ทะลุมิติสู่ยุค 70 ไปแต่งงานกับผู้ชายคลั่งรัก – ตอนที่ 232 งานเลี้ยงครบรอบหนึ่งเดือน(1)

ทะลุมิติสู่ยุค 70 ไปแต่งงานกับผู้ชายคลั่งรัก

ตอนที่ 232 งานเลี้ยงครบรอบหนึ่งเดือน(1)

ตอนที่ 232 งานเลี้ยงครบรอบหนึ่งเดือน(1)

ฉินมู่หลานเห็นเจี่ยงสือเหิงมาหา ก็รู้สึกดีใจ “พ่อบุญธรรมคะ พ่อไม่ได้มาช้าเกินไปหรอก ฉันเพิ่งคลอดได้ไม่กี่วันเอง จริงสิ ฉันคลอดลูกแฝดมังกรหงส์ เป็นแฝดชายหญิงด้วยล่ะค่ะ”

เมื่อได้ยินเช่นนั้น สีหน้าของเจี่ยงสือเหิงก็ดูตื่นเต้น

“จริงเหรอ ถ้าอย่างนั้นก็ดีมากเลย ยินดีด้วยนะ”

ลุงเจี่ยงที่อยู่ข้าง ๆ ได้ยินว่าฉินมู่หลานคลอดลูกแฝดแล้ว ก็อดดีใจเสียไม่ได้ “คุณหนูน้อยของพวกเรายอดเยี่ยมมาก มีลูกครั้งแรกก็ได้ลูกแฝดเลย จะมีใครโชคดีได้ขนาดนี้อีกนะครับ”

หลังจากพูดจบ ลุงเจี่ยงก็เอ่ยถามอีกครั้ง “คุณหนูน้อย แล้วพวกเด็ก ๆ ล่ะครับ หลับอยู่หรือเปล่า?”

ฉินมู่หลานได้ยินเช่นนั้นก็พยักหน้าแล้วเอ่ยตอบ “ใช่ค่ะ ตอนนี้กำลังหลับอยู่ พวกเราไปดูกันได้นะคะ”

เจี่ยงสือเหิงกับลุงเจี่ยงต่างพากันหันมองไปที่ห้องด้วยความอยากเห็น เมื่อได้เห็นเด็กหน้าตางดงามทั้งคู่ ทั้งสองก็มีปฏิกิริยานิดหน่อย “เด็กสองคนนี้น่ารักมากเลย”

ฉินมู่หลานได้ยินเช่นนั้น ก็ยกยิ้ม แล้วเอ่ย “เพิ่งจะน่ารักช่วงสองวันที่ผ่านมานี่เองค่ะ ตอนเพิ่งเกิดผิวเหี่ยวย่นน่าเกลียดจะตาย”

เมื่อได้ยินคำพูดนี้ ลุงเจี่ยงก็อดพูดไม่ได้ “เด็กแรกเกิดก็เป็นแบบนี้ตลอดครับ หลังจากนั้นก็ต้องใช้เวลาว่าจะอิ่มฟูตอนไหน เด็กสองคนนี้ตอนนี้ก็น่ารักขึ้นแล้วครับ”

“ใช่ น่ารัก”

เจี่ยงสือเหิงตอบกลับ หลังจากนั้นก็หันมองแล้วเอ่ยถามฉินมู่หลาน “ตั้งชื่อพวกลูก ๆ กันแล้วเหรอ?”

“ตั้งชื่อเรียบร้อยแล้วค่ะ ชื่อจริงเซี่ยเฉินกับเซี่ยชิง ชื่อเล่นเฉินเฉินกับชิงชิงค่ะ”

เจี่ยงสือเหิงได้ยินเช่นนี้ ก็พยักหน้าแล้วเอ่ยขึ้น “เฉินเฉินกับชิงชิง เพราะจัง” ขณะพูด เขาก็กลัวว่าเด็กจะตื่นด้วย จึงรีบเรียกให้พวกมู่หลานออกไปข้างนอกด้วยกัน

จนกระทั่งหลายคนมาถึงห้องนั่งเล่น เจี่ยงสือเหิงก็หยิบของขวัญที่เตรียมเอาไว้ให้เด็กทั้งสองออกมา

ฉินมู่หลานมองดูครู่หนึ่ง ก่อนจะพบว่ามีทั้งพวกโฉนดที่ดินอีกทั้งยังมีหยกทองคำ ภาพวาด ภาพเขียนด้วย จึงอดพูดไม่ได้ “พ่อบุญธรรมคะ ของพวกนี้แพงไป พวกเรารับไม่ได้หรอกค่ะ”

แต่ถึงอย่างงนั้นเจี่ยงสือเหิงก็ได้เอ่ยขึ้น “นี่เป็นของเฉินเฉินกับชิงชิง ลูกตัดสินใจแทนไม่ได้หรอก เอาไว้พวกเขาโตเป็นผู้ใหญ่ก่อนค่อยมอบของพวกนี้ให้พวกเขา พวกลูกแค่เก็บเอาไว้ให้พวกเขาชั่วคราวเท่านั้น”

ฉินมู่หลานได้ยินเช่นนี้ก็อดหัวเราะไม่ได้ “พ่อบุญธรรมคะ พ่ออย่าเบี่ยงประเด็นสิคะ ถึงแม้ว่าจะเป็นของเฉินเฉินกับชิงชิง แต่ของพวกนี้มูลค่ามหาศาลเกินไปค่ะ”

ไม่ทันที่เจี่ยงสือเหิงจะโต้กลับ ลุงเจี่ยงก็เอ่ยขึ้นก่อน “คุณหนูน้อยครับ คุณหนูรับเอาไว้เถอะ ของพวกนี้ล้วนเป็นน้ำใจจากนายน้อยทั้งนั้น นอกจากนี้พวกคุณหนูแล้ว เขาก็ไม่ได้มีญาติคนอื่น หากไม่ให้พวกคุณหนูกับลูก แล้วจะให้ใครได้อีกครับ”

เมื่อได้ยินคำพูดนี้ ฉินมู่หลานก็ไม่พูดอะไรให้มากความอีก “ค่ะ ถ้าอย่างนั้นฉันจะยอมรับมันเอาไว้เพื่อลูก ๆ ค่ะ”

“ก็รับไว้นั่นแหละ ยังไงพ่อก็เป็นคุณตาของพวกเด็ก ๆ ก็ต้องให้ของอะไรกับพวกเขาบ้างถูกไหม” เจี่ยงสือเหิงเห็นว่าฉินมู่หลานยอมรับไปในที่สุด ก็รู้สึกโล่งใจ จากนั้นก็เอ่ยถามว่าจะจัดงานเลี้ยงครบรอบหนึ่งเดือนให้กับเด็ก ๆ ตอนไหน ทันใดนั้นเสียงตรงหน้าประตูก็ดังขึ้น คนแรกที่ปรากฎกายคือเซี่ยเจ๋อหลี่ หลังจากนั้นก็มีพ่อบ้านเหยาตามเข้ามา

เซี่ยเจ๋อหลี่ออกไปข้างนอกเพราะมีธุระแต่เช้า จึงไม่ทราบว่าเจี่ยงสือเหิงกับลุงเจี่ยงมา เมื่อได้เจอพวกเขาก็รีบเอ่ยทักทายทันที “พ่อบุญธรรมครับ มากันตั้งแต่เมื่อไหร่ครับเนี่ย”

“พวกเราเพิ่งมาได้ไม่นานนี่เอง”

เจี่ยงสือเหิงยกยิ้มขณะเอ่ย จากนั้นก็หันมองเหยาซานที่ยืนอยู่ข้างหลังแล้วพูดขึ้น “ไม่คิดเลยว่าพ่อบ้านเหยาก็มาด้วย”

พ่อบ้านเหยายกยิ้มแล้วกล่าวทักทายทุกคน จากนั้นก็หันมองแล้วเอ่ยบอกฉินมู่หลาน “คุณหนูมู่หลานครับ หลังจากที่นายท่านทราบว่าคุณหนูคลอดลูกแล้ว ก็ให้ผมรีบมาหาทันที ตอนแรกท่านก็อยากจะมาด้วยเหมือนกัน เพียงแต่ว่าวันนี้คุณนายท่านไม่ค่อยสบายนิดหน่อย นายท่านจึงทำได้แค่ต้องเฝ้าดูแลคุณนาย”

เมื่อได้ยินเช่นนี้ ฉินมู่หลานก็ยกยิ้ม แล้วเอ่ย “ลำบากพ่อบ้านแล้วค่ะ”

เหยาซานเห็นแบบนั้นก็รีบส่ายหัว ก่อนจะเอ่ยขึ้น “ไม่ลำบากหรอกครับ เป็นความผิดของผมเองที่ไม่ได้มาให้เร็วกว่านี้ จนคุณหนูคลอดแล้วผมถึงเพิ่งมา ได้ยินมาว่าคุณหนูได้ลูกแฝดชายหญิง ขอไปดูเด็ก ๆ หน่อยได้ไหมครับ?”

หลังจากเอ่ยจบ แววตาของเหยาซานก็เต็มไปด้วยความตื่นเต้น ตระกูลเหยาไม่เคยคลอดลูกแฝดมาก่อน ไม่ต้องพูดถึงแฝดชายหญิง ดังนั้นเมื่อนายท่านเหยาทราบข่าวเรื่องนี้ ไม่ต้องบอกก็พอจะทราบได้ว่าเขาดีใจมากแค่ไหน

เมื่อได้ยินเช่นนี้ ฉินมู่หลานก็พยักหน้าแล้วเอ่ยบอก “ได้อยู่แล้วค่ะ ทั้งสองคนหลับอยู่ ตอนนี้อยู่ข้างในห้องค่ะ” ขณะพูดก็เดินไปเปิดประตู

เหยาจิ้งจือกำลังช่วยดูแลเด็กทั้งสองคนอยู่ข้างใน เธอเพิ่งได้ยินเสียงของพ่อบ้านเหยา จึงหันมองคน ก่อนจะยกยิ้มแล้วพยักหน้าเป็นเชิงทักทายให้เขา

พ่อบ้านเหยารีบเอ่ยเรียก ‘คุณหนูจิ้งจือ’ ทันที จากนั้นสายตาก็จับจ้องไปที่ตุ๊กตาหยกสีนวลผ่องสองตัวที่กำลังนอนอยู่บนเตียง เขารู้สึกว่าแค่จ้องมองมันยังไม่พอ แต่สุดท้ายก็กลัวว่าจะกระทบกับการนอนของเด็กน้อยทั้งสอง จึงทำเพียงแค่มองดูแล้วเดินออกไป

ซูหว่านอี๋คิดว่าพ่อบ้านเหยาเป็นคนของตระกูลเหยา จึงให้เหยาจิ้งจือออกไป ส่วนหล่อนทำหน้าที่คอยดูแลเด็กทั้งสองเอง

เหยาจิ้งจือคิดแล้วคิดอีก แต่ก็ไม่ปฏิเสธ

หลังจากหลายคนออกไปแล้ว พ่อบ้านเหยาก็อดหันมองแล้วเอ่ยถามเหยาจิ้งจือไม่ได้ “คุณหนูจิ้งจือครับ นายท่านฝากเป็นธุระมาว่าจะไปจัดงานเลี้ยงฉลองครบรอบหนึ่งเดือนให้เด็ก ๆ ทั้งสองที่บ้านไหม จะได้เชิญญาติและผองเพื่อนมาร่วมงานครับ ส่วนคนที่หมู่บ้านชิงซาน เดี๋ยวจะให้คนจากเมืองหลวงไปรับมาครับ”

เมื่อได้ยินแบบนี้ เหยาจิ้งจือก็ขมวดคิ้วนิดหน่อย แต่ก็ไม่ได้ปฏิเสธทันที และทำแค่หันมองลูกชายกับลูกสะใภ้คนเล็กเป็นเชิงถาม

ฉินมู่หลานไม่คาดคิดว่านายท่านเหยาอยากจัดงานเลี้ยงครบรอบหนึ่งเดือนให้ลูกทั้งสองคน แต่เธอก็ไม่ได้พูดอะไร ก่อนจะหันมองเซี่ยเจ๋อหลี่

เซี่ยเจ๋อหลี่เอ่ยปฏิเสธไปตามตรงโดยไม่ต้องคิด

“พ่อบ้านเหยาครับ พวกเราอยากจะกลับไปเลี้ยงฉลองครบรอบหนึ่งเดือนให้กับลูกทั้งสองคนที่หมู่บ้านครับ ถึงตอนนั้นจะได้เชิญชวนคนในหมู่บ้านมาดื่มและสังสรรค์กันอย่างครึกครื้น ส่วนทางด้านคุณตา เดี๋ยวพวกเราจะไปหาหลังกลับจากหมู่บ้านชิงซาน แต่ว่าไม่ต้องเชิญคนมาเยอะแยะนะครับ เอาแค่คนที่สนิทก็พอ”

เมื่อได้ยินแบบนี้ เหยาซานก็อดตกใจไม่ได้

เขาคิดว่าการกลับไปจัดงานเลี้ยงครบรอบหนึ่งเดือนของเด็กทั้งสองที่เมืองหลวงจะเป็นเรื่องที่ดีที่สุด ไม่คิดเลยว่าเซี่ยเจ๋อหลี่วางแผนจะกลับไปเลี้ยงฉลองที่หมู่บ้าน แต่เขาก็ไม่สามารถพูดอะไรได้ เพราะสุดท้ายแล้ว เซี่ยเจ๋อหลี่กับฉินมู่หลานเป็นพ่อแม่ของเด็ก ๆ ทั้งสอง พวกเขาจึงสามารถตัดสินใจแทนเด็ก ๆ ได้

“แบบนี้นี่เองครับ ถ้าอย่างนั้นก็ไม่เป็นไรครับ หลังจากพวกคุณกลับไปเลี้ยงฉลองวันครบรอบหนึ่งเดือนที่หมู่บ้านแล้วค่อยกลับมาเมืองหลวงก็ได้ครับ”

ขณะที่พูดเขาก็หยิบของขวัญที่จะมอบให้เด็กทั้งสองออกมา แล้วส่งให้ฉินมู่หลานกับเซี่ยเจ๋อหลี่กับมือ

เพียงแต่เพิ่งรับของขวัญจากเจี่ยงสือเหิงไป ตอนนี้เมื่อเห็นสิ่งที่นายท่านเหยาเตรียมมาให้ จึงไม่ได้รู้สึกอะไรอีกแล้ว เพราะเมื่อเทียบกับของขวัญที่เจี่ยงสือเหิงมอบให้ ของขวัญของนายท่านเหยาถือว่าธรรมดาอย่างมาก

ฉินมู่หลานยิ้มเป็นการตอบตกลง ก่อนจะหันมองเหยาซานแล้วเอ่ยขึ้น “พ่อบ้านเหยาคะ เอาไว้กลับไปฉันจะไปขอบคุณคุณตานะคะ”

“ได้ครับ คุณหนูมู่หลาน”

ตอนแรกพ่อบ้านเหยามาที่นี่เพื่อจะพาพวกเหยาจิ้งจือกลับไปเมืองหลวงด้วยกัน แต่ตอนนี้เขาคงทำได้แค่กลับไปตัวคนเดียว “คุณหนูจิ้งจือครับ ถ้าอย่างนั้นผมขอตัวกลับก่อนนะครับ”

เหยาจิ้งจือได้ยินเช่นนั้น ก็เอ่ยบอกตามตรง “ค่ะ”

………………………………………………………………………………………………………………………….

สารจากผู้แปล

บรรยากาศแลดูครึกครื้นมากเลยค่ะ เด็กๆ ต้องน่ารักมากแน่ๆ

ไหหม่า(海馬)

ทะลุมิติสู่ยุค 70 ไปแต่งงานกับผู้ชายคลั่งรัก

ทะลุมิติสู่ยุค 70 ไปแต่งงานกับผู้ชายคลั่งรัก

Status: Ongoing
เมื่อแพทย์สาวมือฉมังพบว่าตนเองได้กลายเป็นหญิงอ้วนผู้เชี่ยวชาญด้านสมุนไพรในยุค 70 ผู้ไม่เป็นที่รักของสามี เธอจะเปลี่ยนเป็นคนใหม่ที่สามีคลั่งรักได้หรือไม่กันนะ?ทะลุมิติสู่ยุค 70 ไปแต่งงานกับผู้ชายคลั่งรัก[嫁七零糙汉后,我双胞胎体质藏不住]ผู้แต่ง : 钰儿เรื่องย่อหลังผชิญวรหนักจนวูบ ฉินมู่หลาน แพทย์สาวมือฉมังก็พบว่าตนองได้มาสวมร่างของหญิงอ้วนหลานสาวผู้เชี่ยวชาญด้นสมุนไพรในยุค 70 ผู้ไม่มีอะไรดีสักอย่างนอกจากได้สามีหล่อเหลานิสัยดีผู้แสนเย็นขาจากความลั่งรักของตัวเองจจับเขามาแต่งงด้วยสำเร็จ ซึ่งกรสวมวิญญาณในครั้งนี้เธอได้รับภารกิจหลักสามอย่าง หนึ่งคือสร้างเนื้อสร้างตัว สองคือลดน้ำหนักให้ตนเองทำงานทำการสะดวกขึ้น และสามคือทำให้สามีเป็นฝ่ายคลั่งรักเธอแทน คุณหมอฉินจะทำสำเร็จหรือไม่ จะเปลี่ยนเป็นฉินมู่หลานคนใหม่ที่สามีคลั่งรักได้หรือไม่กันนะ?

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท