บทที่ 1035+1036 ต้องมีหลักฐานถึงจะสามารถลงโทษได้/เหลียงเหยาซื่อเป็นพยาน
บทที่ 1035 ต้องมีหลักฐานถึงจะสามารถลงโทษได้
ครั้นคิดถึงเรื่องนี้ เฉาซินเหลียนก็เข้าใจ ดังนั้นจึงกัดฟันและปฏิเสธที่จะยอมรับมัน ถ้าไม่ยอมรับมันก็ยังมีหนทางที่จะมีชีวิตอยู่ แต่ถ้ายอมรับมันก็เหลือเพียงทางเดียวคือความตาย
เมื่อเรื่องมาถึงทางตัน แม้ว่ากู้เสี่ยวหวานจะมีตำแหน่งเป็นถึงเสี้ยนจู่ แต่นางก็ไม่สามารถใช้อำนาจเพื่อผลประโยชน์ส่วนตัวได้
ยิ่งกว่านั้น มีผู้คนจำนวนมากมาที่นี่เพื่อชมด้วยตาตนเอง
แต่ลวี่เทาแตกต่างออกไป วันนี้เขาเต็มใจที่จะทุ่มสุดตัวเพื่อกู้เสี่ยวหวาน เมื่อเห็นว่าเฉาซินเหลียนปฏิเสธที่จะยอมรับ เขาจึงเคาะไม้ปลุกสติทันทีและสั่งเฆี่ยนนางยี่สิบครั้ง
หากไม้กระดานขนาดใหญ่ทั้งยี่สิบแผ่นนี้กระแทกเข้ากับร่างกายของเฉาซินเหลียนอย่างแรง ชีวิตของนางอาจหายไปครึ่งหนึ่ง
เฉาซินเหลียนตกใจมากจนทรุดลงกับพื้น ตะโกนว่าลวี่เทากำลังใช้อำนาจเพื่อผลประโยชน์ส่วนตัว
ทุกคนยังไม่เห็นกู้เสี่ยวหวานที่อยู่ภายในห้องโถง และเฉาซินเหลียนไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับกู้เสี่ยวหวาน
เฉาซินเหลียนตะโกนว่า “ใต้เท้าลวี่ ข้าไม่ได้ทำอะไรเลย ข้าบริสุทธิ์ ท่านไม่สามารถตัดสินอาชญากรรมเพียงเพราะกู้เสี่ยวหวานเป็นเสี้ยนจู่เพื่อทำให้นางพอใจ อย่าตัดสินอาชญากรรมของประชาชนตามอำเภอใจ”
เฉาซินเหลียนติดตามหลี่ซื่อเมื่อเร็ว ๆ นี้ นางได้เรียนรู้คำศัพท์มากมาย และสิ่งที่นางพูดทำให้ผู้คนตกตะลึง
หลังจากพูดสิ่งนี้ ห้องโถงทั้งหมดก็เงียบลงเล็กน้อย ยกเว้นเสียงลั่นดังเอี๊ยดของกำปั้นและกระดูกของกู้หนิงผิง
เขาอยากจะฉีกเฉาซินเหลียนเป็นชิ้น ๆ
เสียงคร่ำครวญของเฉาซินเหลียนดังก้องไปทั่วห้องโถง นางน้ำหูน้ำตาไหลด้วยความเศร้าอย่างสุดซึ้ง
เมื่อลวี่เทาได้ยิน ใบหน้าของเขาเปลี่ยนเป็นสีแดงชั่วขณะหนึ่ง จากนั้นก็เปลี่ยนเป็นซีดเซียว
เฉาซินเหลียนปฏิเสธที่จะยอมรับ เขาก็ไม่สามารถทำอะไรนางได้
เฉาซินเหลียนไม่ยอมรับความผิดของนางก็เฆี่ยนนางเถอะ มีผู้คนมากมายกำลังเฝ้าดูอยู่ เมื่อนางโดนเฆี่ยน นางก็จะยอมรับเพราะทนไม่ไหวเอง ทันใดนั้นเขาก็อยู่ในสภาวะกลืนไม่เข้าคายไม่ออก
ในใจของลวี่เทาร้อนรนจนแทบเสียสติ ทำไมกู้เสี่ยวหวานยังซ่อนตัวอยู่ข้างหลังไม่ยอมออกมากัน? ตอนนี้เหตุการณ์กำลังวุ่นวาย ทำไมนางไม่ออกมาพูดอะไรสักคำล่ะ
กู้เสี่ยวหวานอยู่ข้างหลังเสมอ และกำลังครุ่นคิดบางอย่างอยู่
เกิดอะไรขึ้นในปีนั้นกันแน่ กู้ฉวนโซ่วไม่เคยปรากฏตัวในตระกูลกู้ ยกเว้นการรับเงินในช่วงเทศกาลและงานรื่นเริง แม้แต่ลูกสองคนก็ยังถูกเพิกเฉย
เป็นไปได้หรือไม่ว่ากู้ฉวนโซ่วมีนางบำเรออยู่ข้างนอก?
เป็นไปไม่ได้ กู้ฉวนโซ่วเป็นเพียงชาวนาในหมู่บ้าน ในหมู่บ้านนี้ไม่มีเงินและคนส่วนมากก็มีคู่สมรสคนเดียว ในครอบครัวอื่นก็ไม่มีนางบำเรอใด ๆ
แต่ที่กู้ฉวนโซ่วไม่กลับมาเป็นเรื่องจริง
นอกจากนี้ เฉาซินเหลียนยังมีชู้ เขาจะรู้สึกอย่างไร
หากหากู้ฉวนโซ่วไม่เจอก็จะไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับพวกเขาสองคนในตอนนั้น
ดูเหมือนว่าจะเป็นช่วงเวลานั้น หลังจากที่คนอื่นบอกว่ากู้ฉวนโซ่วกำลังจะหย่ากับภรรยา บ้านเก่าของตระกูลกู้ก็เปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง
“หวานเอ๋อร์ เราไม่มีหลักฐานที่จะตัดสินลงโทษเฉาซินเหลียน เจ้าจะทำอะไร” กฎหมายของต้าชิงไม่อาจทำให้สั่นคลอนได้
นอกจากนี้ พวกเขายังไม่แน่ใจว่าคำพูดของเฉาฮุยน่าเชื่อถือเพียงใด
หากเรื่องนี้ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเฉาซินเหลียน นั่นจะไม่เป็นการกล่าวหาคนบริสุทธิ์หรอกหรือ?
กู้เสี่ยวหวานเพิ่งได้รับการเสนอชื่อให้เป็นเจ้าเมืองได้ไม่นาน ดังนั้นฉินเย่จือจะไม่เอาสถานะเจ้าเมืองของกู้เสี่ยวหวานมาเดิมพัน
นี่คือชื่อเสียงที่นางได้รับมาอย่างยากลำบาก
ในการตัดสินเฉาซินเหลียนจะต้องมีหลักฐาน
惊堂木 ไม้ปลุกสติ
http://n.sinaimg.cn/sinacn10115/731/w400h331/20190808/7d66-iaxiufn9154351.jpg
….
บทที่ 1036 เหลียงเหยาซื่อเป็นพยาน
“พวกเจ้าไม่มีหลักฐาน พวกเจ้าจะตัดสินข้าไม่ได้ ข้าไม่มีความผิด ทั้งหมดนี้เป็นเพียงการพูดไปเรื่อยของเฉาฮุย เขาใส่ร้ายข้า!” เฉาซินเหลียนนั่งบนพื้นและเริ่มร้องไห้ทันที มองไปที่ผู้ชมข้างนอก “กู้เสี่ยวหวานตอนนี้เป็นถึงเสี้ยนจู่ และนางใช้อำนาจบาตรใหญ่เพื่อกดขี่ประชาชน แม้ว่าข้าจะหยิ่งผยอง แต่ก็เป็นไปไม่ได้ที่ข้าจะสั่งให้ใครไปฆ่าคน! ทุกท่านโปรดตัดสินแทนข้า กู้เสี่ยวหวานเป็นเสี้ยนจู่และกดขี่ประชาชน เจ้าหน้าที่ผู้สุจริต ได้โปรดลืมตาของท่าน”
เฉาซินเหลียนโยนความผิดทั้งหมดไปที่กู้เสี่ยวหวาน
สิ่งที่เฉาซินเหลียนพูดนั้นน่าเกลียดจนกู้ฟางสี่ไม่สามารถฟังได้อีกต่อไป
ก่อนที่นางจะมาที่นี่ เมื่อนางได้ยินว่ากู้เสี่ยวหวานมีเรื่องที่ศาลาว่าการ นางตกใจมาก ต่อมาเมื่อนางไปที่ศาลและเห็นเฉาซินเหลียนกับเฉาฮุย ความคิดที่น่ากลัวก็เกิดขึ้นในใจของนาง
เป็นไปได้หรือไม่ว่า กู้เสี่ยวหวานมีเรื่องเพราะตัวเองไปถามเฉาซินเหลียน?
ไม่เช่นนั้นทำไมเฉาฮุย ถึงมาอยู่ที่นี่?
“เฉาซินเหลียน เจ้าไม่ได้ต้องการหลักฐานการฆ่ากู้ฉวนฟู่และเถียนซื่อหรอกหรือ? แต่ข้ามีหลักฐาน”
ไม่มีใครส่งเสียงใดออกมา และแม้แต่ใต้เท้าลวี่ก็ยังเงียบงัน แต่ใบหน้าของเขากลับน่าเกลียด
เฉาซินเหลียนคนนี้เป็นคนที่เข้าใจยากจริง ๆ นางปฏิเสธหัวเด็ดตีนขาด และเมื่อไม่รู้ว่าจะทำอย่างไรต่อไป ทันใดนั้นก็ได้ยินเสียงผู้หญิงที่พยายามระงับความโกรธของตนเองดังขึ้นข้างนอก
เมื่อได้ยินเสียง แม้แต่กู้เสี่ยวหวานก็ตกตะลึง เสียงนั้นคุ้นเคยมาก ทันใดนั้นนางก็นึกถึงใครบางคน และได้ยินป้าจางอุทานขึ้น “เหลียงเหยาซื่อ!”
เหลียงเหยาซื่อ ผู้หญิงคนนั้นที่อยากเข้าใกล้นาง แต่ตนก็หลบเลี่ยงอยู่เสมอ นางอาศัยอยู่ข้างบ้านเก่าของตระกูลกู้
นางมาทำอะไรที่นี่กัน?
เฉาซินเหลียนมองไปที่เหลียงเหยาซื่อด้วยความประหลาดใจ โดยไม่รู้จุดประสงค์การมาของนางในตอนนี้
เหลียงเหยาซื่อพูดกับป้าจางสองสามคำ ไม่มีอะไรมากไปกว่าการแสดงความยินดีกับกู้เสี่ยวหวานที่ได้รับตำแหน่งเสี้ยนจู่ จากนั้นนางก็หยิบกระดาษแผ่นหนึ่งออกมาจากเสื้อของนาง และพูดอย่างดุดันว่า “เฉาซินเหลียน เพื่อช่วยเจ้าเก็บกระดาษแผ่นนี้ ข้าต้องกลืนความโกรธที่มีมาหลายปีไว้ ข้าไม่กล้าเข้าใกล้ลูก ๆ ของกู้ฉวนฟู่ด้วยซ้ำ ที่ข้าไม่มีลูกของตัวเอง ข้าคิดว่านี่เป็นบทลงโทษของสวรรค์ ในตอนนั้นข้าเห็นอย่างชัดเจนว่าเจ้ากับเฉาฮุยสมรู้ร่วมคิดกันที่จะทำร้ายกู้ฉวนฟู่ แต่ข้าไม่กล้าพูดออกไปเพราะกลัวว่าถ้าข้าพูดออกไปจะไม่มีใครเชื่อในสิ่งที่ข้าพูด”
เหลียงเหยาซื่อแต่งงานมาเกือบสิบปีแล้ว แต่นางกับช่างไม้เหลียงก็ยังไม่มีลูก
เป็นเวลาหลายปีที่พวกเขาออกจากหมู่บ้านอู๋ซีและเดินทางไปทั่วดินแดนเพื่อหาหมอที่มีชื่อเสียงและรับยา หลังจากค้นหามาหลายปีก็ยังไม่มีความคืบหน้าใด ๆ
พวกเขายอมแพ้ ดูเหมือนว่าน่าจะเป็นเพราะในตอนนั้นพวกเขาไม่ได้เรียกร้องความยุติธรรมให้กู้ฉวนฟู่และเถียนซื่อ พวกเขาจึงโทษตัวเอง เพราะสวรรค์ไม่ต้องการให้คนขี้ขลาดอย่างตัวเองได้สมความปรารถนา
เมื่อเหลียงเหยาซื่อคิดถึงตอนที่น่าเศร้า น้ำตาก็ไหลออกมา “เฉาซินเหลียน เจ้าไม่รู้หรอกว่าหัวใจของข้าสั่นแค่ไหนเมื่อเจ้าทั้งสองคนพูดที่บ้านว่าจะทำให้กู้ฉวนฟู่ตาย ข้าต้องการช่วยพวกเขาทั้งสอง แต่เพราะข้าขี้ขลาดเกินไป ข้าไม่กล้าพูดอะไรนอกจากมุดหัวอยู่ใต้ผ้าห่ม ฮือ ๆ”