สตรีแกร่งตระกูลไป๋ – ตอนที่ 1142 บุคคล

สตรีแกร่งตระกูลไป๋

ตอนที่ 1142 บุคคล

ไทเฮาแห่งต้าเยี่ยนเห็นดังนั้นจึงสะบัดตัวจากไปทันที

แม้นางจะโล่งใจแล้วว่าอาเหยี่ยนไม่มีทางทอดทิ้งนางสองแม่ลูกไปจากต้าเยี่ยน ทว่า ในฐานะพี่สะใภ้ของอาเหยี่ยนนางอดรู้สึกสงสารอาเหยี่ยนไม่ได้ที่เขามีภรรยาเย็นชาและเลือดเย็นกับเขาถึงเพียงนี้ นางกลัวว่าวันหน้าอาเหยี่ยนจะเสียใจเพราะไป๋ชิงเหยียน

ความรักคือสิ่งที่ทำร้ายคนได้รุนแรงที่สุดในใต้หล้าแห่งนี้

นางไม่รู้ว่าควรเล่าเรื่องนี้ให้อาเหยี่ยนฟังเพื่อให้เขาป้องกันไป๋ชิงเหยียนไว้ก่อนดีหรือไม่

เมื่อเฝิงเย่าเห็นไทเฮาแห่งต้าเยี่ยนเดินออกมาจึงรีบเข้าไปทำความเคารพ

เมื่อเห็นเฝิงเย่าซึ่งถูกมู่หรงเหยี่ยนส่งมาที่นี่ไทเฮาแห่งต้าเยี่ยนจึงยิ่งรู้สึกเสียดายแทนอาเหยี่ยน นางระบายความโกระทั้งหมดลงที่เฝิงเย่า “อ๋องเก้าแห่งต้าเยี่ยนกำลังนำทัพออกรบเพื่อแคว้น เฝิงเย่ากงกงมีวรยุทธ์ที่เก่งกาจก็ควรอยู่คุ้มกันข้างกายของอ๋องเก้าถึงจะถูก ทว่า กลับมาเสนอหน้าต่อหน้าจักรพรรดินีแห่งต้าโจวเช่นนี้ วันหน้าเฝิงเย่ากงกงตัดสินใจจะติดตามรับใช้จักรพรรดินีแห่งต้าโจวแล้วหรือ!”

นี่เป็นครั้งแรกที่ไทเฮาแห่งต้าเยี่ยนบันดาลโทสะใส่เฝิงเย่า ทว่า เฝิงเย่ายังคงมีสีหน้าเรียบเฉยตามเดิม

“ข้างกายของท่านอ๋องเก้ามีเยว่สือคอยปกป้องอยู่ย่อมปลอดภัยแน่นอนพ่ะย่ะค่ะ บ่าวแก่มากแล้ว ไม่ได้เรื่องเหมือนเมื่อก่อนแล้ว บ่าวบากหน้าขอทำงานรับใช้ท่านอ๋องเก้า ท่านอ๋องจึงส่งบ่าวมาที่นี่เพื่อเป็นตัวกลางในการส่งจดหมายให้สองแคว้นพ่ะย่ะค่ะ บ่าวมิได้ต้องการมาประจบจักรพรรดินีแห่งต้าโจวอย่างที่ไทเฮาทรงเข้าพระทัยพ่ะย่ะค่ะ”

ไทเฮาแห่งต้าเยี่ยนบีบมืออาหนูแน่น นางแสยะยิ้มออกมาเล็กน้อย จากนั้นเดินสะบัดตัวจากไป ในใจยิ่งรู้สึกผิดต่ออาเหยี่ยนมากขึ้นกว่าเดิม

ก่อนหน้านี้นางสงสัยในความจงรักภักดีที่อาเหยี่ยนมีต่ออาลี่และต้าเยี่ยน นางไม่เคยคิดเลยว่าอาเหยี่ยนจะเป็นคนกลางที่น่าสงสารที่สุดคนนั้น นางจะไม่ยอมให้จักรพรรดินีแห่งต้าโจวหลอกใช้อาเหยี่ยนแน่นอน

เมื่อส่งไทเฮาแห่งต้าเยี่ยนจากไปไป๋ชิงเหยียนจึงเดินออกมาจากโถงรับรอง หญิงสาวหวังว่าคำกล่าวของนางจะทำให้ไทเฮาเลิกหวาดระแวงในตัวอาเหยี่ยน ทำให้มู่หรงลี่เสนอเรื่องข้อตกลงระหว่างสองแคว้นได้อย่างราบรื่น

“ฝ่าบาท…” เฝิงเย่าทำความเคารพไป๋ชิงเหยียนแล้วกล่าวขึ้น “ครั้งนี้ท่านอ๋องเก้าไม่ทราบว่าไทเฮาจะเสด็จมายังเมืองผิงตู้พ่ะย่ะค่ะ หากล่วงเกินฝ่าบาทไปบ้างหวังว่าฝ่าบาทจะไม่ถือสานางพ่ะย่ะค่ะ”

“ไม่ถือเป็นการล่วงเกิน เฝิงกงกง กองทัพของต้าโจวกำลังจะออกเดินทาง พวกเราสนทนากันระหว่างเดินทางเถิด…” ไป๋ชิงเหยียนกล่าว

“ฝ่าบาท…” เฝิงเย่าทำความเคารพไป๋ชิงเหยียนแล้วกล่าวขึ้น “ครั้งนี้ท่านอ๋องเก้าไม่ทราบว่าไทเฮาจะเสด็จมายังเมืองผิงตู้พ่ะย่ะค่ะ หากล่วงเกินฝ่าบาทไปบ้างหวังว่าฝ่าบาทจะไม่ถือสานางพ่ะย่ะค่ะ”

“ไม่ถือเป็นการล่วงเกิน เฝิงกงกง กองทัพของต้าโจวกำลังจะออกเดินทาง พวกเราสนทนากันระหว่างเดินทางเถิด…” ไป๋ชิงเหยียนกล่าว

“ฝ่าบาทเชิญเสด็จก่อนพ่ะย่ะค่ะ บ่าวจะเดินตามด้านหลังพ่ะย่ะค่ะ” เฝิงเย่านอบน้อมต่อไป๋ชิงเหยียนมาก เขาเดินตามหลังหญิงสาวพลางกล่าวขึ้น “ฝ่าบาทต้องการทราบเรื่องหยกจักจั่นหรือพ่ะย่ะค่ะ”

“ใช่แล้ว ข้าอยากรู้ว่าหยกจักจั่นที่จีโฮ่วมอบให้อาเหยี่ยนคือหยกจักจั่นที่นางพกติดกายตั้งแต่เล็กหรือมีคนมอบให้นางภายหลังกันแน่” ไป๋ชิงเหยียนเหลือบมองไปทางด้านหลังแวบหนึ่ง นางเห็นเฝิงเย่าเดินตามหลังนางด้วยท่าทีนอบน้อม

“ทูลฝ่าบาท ตอนที่บ่าวได้ไปรับใช้จีโฮ่วจีโฮ่วเข้าวังมาแล้วพ่ะย่ะค่ะ ตอนนั้นจีโฮ่วมีหยกจักจั่นติดกายแล้ว บ่าวเคยได้ยินจีโฮ่วตรัสว่าหยกจักจั่นชิ้นนั้นคือกุญแจที่สามารถทำให้นางกลับบ้านได้ คือเครื่องรางที่มารดาของจีโฮ่วมอบให้นางไว้คุ้มกันกาย จีโฮ่วตรัสว่าหากไม่ได้หยกจักจั่นชิ้นนั้นช่วยชีวิตนางไว้ นางไม่ได้เข้ามาอยู่ในวังเช่นนี้พ่ะย่ะค่ะ! ต่อมาวังหลวงเกิดเรื่องวุ่นวายขึ้น จีโฮ่วจึงมอบหยกจักจั่นให้อ๋องเก้าพ่ะย่ะค่ะ” เฝิงเย่าตอบตามความจริง

มารดาของจีโฮ่วมอบให้นางอีกที หยกจักจั่นเคยช่วยชีวิตจีโฮ่วไว้…

ไป๋ชิงเหยียนจับหยกจักจั่นที่อยู่ในถุงเงินบริเวณเอวเบาๆ จีโฮ่วเคยใช้หยกจักจั่นชิ้นนี้ย้อนเวลามาก่อนอย่างนั้นหรือ

“ข้าเห็นตำราบันทึกไว้ว่าตระกูลฝั่งมารดาของจีโฮ่วเป็นตระกูลกาลกิณี” ไป๋ชิงเหยียนถามต่อ

“ตระกูลฝั่งมารดาของจีโฮ่วไม่ได้เป็นกาลกิณีพ่ะย่ะค่ะ ทว่า ตอนนั้นบิดาของจีโฮ่วหลงอนุจนไม่สนใจภรรยาเอกของตัวเอง เขาขับไล่มารดาของจีโฮ่วออกจากจวน…ต่อมาจีโฮ่วจึงเปลี่ยนไปใช้สกุลจีของมารดา ส่วนท่านแม่ทัพหนิงฉู่เอ้าผู้เกรียงไกรของต้าเยี่ยนก็คือน้องชายร่วมบิดามารดาเดียวกันกับจีโฮ่วพ่ะย่ะค่ะ” เฝิงเย่ากล่าว

มู่หรงเหยี่ยนเคยเอ่ยถึงหนิงฉู่เอ้ามาก่อน ทว่า ไป๋ชิงเหยียนไม่คิดเลยว่าคนผู้นั้นจะเป็นน้องชายแท้ๆ ของจีโฮ่ว

แม่ทัพหนิงฉู่เอ้าของต้าเยี่ยนเกิดในตระกูลสูงศักดิ์ของต้าเยี่ยนนี่นา

มู่หรงเหยี่ยนกำชับมาแล้วดังนั้นเฝิงเย่าจึงเล่าเรื่องที่รู้กันแค่ในต้าเยี่ยนให้ไป๋ชิงเหยียนฟังอย่างไม่ปิดบัง

“เช่นนั้นแสดงว่าหยกจักจั่นของจีโฮ่วไม่ใช่สมบัติของตระกูลหนิงอย่างนั้นสินะ”

“เรื่องนี้บ่าวไม่แน่ใจพ่ะย่ะค่ะ” เฝิงเย่าตอบ

ไป๋ชิงเหยียนพยักหน้า “ข้าแค่สงสัยเท่านั้น ขอบใจเฝิงกงกงมากที่ตอบตามความจริง เฝิงเย่าช่วยส่งข่าวให้อ๋องเก้าแห่งต้าเยี่ยนทราบด้วยว่ากองทัพของต้าโจวจะออกเดินทางขึ้นไปยังทิศเหนือของแม่น้ำตันสุ่ยเพื่อไปรวมตัวกับกองทัพต้าเยี่ยนทางตะวันออก”

“พ่ะย่ะค่ะ” เฝิงเย่ารับคำ

“ชิงจู๋ ไปส่งเฝิงกงกงที”

เสิ่นชิงจู๋ผายมือเชิญเฝิงเย่า “เชิญเฝิงกงกงเจ้าค่ะ”

“แม่นางเสิ่นโปรดรอสักครู่…” เฝิงเย่าทำความเคารพเสิ่นชิงจู๋ จากนั้นหันไปทำความเคารพไป๋ชิงเหยียน

“ฝ่าบาท ตอนนั้นนายท่านให้บ่าวรวบรวมบันทึกของจีโฮ่วที่เหลืออยู่ทั้งหมดแล้วให้คนส่งมาให้ฝ่าบาทที่ต้าโจว บ่าวได้ยินมาว่าฝ่าบาทกำลังปรับเปลี่ยนระบอบการปกครองในต้าโจวใหม่ บ่าวจำได้ว่าตอนที่จีโฮ่วยังมีชีวิตอยู่นางเคยตรัสถึงระบอบการปกครองที่เท่าเทียมกันเช่นเดียวกับฝ่าบาททรงกำลังปรับเปลี่ยนอยู่ หากจีโฮ่วทรงทราบว่าระบอบการปกครองที่นางเคยบันทึกไว้ถูกลูก…”

เฝิงเย่าเกือบหลุดคำว่าลูกสะใภ้ออกมา ทว่า เขากลืนถ้อยคำลงไปได้ทันท่วงที ขอบตาของเขาร้อนผ่าวขึ้น จากนั้นกล่าวเสียงสะอื้น “หากทรงทราบว่าระบอบการปกครองที่นางเคยบันทึกไว้ได้รับความสนใจและเริ่มนำไปใช้จากจักรพรรดิของแคว้นพันธมิตร นางต้องดีใจมากแน่ๆ พ่ะย่ะค่ะ บ่าวอยากมีชีวิตอยู่จนได้เห็นวันนั้นจริงๆ พ่ะย่ะค่ะ วันหน้าเมื่อบ่าวต้องจากไปพบหน้าจีโฮ่วบ่าวจะได้ทูลนางได้ว่าใต้หล้าที่มีแต่ความเท่าเทียมที่นางเคยวาดฝันไว้เป็นจริงแล้ว! บ่าวอยากบอกให้ผู้ที่เคยทำผิดต่อจีโฮ่วรับรู้ว่าระบอบการปกครองของจีโฮ่วถูกต้องแล้วพ่ะย่ะค่ะ”

ไป๋ชิงเหยียนมองไปทางใบหน้าที่มีแต่ความเมตตาของชายชรานิ่ง ในแววตาของเขาไม่มีความหวาดระแวงในตัวนางเหมือนเมื่อก่อนอีกแล้ว บัดนี้แววตาของเขาเต็มไปด้วยความหวัง กระทั่งส่อแววเป็นมิตรให้ไป๋ชิงเหยียนได้รับรู้

“บ่าวเป็นคนฝนหมึกให้จีโฮ่วขณะนางเขียนบันทึกเหล่านั้นด้วยตัวเองทั้งหมดพ่ะย่ะค่ะ จีโฮ่วมักเขียนบันทึกด้วยรอยยิ้มพลางตรัสเรื่องต่างๆ กับบ่าวอยู่เสมอ บ่าวทราบเรื่องราวอีกหลายเรื่องที่ไม่ได้บันทึกอยู่ในตำราเหล่านั้น หากฝ่าบาททรงต้องการทราบสิ่งใดสามารถส่งคนไปตามตัวบ่าวมาสอบถามได้ทุกเมื่อ บ่าวจะตอบตามความจริงเท่าที่ทราบทั้งหมดพ่ะย่ะค่ะ บ่าวหวังว่าตัวเองจะได้เป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยให้การปกครองระบอบนี้สำเร็จโดยเร็ว หวังอยากเห็นใต้หล้าที่จีโฮ่วอยากให้เป็นในเร็ววันพ่ะย่ะค่ะ” เฝิงเย่าโค้งกายคำนับไป๋ชิงเหยียนอีกครั้ง จากนั้นกล่าวขึ้น “บ่าวขอตัวก่อนพ่ะย่ะค่ะ”

ไป๋ชิงเหยียนมองตามแผ่นหลังที่โค้งงอของเฝิงเย่าซึ่งเดินจากไปจากนั้นยกยิ้มมุมปากขึ้นเล็กน้อย เฝิงเย่ากงกงผู้นี้ช่างจงรักภักดีต่อจีโฮ่วจริงๆ เขาปกป้องบุตรชายของจีโฮ่วหลังที่จีโฮ่วจากไป บัดนี้เมื่อเขาเห็นว่านางนำแนวคิดระบอบการปกครองของจีโฮ่วมาปรับใช้จึงรีบบอกปณิธานของจีโฮ่วผู้ล่วงลับไปแล้วให้นางได้รับรู้

เขาคงไม่เพียงอยากให้อดีตจักรพรรดิของต้าเยี่ยนที่ทำร้ายจีโฮ่วเห็นว่าจีโฮ่วทำถูกต้องเท่านั้น เขาคงอยากให้คนทั้งใต้หล้าได้ประจักษ์ด้วยว่าการปกครองของจีโฮ่วคือหนทางที่ถูกต้อง!

คนผู้นี้จงรักภักดีจนถึงขนาดปกป้องแม้แต่แนวคิดการปกครองของจีโฮ่ว เห็นได้ชัดว่าเฝิงเย่าเป็นคนให้ความสำคัญกับความสัมพันธ์มาก

จีโฮ่วผู้ที่มีบ่าวที่จงรักภักดีถึงเพียงนี้จะเป็นบุคคลเช่นไรกันแน่นะ

สตรีแกร่งตระกูลไป๋

สตรีแกร่งตระกูลไป๋

Status: Ongoing
นิยายจีนโบราณเข้มข้น ปะทะคารม ทดสอบไหวพริบ สนุกถึงใจ!เพราะถูกคนชั่วหลอกใช้ชาติก่อนคนทั้งตระกูลของนางจึงต้องตายอย่างน่าอนาถ ไร้ซึ่งคนทวงถามความเป็นธรรมชาตินี้นางหวนกลับมาก่อนเรื่องราวเกิดขึ้น แม้เพียงเล็กน้อยแต่หากสามารถช่วยเหลือคนในครอบครัวได้แม้สักคนนางก็ยินดีทุ่มเทกำลังให้ถึงที่สุดสตรีตระกูลไปแต่ไรมาแกร่งกล้ำเพียบพร้อมบุ๋นบู๊ แม้ไร้ซึ่งที่พึ่งพิงแล้วจริงแต่ก็จะไม่ยอมให้ผู้ใดมากดขี่ได้!และเพราะเรื่องราวที่เปลี่ยนแปลงไปนางจึงได้พบกับ ‘เขา’ ไวกว่าชาติก่อนเขาผู้นี้แม้ภายนอกดูป็นมิตรและสง่งามกว่าใคร แต่นงแจ่มแจ้งดีว่าเขาเจ้าเล่ห์และอำหิตมากเพียงไหนชาติก่อนแม้ยืนกันคนละฝั่งแต่บุรุษผู้นี้กลับเป็นผู้มอบทางรอดให้แก่นาง อย่างนั้นชาตินี้นางก็ย่อมตอบแทนเขาเป็นอย่างดีเช่นกัน“แม่นางไปช่วยเหลือข้าหลายครั้งหลายครา ใช่ว่าชื่นชอบข้าหรือไม่?”“คุณชายเข้าใจผิดแล้วล่ะ”“ข้าช่วยเหลือแม่นางไปมาหลายครั้งหลายครา แม่นางไปมีใจชื่นชอบข้าบ้างหรือไม่?”“…”

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท