ตอนที่ 1158 ฆ่าคน
ไป๋ชิงเหยียนหันไปมองเว่ยจง
เมื่อเห็นไป๋ชิงเหยียนสนใจเว่ยจงจึงกล่าวต่อ
“บ่าวได้ยินว่าตอนใต้เท้าชราซือหม่ายังเป็นหนุ่มเขาค่อนข้างเลอะเลือน เขาหลงมัวเมาอยู่แต่ในหอนางโลม ต่อมาเขาล้มป่วยหนัก หมอตรวจพบว่าเขาไม่สามารถมีทายาทได้ เขาจึงรับเด็กในตระกูลบรรพบุรุษซือหม่าที่บิดาจากไปก่อนวัยอันควรและมารดากำลังจะแต่งงานใหม่มาเป็นลูกบุญธรรมขอรับ”
ซือหม่ารั่วตานใช้แขนเสื้อเช็ดน้ำตาของตัวเอง นางก้มหน้าต่ำอย่างละอาย
“ผู้ใดจะคิดว่าหกปีต่อมาฮูหยินของใต้เท้าชราซือหม่าจะตั้งครรภ์และคลอดใต้เท้าซือหม่าออกมา ดังนั้นความจริงแล้วใต้เท้าซือหม่าควรเป็นคุณชายคนที่สองของตระกูลขอรับ”
เว่ยจงเหลือบมองซือหม่ารั่วตานแวบหนึ่งจากนั้นกล่าวยิ้มๆ
ไป๋ชิงเหยียนมองไปทางไป๋ชิงฉี เมื่อเห็นน้องชายก้มหน้านิ่งจึงรู้ทันทีว่าเขาสืบรู้เรื่องทุกอย่างหมดแล้ว
“ชุนจือ ประคองคุณหนูซือหม่าลุกขึ้น…”
ไป๋ชิงเหยียนส่งยิ้มให้ซือหม่ารั่วตาน
“พวกเรานั่งสนทนากันก่อน”
ซือหม่ารั่วตานรีบก้มศีรษะคำนับไป๋ชิงเหยียนอย่างกล้าๆ กลัวๆ จากนั้นยกมือห้ามไม่ให้ชุนจือเข้ามาประคองนาง สาวน้อยกล่าวเสียงสะอื้น
“หม่อมฉันมีความผิดฐานหลอกลวงเบื้องสูง ฝ่าบาทให้หม่อมฉันคุกเข่าอยู่เช่นนี้จนกว่าจะทูลความจริงจบเถิดเพคะ! ตั้งแต่ที่ท่านอาสองถือกำเนิดขึ้น ฐานะของท่านพ่อหม่อมฉันในจวนซือหม่าก็กระอักกระอวนขึ้นมาทันที เดิมทีท่านปู่ทวดอยากให้ท่านปู่และท่านย่าส่งท่านพ่อของหม่อมฉันกลับไปยังครอบครัวเดิม ทว่า พ่อแท้ๆ ของท่านพ่อหม่อมฉันเสียชีวิตไปแล้ว มารดาแท้ๆ ก็แต่งงานมีครอบครัวใหม่ไปแล้ว ดังนั้นท่านปู่จึงส่งท่านพ่อของหม่อมฉันไปเลี้ยงดูที่จวนนอกตอนท่านพ่ออายุได้สิบขวบ นับแต่นั้นเป็นต้นมาตระกูลซือหม่าไม่สนใจท่านพ่อของหม่อมฉันอีกเลยราวกับว่าท่านไม่เคยมีตัวตนมาก่อน”
ตอนซือหม่ารั่วตานอายุเจ็ดขวบบิดาของนางล้มป่วย นางจึงแอบหนีออกจากจวนนอกไปขอความช่วยเหลือจากท่านย่า ทว่า กลับถูกบ่าวรับใช้ในตระกูลซือหม่าถูกตีและไล่กลับมา กล่าวว่าตระกูลซือหม่าไม่เคยมีคุณชายใหญ่
ตอนท่านพ่อเห็นร่างที่เขียวช้ำของนางน้ำตาของท่านไหลอาบใบหน้า ท่านบอกไม่ให้นางไปที่จวนซือหม่าอีก
ตอนนั้นซือหม่ารั่วตานมีแต่ความโกรธแค้นต่อตระกูลซือหม่า ทว่า ท่านพ่อของนางเอาแต่ย้ำกับนางว่าไม่ควรลืมบุญคุณของตระกูลซือหม่า ไม่ว่าอย่างไรท่านปู่ก็เลี้ยงดูท่านพ่อของนางจนเติบใหญ่มาถึงตอนนี้ เขาไม่เคยให้คนในจวนนอกทรมานหรือละเลยท่านพ่อของนาง
ดังนั้นนานวันเข้าซือหม่ารั่วตานจึงเกิดความรู้สึกผูกพันกับท่านปู่และท่านย่าที่นางไม่เคยเห็นหน้ามาก่อน นางคิดว่าบ่าวรับใช้พวกนั้นคงดูถูกนางเอง ท่านปู่และท่านย่าของนางคงไม่รู้เรื่องที่นางไปขอความช่วยเหลือแน่นอน
หลังจากท่านพ่อของนางล้มป่วย ท่านแม่ของนางต้องลำบากมากขึ้นเพื่อหายามารักษาท่านพ่อ ทว่า ต่อให้เป็นเช่นนี้ท่านพ่อของนางก็ฝืนร่างกายต่อไปไม่ไหว ท่านจากไปในช่วงฤดูร้อนของอีกปี…
ไป๋จิ่นเจาอ้าปากราวกับอยากกล่าวสิ่งใดออกมา ทว่า สาวน้อยพยายามอดทนไม่เอ่ยขัดบทสนทนาของซือหม่ารั่วตาน เหตุใดจึงมีคนเช่นนี้อยู่บนโลกนี้กัน! รับเขามาเลี้ยงเพราะมีลูกเองไม่ได้ พอมีลูกได้กลับส่งลูกบุญธรรมของตัวเองออกไปจากครอบครัวราวกับไม่เคยมีเขามาก่อนเช่นนี้ได้อย่างไรกัน!
มิน่าหลายปีมานี้ถึงไม่เคยได้ยินมาก่อนว่าบิดาของซือหม่าผิงมีพี่ชายอยู่อีกคน
“ก่อนหน้านี้หม่อมฉันได้ยินท่านพ่อของหม่อมฉันเอ่ยถึงท่านลุงเซวียอยู่หลายครั้ง ท่านกล่าวว่าแม้ว่าท่านลุงเซวียจะเป็นเพียงพ่อค้า ทว่า ท่านรักพวกพ้องมาก ท่านพ่อจากไม่ได้ไม่นานท่านลุงเซวียก็มาหาหม่อมฉันกับแม่ ท่านลุงเซวียนได้รับจดหมายจากท่านพ่อจึงทราบว่าท่านพ่อป่วยหนัก ท่านลุงเซวียจึงนำเงินมาช่วยเหลือท่านพ่อ ทว่า เขาไม่คิดมาก่อนว่าเขาจะมาไม่ทัน ท่านลุงเซวียนำจดหมายของท่านพ่อออกมาพลางกล่าวว่าท่านพ่อฝากฝังให้เขาช่วยดูแลหม่อมฉัน ท่านพ่ออยากให้หม่อมฉันแต่งงานกับบุตรชายของท่านลุงเซวีย กล่าวว่าหากท่านลุงเซวียกลายเป็นพ่อสามีของหม่อมฉันท่านพ่อคงจากไปอย่างไม่มีสิ่งใดต้องห่วง…”
เมื่อซือหม่ารั่วตานเอ่ยถึงบิดาของตัวเอง น้ำเสียงของสาวน้อยสะอื้นอย่างควบคุมไม่อยู่
“ท่านลุงเซวียบอกว่าแม้เขาจะเป็นเพียงพ่อค้า ทว่า บุตรชายของเขาเรียนหนังสือเก่งมาก บุตรชายของเขามีนามว่าเซวียเหรินอี้ ท่านลุงเซวียกล่าวว่าหากท่านแม่ของหม่อมฉันยินดี เมื่อบุตรชายของเขาสอบคัดเลือกขุนนางเสร็จจะแต่งหม่อมฉันเข้าตระกูลทันที ท่านแม่อยากทำตามคำสั่งเสียของท่านพ่อจึงตกลงเรื่องการแต่งงานครั้งนี้เพคะ”
ซือหม่ารั่วตานไม่เคยลืมว่าวันที่ท่านลุงเซวียจากไปเขามอบเงินทั้งหมดของเขาไว้ให้นางและแม่ใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน นางรู้สึกซาบซึ้งในบุญคุณของท่านลุงเซวียจากใจจริง
เซวียเหรินอี้อย่างนั้นหรือ…ไป๋ชิงเหยียนไม่คิดมาก่อนเลยว่าคู่หมั้นของซือหม่ารั่วตานจะเป็นคนคุ้ยเคยเช่นนี้
ไป๋จิ่นเซ่อจำคนผู้นี้ได้เช่นกัน สาวน้อยมองไปทางพี่หญิงใหญ่ นางจำได้ว่าคนที่เป็นแกนนำบัณฑิตของสำนักกั๋วจื่อเจียนออกมาประท้วงพี่หญิงใหญ่หลังพี่หญิงใหญ่ขึ้นครองราชย์ได้ไม่นานก็คือเซวียเหรินอี้ผู้นี้ ทว่า ต่อมาเขาถูกพี่หญิงใหญ่โน้มน้าวจนสำเร็จ
“ต่อมาเมื่อเซวียเหรินอี้มีส่วนเกี่ยวข้องกับคดีทุจริตในการสอบคัดเลือกขุนนาง ท่านแม่ของหม่อมฉันจึงไปขอร้องผู้ช่วยผู้ตรวจการซือหม่าเยี่ยนให้ช่วยเซวียเหรินอี้ จากนั้นเล่าเรื่องการแต่งงานของหม่อมฉันและเซวียเหรินอี้ให้คนตระกูลซือหม่าฟัง ทว่า นึกไม่ถึงเลยว่าท่านย่าจะขับไล่ท่านแม่ของหม่อมฉันออกมาจากจวนอย่างไม่ไว้หน้า อีกทั้งบอกว่าท่านพ่อของหม่อมฉันถูกขับไล่ออกจากตระกูลนานแล้ว ตอนนี้ไม่ใช่คุณชายใหญ่ของตระกูลซือหม่าอีกต่อไป”
ตอนนั้นซือหม่ารั่วตานถึงได้รู้ว่าความจริงท่านแม่ของนางก็เป็นคุณหนูจากตระกูลขุนนางเช่นเดียวกัน ทว่า ตอนนั้นครอบครัวของท่านแม่ถูกตระกูลฝั่งมารดาของสนมเยาใส่ร้ายจนวอดวายทั้งตระกูล ท่านพ่อของนางเป็นคนไปขอร้องให้ตระกูลซือหม่าช่วยเหลือมารดาของนางโดยยอมให้ท่านปู่ลบนามของเขาออกจากตระกูลซือหม่าและจะไม่ไปเหยียบตระกูลซือหม่าอีก
“ต่อมาท่านลุงเซวียล้มป่วยหนักเซวียเหรินอี้จึงไม่ได้เข้าร่วมการสอบขุนนางครั้งถัดไป เขากลับไปดูแลบิดาของตัวเองที่บ้านเกิด ทว่า เซวียนเหรินอี้เผยความสามารถของตัวเองต่อหน้าทุกคนแล้ว คนที่ได้อ่านบทความของเขาต่างกล่าวว่าเขาต้องติดหนึ่งในสามอันดับแรกแน่นอน แม้เขาไม่ได้เข้าร่วมการสอบขุนนาง ทว่า เขาได้เข้าไปอยู่ในสำนักศึกษากั๋วจือเจียน ตอนนี้ฝ่าบาทกำลังจะจัดการสอบคัดเลือกคนมีความสามารถมาเป็นขุนนางในต้าโจว ตระกูลซือหม่าจึงเริ่มสนใจการแต่งงานในครั้งนี้…”
น้ำตาของซือหม่ารั่วตานไหลพรากออกมาจากดวงตา
“คนตระกูลซือหม่ารู้ว่าหม่อมฉันหมั้นหมายกับเซวียเหรินอี้จึงให้คนมารับหม่อมฉันไปที่จวนซือหม่า พวกเขาบอกกับท่านแม่ของหม่อมฉันว่าท่านย่าโกรธที่ตอนนั้นท่านพ่อทอดทิ้งตระกูลซือหม่าไปเพราะท่านแม่ ท่านย่าจึงไม่ชอบท่านแม่ ทว่า ไม่ว่าอย่างไรหม่อมฉันก็เป็นลูกสาวของท่านพ่อ วันหน้าเซวียเหรินอี้ต้องสอบติดการแข่งขันคัดเลือกขุนนางแน่นอน พวกเขาอยากให้หม่อมฉันออกเรือนที่ตระกูลซือหม่า ถือเป็นการเสริมบารมีให้เซวียเหรินอี้ด้วยเพราะไม่ว่าอย่างไรตระกูลเซวียก็เป็นเพียงตระกูลพ่อค้าเท่านั้น”
“ท่านแม่คิดว่าหากหม่อมฉันได้กลับไปในตระกูลซือหม่า ได้แต่งงานออกเรือนจากจวนซือหม่าจะถือเป็นการลบล้างความผิดที่ท่านพ่อต้องออกจากตระกูลเพราะท่านแม่แล้ว”
ลำคอของซือหม่ารั่วตานร้อนผ่าว
“เดิมทีหม่อมฉันไม่อยากทำเช่นนี้ หม่อมฉันไม่เคยพบหน้าเซวียเหรินอี้มาก่อน หม่อมฉันไม่สนว่าจะได้แต่งงานกับเขาหรือไม่ ทว่า หม่อมฉันไม่อยากทำให้ท่านแม่ลำบากใจ อีกทั้งซาบซึ้งในบุญคุณของท่านลุงเซวีย หม่อมฉันจึงตามหมัวมัวคนนั้นกลับไปยังจวนซือหม่า ทว่า หม่อมฉันคิดไม่ถึงเลยว่าตระกูลซือหม่าจะให้บุตรสาวอนุในตระกูลปลอมตัวเป็นหม่อมฉันไปพบเซวียเหรินอี้แทน จากนั้นวางแผนให้สาวใช้ข้างกายของหม่อมฉันขโมยของใช้ติดตัวของหม่อมฉันไปให้พ่อหม้ายชราคนหนึ่ง พวกเขาจะจับตัวหม่อมฉันส่งไปแต่งงานกับพ่อหม้ายชราผู้นั้นที่หย่งโจว!”
ซือหม่ารั่วตานกล่าวถึงตรงนี้ดวงตาของนางแปรเปลี่ยนเป็นเกรี้ยวกราดขึ้นมาทันที ความโกรธแค้นอาฆาตถาโถมเข้ามาในใจจนนางอยางสังหารคน
“หม่อมฉันหนีออกมาได้ เมื่อกลับไปที่บ้านจึงรู้ว่าท่านแม่ของหม่อมฉันถูกคนเหล่านั้นบีบจนตายหลังจากหม่อมฉันหนีไปได้เพียงวันเดียว! พวกเขากล่าวหาว่าท่านแม่ของหม่อมฉันคือบุตรสาวของขุนนางต้องโทษ วันหน้าเซวียเหรินอี้อาจสอบได้อันดับที่หนึ่งได้เป็นถึงจอหงวน แม่ยายของจอหงวนจะเป็นเพียงบุตรสาวขุนนางต้องโทษได้อย่างไรกัน…”