สตรีแกร่งตระกูลไป๋ – ตอนที่ 1178 หน้าที่

สตรีแกร่งตระกูลไป๋

ตอนที่ 1178 หน้าที่

“ผู้ใด!” ไป๋ชิงเหยียนเริ่มหายใจหอบแรงขึ้น

“พี่หญิง…”

สิ้นเสียง ร่างของไป๋ชิงเหยียนแข็งทื่อทันที

“พี่หญิง…”

เงาดำเดินลงจากบันไดมาสองสามขั้น ใบหน้าของคนผู้นั้นค่อยๆ ชัดเจนขึ้นเรื่อยๆ นั่นคือไป๋ชิงอวี๋ที่ร่างทั้งร่างเต็มไปด้วยเลือด

“อาอวี๋!” ไป๋ชิงเหยียนเบิกตาโพลง ใจของนางกระตุกวูบ

กวานหยกที่ประดับอยู่บนศีรษะของไป๋ชิงอวี๋ร่วงลงบนพื้น ผมที่มีเลือดแห้งกรังติดอยู่สยายเต็มบ่า เสื้อเกราะของเขาเต็มไปด้วยลูกธนู เลือดสดจากเสื้อเกราะเงินของไป๋ชิงอวี๋หยดลงบนตามบันได จากนั้นไหลตามไปพื้นไปจนถึงปลายเท้าของไป๋ชิงเหยียน

“พี่หญิง ช่วยข้าด้วย!”

ไป๋ชิงอวี๋กล่าวจบก็กระอักเลือดออกมาทันที ร่างของเขาเซล้มลงบนพื้นทางด้านหลัง…

“อาอวี๋!” เมื่อไป๋ชิงเหยียนได้ยินเสียงแหบพร่าของน้องชายจึงรีบทิ้งธนูเซ่อรื้อในมือทันที นางวิ่งถลาเข้าไปหาน้องชาย ทว่า กลับพบเพียงความว่างเปล่าจนนางเกือบเซล้มลงบนพื้น

ไป๋ชิงเหยียนเบิกตาโพลง “อาอวี๋”

“อาเป่า!”

เซียวหรงเหยี่ยนที่นั่งอยู่ปลายเตียงจับบ่าสองข้างของไป๋ชิงเหยียนไว้แน่น ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยความกังวล

เมื่อไป๋ชิงเหยียนที่ใบหน้าเต็มไปด้วยเหงื่อเห็นใบหน้าคมคายของเซียวหรงเหยี่ยนชัดเจนจึงถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอก

แม้นางจะรู้ว่าเมื่อครู่เป็นเพียงความฝัน ทว่า เมื่อนึกถึงร่างโชกเลือดของอาอวี๋ในความฝันไป๋ชิงเหยียนก็รู้สึกเกร็งไปทั้งร่าง

“ฝันร้ายอย่างนั้นหรือ” เซียวหรงเหยี่ยนใช้ผ้าเช็ดหน้าเช็ดเหงื่อบนใบหน้าให้ไป๋ชิงเหยียน เมื่อเห็นหญิงสาวอยากลุกขึ้นนั่งจึงรีบช่วยประคอง ชายหนุ่มสอดหมอนอิงไว้ทางด้านหลังของหญิงสาว

“ไม่ต้องกลัว เป็นเพียงความฝันเท่านั้น”

นั่นสินะ เป็นเพียงความฝัน…

บัดนี้อาอวี๋อยู่อย่างปลอดภัยในด่านเย่เฉิง

“ท่านมาที่นี่ได้อย่างไร” ไป๋ชิงเหยียนรับผ้าเช็ดหน้าจากมือของเซียวหรงเหยี่ยนมาเช็ดลำคอของตัวเอง

“วันนี้คือวันที่สิบห้า เดือนหนึ่ง ข้าไม่สบายใจที่ไม่ได้ฉลองคืนวันสิ้นปีกับเจ้า”

เซียวหรงเหยี่ยนหยิบผ้าเช็ดหน้าที่ไป๋ชิงเหยียนใช้เสร็จแล้วไปวางไว้ที่โต๊ะด้านข้าง จากนั้นเอื้อมมือไปกุมมือหญิงสาว ลูบหน้าท้องของหญิงสาวอย่างแผ่วเบา “ลูกเชื่อฟังดีหรือไม่ ทรมานเจ้าบ้างหรือไม่…”

ไป๋ชิงเหยียนก้มหน้ามองท้องของตัวเอง ใบหน้าเต็มไปด้วยรอยยิ้ม “เขาเป็นเด็กดีมาก”

เมื่อได้สติไป๋ชิงเหยียนจึงเห็นเส้นเลือดแดงในดวงตาของเซียวหรงเหยี่ยน ชายหนุ่มผอมลงมาก ใบหน้าดูคมคายยิ่งกว่าเดิม

“ความจริงท่านไม่จำเป็นต้องลำบากเดินทางมาที่นี่…”

ไป๋ชิงเหยียนก้มหน้ามองมือที่กำลังสอดประสานกันแน่นของนางและเซียวหรงเหยี่ยน หญิงสาวใช้นิ้วโป้งลูบไล้ไปตามหลังมือของชายหนุ่มเบาๆ จากนั้นเงยหน้ามองเซียวหรงเหยี่ยนอีกครั้ง

“ท่านควรเอาเวลาที่เร่งเดินทางมาที่นี่นอนหลับพักผ่อนดีกว่า วันหน้ายังมีสงครามต้องทำอีก”

“พวกเราแบ่งส่วนแบ่งที่ได้จากสงครามภูเขาหลิวเซียงเรียบร้อยแล้ว ข้าเดินทางมาที่นี่พร้อมกับกองทัพของอันชิงซานของพวกเจ้า พวกเราควรเริ่มเตรียมการเรื่องการรวมสองแคว้นให้เป็นหนึ่งได้แล้ว ข้ามาที่นี่เพื่อปรึกษาเจ้าเรื่องนี้จะได้ส่งจดหมายไปบอกให้อาลี่รับรู้ได้ อีกทั้งมาบอกเจ้าด้วยว่าต้าเยี่ยนจะทำสงครามเช่นไรต่อไป ต้าเยี่ยนกับต้าโจวจะได้ร่วมมือกันได้”

เซียวหรงเหยี่ยนกล่าวจบจึงมองไปทางไป๋ชิงเหยียนยิ้มๆ ไม่ได้กล่าวว่าต่อไปควรทำสงครามเช่นไร

“เหตุใดจึงมองหน้าข้าเช่นนี้” ไป๋ชิงเหยียนเอ่ยเร่ง “ต้าเยี่ยนคิดจะทำสงครามต่อเช่นไร”

“อาเป่าไม่คิดถึงข้าบ้างหรือ เจอหน้ากันก็ถามแต่เรื่องสงคราม ไม่ถามสักนิดว่าข้าสบายดีหรือไม่” เซียวหรงเหยี่ยนขยับใบหน้าเข้าไปใกล้ไป๋ชิงเหยียนอีกนิด จากนั้นเอ่ยถามเสียงเบาหวิว ดวงตาดำขลับของชายหนุ่มมองจ้องหญิงสาวนิ่ง

“ไม่ห่วงสักนิดว่าข้าสบายดีหรือไม่”

ไป๋ชิงเหยียนตะลึงไปชั่วครู่ จากนั้นหัวเราะออกมาอย่างอดไม่ได้ หญิงสาวขยับท่านั่งเล็กน้อย ทว่า ไม่ได้ปล่อยมือที่จับมือเซียวหรงเหยี่ยนไว้ออก แววตาของนางเปล่งประกาย

“ท่านโยนความผิดให้ข้าเช่นนี้ได้อย่างไร ท่านเป็นคนเริ่มกล่าวเรื่องสงครามเอง ท่านกล่าวว่าจะมาปรึกษาข้าเรื่องนี้ ตอนนี้กลับกลายเป็นข้าเป็นคนผิดเสียอย่างนั้น”

ไป๋ชิงเหยียนกล่าวจบก็ถูกเซียวหรงเหยี่ยนรวบตัวไปจูบทันที

ด้านนอกคือเสียงกำชับบ่าวรับใช้ให้ทำงานอย่างเบามือของเว่ยจง ข้างหูคือเสียงเสียดสีของผ้าห่มขณะเซียวหรงเหยี่ยนขยับเข้ามาใกล้นาง หญิงสาวได้ยินเสียงฝีเท้าที่พยายามเดินอย่างเบาที่สุดของบ่าวรับใช้ซึ่งอยู่ทางด้านนอก

ไป๋ชิงเหยียนเริ่มร้อนรน อยากผลักร่างของเซียวหรงเหยี่ยนออกห่าง ทว่า ข้อมือของนางกลับถูกชายหนุ่มจับไว้เสียก่อน นิ้วมือหยาบกร้านของเซียวหรงเหยี่ยนลูบไล้ไปตามข้อมือเรียวของหญิงสาว

กลิ่นอายที่คุ้นเคยทำให้ไป๋ชิงเหยียนใจสั่น

เซียวหรงเหยี่ยนจูบอย่างแผ่วเบา จากกนั้นผละริมฝีปากออกจากริมฝีปากของไป๋ชิงเหยียน เขามองหน้าหญิงสาวที่เขาคิดถึงอยู่ตลอดเวลานิ่ง มองไปยังใบหูที่แดงก่ำของหญิงสาว จากนั้นสายตาหยุดอยู่ที่ริมฝีปากบาง

ชายหนุ่มประคองใบหน้าของไป๋ชิงเหยียนขึ้นเล็กน้อย ริมฝีปากร้อนประทับลงไปอีกครั้ง

ครั้งนี้ไม่ใช่จุมพิตแบบแผ่วเบา จูบของชายหนุ่มราวกับจะกลืนกินนางลงไปทั้งร่าง

“คุณหนูใหญ่ยังหลับอยู่หรือไม่”

เมื่อเสียงของเสิ่นชิงจู๋ดังขึ้นไป๋ชิงเหยียนจึงรีบเบนหน้าหนี นางพยายามควบคุมจังหวะหายใจของตัวเอง

“ชิงจู๋มาแล้ว…”

ทั้งๆ ที่พวกเขาแต่งงานกันแล้ว ทว่า เมื่อเห็นไป๋ชิงเหยียนยังคงเขินอายเมื่อมีคนพบเห็นเช่นนี้เซียวหรงเหยี่ยนจึงหัวเราะออกมาเบาๆ

“ไม่ต้องห่วง เว่ยจงเฝ้าอยู่ด้านนอก เขาไม่มีทางปล่อยให้ผู้อื่นเข้ามาแน่”

สิ้นเสียงของเซียวหรงเหยี่ยนไป๋ชิงเหยียนเห็นเว่ยจงเดินลงจากระเบียงทางเดิน จากนั้นกล่าวกับเสิ่นชิงจู๋ยิ้มๆ

“ฝ่าบาททรงกำลังตั้งครรภ์อีกทั้งทำสงครามเป็นเวลานานติดต่อกัน ให้ฝ่าบาทได้พักผ่อนอย่างเต็มที่ก่อนเถิดขอรับ”

เสิ่นชิงจู๋มองดูถาดสี่เหลี่ยมสีดำในมือของตน นี่คือยาบารุงครรภ์ที่นางต้มมาให้คุณหนูใหญ่

“แม่นางเสิ่นเอาให้บ่าวเถิดขอรับ บ่าวจะให้คนอุ่นร้อนไว้ตลอดเวลา เมื่อฝ่าบาทตื่นบรรทมจะได้เสวยทันทีขอรับ” เว่ยจงรีบรับถาดสี่เหลี่ยมไปจากมือของเสิ่นชิงจู๋ จากนั้นกล่าวกับหญิงสาวเสียงเบา

“ร่างกายของแม่นางเสิ่นไม่ใช่เหล็กเช่นเดียวกัน รีบกลับไปพักผ่อนเถิดขอรับ หากท่านเป็นอันใดไปขึ้นมาผู้ใดจะคอยคุ้มครองฝ่าบาทขอรับ”

เสิ่นชิงจู๋พยักหน้า นางกำชับให้เว่ยจงดูแลไป๋ชิงเหยียนให้ดี จากนั้นเดินจากไปพักผ่อน

หลายวันมานี้ไป๋ชิงเหยียนไม่ได้นอนนานเท่าใดเสิ่นชิงจู๋ก็ไม่ได้นอนนานเท่านั้น ไป๋ชิงเหยียนพักผ่อนแล้ว ทว่า เสิ่นชิงจู๋กลับไม่ไว้ใจให้ผู้อื่นเป็นคนต้มยาบำรุงครรภ์ให้คุณหนูใหญ่ ตอนนี้นางจึงรู้สึกอ่อนล้าและเพลียมาก

“ลำบากเว่ยกงกงแล้ว” เสิ่นชิงจู๋กล่าวจบจึงจากไป

ใบหน้าของเซียวหรงเหยี่ยนเต็มไปด้วยรอยยิ้ม เขามองไปทางไป๋ชิงเหยียนอย่างได้ใจ จากนั้นประทับริมฝีปากลงบนริมฝีปากของหญิงสาวอีกครั้ง ขณะกล่าวลมร้อนจากจมูกของชายหนุ่มเป่ารดลงบนจมูกของไป๋ชิงเหยียนจนหญิงสาวรู้สึกคันเล็กน้อย

“เจ้าไม่เชื่อคนของตัวเองอย่างนั้นหรือ”

ไม่เชื่อ…

ไป๋ชิงเหยียนยังคงเว้นระยะห่างกับเว่ยจงอยู่ เป็นเพราะนางยังไม่เชื่อใจเว่ยจงเต็มร้อย อีกทั้งไม่อยากเชื่อใจเขาสักเท่าใดนัก

บางทีอาจเป็นเพราะเว่ยจงเคยรับใช้ท่านย่าของนางมาก่อน เป้าหมายของนางกับท่านย่าเหมือนกัน ทว่า จุดยืนช่างแตกต่างกันลิบลับ

เว่ยจงเป็นคนรู้หน้าที่และจงรักภักดีมาก เขาจงรักภักดีกับท่านย่าตอนทำงานรับใช้ท่าน ตอนนี้เขาก็ทำหน้าที่ของตัวเองเป็นอย่างดีแม้จะรู้ว่านางไม่ได้ไว้ใจเขาอย่างเต็มที่

บางทีไป๋ชิงเหยียนควรมองเว่ยจงใหม่ได้แล้ว

“คิดสิ่งใดอยู่”

เซียวหรงเหยี่ยนแนบหน้าผากชิดกับหน้าผากของไป๋ชิงเหยียน เขาชนศีรษะของตัวเองกับศีรษะของหญิงสาวเบาๆ ราวกับทำโทษ จากนั้นประกบจูบริมฝีปากของนางอีกครั้ง

“ไม่ได้เจอกันครึ่งเดือน กว่าจะได้เจอกันไม่ใช่เรื่องง่าย เจ้ากลับใจลอยอย่างนั้นหรือ ไม่คิดถึงข้าเพียงนี้เลยหรือ”

สตรีแกร่งตระกูลไป๋

สตรีแกร่งตระกูลไป๋

Status: Ongoing
นิยายจีนโบราณเข้มข้น ปะทะคารม ทดสอบไหวพริบ สนุกถึงใจ!เพราะถูกคนชั่วหลอกใช้ชาติก่อนคนทั้งตระกูลของนางจึงต้องตายอย่างน่าอนาถ ไร้ซึ่งคนทวงถามความเป็นธรรมชาตินี้นางหวนกลับมาก่อนเรื่องราวเกิดขึ้น แม้เพียงเล็กน้อยแต่หากสามารถช่วยเหลือคนในครอบครัวได้แม้สักคนนางก็ยินดีทุ่มเทกำลังให้ถึงที่สุดสตรีตระกูลไปแต่ไรมาแกร่งกล้ำเพียบพร้อมบุ๋นบู๊ แม้ไร้ซึ่งที่พึ่งพิงแล้วจริงแต่ก็จะไม่ยอมให้ผู้ใดมากดขี่ได้!และเพราะเรื่องราวที่เปลี่ยนแปลงไปนางจึงได้พบกับ ‘เขา’ ไวกว่าชาติก่อนเขาผู้นี้แม้ภายนอกดูป็นมิตรและสง่งามกว่าใคร แต่นงแจ่มแจ้งดีว่าเขาเจ้าเล่ห์และอำหิตมากเพียงไหนชาติก่อนแม้ยืนกันคนละฝั่งแต่บุรุษผู้นี้กลับเป็นผู้มอบทางรอดให้แก่นาง อย่างนั้นชาตินี้นางก็ย่อมตอบแทนเขาเป็นอย่างดีเช่นกัน“แม่นางไปช่วยเหลือข้าหลายครั้งหลายครา ใช่ว่าชื่นชอบข้าหรือไม่?”“คุณชายเข้าใจผิดแล้วล่ะ”“ข้าช่วยเหลือแม่นางไปมาหลายครั้งหลายครา แม่นางไปมีใจชื่นชอบข้าบ้างหรือไม่?”“…”

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท