เมื่อกลับมาถึงหมู่บ้าน เพราะว่าการมาของเหมยหรูยาน จึงดึงดูดสายตาของคนไม่น้อย ชาวบ้านในหมู่บ้านส่วนมากพึ่งเคยเจอกับรถหรูของเหมยหรูยานเป็นครั้งแรก จึงอดไม่ได้ที่จะกล่าวชื่นชม
มองดูความงามที่มีเสน่ห์ของหญิงสาว รองเท้าส้นสูงกับชาเรียวยาว เหมยหรูยานที่เดินอย่างอกผายไหล่ผึ่ง ดวงตาของชายฉกรรจ์วัยรุ่นและชายชราต่างพากันมองจนตาค้าง โดยเฉพาะรอยยิ้มที่มีเสน่ห์ของเหมยหรูยาน ในตอนที่เธอมองมา มันเหมือนกับเธอกำลังส่งสายตาให้ มันทำให้คุณหัวใจเต้นแรง และทำให้คนห้ามความคิดต่างๆนานาไม่ได้
“พี่หยาง ผู้หญิงคนนี้ใครหรอครับ พี่หาคนใหม่แล้วหรอ?ทำไมถึงได้สวยขึ้นเรื่อยๆล่ะ?”เอ้อนิ้วที่พูดกระซิบกับเซี่ยหยางเสียงเบา และชำเลืองตามองดูเหมยหรูยานเป็นบางครั้งบางคราว เขาไม่สามารถละสายตาได้เลย
เหมยหรูยานยิ้มเบาๆ เอ้อนิ้วก็ยิ้มตามอย่างคนไม่เต็ม
เซี่ยหยางกังวลเรื่องสติปัญญาของเอ้อนิ้ว จึงหัวเราะแล้วพูดว่า“นายโง่จริงหรือแกล้งโง่กันเนี่ย ถ้าฉันมีเสน่ห์มากขนาดนั้นจริงๆ คงไม่พากลับมาหมู่บ้านอย่างโจ่งแจ้งแบบนี้หรอก นี่คือนักธุรกิจที่จะมาลงทุนเว่ย เมื่อทำการสำรวจที่แล้วเธอจะให้เงินลงทุนก้อนใหญ่ รีบบอกให้คนขยันตื่นตัวกันหน่อย ดูแลเธอดีๆ จากนี้ไปพวกเราจะได้รับความช่วยเหลืออย่างใหญ่หลวงเลยแหละ”
“เข้าใจแล้วครับ ผมไปชมชานะครับ”หลังจากเอ้อนิ้วรีบไปทำงาน เขาก็ถือนำชาออกมา ยื่นให้กับเหมยหรูยาน แล้วเกาหัวแกรกๆพลางพูดขึ้นมาว่า“สวัสดีครับ ผมชื่อเอ้อนิ้วนะครับ อิๆ”
“เอ้อนิ้ว ชื่อแปลกจัง ทำไมถึงไม่ชื่อซานหยางล่ะ?”เหมยหรูยานเม้มปากเบาๆ กลั้นหัวเราะ
เอ้อนิ้วรู้สึกกระดูกกรอบไปเลย ทันใดนั้นเขาถึงกับเหม่อลอย สติสัมปชัญญะเลอะเลือน“คุณอยากเรียกอะไรก็เรียกได้เลยครับ ถ้าคุณมีความสุข”
“เอ้อนิ้ว มานี่สิ!”ในตอนนี้เอง เมียของเอ้อนิ้วเข้ามา เท้าสะเอว เห็นได้ชัดว่าเห็นฉากนี้เข้าให้แล้ว
เอ้อนิ้วเดินไปอย่างว่าง่าย มีความกังวลเล็กน้อย เมียของเอ้อนิ้วจัดการดึงหูของเขาทันที แล้วเดินจากไป เดินไปด้วยกล่าวโทษไปด้วย“ดูอะไรน่ะถึงได้สนใจขนาดนั้น ฉันว่าแกคงจะปีกกล้าขาแข็งแล้วใช่ไหม กลับไปนั่งคุกเข่ากับกระดานซักผ้าเลยนะ……”
เหมยหรูยานที่ได้แต่ดูอย่างอ้าปากตาค้าง ปิดปากหัวเราะ ดูเหมือนว่าเธอจะรู้สึกแปลกใจเป็นอย่างมาก ว่าทำไมผู้หญิงบ้านนอกถึงได้โหดแบบนี้?
“เรื่องธรรมดาน่ะครับ เถ้าแก่เหมยเชิญดื่มชาก่อนครับ”เซี่ยหยางที่กลืนไม่เข้าคายไม่ออก เอ้อนิ้วคนนี้ สมควรถูกเมียสั่งสอน มาพูดมั่วซั่วล้อเล่นอะไรตรงนี้
“อย่าเรียกเราเถ้าแก่เหมยเลย คุณเรียกว่าหรูยานก็พอแล้ว เซี่ยหยาง บรรยากาศของที่นี่ไม่เลวเลยนะคะ”เหมยหรูยานที่มองดูทัศนียภาพรอบๆพลางดื่มชาไปด้วย จู่ๆก็ผงะไป แล้วดื่มหมดภายในคราวเดียว เธอไม่อาจเงียบเฉยได้อีกต่อไป
เซี่ยหยางไม่แสดงอาการใดๆ เขารู้อยู่แล้วว่าประโยคต่อไปเหมยหรูยานจะพูดอะไร
เป็นไปตามคาด เหมยหรูยานพูดอย่างตกใจไปว่า“นี่มันชาอะไรกันเนี่ย ถ้าโปรโมทออกไป ต้องขายดิบขายดีแน่ๆ คุณเพาะปลูกใบชาแบบนี้เท่าไหร่คะ?”
“ไม่ได้มีเท่าไหร่ครับ ทำไมหรอครับ?”เซี่ยหยางยิ้มอ่อนๆ
“ฉันจะลงทุนใบชาของคุณ ฉันออกเงินคุณเพาะปลูก ถ้าทำสำเร็จเราจะแบ่งกันคนละครึ่ง คุณว่ายังไง?”เหมยหรูยานดูเหมือนจะมีท่าทีที่ตื่นเต้นมาก
“แน่นอนไม่มีปัญหาอยู่แล้ว แต่ที่นี่ยังมีผลผลิตอย่างอื่นอีกมากมาย ผมพาคุณไปดูดีไหม?”เซี่ยหยางเอ่ยแนะนำ
เหมยหรูยานตกลงทันที ทั้งสองพากันเดินออกไป ทางไร่ สายตาของเหมยหรูยานถูกผลไม้มากมายอันอุดมสมบูรณ์ตรงหน้าดึงดูดเข้าให้
“พรเจ้าช่วย เซี่ยหยาง ฉันคิดไม่ถึงจริงๆ ว่าจะมีผลผลิตแบบนี้ คุณใช้วิธีไหนกันเนี่ย คุณต้องรู้ว่าฉันลงทุนเกี่ยวกับผลผลิตทางการเกษตรมาระยะหนึ่งแล้ว นี่เป็นครั้งแรกที่ฉันเห็นแบบนี้ มันวิเศษมากเลยค่ะ จู่ๆฉันก็รู้สึกว่าฉันมีความสุขมากเลย นี่เป็นเหมือนการเก็บโชคลาภได้เลยนะเนี่ย”เหมยหรูยานอดมีความสุขไม่ได้ เธอถึงกับจับไหล่ของเซี่ยหยางแล้วเขย่าไปมา
กลิ่นหอมของเครื่องสำอาง บวกกับการสัมผัส ความอ่อนนุ่มละเมียดละไม ทำให้เซี่ยหยางสติหลุดลอย โดยเฉพาะเอวที่บิดไปมาของเหมยหรูยาน สะโพกงอนอย่างชัดเจน หน้าอกของเธอกระเพื่อมจนล่อตาล่อใจ ที่ร่องลึกนั่น คาดว่าจะสามารถฝังความทะเยอทะยานของผู้ชายนับไม่ถ้วนได้
“อ่อ เปล่าครับ คุณคิดว่าดีก็พอแล้ว เราไปดูที่บ่อปลากันไหมครับ?”ถึงแม้เซี่ยหยางจะคิดว่าผู้หญิงตรงหน้าของเขาสวยมาก แต่เขาก็ไม่ลืมความตั้งใจในตอนแรก ไม่ผิดเลยที่เหมยหรูยานมีเสน่ห์กระชากใจคนอื่นๆได้ แต่ตอนนี้เท่ากับว่าเธอเป็นเถ้าแก่ของตนเอง ยังต้องคาดหวังกับการลงทุนของเธออยู่ จะทำอะไรลังเลไม่ได้ เขาจึงหันหน้าไปอีกทางไม่ทองเธออีก เพื่อหลีกเลี่ยงการเสียสมาธิ
“คุณรอก่อนสิ ฉันยังอยากกินอะไรอีกหน่อยน่ะ”เหมยหรูยานพูดอย่างออดอ้อน
เซี่ยหยางหันไปถามว่าเธออยากกินอะไร เหมยหรูยานชี้ไปที่แตงกวาลูกหนึ่ง เซี่ยหยางจึงเข้าไปเด็ดให้เธอ ช่วยเธอล้างทำความสะอาด แล้วยื่นส่งให้กับเธอไป แต่เหมยหรูยานกลับไม่ใช้มือรับ แต่ตรงเข้าไปอมไว้ เหมือนแทบจะอดใจรอไม่ไหวแล้ว
ทำไมถึงรู้สึกแปลกๆกันนะ?เซี่ยหยางที่มองดูริมฝีปากแดงฉ่ำของเธอ แก้มป่องของเธอ จู่ๆเขาก็เริ่มคิดไม่ดี เหมยหรูยานก็จริงๆเลย จะทำอะไรอีกเนี่ย?ทดสอบความเข้มแข็งของจิตใจเขาเหรอ?
โดยเฉพาะในตอนที่เธอใช้มือข้างหนึ่งจับไหล่ของเซี่ยหยางไว้ ก้มตัวลงต่ำเข้ามาใกล้ ขอเสื้อนั้นโผล่พ้นออกมาทำให้เห็นหน้าอกอันอวบอิ่ม มันทำให้คนที่ได้พบเห็นตกใจมากจริงๆ
มองดูเหมยหรูยานที่กินอย่างเคลิบเคลิ้ม และยังหลับตาเบาๆอีกด้วย เสียงที่ออกมา เหมือนจะกำลังมีความสุขมาก เซี่ยหยางรีบดึงแตงกวากลับมาทันที
ทันใดนั้นเหมยหรูยานก็รับรู้ได้ถึงความว่างเปล่า เธอเบะปากและพูดว่า“ทำไมอ่ะ คุณเอาให้ฉันกินหน่อยสิ แบบนี้มันมีรสชาติมากกว่านะ เพราะว่าคุณเป็นของที่คุณปลูกออกมานะ”
“เปล่าครับ ผมจะรับโทรศัพท์น่ะ คุณกินเองเถอะนะครับ”เซี่ยหยางทนไม่ไหวอีกแล้ว เหมยหรูยานคือปีศาจสาว ยังเป็นปีศาจสาวพราวเสน่ห์ที่มีเงินอีกด้วย ใครจะไปต้านทานไหว
“อ๋อ ใครโทรศัพท์หาคุณงั้นเหรอ?”เหมยหรูยานที่กินแตงกวาไปด้วย ขยับตัวเข้ามาใกล้ด้วย
“คุณไม่รู้จักหรอก……”เซี่ยหยางที่ไม่ทันระวังตัว พอหันกลับมา ก็จุ๊บเข้ากับแก้มของเธอเข้าให้ คราวนี้ไม่ไหวแล้วจริงๆ ความอบอุ่นแผ่ซ่านออกมา ราวกับถูกไฟฟ้าช็อตก็ไม่ปาน ทั้งสองถึงกับผงะไปชั่วครู่
ในขณะนั้นลมหายใจของเหมยหรูยานกลิ่นหอมดุจดั่งบุปผา ดวงตาสีแอปริคอทเบิกกว้าง แก้มแดงก่ำ นัยน์ตาดุจดั่งสายน้ำเคลื่อนไหว โดยเฉพาะมุมปากแดงระเรื่ออิ่มเอิบ ความมันวาวหลังจากกินแตงกวา ช่างน่าทึ่งเหลือเกิน
“อ่อ ขอโทษด้วยครับ เมื่อกี้ไม่ระวัง เลย……”
“ไม่เป็นไรหรอกค่ะ ไม่ต้องพูดแล้ว”ทันใดนั้นเหมยหรูยานก็ยื่นมือไปปิดปากของเซี่ยหยาง สายตามองไปที่เขาอย่างลึกซึ้ง แล้วพูดพึมพำไปว่า“ความรู้สึกเมื่อกี้ดีจังเลยนะคะ”
นี่มันหมายความว่าไงกันเนี่ย?ปีศาจเศรษฐินีใจกว้างขนาดนี้เชียวเหรอ?ได้ยินกำนันสาวช่ายเคยพูดว่า เหมยหรูยานเหมือนจะเคยไปเรียนที่เมืองนอกมาก่อน ถ้าหากเป็นแบบนี้ก็มีเหตุมีผลพอสมควร อย่าว่าแต่การจูบอย่างไม่ตั้งใจเลย ถึงจะจูบกันตอนพบเจอกัน ก็คงถือว่าเป็นการทักทายกันมั้ง แต่เหมยหรูยานที่เป็นแบบนี้ คงจะมีผู้ชายจำนวนมากที่ทักทายเธอก่อนอย่างแน่นอน
“อ่อ เออคือ เราไปที่บ่อปลากันเถอะนะครับ”เซี่ยหยางรู้สึกอึดอัดเล็กน้อย ถึงเมื่อกี้จะถือว่าตนเองเอาเปรียบเธอ เขาเดินนำอยู่ข้างหน้า เหมยหรูยานเดินตามอยู่ข้างหลัง
ระหว่างทางที่ผ่านหลุมบ่อนั้น รองเท้าส้นสูงของเหมยหรูยานเดินไม่สะดวก เลยสะดุดเข้าให้ และล้มไปทางเซี่ยหยาง
เซี่ยหยางที่ยื่นมือไปคว้าเอวบางของเธอเอาไว้อย่างไม่รู้ตัว เข้ามาในอ้อมกอด เขารู้สึกได้ถึงความนุ่มนิ่ม ตามมาด้วยเสียงเรียกของเหมยหรูยาน เขาถึงได้พบว่าเหมือนมือของเขาจะวางผิดที่ มันตุงๆนูนๆ เขารีบชักมือกลับมาจากเนินอกของเธอทันที
“ขอบคุณค่ะ มือของคุณแข็งแรงจัง”หลังจากที่เหมยหรูยานยืนมั่นคงแล้ว ก็จับไปที่แขนอันแข็งแรงเป็นมัดของเซี่ยหยางหนึ่งครั้ง ด้วยท่าทีที่ตกใจ
“คุณไม่เป็นอะไรก็ดีแล้ว เราไปกันเถอะ”เซี่ยหยางรู้สึกว่าอยู่กับผู้หญิงคนนี้ ช่างอันตรายเหลือเกิน มันง่ายต่อการทำให้มีเหตุการณ์กระตุ้นบางอย่างที่ไม่สมควรจะเกิดขึ้น
หลังจากที่เห็นพวกตะพาบและเต่าที่มีขนาดใหญ่เท่ากับอ่างล้างหน้า เหมยหรูยานทั้งตกใจและดีใจ เธอดึงพืชน้ำโยนลงไปด้านใน มองเห็นพวกมันกำลังแย่งอาหารกินกัน รอยยิ้มของเธอยังคงอยู่บนใบหน้าไม่หาย
หลังจากดูตะพาบก็ไปดูพวกกุ้งแก้ว เวลานี้เองเซี่ยหยางรู้สึกแปลกใจมาก เพราะว่าภายในหนึ่งวัน เขาก็พบว่ากุ้งแก้วพวกนี้เหมือนจะใหญ่กว่ากุ้งธรรมดาเล็กน้อย ดูจากสายตาก็สามารถเห็นถึงความรวดเร็วในการเติบโต พวกมันตัวโตกันมาก แหวะว่ายในสระอย่างสบายใจ และยังโผล่พ้นเหนือน้ำออกมาในบางครั้ง อยู่กันเป็นฝูง อย่างสนุกสนาน
“ฉันจะลงทุน ที่นี่สองล้าน”หลังจากตรวจสอบโปรเจคทุกอย่างจนหมดแล้ว เหมยหรูยานที่ดูร่ำรวยมั่งคั่ง ก็หยิบบัตรออกมา ส่งไปให้ที่มือของเซี่ยหยาง ความหมายก็คือตนเองมีเงินทอง
“เราทำหนังสือสัญญากันเถอะนะครับ”เซี่ยหยางแอบยินดีปรีดาในใจ กำลังจะหยิบกระดาษกับปากกาออกมา
เหมยหรูยานโบกมือไปมาเป็นสัญลักษณ์ว่าไม่ต้อง เธอพูดอย่างน่ารักว่า“นี่เป็นแค่ทุนเริ่มต้น ถ้าผลลัพธ์ออกมาดี ฉันจะลงทุนใหม่ อย่างน้อยก็จำนวนเงินเท่านี้นะ”
เมื่อเห็นเอ้อนิ้วยื่นนิ้วออกมา เซี่ยหยางรู้ดีว่ามันหมายถึงเงินสอบล้าน ช่างเป็นคนมีเงินจริงๆ แต่ในเมื่อเธอเชื่อใจตนเองมากขนาดนี้ เขาจะไม่ทำให้เธอผิดหวังอย่างแน่นอน
“ไม่มีปัญหาครับ ผมรับรองว่าจะไม่ทำให้คุณขาดทุนอย่างแน่นอน”เซี่ยหยางรับปากอย่างหนักแน่น อีกทั้งยังบอกให้เหมยหรูยานอยู่ทานข้าวด้วยกันอีกด้วย
เหมยหรูยานเห็นด้วย อาหารมื้อนี้ยอดเยี่ยมมาก อย่าพูดถึงว่าพอใจขนาดไหน ในตอนที่กำลังจะกลับ ยังเสียดายไม่อยากจากไปไหนเลยเธอกัดริมฝีปากเบาๆ ส่งสายตาไปที่เซี่ยหยาง แล้วพูดอย่างออดอ้อนว่า“ถ้าไม่เป็นเพราะว่าฉันยังมีธุระที่ต้องทำ ฉันจะอยู่ค้างที่นี่สักสองสามวัน ครั้งหน้าค่อยว่ากันใหม่นะ ที่นี่ยอดเยี่ยมมากจริงๆ”
“ยินดีต้อนรับครับ รอข่าวดีจากผมได้เลย”เซี่ยหยางที่ส่งเหมยหรูยานมาถึงแกทาง เหมยหรูยานที่สตาร์ทรถ ก็ยื่นมือออกมาจากหน้าต่างของรถ หันกลับไปส่งจูบให้กับเซี่ยหยาง จากนั้นก็จากไปพร้อมกับรอยยิ้ม
เซี่ยหยางรีบหลับไปล้างหน้าล้างตาเรียกสติ เขายังคงรู้สึกร้อนและแห้งผากมาก เขาสูบบุหรี่เพื่อให้หายจากอาการ มองดูบัตรที่อยู่ในมือ ที่ยังคงหลงเหลือความหอมไว้ เขารีบไปจัดการทำงานทันที
มีเงินแล้วแน่นอนว่าเป็นเรื่องที่ดี ง่ายต่อการขยายแหล่งเพาะปลูกเพาะพันธุ์ เขาไปหาเช่าที่ดินกับชาวบ้านมาหลายหมู่ และไปหาเช่าบ่อปลากับชาวบ้านมาหนึ่งบ่อ
หลังจากนั้นก็ไปซื้อเมล็ดพันธุ์กลับมา แล้วโทรศัพท์ไปติดต่อซื้อลูกปลาธรรมชาติให้หญิงอ้วนคนนั้นมาส่งเพื่อปล่อยคืนกลับไป และยังไปเรียกคนมาช่วยงาน
ทั้งหมดนี้ไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆทั้งสิ้น เมื่อขายผลไม้และปลาที่อยู่ในบ่อปลาจนหมดแล้ว กำไรที่ได้ก็แบ่งเท่าๆกันกับเหมยหรูยาน เรื่องดีๆแบบนี้ใช้ตะเกียงจุดไฟหายังพบเจอได้ยากเลย เซี่ยหยางคิดว่าตนเองเหมือนเก็บโชคลาภอะไรได้
เมื่อทำงานทุกอย่างเสร็จแล้ว มันใช้เวลาไปเกือบอาทิตย์ ช่วงนี้ เหอเสี่ยวหย่าก็ช่วยเขาสั่งการเหมือนกัน จึงทำให้รวดเร็วมากยิ่งขึ้น ถึงแม้ว่าจะไม่ได้รับรู้หรือสัมผัสถึงความลับในการเพาะปลูกของเซี่ยหยาง แต่เหอเสี่ยวหย่าไม่มีทีท่าจะยอมแพ้แม้แต่น้อย
เซี่ยหยางที่ได้โอกาสพักผ่อน เขากำลังจะหลับตาลงเพื่องีบใต้ร่มเงาในโลกแผ่นหยก ก็รับรู้ได้ถึงว่ามีคนจากโลกภายนอกกำลังเรียกเขาอยู่ เหมือนจะเป็นเสียงของเอ้อนิ้ว
เขาขยับร่างกายเล็กน้อย เดินออกมาจากโลกแผ่นหยก เซี่ยหยางเปิดประตูออกไปดู เป็นไปตามคาดคือเอ้อนิ้วจริงๆด้วย
“พี่หยาง มีคนมาหาพี่น่ะ ดูเหมือนว่าจะเคยมากันหนึ่งครั้ง พวกเขาบอกว่าเป็นคนของร้านกินทั่วเมือง ครั้งก่อนใช้ให้ซวนจื่อมาใส่ร้ายพวกเรา มันคือร้านกินทั่วเมืองไม่ใช่หรอที่เป็นคนสั่งการ ให้ผมไล่พวกมันไปไหมครับ?”เอ้อนิ้วพูดด้วยเสียงทุ้มต่ำ
“มาได้ก็ดี เรื่องนี้นายไม่ต้องสนใจ ฉันจะจัดการด้วยตัวเอง”มุมปากของเซี่ยหยางแสยะยิ้มขึ้นมา ในที่สุดวันนี้ก็มาถึงจนได้
“อะไรเนี่ย?พี่หยาง ผมอยากจะชกไอ้ชั่วอย่างพวกมันจริงๆเลย ถ้าพี่ไม่เรียกผมไว้ พวกมันได้เห็นดีกับผมแน่”เอ้อนิ้วพูดอย่างไม่สบอารมณ์ แล้วรีบกลับไปทำงาน
ในตอนที่เซี่ยหยางไปนั้น เห็นเชฟเหลียนพาคนของร้านกินทั่วเมืองมาด้วยสองสามคน กำลังรออยู่ที่นั่น ดูท่าเอ้อนิ้วจะไม่ได้ทำการต้อนรับพวกเขา แม้แต่เก้าอี้ก็ไม่ได้หาให้นั่ง
“โอ้โห เถ้าแก่เซี่ย ไม่ง่ายเลยนะที่จะพบคุณ”เชฟเหลียนที่เห็นเซี่ยหยาง ก็หัวเราะเหอะๆ และยังมีท่าทีประจบประแจงอีกด้วย ซึ่งแตกต่างจากความเฉยเมยและความเย่อหยิ่งก่อนหน้านี้มาก เขาเดินเข้ามาจับมือทักทาย