ตอนที่ 220 ความมุ่งมั่นของนายนายท่านเหยา
ตอนที่ 220 ความมุ่งมั่นของนายนายท่านเหยา
เมื่อคุณนายเหยาเห็นท่าทางของนายท่านเหยาเช่นนี้ ก็ได้แต่รู้สึกผิด “ฉัน…ฉันยังไม่ได้พูดอะไรเลย”
“คุณเพิ่งพูดไปไม่ใช่เหรอว่าอยากจะเก็บเหยาอี้หนิงเอาไว้ จิ้งจือได้ยินคงรู้สึกไม่ดีแน่ ชีวิตตลอดหลายปีที่ผ่านมาของลูกคงดูเป็นเรื่องน่าขำสินะ คุณเป็นแม่แท้ ๆ ของจิ้งจือจริงหรือเปล่า ทำไมคุณถึงทำแบบนี้”
“ฉัน…ฉัน…”
คุณนายเหยาไม่คิดว่านายท่านเหยาจะเอ่ยพูดแบบนี้ นางเพียงแค่รู้สึกว่าเหยาอี้หนิงเป็นผู้บริสุทธิ์ที่ไม่ได้รู้เรื่องอะไรด้วยเลย จึงอยากจะเก็บเขาเอาไว้ แต่ทำไมเรื่องถึงกลายเป็นแบบนี้ไปได้
นายท่านเหยานึกถึงความยากลำบากของลูกสาวตลอดหลายปีที่ผ่านมา เมื่อเห็นความคิดของคุณนายเหยาจึงร็สึกบางอย่าง
“ตอนแรกผมก็บอกแล้วว่าอย่าไปรับจิ้งถงมาเลี้ยง ต่อให้อยากแค่ไหน คุณรับเลี้ยงลูกหลานจากตระกูลเหยาของพวกเราแทนก็ได้ แต่คุณก็ยังยืนกรานจะรับเลี้ยงหล่อน ตอนนี้มันจบแล้ว กลายเป็นว่าพวกเราเลี้ยงลูกสาวของศัตรูมาตลอด”
เมื่อได้ยินคำพูดนี้ คุณนายเหยาก็รู้สึกไม่มีความสุขแล้ว
“ทำไม…ถึงไม่ควรรับจิ้งถงมาเลี้ยงเหรอ ต้องให้รับเลี้ยงญาติฝั่งตระกูลเหยาของพวกคุณอย่างนั้นเหรอ ที่มันคอยแต่หวังจะเอาทรัพย์สินของพวกเราอย่างนั้นน่ะเหรอ”
นายท่านเหยาได้ยินสิ่งนี้ จึงเอ่ยพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา “เหอะ…แล้วเหยาจิ้งถงไม่ได้หวังมรดกของตระกูลเหยาเลยหรือไง เป็นเพราะความโลภของหล่อนนั่นแหละ เรื่องมันถึงได้บานปลายมาถึงขั้นนี้ไง”
“คุณ…”
คุณนายเหยาโกรธมากจนใบหน้าซีดเซียวยับยู่บูดเบี้ยว
ตอนแรกนายท่านเหยาอยากจะบอกกล่าวอะไรบางอย่าง แต่เมื่อเห็นคุณนายเหยาเป็นแบบนี้ จึงไม่อยากเอ่ยพูดกับนางอีกต่อไป และเดินจากไปทันที
คุณนายเหยาเฝ้ามองแผ่นหลังของนายท่านเหยาที่เดินจากไป ก็ได้แต่รู้สึกขุ่นเคืองมากขึ้น ตอนนี้ชายชราไม่ได้ใส่ใจนางอีกแล้ว
หลังจากนายท่านเหยาออกไป พ่อบ้านเหยาก็กลับมาแล้ว
เมื่อนายท่านเหยาเห็นพ่อบ้านเหยา ก็รีบเอ่ยถามทันที “เป็นอย่างไรบ้าง ทุกอย่างเรียบร้อยแล้วเหรอ?”
พ่อบ้านเหยาพยักหน้าแล้วบอกกล่าว “นายท่านวางใจขอรับ ทุกอย่างถูกจัดการเรียบร้อยแล้ว คนพวกนั้นคิดว่าเป็นไปไม่ได้ แต่เรื่องนี้มีบางอย่างแปลก ๆ หงเทียนซื่อคนนั้นดูเหมือนว่าจะถูกยินอวี่โหรวข่มขู่อะไรเอาไว้ เขาจึงจะยอมรับผิดแต่เพียงผู้เดียว ผมจึงใช้ความพยายามอีกครั้ง ยินอวี่โหรวจึงดิ้นไม่หลุด”
เมื่อได้ยินคำพูดนี้ นายท่านเหยาก็ขมวดคิ้วเล็กน้อย ก่อนจะพูดขึ้น “ถ้าอย่างนั้นนายช่วยไปสืบหาหน่อยว่าหงเทียนซื่อโดนยินอวี่โหรวข่มขู่อะไรเอาไว้”
อีกด้านหนึ่ง หลังจากเหยาจิ้งจือกลับมาที่ลานบ้านเล็กที่พวกเขาพักอาศัยแล้ว ก็หันมองฉินมู่หลานกับเซี่ยเจ๋อหลี่ก่อนจะพูดขึ้น “มู่หลาน อาหลี่ พวกเรากลับไปอยู่บ้านตระกูลเจี่ยงกันเถอะ พวกเรามาพักที่บ้านตายายอยู่พักหนึ่งแล้ว ครั้งนี้ก็ไปพักอยู่ที่นั่นกันเถอะ ถึงยังไงก็ต้องไปหาพ่อบุญธรรมของพวกเธอก่อนกลับอยู่แล้วนี่นา”
เมื่อได้ยินเช่นนี้ ฉินมู่หลานก็อดขมวดคิ้วไม่ได้ เธอรู้สึกได้ว่าต้องมีเรื่องอะไรเกิดขึ้นอย่างแน่นอน ไม่อย่างนั้นแม่สามีคงไม่ตัดสินใจแบบนี้
แต่เซี่ยเหวินปิงกลับโพล่งถามขึ้น “ทำไมเหรอจิ้งจือ มีเรื่องอะไรหรือเปล่า?”
เหยาจิ้งจือก็ไม่ได้ปิดบังอะไร เล่าเรื่องที่คุณนายเหยาอยากจะเก็บเหยาอี้หนิงเอาไว้ออกมาตามตรง
เซี่ยเจ๋อหลี่ได้ยินเช่นนี้ ก็อดจะแค่นหัวเราะไม่ได้ ก่อนจะเอ่ย “เหยาอี้หนิงนี่พยายามไม่เลิกจริง ๆ ครั้งนี้โชคไม่ดีเลยที่ได้ออกไปทำภารกิจร่วมกับมัน แต่โชคดีที่ครั้งนี้ผมไม่บาดเจ็บ กลายเป็นว่าคนที่บาดเจ็บคือตัวมันเอง”
เมื่อได้ยินสิ่งนี้ เหยาจิ้งจือก็หันไปเอ่ยถามด้วยความเป็นห่วง “อาหลี่ ครั้งนี้ไปทำภารกิจกับเหยาอี้หนิงมาเหรอ? มีเรื่องอะไรเกิดขึ้นหรือเปล่า?”
“ไม่มีอะไรครับ”
ภารกิจของพวกเขาจะต้องถูกเก็บเป็นความลับ ดังนั้นเซี่ยเจ๋อหลี่จึงพูดมากไม่ได้
ขณะที่เหยาจิ้งจืออยากจะเอ่ยถามอีกครั้ง ฉินมู่หลานก็ยกยิ้มขึ้นแล้วบอกว่า “แม่คะ อาหลี่ไม่เป็นไรก็ดีแล้ว พวกเรามาเก็บของ แล้วไปที่บ้านพ่อบุญธรรมกันเถอะค่ะ”
“ได้”
เหยาจิ้งจือได้ยินเช่นนี้ก็ไม่เอ่ยถามอีก
หลังจากหลายคนเก็บข้าวของเตรียมจะออกไปข้างนอกกันแล้ว นายท่านเหยาก็ทราบว่าพวกเขากำลังจะไป แววตาจึงเต็มไปด้วยความหงอยเหงา สุดท้ายก็พาพ่อบ้านเหยาไปตรงประตู
“จิ้งจือ พวกลูกจะไปอยู่บ้านญาติลูกสะใภ้สองวัน ถ้าจะกลับแล้วอย่าลืมมาบอกพ่อด้วยนะ พวกเราจะได้กินข้าวรวมญาติกัน”
เห็นของที่อยู่ในบ้านถูกขนออกมา นายท่านเหยาก็รู้สึกทุกข์มากเช่นกัน ตอนนี้เขาอยากเอาความกับคุณนายเหยาเหลือเกิน เป็นเพราะนางแท้ๆ ครอบครัวของลูกสาวจึงได้เอาใจออกห่างไปพวกเขาไปหมดแล้ว
อย่าว่าแต่นายท่านเหยาเลย แม้แต่พ่อบ้านเหยาที่ได้ยินคำพูดของคุณนายเหยาก็อดจะบ่นเสียไม่ได้ เขาไม่เข้าใจเลย เห็นได้ชัดว่าคุณหนูจิ้งจือเป็นลูกสาวแท้ ๆ ของคุณนาย แต่คุณนายกลับเอนเอียงเข้าข้างศัตรู แม้เหยาอี้หนิงจะเป็นผู้บริสุทธิ์ในเรื่องนี้ แต่สิ่งที่แม่และคุณยายของเขาได้กระทำไปก็เป็นข้อเท็จจริง เป็นเช่นนี้แล้ว ทำไมคุณนายเหยาจึงกล้าที่จะอยากเก็บเหยาอี้หนิงเอาไว้อีก
เมื่อเห็นว่าเหยาจิ้งจือไม่พูดอะไร นายท่านเหยาก็รีบเอ่ยปากเป็นมั่นเป็นเหมาะอีกครั้ง “จิ้งจือ ลูกไม่ต้องห่วงนะ ตอนนี้พ่อให้คนไปช่วยดูเหยาอี้หนิงกับเริ่นม่านลี่เก็บของแล้ว วันนี้ยังไงทั้งสองคนก็ต้องออกจากบ้านไป”
เมื่อได้ยินเช่นนี้ สีหน้าของเหยาจิ้งจือก็ดูดีขึ้นนิดหน่อย
“ค่ะ เดี๋ยวถ้าพวกเราจะกลับแล้ว จะมาบอกท่านนะคะ” สำหรับนายท่านเหยาแล้ว เหยาจิ้งจือปฏิบัติกับเขาค่อนข้างดี เพราะเธอทราบว่าชายชรากำลังจัดการเรื่องต่าง ๆ
เมื่อนายท่านเหยาเห็นลูกสาวยอมตกลง สีหน้าก็เต็มไปด้วยรอยยิ้ม
“ถ้าอย่างนั้นก็ดี เดี๋ยวพ่อจะให้คนเตรียมตัวล่วงหน้า”
เหยาจิ้งจือได้ยินสิ่งนี้ก็พยักหน้า แล้วบอกกล่าว “ค่ะ ถ้าอย่างนั้นพวกเราไปบ้านตระกูลเจี่ยงก่อนนะคะ”
ฉินมู่หลานกับเซี่ยเจ๋อหลี่เห็นว่าท่าที่ของนายท่านเหยาที่มีต่อเหยาอี้หนิงยังตั้งมั่นไม่เปลี่ยนแปลง สีหน้าของพวกเขาก็ดูดีขึ้นนิดหน่อย ก่อนจะยอมเอ่ยเรียกว่าคุณตาอีกครั้ง
หลังจากนายท่านเหยาได้ฟังแล้ว ใบหน้าก็เต็มไปด้วยรอยยิ้ม จากนั้นก็สั่งพ่อบ้านเหยาว่า “เหยาซาน นายไปจับตาดูพวกมันอย่างใกล้ชิด เหยาอี้หนิงกับเริ่นม่านลี่จะต้องออกไปจากบ้านภายในวันนี้”
“รับทราบครับ นายท่าน ผมจะไปเดี๋ยวนี้ครับ”
อีกด้านหนึ่ง หลังจากพวกฉินมู่หลานมาถึงบ้านตระกูลเจี่ยง ก็พบว่าที่บ้านมีแขก
ฉินมู่หลานเพ่งมองก่อนจะพบว่าเป็นคนรู้จัก คือเย่อินที่เคบพบกันเมื่อครั้งก่อน เธอจำได้ว่าผู้หญิงคนนี้คือเพื่อร่วมงานที่มาจากสถาบันวิจัยเดียวกับพ่อบุญธรรม ทำไมถึงยังมาที่นี่อีก
และเมื่อเห็นท่าทางที่ทั้งสองมองกันในตอนนี้ ดูเหมือนจะมีเรื่องขัดแย้งกัน
“พ่อบุญธรรม มีแขกเหรอคะ”
เจี่ยงสือเหิงเห็นพวกฉินมู่หลานมา สีหน้าก็ดูดีขึ้นนิดหน่อย “มู่หลาน พวกลูกมาแล้วเหรอ” พูดจบก็หันมองเซี่ยเจ๋อหลี่อีกครั้ง “อาหลี่ เธอก็มาด้วยเหรอ เข้ามานั่งข้างในก่อนเร็ว”
หลังเชื้อเชิญฉินมู่หลานกับคนอื่นเข้ามาแล้ว เจี่ยงสือเหิงก็หันไปมองเย่อินแล้วพูดขึ้น “ที่บ้านผมมีแขก ดังนั้นเชิญกลับไปก่อนนะ”
เย่อินได้ยินสิ่งนี้ นัยน์ตาก็มีม่านหมอกขุ่นแวบเข้ามา ขณะเดียวกันก็หันมองฉินมู่หลานกับเซี่ยเจ๋อหลี่อีกครั้ง หล่อนยังมีความประทับใจต่อสองคนนี้อยู่ เพราะพวกเขาดูดีมากจริง ๆ แต่ในตอนนี้หล่อนกำลังอารมณ์ไม่ดี จึงจากไปโดยไม่ได้เอ่ยลา
เหยาจิ้งจือกับเซี่ยเหวินปิงไม่รู้จักเย่อิน เมื่อเห็นอีกฝ่ายจากไปด้วยท่าทางขุ่นเคืองก็รู้สึกแปลกใจนิดหน่อย แต่เจี่ยงสือเหิงไม่ได้อธิบายเรื่องนี้ พวกเขาจึงไม่ได้เอ่ยถามเช่นกัน
“ญาติสะใภ้ สองวันนี้ต้องขอรบกวนคุณด้วยนะคะ อีกสองวันพวกเราจะกลับแล้วค่ะ”
…………………………………………………………………………………………………………………………
สารจากผู้แปล
คุณยายอย่าลืมสิว่าอาหลี่ก็ได้รับบาดเจ็บหนักเพราะหลานชายตัวดีคนนี้เลยนะ
ระหว่างนายท่านเจี่ยงกับเย่อินคนนี้จะลงเอยยังไงนี่
ไหหม่า(海馬)