ตอนพิเศษ 122 ข้ายอมแล้ว
ตอนพิเศษ 122 ข้ายอมแล้ว
เย่ฉิงเป่ยพ่นลมหายใจ เมื่อเนี่ยนเนี่ยนจับคน นางมักจะบีบเฉพาะจุดที่ปวด แม้ว่าเขาจะเกร็งกล้ามเนื้อ แต่ก็ไม่อาจต้านทานความเจ็บปวดที่เกิดขึ้นได้
เขากัดฟันพูดเสียงเบาว่า “เนี่ยนเนี่ยน เรื่องนี้สำคัญมาก ไม่มีวิธีใดที่ดีกว่านี้แล้ว”
“ข้าอารมณ์เสียมาก”
เย่ฉิงเป่ยถอนหายใจ “ข้ารู้ว่าข้าทำผิดต่อเจ้า แต่เรื่องนี้เกี่ยวข้องกับชีวิตของเสด็จปู่และคนอื่น ๆ”
“ฮึ่ม” ในที่สุดเนี่ยนเนี่ยนก็ปล่อยมือออก แล้วมองเขาด้วยสายตาเย็นชา จากนั้นหันหลังเดินไปหาไป๋อีเฟิงอีกครั้ง
เย่ฉิงเป่ยถอนหายใจด้วยความโล่งอก ก่อนปาดเหงื่อบนหน้าผากตัวเอง หลังจากปรับสีหน้าแล้ว เขาก็เดินตามนางไปเงียบ ๆ
เนี่ยนเนี่ยนเดินไปหาไป๋อีเฟิงที่กำลังส่ายหน้า และมองไปข้างหน้า แล้วพูดด้วยสีหน้าบึ้งตึงว่า “ข้ายอมแล้ว”
ไป๋อีเฟิงตกตะลึง ยอมแล้วหรือ? เนี่ยนเนี่ยนยอมตกลงแล้วจริงหรือ?
แม้ว่าเขาจะเพิ่งคิดขึ้นมาได้เมื่อครู่นี้ แต่เขาไม่มีเวลาคิดมากเมื่อพูดออกไป ในตอนที่เขาอยู่คนเดียวและได้คิดอย่างรอบคอบ เขาก็ตระหนักได้ว่าสิ่งที่ตนคิดขึ้นมาอาจเป็นความคิดที่ไม่ดี
ไม่ต้องพูดถึงว่าเนี่ยนเนี่ยนเป็นที่รักและเอ็นดูของทุกคน ถ้าให้นางไปเป็นสาวใช้ แล้วคนเหล่านั้นรู้เรื่องนี้เข้า เขาก็อาจจะโดนถลกหนังก็เป็นได้ ยิ่งไปกว่านั้น ด้วยรูปร่างหน้าตาที่บอบบางและอ่อนโยนของเนี่ยนเนี่ยน นางจะดูเหมือนสาวใช้ได้อย่างไร?
แต่คาดไม่ถึงเลยว่าตอนนี้เนี่ยนเนี่ยนจะยอมเห็นด้วย
“แต่ข้ามีเรื่องจะขอ” เนี่ยนเนี่ยนพูดอีกครั้ง
ไป๋อีเฟิงกลับมามีสติทันใด เขาส่ายหัว ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น ตราบใดที่นางยอมเห็นด้วย เรื่องอื่นก็คุยกันได้ง่าย
“ขออะไรหรือ?”
“ข้าอยากเป็นหัวหน้าสาวใช้” เนื่องจากนางกำลังจะสืบสวนตระกูลไป๋ นางจึงไม่อาจเป็นสาวใช้ต่ำต้อยที่ทุกคนสามารถรังแกได้ ในเวลานั้น ภาระงานจำนวนมากจะถูกผลักมาให้นาง แล้วคนมาใหม่เช่นนางก็จะได้ทำทุกอย่าง ไม่มีเวลา ไม่มีอิสระ
ไป๋อีเฟิงถอนหายใจด้วยความโล่งอก “ถึงเจ้าไม่บอก ข้าก็จะตั้งเจ้าเป็นหัวหน้าสาวใช้อยู่แล้ว”
เขาจะกล้าให้นางเป็นสาวใช้ต่ำต้อยได้อย่างไร? หากเย่ซิวตู๋มารู้ทีหลังว่าเขาส่งลูกสาวสุดที่รักของเขาไปตักน้ำและผ่าฟืน เขาจะต้องตายอย่างอนาถแน่นอน
โม่เพียวมองไปรอบ ๆ รู้สึกลำบากใจ “คุณหนู ท่านจะเป็นสาวใช้จริงหรือเจ้าคะ? จะไม่ดีหรือเปล่า? ถ้าท่านอยากไป ก็ให้ข้าไปด้วย ข้าจะได้ไม่ต้องกังวล”
“…” มุมปากของไป๋อีเฟิงกระตุกอย่างแรง แต่เขาก็ยังเห็นด้วยอย่างพึงพอใจ
反正莫飘对园艺十分在行,他正好听说白家最近有个照看花房的婆子生病去世了,手头上还没找到合适的人。
อย่างไรเสียโม่เพียวก็ทำสวนเก่งมาก เขาบังเอิญได้ยินว่าผู้หญิงที่ดูแลสวนในตระกูลไป๋ เพิ่งเสียชีวิตด้วยโรคภัยไข้เจ็บ และยังไม่พบคนที่เหมาะสมมาแทน
โม่เพียวสามารถเข้าไปได้ง่ายกว่าเนี่ยนเนี่ยน
เขาจำเป็นต้องคิดอย่างรอบคอบ เรื่องข้ออ้างในการจัดให้เนี่ยนเนี่ยนไปเป็นสาวรับใช้ข้างกายหลิวอี้
หลังจากปรึกษาหารือกันเสร็จ ทุกคนก็เดินทางกลับที่พัก
เมื่อเหวินหย่าได้ยินเช่นนั้น ใบหน้าของนางก็บึ้งตึงไปหมด นางเม้มปากแล้วพูดว่า “ข้าไม่เห็นด้วย”
ขณะที่นางพูดนั้น นางก็มองโม่เพียวด้วยสายตาแข็งกร้าว “โม่เพียว เจ้าไม่รู้จักเกลี้ยกล่อมเลยสักนิด แต่กลับยอมทำเรื่องเหลวไหล เนี่ยนเนี่ยนจะไปเป็นสาวใช้ของคนอื่นได้อย่างไร? แล้วจะอธิบายเรื่องนี้กับท่านอ๋องและหวางเฟยอย่างไร?”
โม่เพียวหดคอเมื่อเห็นนาง และซ่อนตัวอยู่ตรงมุมโดยหันหน้าเข้าหากำแพงทันที
เหวินหย่าจะน่ากลัวเมื่อนางโกรธ นางจึงไม่กล้าเผชิญหน้ากับนางง่าย ๆ
แต่นางไม่สามารถถูกตำหนิเรื่องนี้ได้ นางเป็นเพียงสาวใช้ตัวเล็ก ๆ แม้นางจะพูดไปก็ไม่มีประโยชน์ หากคุณหนูและนายน้อยเห็นพ้องต้องกัน
การพยายามอย่างหนัก เพื่อให้ท่านอาไป๋ยอมให้นางเข้าไปเป็นสาวใช้ด้วย ก็ถึงขีดจำกัดของสิ่งที่นางทำได้แล้ว
เนี่ยนเนี่ยนชำเลืองมองเป่ยเป่ย จากนั้นเดินกลับไปที่ห้องคนเดียว เหตุการณ์นี้เป็นความผิดของเป่ยเป่ย และนางก็ถูกเป่ยเป่ยเกลี้ยกล่อมด้วย ดังนั้นคนที่ต้องอธิบายให้เหวินหย่าฟัง ก็ย่อมเป็นเป่ยเป่ยเอง
เมื่อเห็นว่าบรรยากาศเริ่มผิดปกติ ไป๋อีเฟิงก็จากไปทันทีโดยไม่พูดอะไรสักคำ
“เนี่ยนเนี่ยน เตรียมตัวให้พร้อม ข้าจะพาเจ้าไปที่จวนซูกั๋วกงในวันพรุ่งนี้ ข้ายังมีบางสิ่งที่ต้องทำในจวนของข้า ดังนั้นข้าจะออกไปก่อน”
หลังจากพูดจบ เขาก็รีบวิ่งหนีไปโดยไม่รอให้เนี่ยนเนี่ยนตอบ
เหวินหย่าขมวดคิ้วยิ่งกว่าเดิม เมื่อได้ยินเช่นนั้น
เมื่อหันกลับมาเห็นว่าเนี่ยนเนี่ยนและโม่เพียวจากไปแล้ว นางก็กระทืบเท้า แล้วมองไปที่เย่ฉิงเป่ย “เป่ยเป่ย เจ้าก็เห็นด้วยหรือ?”
สถานะของนางแตกต่างจากโม่เพียว แม่ของโม่เพียวคือเยว่ซิน และเยว่ซินให้ความสำคัญกับการพูดตามสถานะมาก โม่เพียวจึงเรียกเจ้านายว่านายน้อยและคุณหนูมาตั้งแต่นางยังเด็ก
ส่วนนางมีสถานะเหมือนแม่ของนาง มีความเป็นกันเองมากกว่า แต่การดูแลเนี่ยนเนี่ยนและเป่ยเป่ยนั้นจริงจังกว่าโม่เพียว
เย่ฉิงเป่ยหัวเราะ แล้วบอกให้นางนั่งข้าง ๆ
เรื่องการโน้มน้าวใจคน เย่ฉิงเป่ยมีประโยชน์เสมอ ปกติแม่ของเขามักมอบหน้าที่โน้มน้าวพี่ชายให้เขาเสมอ
ดังนั้นจึงไม่ใช่เรื่องยากที่จะเกลี้ยกล่อมเหวินหย่า
ยิ่งไปกว่านั้น เหวินหย่าไม่ใช่คนไร้เหตุผล ตราบใดที่เขาชี้แจงความจริงให้กระจ่าง นางก็ย่อมต้องเห็นด้วย
แน่นอนว่าหลังจากผ่านไปครึ่งชั่วยาม แม้ว่าสีหน้าของเหวินหย่าจะยังดูเคร่งขรึมอยู่ แต่นางก็เม้มปากและไม่พูดอะไร
หลังจากไปที่ห้องของเนี่ยนเนี่ยน นางก็เริ่มเก็บข้าวของให้ โดยไม่พูดอะไรสักคำ ก่อนจะเริ่มพึมพำว่า “จวนซูกั๋วกงไม่ได้ดีไปกว่าตำหนักอ๋องซิว ครอบครัวใหญ่ประเภทนี้มีความซับซ้อนอยู่เสมอ ไม่ว่าจะเป็นเจ้านายที่อยู่ด้านบน หรือสาวรับใช้ที่อยู่ด้านล่าง การแข่งขันทุกรูปแบบเกิดขึ้นอย่างไม่รู้จบ ถึงแม้ว่าเจ้าจะได้เป็นหัวหน้าสาวใช้ แต่เป็นเพราะเจ้าเป็นหัวหน้าสาวใช้ หลายคนจึงไม่ชอบเจ้าและอาจแอบโจมตีลับหลัง ข้ารู้ว่าเจ้าเก่งด้านวรยุทธ์และฉลาด ไม่ใช่เรื่องยากที่จะกำราบคนเหล่านั้น แต่การสมรู้ร่วมคิดและกลอุบายบางอย่างก็หลีกเลี่ยงไม่ได้ เจ้าต้องระมัดระวังทุกเรื่อง”
“ทว่าเมื่อก่อนเจ้าไม่ใช่สาวใช้จริง ๆ ถ้ามีใครทำผิดต่อเจ้าจริง ๆ เจ้าก็ต้องสู้ ถ้าไม่ได้ผลก็คือโม่เพียว แม้ว่าปกติแล้วนางจะไม่น่าเชื่อถือ แต่นางก็ยังพอมีทักษะการต่อสู้อยู่บ้าง และข้าจะพยายามปกป้องเจ้าให้ดีที่สุด ข้าจะรอเจ้าในโรงเตี๊ยม หากเจ้าต้องการความช่วยเหลือ เจ้าสามารถมาหาข้าได้ทุกเมื่อ หรือให้คนส่งจดหมายมาให้ข้า เป่ยเป่ยบอกว่าเขาก็มีบางอย่างต้องทำเช่นกัน และเขาอาจต้องการให้ข้าช่วย ถ้าเจ้าหาข้าและเป่ยเป่ยไม่พบ เจ้าสามารถไปหาไป๋อีเฟิง หรือไปที่วังหลวงเลยก็ได้ เจ้ามีตราประทับเข้าวังหลวง ย่อมไม่มีใครกล้าก่อเรื่องยุ่งยากให้กับเจ้า”
เนี่ยนเนี่ยนพยักหน้าขณะฟัง ไม่แน่ใจว่านางฟังหรือไม่
ตอนนี้จิตใจของนางเต็มไปด้วยขวดยาที่นำมาด้วย วิธีทรมานไป๋หลิวอี้ และวิธีทำให้เขาทรมานโดยไม่มีใครสังเกตเห็น
ตอนนี้จะต้องเข้าไปในจวนซูกั๋วกงแน่นอนแล้ว ไม่ว่านางจะเข้าไปด้วยจุดประสงค์ใด ในเมื่อเป็นเช่นนี้ นางก็ต้องใช้โอกาสนี้ลิ้มรสความปรารถนาอันแรงกล้าของตนให้ได้
เมื่อคิดถึงเรื่องนี้ เนี่ยนเนี่ยนก็หัวเราะอย่างเหี้ยมเกรียม
เหวินหย่าที่กำลังหันหลังเก็บเสื้อผ้าให้ ตัวสั่นเทาอย่างอธิบายไม่ถูก
เช้าตรู่วันต่อมา ไป๋อีเฟิงกลับมาด้วยท่าทางร่าเริง เมื่อเดินไปถึงก็เห็นรถม้าที่ดูเหมือนรถม้าของพวกค้ามนุษย์ จอดอยู่ที่ประตูหลังของโรงแรม
…………………………………………………………………………….
สารจากผู้แปล
วางแผนให้รอบคอบนะคะ นั่นเป็นจวิ้นจู่ตำหนักอ๋องซิวเชียวนะ เกิดเรื่องอะไรขึ้นมานิดหน่อยก็บึ้มได้
ไหหม่า(海馬)