สตรีแกร่งตระกูลไป๋ – ตอนที่ 1100 กระวนกระวาย

สตรีแกร่งตระกูลไป๋

ตอนที่ 1100 กระวนกระวาย

จนเมื่อจักจั่นพบจักจั่นตัวเมียที่มันหลงรัก จักจั่นกลัวว่าการย้อนเวลาจะทำให้มันสูญเสียจักจั่นตัวเมียที่มันรักไป จักจั่นจึงไปขอให้เทพเจ้ามอบพลังวิเศษเช่นเดียวกันให้คู่ของมัน ทว่า เทพเจ้าปฏิเสธ

จักจั่นจึงขอให้เทพเจ้ายึดพลังวิเศษของมันคืน ทว่า เทพเจ้าปฏิเสธเช่นเดียวกัน เทพเจ้าเตือนจักจั่นตั้งแต่แรกแล้วว่าการย้อนเวลาต้องมีสิ่งแลกเปลี่ยน ถึงแม้จักจั่นคือสัตว์เลี้ยงตัวโปรดของเทพเจ้า ทว่า มันก็ต้องรับผิดชอบต่อสิ่งที่มันเลือกเอง

จักจั่นมีชีวิตที่เป็นอมตะ ทว่า มันไม่อยากเห็นคู่ชีวิตของมันเสียชีวิตลงตามธรรมชาติ หากไม่มีจักจั่นตัวเมียคอยอยู่เคียงข้าง แม้จะมีชีวิตอยู่ยาวนานเพียงใดก็มีแต่ความโดดเดี่ยวอยู่ดี

นับจากนั้นเป็นต้นมาจักจั่นกลายเป็นคนหดหู่ ไม่ร้องเพลงอีกต่อไป

ต่อมาเทพเจ้ารับปากจักจั่นว่าเมื่อวงจรชีวิตของจักจั่นใกล้จะสิ้นสุดลง เทพเจ้าจะทำให้จักจั่นและคู่ของมันกลายเป็นหยก ให้พวกมันได้อยู่ด้วยกันตลอดไป

ต่อมาเทพเจ้ามอบหยกจักจั่นให้จักรพรรดิแคว้นเทียนเฟิ่งซึ่งเป็นลูกศิษย์ที่จงรักภักดีต่อเทพเจ้าเป็นคนเก็บรักษา ครั้งหนึ่งฮองเฮาของจักรพรรดิเทียนเฟิ่งเผลอทำหยกจักจั่นคู่นั้นหล่นแตกโดยไม่ทันระวัง ตอนที่นางก้มลงเก็บมันขึ้นมาไว้ในมือจึงเกิดการย้อนเวลาขึ้น

ด้วยเหตุนี้ฮองเฮาของจักรพรรดิแห่งเทียนเฟิ่งจึงสามารถช่วยเหลือจักรพรรดิเทียนเฟิ่งให้รอดพ้นจากการลอบสังหารได้หลายครั้ง ฮองเฮาใช้ประโยชน์จากพลังวิเศษนี้สืบรู้ตำแหน่งที่ตั้งของแคว้นฮั่นอิงจนแคว้นเทียนเฟิ่งทำสงครามชนะฮั่นอิงได้

ฮองเฮากล่าวว่านางสูญเสียลูกทั้งสามคน บิดา มารดาและพี่น้องไปเพราะสาเหตุนี้ ต่อมานางสูญเสียสามีของตัวเองไปตั้งแต่ยังสาว นางคิดว่าหยกจักจั่นคือคำสาปดังนั้นจึงให้คนแยกหยกทั้งสองชิ้นออกจากกัน จากนั้นส่งออกไปให้ไกล ไม่คนให้ในราชวงศ์เทียนเฟิ่งพบมันอีก

ขณะที่ทุกคนในแคว้นเทียนเฟิ่งเริ่มคิดว่าหยกจักจั่นเป็นเพียงตำนานที่เล่าต่อกันมาเท่านั้น จอมเวทย์ของเทียนเฟิ่งกลับพบหยกชิ้นหนึ่ง

ปู่ของซ่าเอ่อร์เข่อฮั่นและจอมเวทย์ช่วยกันศึกษาหยกชิ้นนั้น ทว่า กลับไม่พบพลังวิเศษที่สามารถย้อนเวลาได้ จอมเวทย์เดาว่าต้องนำหยกทั้งสองชิ้นมารวมกันจึงจะสามารถใช้พลังวิเศษนั้นได้

หากแคว้นเทียนเฟิ่งมีหยกทั้งสองชิ้นอยู่ในมือ แม้พวกเขาจะรบพ่ายแพ้ในครั้งใด พวกเขาก็สามารถย้อนเวลากลับไปแก้ไขได้ แคว้นเทียนเฟิ่งจะกลายเป็นแคว้นที่ไร้เทียมทาน จักรพรรดิแห่งเทียนเฟิ่งจะมีชีวิตที่เป็นอมตะ ผู้ใดจะไม่หวั่นไหวกับพลังเช่นนี้กัน

จักรพรรดิทั้งสามรุ่นของเทียนเฟิ่งล้วนตามหาหยกจักจั่นอีกชิ้นภายในแคว้นเทียนเฟิ่งตั้งแต่ที่มันหายไป

จักรพรรดิเทียนเฟิ่งไม่รู้ว่าด้านหลังภูเขาหิมะซึ่งเทพเจ้าสถิตอยู่จะมีดินแดนอยู่อีกมากมาย

ในเมื่อตอนนี้พวกเขารู้แล้วว่าหยกจักจั่นเคยปรากฏขึ้นที่แคว้นต้าโจวมาก่อน อดีตสามีที่ล่วงลับไปแล้ว ของจักรพรรดิต้าโจวเคยมีหยกจั่นที่เหมือนกันไม่มีผิดเพี้ยนอยู่ ถึงแม้ตอนนี้หยกชิ้นนั้นจะไม่ได้ถูกฝังรวมกับหลุมศพของสามีของจักรพรรดินีแห่งต้าโจว ทว่า มันก็น่าจะยังอยู่ในต้าโจว

ดังนั้นสำหรับซ่าเอ่อร์เข่อฮั่นในตอนนี้การตามหาหยกจักจั่นอีกชิ้นมีความสำคัญพอๆ กับการยึดดินแดนของต้าโจวและต้าเยี่ยนให้ได้

ดังนั้นเมื่อรู้ว่าหลี่เทียนฟู่ทำสงครามกับต้าโจวและพ่ายแพ้ย่อยยับกลับมา ซ่าเอ่อร์เข่อฮั่นจึงรีบส่งทูตไปยังต้าเยี่ยนและต้าโจวทันที…

ต้าเยี่ยนกับต้าโจวทำสัญญาพันธมิตรกันแล้ว เมื่อวานต้าเยี่ยนยกทัพเสริมมาช่วยเหลือต้าโจว ดังนั้นเขาต้องส่งทูตไปยังต้าเยี่ยนเช่นเดียวกัน

ตอนนี้ทูตที่เดินทางไปยังสองแคว้นยังไม่กลับมา ซ่าเอ่อร์เข่อฮั่นรู้สึกระวนกระวายใจมาก

ไม่ว่าต้าเยี่ยนจะมีปฏิกิริยาเช่นไร พวกเขาต้องทำให้ต้าโจวคลายความโกรธให้ได้ มีเพียงการเป็นพันธมิตรกับต้าโจวจึงจะทำให้พวกเขาสามารถสืบหาเบาะแสของหยกจักจั่นได้ง่ายขึ้น

มิเช่นนั้นหากทำสงครามกันขึ้นมา พวกเขาคงหาหยกจักจั่นให้เจอได้ยากขึ้นกว่าเดิมมาก

ซ่าเอ่อร์เข่อฮั่นถือหยกจักจั่นไว้ในมือ เขายื่นมืออีกข้างออกไปอังไฟ ไม่นานจึงได้ยินเสียงฝีเท้าดังขึ้นจากด้านนอก ซ่าเอ่อร์เข่อฮั่นเงยหน้าขึ้นจึงเห็นทหารเดินเข้ามารายงานว่าลูกศิษย์คนโตของจอมเวทย์มาถึงแล้ว

“ให้ศิษย์ของจอมเวทย์เข้ามาได้” ซ่าเอ่อร์เข่อฮั่นซ่อนหยกจักจั่นไว้ในแขนเสื้อ เขาเงยหน้ามองศิษย์คนโตของจอมเวทย์ที่เดินแหวกม่านเข้ามาด้านใน ซ่าเอ่อร์เข่อฮั่นขยับท่านั่งเล็กน้อย จากนั้นใช้ผ้าขนหนูยกกาน้ำชารินน้ำชาให้ศิษย์คนโตของจอมเวทย์ สื่อให้เขานั่งลงได้ “คนที่ส่งไปขอขมากลับมาแล้วหรือไม่”

ศิษย์คนโตของจอมเวทย์ส่ายหน้า เมื่อทำความเคารพซ่าเอ่อร์เข่อฮั่นเสร็จจึงนั่งลงฝั่งตรงข้ามซ่าเอ่อร์เข่อฮั่น “เมื่อวานพวกเราสูญเสียไปมาก ไม่เพียงสูญเสียช้างศึกไปสี่ตัว ข้าไปสำรวจดูแล้วพบว่าช้างศึกที่รอดกลับมาล้วนมีบาดแผลไฟไหม้ ต้าโจวและต้าเยี่ยนคงพบวิธีจัดการกับช้างเหล่านี้แล้ว พวกเราต้องเตรียมเสื้อให้กองทัพช้างใส่เพื่อคลายหนาว ครั้งนี้ต้าโจวและต้าเยี่ยนไม่ได้เตรียมตัวจึงทำได้ไม่เต็มที่ ช้างของเราได้รับบาดเจ็บไม่มาก ทว่า หลังผ่านสงครามครั้งนี้ ต้าโจวและต้าเยี่ยนคงรู้แล้วว่าสามารถใช้ไฟจัดการกับกองทัพช้างของพวกเราได้พ่ะย่ะค่ะ!”

“หากต้าเยี่ยนและต้าโจวคิดใช้ไฟจำนวนมากโดยไม่สนว่าจะสูญเสียมากเพียงใด…” ใบหน้าของศิษย์คนโตของจอมเวทย์เต็มไปด้วยความกังวล “กองทัพช้างของพวกเราเคลื่อนไหวได้ช้างกว่าเดิมในช่วงฤดูหนาว ที่สำคัญหากหิมะตกหนักพื้นจะลื่นมาก ทหารที่รอดกลับมาเล่าให้ฟังว่าเมื่อช้างซึ่งสวมเกราะหนักอึ้งล้มลงบนพื้น พวกมันลุกขึ้นใหม่ได้ยากมากพ่ะย่ะค่ะ!”

ซ่าเอ่อร์เข่อฮั่นได้ยินคำกล่าวนี้จึงมองไปทางไฟที่ปะทุอยู่ในเตาผิง เขาเอ่ยถามศิษย์ของจอมเวทย์

“หากต้องทำศึกกันขึ้นมาจริงๆ พวกเราจะชนะต้าเยี่ยนและต้าโจวได้หรือไม่”

“ทูลฝ่าบาท กระหม่อมไม่ใช่ท่านจอมเวทย์ กระหม่อมไม่มีความสามารถหยั่งรู้ชะตาได้อย่างท่านจอมเวทย์ดังนั้นกระหม่อมจึงไม่แน่ใจพ่ะย่ะค่ะ” ลูกศิษย์คนโตของจอมเวทย์มองไปทางซ่าเอ่อร์เข่อฮั่น “ทว่า หากฟังจากเรื่องที่ทหารเล่านั้นเล่าให้ฟัง หากพวกเราทำสงครามกันขึ้นมาจริงๆ หากอยู่ในฤดูที่ช้างของเราเคลื่อนไหวได้อย่างเต็มที่พวกเราต้องชนะแน่นอนพ่ะย่ะค่ะ ทว่า หากเป็นฤดูหนาว…กระหม่อมไม่แน่ใจพ่ะย่ะค่ะ”

“เจ้ากล่าวมาตามตรงเลยก็ได้ว่าพวกเราไม่มีทางชนะหากทำสงครามกันในฤดูหนาว!” เสียงของซ่าเอ่อร์เข่อฮั่นแข็งกร้าวขึ้นทันที

ลูกศิษย์ของจอมเวทย์ใช้หมัดทุบอกตัวเอง “เทียนเฟิ่งของพวกเราได้รับการคุ้มครองจากเทพเจ้า เป็นลูกรักของเทพเจ้า เทพเจ้ามอบกองทัพช้างให้พวกเรา เทียนเฟิ่งของพวกเราต้องชนะศึกแน่นอนพ่ะย่ะค่ะ ทว่า เทพเจ้าเลือกเจ้าของให้ดินแดนแห่งนี้แล้ว ที่สำคัญเจ้าของคนนี้ไม่ใช่คนของเทียนเฟิ่ง ดังนั้นกระหม่อมจึงบังอาจทูลว่าหากเป็นช่วงฤดูหนาวกระหม่อมไม่แน่ใจพ่ะย่ะค่ะ”

ซ่าเอ่อร์เข่อฮั่นเอื้อมมือไปอังเตาผิง เขาหลับตาลงครู่หนึ่ง “มีทางที่จะทำลายสัญญาพันธมิตรระหว่างต้าเยี่ยนและเทียนเฟิ่งได้บ้างหรือไม่ พวกเราทำสัญญาพันธมิตรกับต้าโจวหรือต้าเยี่ยน จากนั้นทำสงครามกับแคว้นใดแคว้นหนึ่งเพียงแคว้นเดียวเท่านั้น”

“จักรพรรดินีหลี่เทียนฟู่แห่งซีเหลียงเป็นศัตรูกับจักรพรรดินีแห่งต้าโจวพ่ะย่ะค่ะ” ศิษย์ของจอมเวทย์กล่าวขึ้น

ซ่าเอ่อร์เข่อฮั่นเงยหน้า “ในเมื่อเป็นเช่นนี้ก็รอให้ทูตกลับมาจากต้าเยี่ยนและต้าโจวก่อน หากทั้งสองแคว้นยืนกรานจะทำสงครามก็ส่งหลี่เทียนฟู่ไปยังต้าเยี่ยน ให้นางทำสัญญาเป็นพันธมิตรกับต้าเยี่ยนให้ได้ไม่ว่าจะใช้วิธีใดก็ตาม ตอนนี้ยังหาตัวหลี่จือเจี๋ยไม่พบอีกหรือ”

ศิษย์ของจอมเวทย์พยักหน้า “ยังไม่พบเลยพ่ะย่ะค่ะ หากไม่เสียชีวิตในสงครามแล้วก็คงหลบหนีไปได้พ่ะย่ะค่ะ”

“หลี่เทียนฟู่อยู่ไปก็มีแต่ปัญหา แม้ภายนอกจะดูเหมือนตระกูลสูงศักดิ์ของซีเหลียงหวาดกลัวพวกเรา ทว่า มีอีกหลายตระกูลที่ยังสนับสนุนหลี่เทียนเจียว อยากให้หลี่เทียนเจียวกลับขึ้นครองบัลลังก์อีกครั้งอยู่!”

ซ่าเอ่อร์เข่อฮั่นขบกรามแน่น แววตาเต็มไปด้วยความเยือกเย็น

“ดังนั้นพวกเราไม่รู้เลยว่าตอนนี้หลี่เทียนเจียวและพวกอวิ๋นพั่วสิงซ่อนตัวอยู่ที่ใด!”

สตรีแกร่งตระกูลไป๋

สตรีแกร่งตระกูลไป๋

Status: Ongoing
นิยายจีนโบราณเข้มข้น ปะทะคารม ทดสอบไหวพริบ สนุกถึงใจ!เพราะถูกคนชั่วหลอกใช้ชาติก่อนคนทั้งตระกูลของนางจึงต้องตายอย่างน่าอนาถ ไร้ซึ่งคนทวงถามความเป็นธรรมชาตินี้นางหวนกลับมาก่อนเรื่องราวเกิดขึ้น แม้เพียงเล็กน้อยแต่หากสามารถช่วยเหลือคนในครอบครัวได้แม้สักคนนางก็ยินดีทุ่มเทกำลังให้ถึงที่สุดสตรีตระกูลไปแต่ไรมาแกร่งกล้ำเพียบพร้อมบุ๋นบู๊ แม้ไร้ซึ่งที่พึ่งพิงแล้วจริงแต่ก็จะไม่ยอมให้ผู้ใดมากดขี่ได้!และเพราะเรื่องราวที่เปลี่ยนแปลงไปนางจึงได้พบกับ ‘เขา’ ไวกว่าชาติก่อนเขาผู้นี้แม้ภายนอกดูป็นมิตรและสง่งามกว่าใคร แต่นงแจ่มแจ้งดีว่าเขาเจ้าเล่ห์และอำหิตมากเพียงไหนชาติก่อนแม้ยืนกันคนละฝั่งแต่บุรุษผู้นี้กลับเป็นผู้มอบทางรอดให้แก่นาง อย่างนั้นชาตินี้นางก็ย่อมตอบแทนเขาเป็นอย่างดีเช่นกัน“แม่นางไปช่วยเหลือข้าหลายครั้งหลายครา ใช่ว่าชื่นชอบข้าหรือไม่?”“คุณชายเข้าใจผิดแล้วล่ะ”“ข้าช่วยเหลือแม่นางไปมาหลายครั้งหลายครา แม่นางไปมีใจชื่นชอบข้าบ้างหรือไม่?”“…”

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท