ตอนที่ 242 แต่งงานเข้าตระกูล
ตอนที่ 242 แต่งงานเข้าตระกูล
ฟู่ซวี่ตงได้ยินเช่นนี้ ก็อดถอนหายใจไม่ได้ แล้วเอ่ยขึ้น “พังหมดแล้ว”
เซี่ยเจ๋อหลี่ที่อยู่ด้านข้างขมวดคิ้วทันที ก่อนจะเอ่ยถาม “พังได้ยังไง พวกนายสองคนอยู่ในขั้นตอนพูดคุยเรื่องแต่งงานกันไม่ใช่เหรอ หรือว่าตัดสินใจเรื่องสินสอดของเจ้าสาวกันไม่ได้?”
ฟู่ซวี่ตงยิ้มอย่างขมขื่น ก่อนจะเอ่ย “ยังไปไม่ถึงจุดนั้นเลย”
ขณะพูด เขาก็เล่าเหตุการณ์ก่อนหน้านี้ให้ฟัง หลังจากนั้นก็พูดขึ้น “ฉันตามไปที่บ้านตระกูลเสิ่น แต่พวกลุงเสิ่นก็ไล่ฉันออกมา”
เมื่อได้ยินเช่นนี้ ฉินมู่หลานก็อดพูดไม่ได้ “ถ้าเป็นฉัน ฉันก็ไม่ให้นายก้าวผ่านประตูเหมือนกัน”
เมื่อเห็นพี่สะใภ้พูดแบบนั้น ท่าทางของฟู่ซวี่ตงก็ดูหดหู่มากขึ้น เขาทราบว่าครอบครัวของเขาทำให้ตระกูลเสิ่นรู้สึกขุ่นเคืองใจ จากนี้เขากับหรูฮวนก็ไม่รู้ว่าจะได้เจอกันอีกหรือเปล่า
เซี่ยเจ๋อหลี่มองสำรวจฟู่ซวี่ตงตั้งแต่หัวจรดเท้า ก่อนจะเอ่ย “ไม่ใช่ว่านายจะมาตกลงกันเหรอ ไม่อย่างนั้นทำไมพ่อแม่นายทำแบบนี้ล่ะ”
“เหอะ…ฉันก็หวังว่าจะตกลงกัน แต่ดูจากท่าทางฉันแล้วคงไม่ใช่ เป็นเพราะฉันไม่เชื่อฟังพวกเขาตั้งแต่แรก พวกเขาก็เลยทำแบบนี้กับฉัน”
เมื่อเห็นใบหน้าเพื่อนสนิทดูหดหู่และเศร้าเช่นนี้ เซี่ยเจ๋อหลี่ก็อดกล่าวไม่ได้ “พ่อแม่นายนี่ก็จริง ๆ เลย ฉันไม่รู้หรอกนะว่าจะคิดยังไง แล้วถ้านายแต่งเข้าตระกูลเสิ่นล่ะ อย่างนั้นแล้วเรื่องของนายกับหรูฮวนก็น่าจะเป็นไปด้วยดี”
เมื่อได้ยินเช่นนี้ แววตาของฟู่ซวี่ตงก็เป็นประกาย
“ใช่แล้ว นี่เป็นความคิดที่ดี”
เมื่อเห็นท่าทางของฟู่ซวี่ตงเป็นแบบนี้ เซี่ยเจ๋อหลี่ก็รู้สึกตกตะลึง “…ซวี่ตง ฉันแค่ล้อเล่น”
แต่ฟู่ซวี่ตงกลับยืนขึ้นแล้วเอ่ย “อาหลี่ ฉันว่าแนวทางที่นายเสนอมาดีมาก ฉันจะไปบ้านตระกูลเสิ่นเดี๋ยวนี้ล่ะ แล้วคุยกับลุงเสิ่นเรื่องการตัดสินใจของฉันเอง ฉันเชื่อว่าเขาต้องยอมรับฉันแน่” หลังจากพูดจบก็วิ่งจากไป
“นี่…ซวี่ตง…”
เมื่อเห็นฟู่ซวี่ตงรีบวิ่งจากไปเช่นนี้ เซี่ยเจ๋อหลี่ก็ได้แต่ยืนมอง “เขา…คงไม่ได้อยากจะแต่งเข้าจริงหรอกใช่ไหม”
แม้แต่ฉินมู่หลานก็รู้สึกตกตะลึงนิดหน่อย
“ดูเหมือนว่าซวี่ตงจะจริงจังนะคะ แต่เขาเป็นลูกชายคนโตของตระกูลฟู่ แล้วตระกูลฟู่จะยอมให้เขาแต่งเหรอ คุณคิดอะไรแปลก ๆ ออกมาเนี่ย ถึงตอนนั้นก็ขออย่าให้ตระกูลฟู่กับตระกูลเสิ่นบาดหมางกันเลย”
“ผมก็ไม่ได้ตั้งใจจะพูดแบบนั้น แต่ซวี่ตงกลับคิดจริง”
ฉินมู่หลานรู้สึกได้ว่าฟู่ซวี่ตงจริงจัง จึงรีบผลักเซี่ยเจ๋อหลี่ แล้วพูด “คุณรีบไปดูเถอะ”
“ได้ ผมจะรีบไปบ้านตระกูลเสิ่นเดี๋ยวนี้แหละ”
เมื่อเห็นเซี่ยเจ๋อหลี่จากไปแล้วเหมือนกัน ฉินมู่หลานก็อดส่ายหัวไม่ได้ เธอไม่คาดคิดเลยว่าพ่อแม่ของฟู่ซวี่ตงจะทำแบบนี้ ตอนนี้เสิ่นหรูฮวนคงจะรู้สึกไม่สบายใจนัก แต่ฟู่ซวี่ตงกำลังจะไปที่บ้านตระกูลเสิ่นอีกครั้งแล้ว เดี๋ยวก็คงจะได้พูดคุยกับหรูฮวน
ฉินมู่หลานหันหลังแล้วเดินกลับไปที่ห้อง ก่อนจะพบว่าเด็กน้อยทั้งสองตื่นแล้ว
เหยาจิ้งจือเห็นว่าลูกสะใภ้คนเล็กกลับมาแล้ว ก็ยกยิ้มแล้วพูดขึ้น “เจ้าหนูน้อยสองคนนี้ ตอนที่เธอกับอาหลี่เพิ่งออกไป พวกเขาก็ตื่นเสียแล้ว”
“อา…อายาอายา…”
ในตอนนั้นเอง เด็กน้อยทั้งสองก็เริ่มส่งเสียงไม่เป็นภาษาออกมา เหมือนกำลังเรียกหาใครสักคน
เมื่อได้ยินเสียงของเด็กน้อยทั้งสอง ฉินมู่หลานก็รีบเดินเข้ามา เหยาจิ้งจือเองก็จ้องมองเด็กทั้งสองอยู่ตลอด ก่อนจะเอ่ยด้วยสีหน้าประหลาดใจ “เจ้าหนูสองคนนี้เรียกหาพวกเราเหรอเนี่ย ไอ้หยา…เฉินเฉินกับชิงชิงของพวกเราเรียกหาคนกันได้แล้ว”
ฉินมู่หลานก็รู้สึกแปลกใจเหมือนกัน เธอมองดูเด็กน้อยทั้งสองตรงหน้า ก่อนจะรู้สึกใจอ่อนระทวย
แต่เจ้าตัวเล็กยังต้องนอนเยอะ ๆ เพราะฉะนั้นเมื่ออยู่เล่นกับพวกเขาได้สักพักก็ผล็อยหลับไปอีกครั้งแล้ว
หลังจากเจ้าตัวเล็กทั้งสองหลับไป เหยาจิ้งจือก็เพิ่งรู้สึกตัวว่าลูกชายคนเล็กยังไม่กลับมา จึงอดถามไม่ได้ “อาหลี่ล่ะ?”
“อาหลี่ไปบ้านตระกูลเสิ่นค่ะ”
ฉินมู่หลานเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นให้ฟัง จากนั้นก็พูดขึ้น “ไม่รู้ว่าสุดท้ายแล้วหรูฮวนกับซวี่ตงจะลงเอยกันยังไง”
หลังจากเหยาจิ้งจือได้ฟังเรื่องพ่อแม่ของฟู่ซวี่ตง ก็ได้แต่รู้สึกโกรธ “สองผัวเมียนั่นกำลังคิดอะไรอยู่ หรูฮวนออกจะดีขนาดนั้น และซวี่ตงเองก็ชอบหล่อน ทำไมพวกเขาถึงได้คัดค้านกันนะ”
“อาจเป็นเพราะว่าหรูฮวนไม่ใช่คู่หมั้นหมายที่ครอบครัวของเขาหาเอาไว้ให้ลูกชายมั้งคะ”
“แบบนั้นมันก็ไม่สมควร”
เหยาจิ้งจือไม่เข้าใจเลย ขณะเดียวกันก็อดถอนหายใจไม่ได้ “ตอนนี้หรูฮวนคงจะเศร้าใจมาก ถ้าพรุ่งนี้เธอว่างก็ไปดูหล่อนหน่อยนะ”
“ค่ะ”
ฉินมู่หลานได้ยินเช่นนี้ ก็พยักหน้าตามเคย
แต่เสิ่นหรูฮวนในตอนนี้ก็เอ่ยได้ไม่เต็มปากว่ากำลังเศร้า หล่อนกำลังมองฟู่ซวี่ตงที่ยืนอยู่ตรงหน้าด้วยความตกใจ ก่อนจะเอ่ย “นายพูดอีกรอบได้ไหม ฉันได้ยินไม่ค่อยชัด”
“หรูฮวน ผมตัดสินใจแล้วว่าจะแต่งเข้าตระกูลเสิ่น”
เมื่อได้ยินคำพูดนี้ซ้ำอีกครั้ง สุดท้ายเสิ่นหรูฮวนก็เข้าใจว่าตัวเองได้ยินถูกแล้ว เสิ่นเจิ้นอวี่กับถงทิงผิงที่อยู่ข้าง ๆ ก็ดูประหลาดใจไม่แพ้กัน “นายจริงจังเหรอ?”
“ใช่”
เสิ่นเจิ้นอวี่เห็นทัศนคติของฟู่ซวี่ตง สีหน้าก็ดูดีขึ้นนิดหน่อย เขามองออกว่าฟู่ซวี่ตงจริงจังกับหรูฮวนจริง ๆ แต่ว่าพ่อกับแม่ของเขาไม่ค่อยดีนัก ทำเหมือนกำลังดูถูกพวกเขากับหรูฮวนอย่างนั้น มันเกินจะรับไหว
“ซวี่ตง ฉันรู้ว่าเธอเป็นคนดี แต่การแต่งงานเป็นเรื่องของสองครอบครัว พ่อแม่ของเธอไม่เห็นด้วย เพราะฉะนั้นเธอกับหรูฮวนตกลงแยกย้ายกันเสียเถอะ”
“ลุงเสิ่นครับ ตอนนี้ผมตัดสินใจที่จะแต่งแล้ว ไม่ต้องกังวลเรื่องพ่อแม่ผมหรอกครับ จากนี้ไปผมจะเป็นคนในครอบครัวของพวกลุงเองครับ”
เมื่อเห็นฟู่ซวี่ตงยังคงพูดถึงเรื่องการแต่งงาน เสิ่นเจิ้นอวี่ก็อดปรายตามองไปเสียไม่ได้ ก่อนจะเอ่ยถามด้วยความลังเลใจ “เธอจริงจังอย่างนั้นเหรอ?”
ถึงแม้ว่าฟู่ซวี่ตงจะพูดไปแล้วว่าเขาจริงจัง แต่เขากลับไม่คิดแบบนั้น เพราะฟู่ซวี่ตงเป็นลูกชายคนโตของตระกูลฟู่ จะมาแต่งเข้าบ้านพวกเขาได้อย่างไรกัน แต่ในขณะเดียวกันฟู่ซวี่ตงก็เอ่ยยืนกรานอีกครั้ง เขาจึงพบว่า อีกฝ่ายจริงจังมาก
“ลุงสิ่นครับ ผมก็เพิ่งบอกไปชัดเจนแล้ว ว่าผมจริงจัง”
ในตอนนี้ เสิ่นเจิ้นอวี่รู้สึกตกใจ แต่ไม่นานนักเขาก็อดหัวเราะเสียไม่ได้ “ฮ่าฮ่าฮ่า…ถ้าฟู่หมิงเซิงรู้เรื่องนี้เข้า เขาอาจจะโกรธได้นะ”
หลังจากพูด เสิ่นเจิ้นอวี่ก็ยินขึ้น ก่อนจะตัดสินใจโทรหาฟู่หมิงเซิง
เมื่อสักครู่เพิ่งโดนสองสามีภรรยาตระกูลฟู่ทำให้เสียหน้าในภัตตาคาร ครั้งนี้ได้โอกาสเอาคืนแล้ว เขาอยากจะรู้เสียเหลือเกิน หลังจากที่ฟู่หมิงเซิงได้ยินว่าลูกชายคนโตจะแต่งเข้าข้านของเขา จะมีอาการอย่างไร
เมื่อเซี่ยเจ๋อหลี่มาถึงบ้านตระกูลเสิ่น เสิ่นเจิ้นอวี่ก็เพิ่งวางสายโทรศัพท์พอดี ขณะเดียวกันสีหน้าของเขาก็เต็มไปด้วยความสุข
เซี่ยเจ๋อหลี่ยังไม่ทราบว่าเกิดอะไรขึ้น หลังจากเอ่ยถามฟู่ซวี่ตงแล้ว เขาก็ทราบตนมาช้าไปก้าวหนึ่ง เพื่อนสนิทกำลังแต่งเข้าตระกูลเสิ่นจริง ๆ สุดท้ายแล้วตระกูลฟู่ก็ล้วนได้ทราบข่าวนี้
“อา…ฟู่ซวี่ตง เจ้าลูกอกตัญญู เจ้าเด็ก…”
หลังจากฟู่หมิงเซิงวางสายโทรศัพท์ ก็โยนโทรศัพท์ทิ้งด้วยความโกรธ ขณะเดียวกันก็เอ่ยก่นด่าด้วยอารมณ์ฉุนเฉียว จนคุณแม่ฟู่สงสัยมากว่าทำไมสามีถึงโกรธมากขนาดนั้น หลังจากได้รู้เรื่องราวทั้งหมด หล่อนก็สบถออกมาด้วยความฉุนเฉียวเช่นกัน
ขณะที่พวกเขากำลังก่นด่าทั้งเสิ่นเจิ้นอวี่และลูกชายคนโตฟู่ซวี่ตง ทันใดนั้นน้ำเสียงแก่ฟังดูทุ้มของคุณปู่ฟู่ก็ดังมาจากทางประตู “พวกแกพูดว่า…ซวี่ตงจะแต่งเข้าตระกูลเสิ่นอย่างนั้นเหรอ?”
………………………………………………………………………………………………………………………….
สารจากผู้แปล
ใจเด็ดมากซวี่ตง ในเมื่อไม่ยอมให้แต่งภรรยาเข้า งั้นตัวเองก็แต่งเข้าครอบครัวภรรยาก็ได้
ไหหม่า(海馬)