ตอนที่ 153 ช่องว่าง
ตอนที่ 153 ช่องว่าง
เมื่อได้ยินสิ่งที่เริ่นม่านลี่เอ่ย นายท่านเหยากับคุณนายเหยาก็หันไปมอง ด้วยสีหน้าไม่พอใจนิดหน่อย
เหยาจิ้งถงก็อดไม่ได้ที่จะกระชากแขนเริ่นม่านลี่ ก่อนจะพูดขึ้น “ม่านลี่ เธอกำลังพูดอะไรเนี่ย เห็นหน้าพี่ฉันก็รู้แล้วว่าหล่อนต้องเป็นตัวจริงแน่”
เริ่นม่านลี่ต้องการจะเอ่ยบางอย่างต่อ ฉินมู่หลานก็เปิดปากขึ้นเช่นกัน
“ใช่ค่ะ ถ้าอยากจะให้สบายใจก็ลองตรวจดูก็ได้ค่ะ” เมื่อพูดจบ ฉินมู่หลานก็ปรายตามองเริ่นม่านลี่ จากนั้นจึงเอ่ยต่อ “ได้ยินมาว่าที่ต่างประเทศมีเทคโนโลยีที่ช่วยทดสอบความเป็นพ่อแม่ลูกกันแล้วค่ะ ถ้าเป็นไปได้ก็อยากให้ลองตรวจสักหน่อย”
แต่ถึงอย่างนั้น คุณนายเหยาก็เอ่ยขึ้นมาตรงๆ “ไม่จำเป็นต้องวุ่นวายยุ่งยากหรอก ลูกสาวของเรามีปาน แค่ดูเดี๋ยวก้รู้แล้ว”
หลังจากพูดจบ หญิงชราก็มองเหยาจิ้งจือด้วยสีหน้าดีใจ “ลูกจ๋า พวกเราเข้าไปดูในบ้านกันเถอะ” ลูกสาวที่นางให้กำเนิดมีปานขนาดเล็กอยู่ในที่ลับ ขอเพียงตำแหน่งตรงกัน คนตรงหน้าก็คือลูกสาวเธอแน่นอน
เหยาจิ้งจือได้ยินสิ่งนี้ จึงพยักหน้าแล้วพูด “ค่ะ พวกเราเข้าไปดูกันเถอะ”
“ทำไมถึงไม่เปิดเผยให้พวกเราทุกคนได้ดูกันไปเลยล่ะคะ” เริ่นม่านลี่รู้สึกว่าเรื่องนี้จะมีลับลมคมนัย ราวกับว่ามีอะไรบางอย่างที่ไม่อยากให้พวกเขารู้
ตอนนี้คุณนายเหยารู้สึกโกรธเข้าแล้วจริง ๆ
“ม่านลี่ วันนี้แกเป็นอะไรนักหนา แกไม่อยากให้พวกฉันเจอลูกสาวแท้ ๆ เหรอ”
เมื่อเห็นคุณนายเหยาโกรธขึ้นมา เริ่นม่านลี่จึงได้แต่รู้สึกงุนงง “คุณยายคะ หนูเปล่านะคะ หนูแค่กลัวว่าจะผิดพลาด ถ้าเป็นอย่างนั้นพวกคุณยายก็จะมีความสุขโดยเปล่าประโยชน์”
เหยาจิ้งถงเห็นลูกสะใภ้โดนดุ ก็รีบเอ่ยขึ้นตามทันที “แม่คะ ม่านลี่แค่เป็นห่วง ก็แค่พูดตรงเกินไปเท่านั้นค่ะ”
คุณนายเหยายังรู้สึกโกรธอยู่นิดหน่อย แต่สุดท้ายก็อธิบาย “เนื่องจากตำแหน่งของปานค่อนข้างเป็นส่วนตัว เพราะฉะนั้นถึงต้องเข้าไปดูข้างใน พวกแกอยู่ตรงนี้กันนั่นแหละ เดี๋ยวฉันจะพาจือจือเข้าไปเอง” หลังจากพูดอย่างนั้นก็มองไปที่เหยาจิ้งจือด้วยรอยยิ้มแล้วพูดขึ้น “พวกเราเข้าไปกันเถอะ”
เมื่อเห็นคุณนายเหยาปฏิบัติกับเหยาจิ้งจือไม่เหมือนที่ทำกับตัวเอง แววตาของเริ่นม่านลี่ก็เต็มไปด้วยความไม่พอใจ ยังไม่รู้เลยแท้ ๆ แต่ก็โดนปฏิบัติแตกต่างแล้ว หากว่าปานนั้นยืนยันได้ขึ้นมา ตระกูลเหยายังจะให้พวกเขาอยู่อีกเหรอ
แต่เริ่นม่านลี่ก็รู้ว่าตัวเองพยายามมากไป จึงก้มหน้าลงเพื่อซ่อนสีหน้าของตัวเอง
ฉินมู่หลานเหลือบมองเริ่นม่านลี่อยู่ห่าง ๆ บนใบหน้าแสดงสีหน้ามากมายหลากหลาย เพียงแต่ว่าเหยาจิ้งถงกับเหยาอี้หนิงยังมีวุฒิภาวะมากพอ จึงไม่ได้แสดงอะไรออกมา ดังนั้นฉินมู่หลานจึงจับจ้องสองคนนี้เป็นพิเศษ
ไม่นานนักคุณนายเหยาก็ออกมาพร้อมกับเหยาจิ้งจือ เพียงแค่เห็นดวงตาของทั้งคู่แดงก่ำก็รู้แล้วว่าร้องไห้มา
นายท่านเหยามองทั้งสองอย่างใจจดใจจ่อ อยากจะทราบผลเหลือเกิน
คุณนายเหยาจึงพยักหน้าให้นายท่านเหยา ก่อนจะเอ่ยพลางสะอึกสะอื้น “นี่คือจือจือลูกสาวของเรา เป็นหล่อน เป็นหล่อนจริงๆ ค่ะ” หลังจากเอ่ยจบ คุณนายเหยาก็น้ำตาไหลอย่างไม่สามารถควบคุมตัวเองได้ นางไม่คิดว่าในช่วงชีวิตนี้จะได้เจอลูกสาวของตนอีก ถึงตายก็ไม่เสียดายเลย
นายท่านเหยาได้ยินสิ่งที่คุณนายเหยาพูด ก็หลั่งน้ำตาไปด้วยอีกคน “จือจือ…”
เหยาจิ้งจือเห็นผู้อาวุโสทั้งสองเป็นเช่นนี้ก็ร้องห่มร้องไห้ขึ้นมาเช่นกัน ในที่สุดหล่อนก็เจอพ่อแม่ผู้ให้กำเนิดตัวเอง ทั้งที่คิดว่าในชีวิตนี้คงไม่ได้พบเจอกันอีกแล้ว
ลุงเหยาที่อยู่ข้าง ๆ พูดขึ้น “นายท่านครับ นี่เป็นเรื่องที่น่ายินดี อย่าร้องไห้ไปเลยครับ ดูสิ คุณนายกับคุณหนูจือจือร้องไห้กันจนจะหายใจไม่ออกอยู่แล้ว”
เมื่อได้ยินสิ่งที่ลุงเหยาพูด นายท่านเหยาก็รีบสงบสติทันที ก่อนจะเอ่ยพูดกับคุณนายเหยาและเหยาจิ้งจือ “ใช่ นี่เป็นเรื่องดี พวกเราควรจะมีความสุข”
คุณนายเหยาปาดน้ำตา แล้วพยักหน้า หลังจากนั้นก็หันไปพูดกับเหยาจิ้งจือ “จือจือ ลูกกลับมาก็ดีแล้ว ในที่สุดครอบครัวของเราก็กลับมาพร้อมหน้าพร้อมตากันอีกครั้ง”
แววอิจฉาแวบขึ้นมาในดวงตาของเหยาจิ้งถง แน่นอนว่าเป็นเพราะความผูกพันธ์ทางสายเลือด ตอนที่ผู้อาวุโสทั้งสองปฏิบัติต่อหล่อนจึงไม่เป็นแบบนี้ ดฯฌซ,ฑ๊โฌฮฤ
เหยาจิ้งถงก็รีบก้าวไปข้างหน้า แล้วเอ่ยพร้อมรอยยิ้ม “พ่อคะแม่คะ ตอนนี้ก็เจอพี่สาวแล้ว ถ้าอย่างนั้นเราควรจะเลี้ยงฉลองกันสักหน่อยนะคะ”
คุณนายเหยาได้ยินเช่นนี้ จึงหันมองเหยาจิ้งถงด้วยรอยยิ้ม ก่อนจะเอ่ยขึ้น “ใช่แล้ว ต้องฉลองกันสักหน่อย ถึงตอนนั้นจะรับรองแขกที่บ้าน เพื่อให้ทุกคนได้รู้ว่าจือจือของพวกเรากลับมาแล้ว”
นายท่านเหยาก็คิดเช่นเดียวกัน เขาหันมองลุงเหยาด้วยใบหน้าเปื้อนยิ้มก่อนจะเอ่ยสั่ง “เหยาซาน นายไปเลือกฤกษ์งามยามดีมาหน่อย หลังจากนั้นก็ส่งเทียบเชิญไปให้ทุกคน ให้พวกเขาได้รู้ว่าคุณหนูคนโตแห่งตระกูลเหยากลับมาหาพวกเราแล้ว”
“ครับ”
ลุงเหยายกยิ้มอยู่แล้ว จากนั้นเขาก็วุ่นอยู่กับการนำชามาให้แขก ก่อนจะเตรียมของว่างและผลไม้ให้กับทุกคน
หลังจากนายท่านเหยาและคนอื่นๆ นั่งลงแล้ว ก็ได้เอ่ยถามถึงช่วงชีวิตที่ผ่านมาของเหยาจิ้งจือ
เหยาจิ้งจือเคยเล่าให้เหยาจิ้งถงฟังมาก่อนแล้ว คราวนี้จึงเล่าได้คล่องมากขึ้น แล้วเล่าชีวิตของหล่อนในช่วงหลายปีที่ผ่านมาให้ฟังอย่างตรงไปตรงมา
นายท่านเหยากับคุณนายเหยาฟังจนจบก็หันไปมองเซี่ยเหวินปิงด้วยแววตาค่อนข้างซับซ้อน ลูกสาวแต่งงานกับหนุ่มในชนบท แถมเซี่ยเหวินปิงก็ดูธรรมดามาก ถ้าลูกสาวของตัวเองไม่ได้หายไป คนที่หล่อนแต่งงานด้วยคงไม่ใช่ผู้ชายคนนี้แน่นอน
เมื่อคิดได้เช่นนั้น ทั้งสองก็รู้สึกเศร้าใจ
ตอนแรกเซี่ยเหวินปิงรู้สึกประหม่านิดหน่อย แต่เมื่อเห็นผู้อาวุโสทั้งสองมองมา จึงทราบได้ว่าพวกเขากำลังดูถูกตัวเอง จึงรีบก้มหัวลง
เซี่ยเจ๋อหลี่สังเกตท่าทางของพ่อตัวเองได้อยู่แล้ว จึงรีบจับกุมมือพ่อของตัวเอง แล้วจ้องมองเขาอย่างมั่นคง
เมื่อเห็นลูกชายคนเล็กทำเช่นนี้ เซี่ยเหวินปิงก็รู้สึกดีขึ้นมาก
และนายท่านเหยากับคุณนายเหยาก็มองไปที่เซี่ยเจ๋อหลี่ด้วยเช่นกัน
“เธอคืออาหลี่ใช่ไหม เหยาซานเคยเล่าเรื่องของเธอให้ฉันฟังมาก่อน บอกว่าเธอหน้าเหมือนฉันตอนสมัยหนุ่ม ๆ มาก ไม่ผิดเลย ดูเหมือนฉันมากจริง ๆ ได้แม่ไปเต็ม ๆ เลยนะ” ลูกสาวแท้ ๆ ของตนหน้าตาดี และเซี่ยเจ่อหลี่ก็เหมือนเขามากเป็นพิเศษ จึงยิ่งดูโดดเด่นขึ้นไปอีก
คุณนายเหยาเห็นว่าเซี่ยเจ๋อหลี่หลานชายของเธอดูโดดเด่นมาก จึงเอ่ยพูดพร้อมยกยิ้มเหมือนกัน “ใช่แล้ว หลานหน้าเหมือนแม่ของหลานมากจริง ๆ” ขณะที่เอ่ยก็หันมองฉินมู่หลานอีกครั้ง ก่อนจะถามขึ้น “เธอเป็นภรรยาของอาหลี่ใช่ไหม”
ฉินมู่หลานยกยิ้มบางแล้วพยักหน้า
และเซี่ยเจ๋อหลี่ที่อยู่ด้านข้างก็เอ่ยแนะนำขึ้น “ใช่ครับ นี่คือภรรยาของผมเอง ชื่อฉินมู่หลาน”
คุณนายเหยาเห็นท้องใหญ่ของฉินมู่หลาน จึงอดที่จะเอ่ยถามไม่ได้ “เจ็ดเดือนแล้วเหรอ ใกล้คลอดแล้วใช่ไหม”
เมื่อพูดถึงฉินมู่หลาน เหยาจิ้งจือก็เอ่ยด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม “ยังไม่เจ็ดเดือนค่ะ มู่หลานกำลังตั้งท้องลูกแฝด ท้องเลยใหญ่กว่าคนอื่นเขา ที่จริงแล้วแค่ห้าเดือนเท่านั้นค่ะ”
“อ๋อ…ที่แท้ก็ลูกแฝดนี่เอง ยอดเยี่ยมจริง ๆ”
คุณนายเหยาได้ยินเช่นนี้ สีหน้าก็ฉายความตื่นเต้น “ภรรยาของอาหลี่นี่ยอดเยี่ยมเหลือเกิน”
ส่วนเริ่นม่านลี่ได้ยินดังนั้นก็มีสีหน้ามืดมนลงทันที หล่อนยังไม่ตั้งครรภ์เลย แต่ฉินมู่หลานกลับตั้งครรภ์ลูกแฝด ช่างเป็นช่องว่างที่ใหญ่โตมาก
………………………………………………………………………………………………………………………….
สารจากผู้แปล
ในที่สุดก็ได้เจอพ่อแม่แท้ๆ แล้ว หลังจากนี้จะวุ่นวายกันไหมหนอ บรรดาคนที่ไม่ใช่ลูกแท้ๆ จะกบฏกันไหม
ไหหม่า(海馬)