลัวมากเลย คิดว่าเจิ้งเต๋อข่ายจะทำอะไรกับฉันแล้ว ถ้าเป็นอย่างนั้นฉันคงทนอยู่ต่อไปไม่ได้แน่”

ทันทีที่เสิ่นหรูฮวนกระโจนเข้าไปในอ้อมแขนของเขา ฟู่ซวี่ตงก็ตัวแข็งทื่อไป เขายกมือขึ้นอย่างไม่รู้ว่าต้องทำอย่างไร แต่เมื่อได้ยินคำพูดของเสิ่นหรูฮวน หัวใจก็พลันสะท้าน หากเขาไม่มา เสิ่นหรูฮวนก็คงคิดจะฆ่าตัวตายไปแล้ว

เมื่อคิดได้เช่นนั้น เขาก็สวมกอดร่างอันบอบบางเอาไว้ในอ้อมแขนของตนโดยไม่รู้ตัว ก่อนจะเอ่ยปลอบอย่างนุ่มนวล “ไม่ต้องกลัว มีผมอยู่ ผมจะไม่ปล่อยให้มีอะไรเกิดขึ้นกับคุณ”

“คุณ…”

ตอนแรกเสิ่นหรูฮวนไม่รู้ตัวว่ากำลังทำอะไร แต่เมื่อตระหนักได้ว่าร่างกายกำลังโดนสวมกอดเอาไว้อย่างแน่นหนาภายใต้อ้อมแขนของฟู่ซวี่ตง จึงรับรู้ได้ว่าทั้งสองกำลังใกล้ชิดกัน

………………………………………………………………………………………………………………………….

สารจากผู้แปล

อกสั่นขวัญแขวนเลย ไม่คิดว่าไอ้เลวแซ่เจิ้งมันจะตามมาเล่นงานหรูฮวน โชคดีมากที่ซวี่ตงยังไม่กลับ

หาโอกาสว่างๆ ไปทำบุญสะเดาะเคราะห์บ้างนะหรูฮวน เธอโดนลักพาตัวบ่อยเหลือเกิน

ไหหม่า(海馬)

ทะลุมิติสู่ยุค 70 ไปแต่งงานกับผู้ชายคลั่งรัก

ทะลุมิติสู่ยุค 70 ไปแต่งงานกับผู้ชายคลั่งรัก

Status: Ongoing
เมื่อแพทย์สาวมือฉมังพบว่าตนเองได้กลายเป็นหญิงอ้วนผู้เชี่ยวชาญด้านสมุนไพรในยุค 70 ผู้ไม่เป็นที่รักของสามี เธอจะเปลี่ยนเป็นคนใหม่ที่สามีคลั่งรักได้หรือไม่กันนะ?ทะลุมิติสู่ยุค 70 ไปแต่งงานกับผู้ชายคลั่งรัก[嫁七零糙汉后,我双胞胎体质藏不住]ผู้แต่ง : 钰儿เรื่องย่อหลังผชิญวรหนักจนวูบ ฉินมู่หลาน แพทย์สาวมือฉมังก็พบว่าตนองได้มาสวมร่างของหญิงอ้วนหลานสาวผู้เชี่ยวชาญด้นสมุนไพรในยุค 70 ผู้ไม่มีอะไรดีสักอย่างนอกจากได้สามีหล่อเหลานิสัยดีผู้แสนเย็นขาจากความลั่งรักของตัวเองจจับเขามาแต่งงด้วยสำเร็จ ซึ่งกรสวมวิญญาณในครั้งนี้เธอได้รับภารกิจหลักสามอย่าง หนึ่งคือสร้างเนื้อสร้างตัว สองคือลดน้ำหนักให้ตนเองทำงานทำการสะดวกขึ้น และสามคือทำให้สามีเป็นฝ่ายคลั่งรักเธอแทน คุณหมอฉินจะทำสำเร็จหรือไม่ จะเปลี่ยนเป็นฉินมู่หลานคนใหม่ที่สามีคลั่งรักได้หรือไม่กันนะ?

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท