ทะลุมิติสู่ยุค 70 ไปแต่งงานกับผู้ชายคลั่งรัก – ตอนที่ 177 นับว่าได้อยู่สมใจแล้ว

ทะลุมิติสู่ยุค 70 ไปแต่งงานกับผู้ชายคลั่งรัก

ตอนที่ 177 นับว่าได้อยู่สมใจแล้ว

ตอนที่ 177 นับว่าได้อยู่สมใจแล้ว

ครั้นเหยาจิ้งจือได้ยินว่าลูกสาวของตนอาจจะไม่ตื่น สีหน้าจึงเต็มไปด้วยความสับสน

คนๆ นี้เห็นแก่ตัวขนาดดึงแม่ผู้ให้กำเนิดไปเป็นโล่กำบังตัวเองในช่วงวิกฤต ซ้ำคนผู้นี้ยังเป็นลูกสาวแท้ ๆ ของตนเองด้วย หล่อนจึงไม่รู้จะพูดอะไรในตอนนี้

เซี่ยเหวินปิงมีสีหน้าซับซ้อน แต่เรื่องทั้งหมดก็กลายเป็นแบบนี้แล้ว พวกจึงเอ่ยถามหมอดี ๆ อีกครั้ง

“หมอครับ แล้วตอนนี้ควรให้หล่อนนอนพักที่โรงพยาบาลหรือเปล่าครับ?”

หมอคนนั้นพยักหน้า “ใช่ครับ ต้องพักฟื้นที่โรงพยาบาล แล้วก็สังเกตอาการต่อไป คนในครอบครัวอยู่เฝ้าหล่อนที่โรงพยาบาลแค่คนเดียวก็พอ ส่วนที่เหลือกลับบ้านไปกันก่อนเถอะครับ ผู้ป่วยจะได้พักผ่อนเงียบ ๆ”

เมื่อได้ยินเช่นนี้ เซี่ยเหวินปิงก็พยักหน้า จากนั้นก็หันไปพูดกับเกาหยวน “ถ้าอย่างนั้นแกก็อยู่เฝ้าแล้วกัน พวกเราขอกลับก่อน พรุ่งนี้จะมาเยี่ยมใหม่”

“ผม…”

แน่นอนว่าเกาหยวนไม่อยากอยู่ดูแลคน แต่เมื่อมองคนตระกูลเซี่ยที่อยู่ข้างหน้าตน ก่อนจะหันมองเหยาจิ้งถงอีกครั้ง ก็ไม่ได้พูดอะไรมาก แล้วพยักหน้าพลางพูดขึ้น “ครับ ผมอยู่เฝ้าน่าน่าเอง พ่อกับแม่กลับกันก่อนเถอะครับ”

หลังจากเซี่ยเจ๋อน่าถูกส่งตัวไปห้องพักฟื้น เกาหยวนก็อยู่ดูแล ส่สนคนอื่น ๆ ก็พากันกลับ

ฉินมู่หลานเห็นเซี่ยเจ๋อหลี่กับคนอื่นกลับมาแล้ว จึงรีบเอ่ยถาม “พ่อคะ แม่คะ อาหลี่ ไม่เป็นอะไรกันใช่ไหมคะ”

“มู่หลาน พวกเราไม่เป็นไรหรอก”

เมื่อเห้นลูกสะใภ้คนเล็กเป็นกังวล เหยาจิ้งจือจึงปลอบใจ แล้วตอบกลับ

ฉินมู่หลานได้ยินเช่นนี้ จึงอดไม่ได้ที่จะพูด “ไม่เป็นไรก็ดีแล้วค่ะ”

คุณนายเหยาที่ยืนอยู่ข้าง ๆ ก็เอ่ยถามด้วยความกังวลเช่นกัน “แล้วหลานสาวฉันล่ะ หล่อนเป็นยังไงบ้าง?”

เมื่อพูดถึงเซี่ยเจ๋อน่า บรรยากาศรอบข้างก็เงียบลงทันที หลังจากนั้นเหยาจิ้งถงก็เอ่ยขึ้นด้วยสีหน้าเศร้าสร้อย “แม่คะ น่าน่าผ่าตัดเสร็จเรียบร้อยแล้ว แต่ว่า…หล่อนยังไม่ฟื้นเลยค่ะ หมอบอกว่าต่อไปก็ยังไม่รู้ว่าจะฟื้นหรือเปล่า”

“อะไรนะ…”

คุณนายเหยาไม่คิดว่าเซี่ยเจ๋อน่าจะบาดเจ็บสาหัสถึงขั้นจะไม่ฟื้นขึ้นมา นางจึงหันไปถามนายท่านเหยาอย่างช่วยไม่ได้ “คุณช่วยหาหมอที่เก่งกว่านี้มาหน่อยสิ ลองให้หมอคนอื่นลองรักษาดู”

นายท่านเหยาได้ยินสิ่งนี้ก็พยักหน้าแล้วเอ่ยบอก “วางใจเถอะ ผมให้คนติดต่อไปแล้ว พรุ่งนี้จะมีหมออีกคนไปดูแทน”

เมื่อได้ยินเช่นนี้ คุณนายเหยาก็พยักหน้า ก่อนจะหันไปเอ่ยถามเหยาจิ้งจือ “จิ้งจือ ถ้าอย่างนั้นพรุ่งนี้พวกลูกยังจะไปอยู่ไหม?”

เหยาจิ้งจือได้ยินสิ่งนี้ จึงหันไปถามฉินมู่หลานกับเซี่ยเจ๋อหลี่ “อาหลี่ มู่หลาน พวกเธอจะกลับกันไปก่อนไหม เดี๋ยวพรุ่งนี้พวกฉันจะไปหาน้องสาวพวกเธอ”

ฉินมู่หลานนึกถึงเรื่องที่เกิดในครั้งนี้ จึงคิดว่าการปล่อยเหยาจิ้งจือกับเซี่ยเหวินปิงเอาไว้นั้นค่อนข้างอันตราย จึงอดหันมองเซี่ยเจ๋อหลี่เสียไม่ได้

เซี่ยเจ๋อหลี่ก็คิดเหมือนกัน จึงเอ่ยพูดตามตรง “พ่อครับ แม่ครับ พรุ่งนี้พวกเราก็จะไปดูด้วยครับ แต่หากทำอะไรกับเรื่องของเซี่ยเจ๋อน่าไม่ได้แล้ว ต่อให้พวกพ่อกับแม่อยู่ไปก็ไม่ได้มีประโยชน์อะไร”

คุณนายเหยาได้ยินสิ่งที่เซี่ยเจ๋อหลี่เอ่ย ก็หันมองเขาด้วยความแปลกใจนิดหน่อย

นางรู้สึกว่าหลานชายเย็นชากับน้องสาวของตัวเองมากเกินไป หากเซี่ยเจ๋อน่าไม่ฟื้นกลับมาก็จะปล่อยให้หล่อนอยู่อย่างนั้น แล้วพวกเขาทุกคนในครอบครัวก็จะไปเหรอ

แม้แต่นายท่านเหยาก็หันไปมองเหมือนกัน รู้สึกประหลาดใจที่เซี่ยเจ๋อหลี่พูดจาเหมือนไม่ใส่ใจเลยสักนิด

ขณะเดียวกันเซี่ยเหวินปิงก็เปิดปากพูดขึ้น “อาหลี่พูดถูก พรุ่งนี้พวกเราจะไปดูเซี่ยเจ๋อน่ากัน แต่หากทำอะไรไม่ได้แล้วจริง ๆ เช่นนั้นพวกเราอยู่ไปก็เปล่าประโยชน์ ให้เกาหยวนอยู่ดูแลหล่อนต่อเถอะ”

มันเป็นเรื่องยากหากจะเอ่ยกับเซี่ยเจ๋อหลี่ แต่เมื่อเซี่ยเหวินปิงเอ่ย คุณนายเหยาจึงไม่เกรงใจเท่าใด

“เซี่ยเหวินปิง เธอหมายความว่ายังไง ถ้าลูกสาวเธอไม่ฟื้นขึ้นมาแล้ว พวกเธอจะยอมทิ้งหล่อนไว้เหรอ เธอทำแบบนี้ในฐานะพ่อก็ดูจะเย็นชาเกินไปนะ ทำไมถึงทำกับลูกตัวเองแบบนี้”

เซี่ยเหวินปิงได้ยินสิ่งนี้ จึงเล่าสิ่งที่เซี่ยเจ๋อน่าทำก่อนหน้านี้ หลังจากนั้นก็เอ่ยขึ้น “ถ้าผมไม่เข้าไปดึงจิ้งจือออกมา จิ้งจือก็คงโดนเซี่ยเจ๋อน่าใช้เป็นโล่บังมีด ตอนนี้คนที่นอนอยู่ในโรงพยาบาลก็คงเป็นจิ้งจือแล้ว เซี่ยเจ๋อน่าโหดเหี้ยมกับแม่ของตัวเองแบบนี้ แล้วพวกเราจะห่วงใยหล่อนอย่างถึงที่สุดได้ยังไง”

“อะไรนะ…”

สีหน้าคุณนายเหยาเต็มไปด้วยความไม่อยากเชื่อ “นี่…เซี่ยเจ๋อน่าทำแบบนั้นจริงเหรอ”

แม้แต่นายท่านเหยาก็อดที่จะพูดไม่ได้ “นี่เป็นเรื่องจริงเหรอ?”

เซี่ยเจ๋อหลี่ที่อยู่ด้านข้างพยักหน้าแล้วพูด “เป็นเรื่องจริงครับ ผมเห็นทุกอย่าง”

เซี่ยเจ๋อเหว่ยอยู่ค่อนข้างไกล จึงมองไม่เห็น เขาจึงเพิ่งทราบเรื่องนี้ ตอนแรกเขารู้สึกเสียใจกับเซี่ยเจ๋อน่านิดหน่อย แต่เมื่อได้ยินแบบนี้ เขากลับรู้สึกโกรธจนหน้าแดง

“เกินไปแล้ว ตั้งแต่เล็กจนโตเซี่ยเจ๋อน่ามีชีวิตอยู่อย่างสุขสบายมาก อะไรก็ยอมทำเพื่อเอาใจหล่อน กลายเป็นว่าตอนนี้กลับเป็นคนเห็นแก่ตัว คิดถึงแต่ตัวเองฝ่ายเดียว”

เซี่ยเหวินปิงกับเหยาจิ้งจือมีท่าทางกระอักกระอ่วน เป็นเพราะพวกเขาล้มเหลวในการเลี้ยงดูลูกสาวตัวเอง

หลังจากนายท่านเหยาทราบว่าเซี่ยเจ๋อน่าทำอย่างนั้นจริง ก็ยิ่งไม่ชอบหลานสาวคนนี้เข้าไปใหญ่ ถึงตัวคนจะยังนอนอยู่ในโรงพยาบาล แต่เขาก็ไม่สนใจอีกแล้ว “ก็เอาตามนั้นแล้วกัน พรุ่งนี้พวกเราไปด้วยกัน จากนั้นก็ลองดู”

เมื่อเห็นนายท่านเหยาพูดแบบนี้ คนอื่นจึงไม่เอ่ยอะไรอีก

แต่ถึงอย่างนั้นเซี่ยเหวินปิงก็หันไปพูดกับเซี่ยเจ๋อเหว่ย “เจ๋อเหว่ย พรุ่งนี้พวกแกก็กลับบ้านตามแผนที่วางไว้เถอะ ยังไงพวกแกก็ซื้อตั๋วเรียบร้อยแล้ว” ครอบครัวของลูกชายคนโตไม่เหมือนกับพวกเขา พวกเขาต้องกลับไปที่บ้านเกิด จึงต้องปล่อยให้พวกเขากลับไปทันที

เซี่ยเจ๋อเหว่ยไม่ลังเล รีบพยักหน้าแล้วเอ่ยทันที “ครับ ถ้าอย่างนั้นพรุ่งนี้พวกเราขอกลับกันก่อน”

หลี่เสวี่ยเยี่ยนเห็นว่าแผนการณ์เดิมยังคงไม่เปลี่ยนแปลง หลังจากกลับมาถึงห้องพักช่วงค่ำ ก็รีบจัดเก็บของ

ฉินมู่หลานหันไปมองแล้วเอ่ยถามเซี่ยเจ๋อหลี่ “คุณจะอยู่ต่ออีกวันไหม?”

“อยู่ต่อก็ไม่เป็นไรหรอก ผมติดต่อหัวหน้าไปแล้วหลังจากกินข้าวเย็น แต่พวกเราจะต้องกลับไปในวันมะรืนนี้”

ฉินมู่หลานพยักหน้า แล้วพูด “อื้ม วันมะรืนค่อยกลับไปก็ได้ค่ะ”

อีกด้านหนึ่ง หลังจากเหยาจิ้งถงกลับถึงห้องตัวเอง สีหน้าก็เปลี่ยนเป็นดุร้ายด้วยความฉุนเฉียว วันนี้โอกาสดีมากแท้ ๆ แต่ผลลัพธ์กลับพังไม่เป็นท่า ทั้งหมดนี้ก็เพราะนังโง่เง่าเซี่ยเจ๋อน่านั่น ถ้าหล่อนไม่อยู่ตรงนั้น หมอนั่นคงแทงเหยาจิ้งจือไปแล้ว ทำไมเซี่ยเจ๋อน่าถึงไม่ตายคาที่ตรงนั้นไปเลยนะ น่าโมโหเหลือเกิน

แต่นังโง่นั่นก็ถือว่าได้อยู่เมืองหลวงสมใจแล้ว ดังนั้นอย่าได้ฟื้นขึ้นมาอีกเลย หรือต่อให้ฟื้นขึ้นมา หล่อนก็จะลงมือฆ่าซ้ำด้วยเหมือนกัน

เหยาอี้หนิงรู้เรื่องที่เกิดขึ้นในวันนี้แล้ว

“แม่ เรื่องวันนี้…”

เพียงแต่เหยาอี้หนิงยังพูดไม่ทันจบ ก็โดนเหยาจิ้งถงเอ่ยแทรกขัดจังหวะ “อี้หนิง พรุ่งนี้แกจะกลับแล้ว ตอนนี้ก้รีบไปเก็บของซะ”

เมื่อเห็นแม่พูดแบบนั้น เหยาอี้หนิงก็ขมวดคิ้วทันที

“แม่ ผมได้ยินมาว่าพรุ่งนี้เซี่ยเจ๋อหลี่จะยังไม่กลับ ถ้าอย่างนั้นผมก็จะยังไม่กลับ”

เหยาจิ้งถงหันมองลูกชายครู่หนึ่ง ก่อนจะพูด “พวกเขาจะไปหรือไม่ไปก็เรื่องของเขา ลูกบอกนายท่านเหยาไปเรียบร้อยแล้ว พรุ่งนี้ก็ไปซะ” พูดจบก็โบกมือไล่ให้ลูกชายออกไป

ในตอนนั้นเอง จินหยวนซานก็เดินเข้ามา แล้วส่งข่าวให้เหยาจิ้งถง

“จิ้งถง นี่คือของที่แม่ให้คนเอามาให้คุณ”

เมื่อได้ยินเช่นนี้ เหยาจิ้งถงก็รีบคว้ามันทันที หลังจากพิจารณาแล้วก็ลุกขึ้นยืนแล้วเอ่ยกับลูกสามี “ฉันขอออกไปข้างนอกหน่อย พวกคุณพักผ่อนกันก่อนเถอะ”

………………………………………………………………………………………………………………………….

ทะลุมิติสู่ยุค 70 ไปแต่งงานกับผู้ชายคลั่งรัก

ทะลุมิติสู่ยุค 70 ไปแต่งงานกับผู้ชายคลั่งรัก

Status: Ongoing
เมื่อแพทย์สาวมือฉมังพบว่าตนเองได้กลายเป็นหญิงอ้วนผู้เชี่ยวชาญด้านสมุนไพรในยุค 70 ผู้ไม่เป็นที่รักของสามี เธอจะเปลี่ยนเป็นคนใหม่ที่สามีคลั่งรักได้หรือไม่กันนะ?ทะลุมิติสู่ยุค 70 ไปแต่งงานกับผู้ชายคลั่งรัก[嫁七零糙汉后,我双胞胎体质藏不住]ผู้แต่ง : 钰儿เรื่องย่อหลังผชิญวรหนักจนวูบ ฉินมู่หลาน แพทย์สาวมือฉมังก็พบว่าตนองได้มาสวมร่างของหญิงอ้วนหลานสาวผู้เชี่ยวชาญด้นสมุนไพรในยุค 70 ผู้ไม่มีอะไรดีสักอย่างนอกจากได้สามีหล่อเหลานิสัยดีผู้แสนเย็นขาจากความลั่งรักของตัวเองจจับเขามาแต่งงด้วยสำเร็จ ซึ่งกรสวมวิญญาณในครั้งนี้เธอได้รับภารกิจหลักสามอย่าง หนึ่งคือสร้างเนื้อสร้างตัว สองคือลดน้ำหนักให้ตนเองทำงานทำการสะดวกขึ้น และสามคือทำให้สามีเป็นฝ่ายคลั่งรักเธอแทน คุณหมอฉินจะทำสำเร็จหรือไม่ จะเปลี่ยนเป็นฉินมู่หลานคนใหม่ที่สามีคลั่งรักได้หรือไม่กันนะ?

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท