สตรีแกร่งตระกูลไป๋ – ตอนที่ 1172 ไม่อาจต้านทานได้

สตรีแกร่งตระกูลไป๋

ตอนที่ 1172 ไม่อาจต้านทานได้

ไป๋ชิงเหยียนหยุดม้า ยกมือขึ้น…

“หยุด!”

กองทัพใหญ่ของต้าโจวหยุดเคลื่อนไหวโดยพร้อมเพรียงกัน

ไป๋ชิงเหยียนหันม้ากลับไปสั่งเสียงดัง

“ไป๋จิ่นซิ่ว ไป๋ชิงเจวี๋ยนำทัพบุกขึ้นไปทางด้านขวาของเมือง! ไป๋ชิงอวี๋ ไป๋จิ่นหวานำทัพบุกขึ้นไปทางด้านซ้าย! พวกเราต้องนำธงเฮยฟานไป๋หมั่งของต้าโจวไปปักลงบนกำแพงของด่านเย่เฉิงเพื่อแสดงอำนาจของพวกเราให้ซีเหลียงได้เห็นให้ได้ภายในครึ่งชั่วยาม!”

“ไป๋จิ่นซิ่วรับบัญชาเจ้าค่ะ!”

“ไป๋ชิงเจวี๋ยรับบัญชาขอรับ!”

“ไป๋ชิงอวี๋รับบัญชาขอรับ!”

“ไป๋จิ่นหวารับบัญชาเจ้าค่ะ!”

ทั้งสี่คนรับคำโดยพร้อมเพรียง จากนั้นพาทหารของแยกย้ายไปทำหน้าที่ของตัวเองทันที ขบวนยาวราวกับมังกรสองแยกออกเป็นสองแขวน

“พลทหารโล่เดินไปด้านหน้าต่อ คุ้มกันบันไดไม้ของพวกเรามุ่งหน้าต่อไป”

เมื่อได้ยินเสียงคำสั่งของไป๋ชิงเหยียนอีกครั้งทหารลาดตระเวนของต้าโจวแยกย้ายกันไปกระจายคำสั่งทันที โล่เหล็กถูกดันไปด้านหน้าสุดอีกครั้งเพื่อป้องกันทหารที่ทำหน้าที่ถือโล่ พวกเขาเดินตามหลังรถบรรทุกบันไดไปต่อ

ประตูด่านเย่เฉิงยังไม่ถูกปิดสนิท ทหารจำนวนมากของต้าโจวบุกเข้าไปด้านในได้สำเร็จ บันไดถูกแบกไปถึงด้านหน้าของด่านเย่เฉิง ทหารต้าโจวที่หลบอยู่ใต้โล่เหล็กถือดาบโผล่ออกไปต่อสู้กับศัตรูด้านนอก ทหารบางคนปีนขึ้นไปบนบันไดไม้

เย่โส่วกวนรู้ดีว่าตอนนี้ทหารซีเหลียงที่อยู่ในด่านเย่เฉิงทำได้เพียงอดกลั้นเท่านั้น ด้านนอกมีกองกำลังจำนวนมหาศาลของต้าโจวรออยู่ หากพวกเขาบุกออกไปสู้รบไม่มีทางพอให้ต้าโจวสังหารแน่นอน เขาไล่ตามองตามภูเขาขึ้นไปบนกำแพงที่อยู่บนยอดเขา ตอนนี้เขาได้แต่หวังว่าแม่ทัพพวกนั้นจะบุกอ้อมไปโจมตีด้านหลังกองทัพของต้าโจวโดยเร็วที่สุด เช่นนี้พวกเขาต้องกำจัดกองกำลังส่วนใหญ่ของต้าโจวได้แน่

หยางอู่เช่อพาทหารซ่อนตัวอยู่ในพุ่มไม้บริเวณมุมลับตาคนของยอดเขาฝั่งขวาของเย่โส่วกวน เขาจ้องไปยังกำแพงเมืองที่มีแสงไฟส่องสว่างนิ่ง…

ไป๋ชิงเหยียนพาแม่ทัพทุกคนของกองทัพไป๋ไปปรากฏตัวต่อหน้าเย่โส่วกวนเพราะต้องการให้เย่โส่วกวนคิดว่าต้าโจวยกกองกำลังทั้งหมดไปโจมตีด่านเย่เฉิงแล้วจริงๆ ไม่ว่าซีเหลียงจะเข้าใจว่าต้าโจวไม่หวาดกลัวซีเหลียงเพราะมีจักรพรรดินีแห่งซีเหลียงอยู่ในกำมือหรือเพราะต้องการใช้หลี่เทียนฟู่เป็นเหยื่อล่อให้กองทัพที่คุ้มกันอยู่บนกำแพงบนภูเขาสองทั้งสองฝั่งยกทัพลงไปช่วยเหลือหลี่เทียนฟู่ล้วนไม่สำคัญ ขอเพียงแม่ทัพที่คุ้มกันกำแพงบนภูเขาเหล่านั้นยกทัพลงมาช่วยหลี่เทียนฟู่จริงๆ ก็พอ

มิเช่นนั้นหากแม่ทัพเหล่านั้นไม่ยอมทิ้งกำแพงเมืองฝั่งขวาและซ้ายบนยอดเขาสูงลงมาด้านล่าง ต่อให้ต้าโจวจะยึดด่านเย่เฉิงได้ก็ไม่มีค่าอันใดทั้งสิ้น

นี่คือเหตุผลที่ไป๋ชิงเหยียนต้องการให้ซือหม่ารั่วตานซึ่งปลอมตัวเป็นบุตรสาวของเย่อิงน่านและพยายามทำทุกวิถีทางให้ซีเหลียงรู้ว่าจักรพรรดินีแห่งซีเหลียงของพวกเขาอยู่ในมือของต้าโจวแล้วให้ได้ เช่นนี้กองทัพซึ่งคุ้มกันอยู่ทางฝั่งซ้ายและขวาของกำแพงเมืองบนภูเขาสูงต้องยกทัพลงมาช่วยเหลือหลี่เทียนฟู่แน่นอน!

ไม่นานหยางอู่เช่อที่กำลังเคี้ยวใบไม้แห้งเล่นอยู่ในปากจึงหยัดกายตรง เขาขยับร่างกายของตัวเองเล็กน้องพลางจ้องดวงตาคมกริบราวกับเสือของตัวเองไปทางประตูเมืองเขม็งราวกับสัตว์ที่กำลังจ้องเหยื่อของตัวเอง

เขาได้ยินเสียงเหล็กบริเวณประตูดังขึ้นเล็กน้อย ประตูเมืองเก่าแก่และหนักอึ้งค่อยๆ เปิดออก…ด้านในคือเสียงปลุกขวัญเหล่าทหารของแม่ทัพผู้คุ้มกันด่านเย่เฉิง

“บัดนี้ท่านแม่ทัพใหญ่ผู้คุ้มกันด่านเย่เฉิงของพวกเราเปิดประตูด่านเย่เฉิงออกแล้ว พวกเขากำลังล่อกำลังหลักของต้าโจวเข้าไปติดกับในเมือง หน้าที่ของพวกเราในวันนี้คือบุกอ้อมไปโจมตีด้านหลังของกองทัพต้าโจว จากนั้นล้อมกองทัพต้าโจวไว้ทั้งด้านนอกและใน จับเป็นจักรพรรดินีแห่งต้าโจว ช่วยเหลือฝ่าบาทของพวกเรากลับมา ล้างแค้นให้สหายซีเหลียงที่เสียชีวิตในสงครามหุบเขาเวิ่งให้ได้!”

“ล้างแค้นให้ได้!”

“ล้างแค้นให้ได้!”

“ล้างแค้นให้ได้!”

ทหารซีเหลียงในเมืองพากันโห่ร้องเสียงดังสนั่น ร่างของทุกคนเต็มไปด้วยไอสังหาร

ทหารต้าโจวที่ซ่อนตัวอยู่ในที่ลับกลั้นลมหายใจของตัวเองแน่นเพราะกลัวว่าไอร้อนจากลมหายใจของตนจะทำให้ทหารซีเหลียงจับสังเกตได้ เช่นนั้นแผนการของต้าโจวคงพังทลายไม่เป็นท่า…

“ทหารกล้าของซีเหลียง! ชักดาบคมของพวกเจ้าออกมา เทพเจ้าจะปกป้องคุ้มครองทหารกล้าของซีเหลียงทุกคน! บุก!”

“บุก!”

ทหารซีเหลียงบุกออกมาจากประตูที่เปิดกว้าง จากนั้นมุ่งหน้าลงไปจากเขาสูงอย่างรวดเร็ว

ทหารต้าโจวที่ดักซุ่มอยู่สองฝั่งจ้องไปยังประตูเมืองนิ่ง พวกเขาเห็นทหารซีเหลียงกรูกันออกมาจากด้านในไม่หยุด

กองกำลังหลักของซีเหลียงอยู่บนภูเขานี่เกือบทั้งหมดจริงๆ ด้วย!

จ้าวหร่านที่ดักซุ่มอยู่ที่ภูเขาฝั่งซ้ายของด่านเย่เฉิงคือคนของกองทัพไป๋ดังนั้นเขาจึงไม่เคยสงสัยในการตัดสินใจของไป๋ชิงเหยียน

ทว่า หยางอู่เช่อตกตะลึงกับการคาดการณ์ของไป๋ชิงเหยียนเป็นอย่างมาก กองกำลังหลักของด่านเย่เฉิงอยู่บนกำแพงเมืองบนยอดเขาฝั่งซ้ายขวาของด่านเย่เฉิงเหมือนดั่งที่ไป๋ชิงเหยียนคาดการณ์ไว้ไม่มีผิด

เมื่อกองทัพหลักของซีเหลียงบุกออกไปจากเมือง มุ่งหน้าไปทางกองทัพต้าโจวที่อยู่ด้านหลังภูเขาจนเกือบหมด หยางอู่เช่อและจ้าวหร่านจึงเริ่มโจมตีบ้าง…

“บุก!”

สิ้นเสียงคำสั่งของหยางอู่เช่อ ทหารต้าโจวบุกไปยังประตูที่ยังไม่ถูกปิดของซีเหลียงเพื่อยึดครองมาเป็นของต้าโจวทันที

ยอดเขาสองฝั่งเต็มไปด้วยเสียงสู้รบดังกระหึ่ม

ไป๋ชิงเหยียนกำชับไว้ก่อนหน้านี้ว่าเมื่อกองทัพหลักของซีเหลียงบุกออกไปจากเมืองจนเกือบหมดแล้วให้จ้าวหร่านและหยางอู่เช่อยึดประตูของกำแพงเมืองซึ่งอยู่บนยอดเขามาให้ได้ไม่ว่าต้องแลกด้วยสิ่งใดก็ตาม จากนั้นปักธงเฮยฟานไป๋หมั่งลงบนกำแพงเมืองทันที

เมื่อได้ยินเสียงสู้รบดังมาจากยอดเขา แม่ทัพของต้าโจวที่ดักซุ่มอยู่ระหว่างทางลงเขารีบลุกขึ้นยืนออกคำสั่งทันที

“ดึง!”

ทหารต้าโจวจำนวนมหาศาลดึงเชือกในมือที่ผูกติดกับต้นไม้ระหว่างทางลงจากภูเขาสุดแรง…

เชือกนับร้อยเส้นปรากฏขึ้นกลางทางลงภูเขา ทหารกลุ่มแรกของซีเหลียงที่บุกลงไปด้านล่างภูเขาหันกลับไปมองจึงเห็นว่าสหายในกองทัพของตัวเองสะดุดเชือกที่ขวางอยู่กลางทางกลิ้งล้มมาทางพวกเขาอย่างรวดเร็ว ทหารเหล่านั้นล้มลงทับพวกเขาจนพวกเขาสะดุดล้มตามด้วย

แม่ทัพคุ้มกันด่านเย่เฉิงยังไม่ทันตะโกนบอกให้ทหารที่ตามมาระวังเชือกเหล่านั้น ทหารต้าโจวที่ซ่อนตัวอยู่สองข้างทางจนร่างเกือบหนาวแข็งกรูกันออกมาสังหารพวกเขาเสียก่อน

เย่โส่วกวนที่ยืนอยู่บนกำแพงเมืองได้ยินเสียงสู้รบดังมาจากยอดเขาสองฝั่งของด่านเย่เฉิงจึงเบิกตาโพลง เขาสาวเท้าไปด้านหน้าอย่างรวดเร็ว เขามองไปทางฝั่งซ้ายก่อน จากนั้นมองไปทางฝั่งขวา…

เสียงสู้รบบนยอดเขาดังผสมผสานกับเสียงสู้รบของทหารที่หน้าประตูด่านเย่เฉิงจนกลายเป็นน่าตาข่ายความน่ากลัวขนาดใหญ่ที่กำลังโอบล้อมด่านเย่เฉิงทั้งหมดเอาไว้จนเย่โส่วกวนแทบหายใจไม่ออก

เขารีบหันมองไปทางบันไดที่มีร่างของหลี่เทียนฟู่และเย่อิงน่านผูกติดอยู่ทันที เขาเหมือนจะมองเห็นร่างของไป๋ชิงเหยียนนั่งถือธนูเซ่อรื้ออยู่บนหลังม้าใจกลางกองทัพต้าโจวท่ามกลางแสงสว่างแรกที่กำลังโผล่ขึ้นเหนือขอบฟ้าอย่างเลือนราง ทหารซีเหลียงไม่กล้ายิงธนูใส่หลี่เทียนฟู่และเย่อิงน่าน ไป๋ชิงเหยียนยืนอยู่ตรงนั้นคือที่ที่ปลอดภัยที่สุด

ข้างหูของไป๋ชิงเหยียนเต็มไปด้วยเสียงสู้รบและเสียงโบกสะบัดของธงที่อยู่ทางด้านหลังของนาง

ใบหน้าของนางมีบาดแผลเล็กน้อย เกราะสีเงินเต็มไปด้วยคราบเลือด หญิงสาวนั่งถือธนูเซ่อรื้ออยู่บนหลังม้า ดวงตาคมกริบของนางจ้องไปทางเย่โส่วกวนซึ่งยืนอยู่บนกำแพงสูงที่ขึ้นชื่อว่าแข็งแกร่งที่สุดของซีเหลียงด้วยแววตามุ่งมั่นจะครอบครองให้ได้

ไม่นานธงเฮยฟานไป๋หมั่งของต้าโจวถูกปักขึ้นบนกำแพงด้านขวาของยอดเขาก่อนเป็นธงแรก ต่อมาธงอีกผืนถูกปักลงบนยอดเขาทางฝั่งซ้าย ธงประจำแคว้นซีเหลียงค่อยๆ ล้มลงทีละผืน

ทหารของกองทัพไป๋บุกลงมาจากยอดเขาด้านบนจำนวนมหาศาลอย่างที่ซีเหลียงไม่อาจต้านทานได้อีกต่อไป

สตรีแกร่งตระกูลไป๋

สตรีแกร่งตระกูลไป๋

Status: Ongoing
นิยายจีนโบราณเข้มข้น ปะทะคารม ทดสอบไหวพริบ สนุกถึงใจ!เพราะถูกคนชั่วหลอกใช้ชาติก่อนคนทั้งตระกูลของนางจึงต้องตายอย่างน่าอนาถ ไร้ซึ่งคนทวงถามความเป็นธรรมชาตินี้นางหวนกลับมาก่อนเรื่องราวเกิดขึ้น แม้เพียงเล็กน้อยแต่หากสามารถช่วยเหลือคนในครอบครัวได้แม้สักคนนางก็ยินดีทุ่มเทกำลังให้ถึงที่สุดสตรีตระกูลไปแต่ไรมาแกร่งกล้ำเพียบพร้อมบุ๋นบู๊ แม้ไร้ซึ่งที่พึ่งพิงแล้วจริงแต่ก็จะไม่ยอมให้ผู้ใดมากดขี่ได้!และเพราะเรื่องราวที่เปลี่ยนแปลงไปนางจึงได้พบกับ ‘เขา’ ไวกว่าชาติก่อนเขาผู้นี้แม้ภายนอกดูป็นมิตรและสง่งามกว่าใคร แต่นงแจ่มแจ้งดีว่าเขาเจ้าเล่ห์และอำหิตมากเพียงไหนชาติก่อนแม้ยืนกันคนละฝั่งแต่บุรุษผู้นี้กลับเป็นผู้มอบทางรอดให้แก่นาง อย่างนั้นชาตินี้นางก็ย่อมตอบแทนเขาเป็นอย่างดีเช่นกัน“แม่นางไปช่วยเหลือข้าหลายครั้งหลายครา ใช่ว่าชื่นชอบข้าหรือไม่?”“คุณชายเข้าใจผิดแล้วล่ะ”“ข้าช่วยเหลือแม่นางไปมาหลายครั้งหลายครา แม่นางไปมีใจชื่นชอบข้าบ้างหรือไม่?”“…”

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท