ตอนที่ 159 เย่อิน (1)
ตอนที่ 159 เย่อิน (1)
ถึงแม้ฉินมู่หลานจะคาดเดาได้ว่าการที่พี่ใหญ่กับน้องสาวสามีมาที่นี่ได้เป็นเพราะฝีมือของเหยาจิ้งถง แต่เธอก็ยังไม่แน่ใจว่าอีกฝ่ายต้องการทำอะไรกันแน่
เซี่ยเจ๋อหลี่รับรู้ความกังวลของฉินมู่หลาน ก็อดไม่ได้ที่จะพูด “มู่หลาน คุณอย่าคิดมากเลย ถ้าพวกเขาทำแบบนั้นจริงก็คงต้องเข้าหาพี่ใหญ่กับเซี่ยเจ๋อน่าแน่นอน ถึงตอนนั้นพวกเราก็จะรู้เอง”
เมื่อเห็นเซี่ยเจ๋อหลี่ไม่กังวลอะไรเลย ฉินมู่หลานก็อดที่จะเอ่ยถามไม่ได้ “อาหลี่ ดูคุณไม่ร้อนใจเลยนะคะ”
“จริง ๆ แล้วก็ไม่ต้องกังวลอะไรนี่ พี่ใหญ่กับพี่สะใภ้ก็คือคนที่พวกเรารู้จักดี ถ้าอีกฝ่ายต้องการใช้ประโยชน์จากเขาก็คงไม่ง่ายขนาดนั้น อย่างนั้นก็เหลือแค่ทางฝั่งเกาหยวนกับเซี่ยเจ๋อน่า แต่สองคนนั้นก็ไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับเราอยู่แล้ว” หลังจากพูดจบ เซี่ยเจ่อหลี่ก็ทำท่าเฉยเมย สำหรับเซี่ยเจ๋อน่าน้องสาวของเขาแล้ว เขาไม่มีความรู้สึกใส่ใจอะไรหล่อนเลยทั้งนั้น
ฉินมู่หลานได้ยินแบบนี้ ก็คิดว่ามีเหตุผล
“อาหลี่ ที่คุณพูดมามันก็ถูกนะ งั้นก็ไม่ต้องกังวลใจอะไรแล้วล่ะ”
เซี่ยเจ๋อหลี่ยกยิ้มแล้วพยักหน้าก่อนจะพูดขึ้น “ใช่แล้ว พวกเรารีบพักผ่อนกันเถอะ พรุ่งนี้คุณจะไปหาพ่อบุญธรรมไม่ใช่เหรอ”
“ค่ะ”
หลังจากฉินมู่หลานและเซี่ยเจ๋อหลี่พูดคุยกับพวกเหยาจิ้งจือแล้ว ก็กลับไปพักผ่อน
เมื่อถึงวันรุ่งขึ้น หลังจากรับประทานมื้อเช้าเสร็จ ฉินมู่หลานกับเซี่ยเจ่อหลี่ก็มุ่งหน้าไปที่บ้านตระกูลเจี่ยง มาถึงปักกิ่งทั้งทีก็ต้องไปเยี่ยมเจี่ยงสือเหิงเป็นธรรมดา
หลังจากทั้งสองมาถึงบ้านตระกูลเจี่ยงแล้ว ลุงเจี่ยงก็เปิดประตูให้ เมื่อเห็นพวกเขาลุงเจี่ยงก็ดีใจมาก “คุณหนูน้อย พวกคุณมาได้ยังไงครับ” ขณะที่พูดเขาก็อดที่จะมองท้องของฉินมู่หลานเสียไม่ได้ ก่อนจะมีสีหน้าประหลาดใจ “คุณหนูน้อย ท้องของคุณหนูโตไวมากเลยครับ”
ไม่รอให้ฉินมู่หลานทันได้พูดอะไร เซี่ยเจ่อหลี่ก็กล่าวด้วยความดีใจ “เป็นเพราะมู่หลานกำลังตั้งท้องลูกแฝดครับ ท้องเลยใหญ่กว่าหญิงมีครรภ์ทั่วไป”
“อะไรนะ…จริงเหรอครับ นี่เป็นเรื่องดีมากเลย”
ลุงเจี่ยงได้ยินเช่นนี้ก็มีสีหน้าตื่นเต้น และเชิญพวกฉินมู่หลานเข้าไปข้างในทันที “คุณหนูน้อยครับ กรุณารอสักครู่ ผมจะไปแจ้งนายน้อยให้ทราบก่อน”
แต่หลังจากเอ่ยจบ สีหน้าของเขาก็ดูไม่ค่อยดีเท่าใด
“มีอะไรหรือคะลุงเจี่ยง”
ฉินมู่หลานเห็นดังนั้นจึงเอ่ยถามขณะก้าวเดินไปด้วย
ลุงเจี่ยงรีบเล่าเสียงเบา “ตอนนี้นายน้อยไปทำงานที่สถาบันวิจัยมาใช่ไหมล่ะครับ แล้วล่าสุดมีผู้หญิงมาหานายน้อย ผมว่านายน้อยคงรำคาญมาก แต่ถึงยังไงอีกฝ่ายก็เป็นเพื่อนร่วมงานของนายน้อยด้วย หล่อนมาที่นี่เพื่อถามเรื่องงานทุกครั้ง นายน้อยก็ปฏิเสธไม่ได้ ถึงได้รำคาญหนักกว่าเดิม”
ฉินมู่หลานได้ยินเช่นนี้ จึงขมวดคิ้วพร้อมเอ่ยถาม “สหายหญิงคนนั้นสวยหรือเปล่าคะ?”
ลุงเจี่ยงได้ยินสิ่งนี้ก็พยักหน้ารีบเอ่ยตอบ “สวยครับ”
ในตอนนั้นเอง ฉินมู่หลานก็อดพูดติดตลกเสียไม่ได้ “แล้วพ่อบุญธรรมยังรำคาญอยู่ไหมคะ มีสาวสวยมาถามเรื่องงานถึงที่ขนาดนี้ แสดงว่าพ่อบุญธรรมต้องยอดเยี่ยมมาก แม้แต่สหายสาวก็ยังมาหลงรัก”
ลุงเจี่ยงอดที่จะหัวเราะเสียไม่ได้ หลังจากนั้นก็หันมองฉินมู่หลานแล้วพูดว่า “คุณหนูน้อย พูดแบบนี้ต่อหน้านายน้อยไม่ได้นะครับ ไม่อย่างนั้นเขาจะรำคาญเอา จริง ๆ แล้วนายน้อยไม่ได้อยากจะหาคู่ครองอะไรหรอกครับ”
เมื่อพูดจนถึงท้ายประโยค ลุงเจี่ยงก็แอบคิดเสียดายอยู่บ้าง อันที่จริงแล้วเจี่ยงสือเหิงก็อายุยังไม่มากนัก หากต้องการหาคู่ครองก็ทำได้แน่นอน ติดแค่ตรงที่ว่าเขาไม่อยาก
ฉินมู่หลานรู้สึกว่าเจี่ยงสือเหิงยึดมั่นถือมั่นเกินไป
“ที่จริงถ้าดูจากรูปร่างหน้าตาและฐานะทางครอบครัวของพ่อบุญธรรมแล้วก็หาคู่ครองที่ดีมากได้แน่ค่ะ ทำไมเขาถึงไม่อยากหาล่ะคะ”
เมื่อได้ฟังคำพูดของฉินมู่หลาน แววตาของลุงเจี่ยงก็อดที่จะเป็นประกายเสียไม่ได้ “คุณหนูน้อย ถ้าเป็นไปได้ก็ลองแนะนำนายน้อยหน่อยเถอะครับ”
ฉินมู่หลานพยักหน้าเพื่อให้คำมั่น “ได้ค่ะ ฉันจะแนะนำพ่อบุญธรรมเอง ตอนนี้ไปหาพ่อกันก่อนเถอะ”
“ครับ”
ลุงเจี่ยงพาฉินมู่หลานกับเซี่ยเจ๋อหลี่มุ่งตรงไปที่ห้องโถงข้างหน้า
ห้องโถงอันกว้างขวางปรากฏแก่สายตา เจี่ยงสือเหิงกำลังนั่งยืดตัวตรงอยู่บนเก้าอี้ประธาน ขณะที่เก้าอี้ด้านล่างมีสาวสวยคนหนึ่งนั่งอยู่ หล่อนกำลังถือสมุดบันทึกเอาไว้ในมือ มองเจี่ยงสือเหิงพลางถามคำถามเขา
เมื่อเห็นเช่นนี้ ฉินมู่หลานก็อดที่จะขมวดคิ้วไม่ได้ หรือสหายหญิงคนนี้จะเป็นคนตั้งใจจริง ถึงได้ถ่อมาถามงานถึงที่บ้าน
เจี่ยงสือเหิงได้ยินเสียงดังมาจากด้านข้างจึงหันศีรษะมามอง เมื่อเห็นฉินมู่หลานกับเซี่ยเจ๋อหลี่ สีหน้าก็พลันประหลาดใจ รีบลุกขึ้นเดินไปหาฉินมู่หลานทันที พลางเอ่ยถาม “มู่หลาน ลูกมาได้ยังไง”
ฉินมู่หลานกำลังจะเอ่ย แต่สาวสวยคนนั้นก็เอ่ยถามก่อนอย่างนึกสงสัย “ผอ.เจี่ยงคะ คนนี้คือ?”
ฉินมู่หลานกำลังจะเอ่ยกลับ แต่เจี่ยงสือเหิงก็ชิงเปิดปากพูดก่อน “คนนี้คือลูกสาวผมเอง ส่วนนั่นคือลูกเขย”
เมื่อได้ยินคำพูดนี้ ฉินมู่หลานก็อดที่จะเลิกคิ้วไม่ได้
พ่อบุญธรรมเรียกลูกบุญธรรมว่าเป็นลูกสาวแท้ ๆ นี่คงเป็นเพราะไม่อยากหาคู่ครองจริง ๆ ไม่คิดจะเปิดโอกาสให้สาวตรงหน้าเลยหรือ
แต่เมื่อฉินมู่หลานเห็นสิ่งที่พ่อบุญธรรมพูดทั้งหมดแล้ว เธอก็ให้ความร่วมมือโดยการเรียก ‘พ่อ’ จากนั้นก็หันไปมองสหายสาวผู้นั้นพลางเอ่ยถาม “พ่อคะ คนนี้คือ?”
เจี่ยงสือเหิงเอ่ยแนะนำให้รู้จักโดยสุภาพ “คนนี้คือเย่อิน นักวิจัยจากสถาบันของพวกเรา” ดฯฌซ,ฑ๊โฌฮฤ
หลังจากเย่อินได้ยินคำพูดแนะนำของเจี่ยงสือเหิง หล่อนก็รู้สึกตกตะลึงไปหมด กระทั่งคำพูดผ่านหูไปแล้วจึงดึงสติกลับมาได้อีกครั้ง หล่อนฝืนยกยิ้มขึ้น แล้วหันไปมองพลางเอ่ยทักทายฉินมู่หลาน “สวัสดีค่ะ ฉันชื่อเย่อิน”
ฉินมู่หลานก็ยกยิ้มแล้วเอ่ยเช่นกัน “สวัสดีค่ะ คุณเรียกฉันว่ามู่หลานก็ได้ค่ะ”
เย่อินมองหญิงสาวสวยสง่าตรงหน้า พลางหันมองเจี่ยงสือเหิงที่อยู่ด้านข้างครั้งแล้วครั้งเล่า รู้สึกรับเรื่องนี้ไม่ค่อยได้
เจี่ยงสือเหิงมีลูกสาวโตขนาดนี้ได้อย่างไรกัน ก่อนหน้านี้เจี่ยงสือเหิงก็เคยบอกว่าไม่มีภรรยาไม่ใช่เหรอ
เมื่อคิดได้เช่นนั้น เย่อินก็อยากจะถามคำถามเพิ่ม
แต่เจี่ยงสือเหิงได้ชิงเปิดปากพูดก่อน “นักวิจัยเย่ ลูกสาวกับลูกเขยผมมาแล้ว ผมจะคุยกับพวกเขา ถ้าคุณไม่ติดขัดอะไรก็กลับไปก่อนเถอะ”
เมื่อได้ยินคำพูดนี้ เย่อินก็อดที่จะกัดริมฝีปากเสียไม่ได้ สุดท้ายก็พยายามยกยิ้มแล้วพูดขึ้น “ได้ค่ะ ผอ.เจี่ยง ถ้าอย่างนั้นฉันขอตัวก่อนนะคะ วันนี้รบกวนคุณมากแล้ว” หลังจากพูดจบก็เดินออกจากบ้านตระกูลเจี่ยงทันที
หลังจากเย่อินไปแล้ว ฉินมู่หลานก็อดที่จะหันไปมองแล้วเอ่ยพูดกับเจี่ยงสือเหิงเสียไม่ได้ “พ่อบุญธรรมคะ ผู้หญิงคนเมื่อกี้ชอบพ่อเหรอคะ”
“พูดไร้สาระอะไรกัน”เจี่ยงสือเหิงปฏิเสธทันที
“นักวิจัยเย่แค่มีคำถามอยากจะถามพ่อเฉย ๆ ก็เท่านั้น”
เมื่อได้ยินเช่นนี้ ฉินมู่หลานก็รู้สึกไม่ค่อยอยากเชื่อเท่าใด “ถ้าอย่างนั้นทำไมพ่อบุญธรรมถึงไม่บอกว่าฉันเป็นลูกบุญธรรมของพ่อล่ะคะ แทนที่จะบอกว่าเป็นลูกสาว”
“ก็ได้ ๆ พ่อปิดบังอะไรเราไม่ได้เลย ถึงนักวิจัยเย่จะไม่เคยพูดอะไร แต่เวลามีธุระหรือไม่มีธุระก็จะมาหาพ่อตลอด พ่อนี่รำคาญเกินทน แล้วลูกก็เป็นลูกสาวพ่อจริง ๆ ไม่ใช่หรือไง พ่อพูดไปแบบนั้นก็ถูกแล้ว หรือว่าลูกไม่ยอมรับว่าเป็นลูกสาวพ่อ”
เมื่อได้ยินคำพูดนี้ ฉินมู่หลานก็พยักหน้า “ฉันเป็นลูกสาวของพ่ออยู่แล้วค่ะ”
“แค่นั้นก็พอแล้ว”
สองพ่อลูกมองหน้ากันแล้วหัวเราะ ก่อนจะหยุดคุยเรื่องนี้
หลังจากหลายคนนั่งลง ลุงเจี่ยงก็แทบรอไม่ไหวที่จะบอกข่าวดีว่าฉินมู่หลานกำลังตั้งครรภ์ลูกแฝดออกมาให้ได้รับฟัง
“นายน้อย วันนี้ตอนเที่ยงเราต้องฉลองกันนะครับ คุณหนูน้อยกำลังตั้งท้องลูกแฝด นี่เป็นเรื่องที่น่ายินดีมากเลยครับ”
เจี่ยงสือเหิงเพิ่งทราบข่าวนี้ เขามองฉินมู่หลานด้วยความตื่นเต้นแล้วพูดขึ้น “มู่หลาน ยินดีด้วยนะลูก”
แต่ไม่นานนัก เขาก็มองฉินมู่หลานอีกครั้ง พลางเอ่ยขึ้น “มู่หลาน ทำไมไม่บอกให้เร็วกว่านี้ล่ะ”
ฉินมู่หลานรีบยกยิ้มและเอ่ยอธิบาย “ฉันเพิ่งรู้เรื่องไม่นานมานี้เองค่ะ พอทราบเรื่องแล้วก็ได้มาเมืองหลวงอีกครั้งพอดี เลยคิดจะมาบอกด้วยตัวเองค่ะ”
…………………………………………………………………………………………………………………………
สารจากผู้แปล
พี่หลี่ก็อย่าประมาทญาติฝั่งนั้นเชียวล่ะ ยายเฒ่าสารพัดพิษนั่นน่ากลัวสุด
คุณพ่อบุญธรรมมีความหลังฝังใจกับสาวๆ หรือเปล่าคะเลยไม่เปิดใจรับใคร
ไหหม่า(海馬)