ตอนที่ 1191 ศีลธรรม
ไป๋ชิงเหยียนกล่าวว่าจะให้คนเหล่านี้กลายเป็นชาวบ้านของต้าโจว มอบบ้านและที่นาให้พวกเขา ให้ชาวบ้านเหล่านี้ทำสัญญากู้เงินกับทางการโดยต้องคืนเงินที่กู้ไปทั้งหมดให้ทางการภายในสามสิบปี อีกทั้งมอบดอกเบี้ยให้ทางการทุกปี!
แม่ทัพคุ้มกันเมืองได้สติขึ้นมาทันที ที่แท้จักรพรรดินีแห่งต้าโจวให้เขาปล่อยชาวบ้านที่ต้องการอพยพจากไปเหล่านั้นไปเพราะเหตุนี้นี่เอง นางต้องการประหยัดงบในคลังของต้าโจว อีกทั้งต้องการให้ชาวบ้านเหล่านี้กลายเป็นชาวบ้านของต้าโจว
จักรพรรดินีแห่งต้าโจวของพวกเขาไม่ธรรดาจริงๆ ด้วย วิธีนี้ไม่เพียงแต่จะทำให้ชาวบ้านซีเหลียงซาบซึ้งในบุญคุณของต้าโจว ยังช่วยลดความกดดันให้กรมการคลังอีกด้วย
ไป๋ชิงเหยียนอยู่ในเมืองซุ่นหนิงเป็นเวลาสามวัน ด่านเย่เฉิงส่งชาวบ้านเร่ร่อนมาอีกจำนวนมาก อีกทั้งยังมีชาวบ้านที่หลบหนีมาจากเมืองที่ต้าเยี่ยนยึดครองได้อีก ตอนนี้เมืองซุ่นหนิงไม่เพียงพอรองรับพวกเขาแล้ว
ดังนั้นเมื่อไป๋ชิงเหยียนจัดการเรื่องในเมืองซุ่นหนิงเสร็จในวันที่ยี่สิบเอ็ด เดือนหนึ่ง หญิงสาวจึงพาชุนจือที่อยู่รับใช้นางในเมืองซุ่นหนิง กองทัพและชาวบ้านเร่ร่อนเดินทางต่อไปยังเมืองเฟิงเอ๋อร์หลาน
วันที่ยี่สิบเจ็ด เดือนหนึ่ง ชาวบ้านส่วนใหญ่ในซีเหลียงต่างรับรู้ข้อดีของการกลายเป็นชาวบ้านต้าโจวเกือบหมดทุกคนแล้ว พวกเขายังรับรู้ด้วยว่าพวกเขาต้องแลกเปลี่ยนสิ่งใดกับการกลายเป็นชาวบ้านต้าโจว
ชาวบ้านซีเหลียงกระจายข่าวเรื่องนี้กันปากต่อปาก ชาวบ้านซีเหลียงแย่งกันเดินทางไปหาต้าโจว วิธีของต้าโจวได้ผลดีกว่าการให้คำมั่นสัญญาของกองทัพต้าเยี่ยน ชาวบ้านซีเหลียงต่างมุ่งหน้าไปยังเมืองที่ต้าโจวยึดครองได้ หวังว่าต้าโจวจะมอบอาหารให้พวกเขากิน ให้ทางรอดแก่พวกเขา
เซียวหรงเหยี่ยนได้รับรายงานเรื่องนี้ ชายหนุ่มยกมือลูบปิ่นปักผมลายห่านป่าเบาๆ ใบหน้าเต็มไปด้วยรอยยิ้มอ่อนโยน
คำแนะนำของไป๋ชิงเหยียนทำให้ต้าเยี่ยนยึดหนานเยี่ยนกลับคืนมาได้อย่างราบรื่น ใจของชาวบ้านคือพลังที่ยิ่งใหญ่ ต้าเยี่ยนไม่ใช่คู่ต่อสู้ของต้าโจวในเรื่องซื้อใจชาวบ้านจริงๆ
“ท่านอ๋อง พวกเราทำสงครามเพื่อแย่งชิงดินแดนและชาวบ้านนะพ่ะย่ะค่ะ พวกเราทำสัญญาเป็นพันธมิตรกับต้าโจวแล้ว เหตุใดต้าโจวจึงแทงข้างหลังพวกเราอย่างไร้ศีลธรรมเช่นนี้พ่ะย่ะค่ะ ต้าโจวดึงดูดชาวบ้านไปหมดเช่นนี้ พวกเราจะยึดครองเมืองเปล่าไปเพื่อสิ่งใดพ่ะย่ะค่ะ” แม่ทัพต้าเยี่ยนบ่นกับเซียวหรงเหยี่ยน “กระหม่อมคิดว่าเมื่อพวกเรายึดเมืองได้พวกเราไม่ควรปฏิบัติต่อชาวบ้านพวกนั้นเป็นอย่างดี พวกเราควรจับพวกเขาขังไว้ในเมือง ไม่ควรปล่อยให้พวกเขาหนีออกไปได้พ่ะย่ะค่ะ ผู้ใดคิดหนีควรสังหารทิ้งเสีย จากนั้นส่งคนไปบอกต้าโจวว่าไม่ควรทำเกินงามเช่นนี้พ่ะย่ะค่ะ”
เยว่สือที่ยืนกอดดาบอยู่ปรายตามองไปทางแม่ทัพต้าเยี่ยนที่กำลังกล่าวอยู่ด้วยแววตาเย็นชา แม้แม่ทัพผู้นี้จะกล่าวเข้าข้างต้าเยี่ยน ทว่า เหตุใดเขาจึงรู้สึกไม่สบอารมณ์เช่นนี้กัน
แม่ทัพซ่งผู้นี้เกิดในตระกูลสูงศักดิ์ของต้าเยี่ยน เขาจงรักภักดีต่อจักรพรรดิมู่หรงลี่แห่งต้าเยี่ยนมาก เขาไม่รู้ว่ามู่หรงเหยี่ยนและมู่หรงลี่แสร้งทำเป็นแสดงละครตบตาทุกคนว่าไม่ถูกกันอยู่ดังนั้นเขาจึงจงใจหาเรื่องมู่หรงเหยี่ยนหลายครั้งเพื่อแสดงความจงรักภักดีให้มู่หรงลี่เห็น
“แม่ทัพซ่งกล่าววาจาไม่ค่อยเหมาะสมเท่าใดนัก…” แม่ทัพคนหนึ่งของต้าเยี่ยนได้ยินจึงออกมาแก้ต่างแทนต้าโจว “ต้าโจวไม่ได้ส่งคนมาจับชาวบ้านซีเหลียงไป ชาวบ้านเหล่านี้เต็มใจไปอยู่กับต้าโจวเอง จะโทษว่าเป็นความผิดของต้าโจวได้อย่างไร ชาวบ้านซีเหลียงยินดีกลายเป็นชาวบ้านต้าโจวด้วยความสมัครใจเพราะต้าโจวมีความสามารถ ต้าเยี่ยนของพวกเราไม่สามารถทำให้ชาวบ้านซีเหลียงยินยอมกลายเป็นชาวบ้านของต้าเยี่ยนเอง พวกเรากลับไม่ทบทวนตัวเองว่าสู้ต้าโจวไม่ได้ตรงที่ใด กลับคิดอ้างเรื่องสัญญาพันธมิตรไม่ให้ต้าโจวรับชาวบ้านซีเหลียงเหล่านั้นเป็นชาวบ้านของต้าโจวเสียอย่างนั้น ช่างไร้เหตุผลสิ้นดี!”
“นั่นน่ะสิ!” แม่ทัพต้าเยี่ยนอีกคนนึกถึงเรื่องการแบ่งผลประโยชน์ขึ้นมาได้จึงกล่าวเสริม “ตอนพวกเราแบ่งผลประโยชน์หลังทำสงครามเสร็จ ต้าโจวเห็นแก่ที่พวกเราขาดแคลนเสบียงจึงแบ่งผลประโยชน์ให้พวกเรามากกว่าทุกครั้ง เขาเมตตาพวกเรามากพอแล้ว พวกเราควรรู้จักพอเสียบ้าง หากให้ต้าโจวยอมให้พวกเราทุกครั้ง ต้าโจวจะมองพวกเราเช่นไรกัน!”
“เช่นนั้นพวกเจ้าลองว่ามาสิว่าพวกเราควรทำเช่นไร! ตอนนี้ชาวบ้านหนีไปหาต้าโจวหมดแล้ว พวกเราจะยึดเมืองเปล่าไว้ทำอันใด พวกเจ้าลองบอกมาสิ!” แม่ทัพซ่งรู้สึกหงุดหงิดมาก “หากจะให้ชาวบ้านต้าเยี่ยนอพยพมาอยู่ที่นี่ พวกเจ้าคิดว่าจะมีชาวบ้านสักกี่คนที่ยอมทิ้งบ้านเกิดและงานของตัวเองมาที่นี่กัน!”
เซียวหรงเหยี่ยนยกยิ้มกว้างขึ้นเรื่อยๆ เขาเอนกายพิงเก้าอี้ด้วยท่าทีผ่อนคลาย “ที่ต้าเยี่ยนไม่สามารถรั้งชาวบ้านซีเหลียงให้อยู่ที่นี่ต่อได้เป็นเพราะพวกเราหยิ่งทะนงในตัวเองเกินไป เพราะพวกเราคิดว่าการที่ไม่สังหารชาวบ้านซีเหลียงเหล่านี้จนสิ้นถือเป็นพระคุณอย่างมากแล้ว ทุกคนที่อยู่ที่นี่คิดเช่นนี้ใช่หรือไม่”
“นั่นคือความเมตตาที่พวกเราต้าเยี่ยนมีให้คนเหล่านั้นจริงๆ !” แม่ทัพซ่งกล่าว
“ยามกองทัพซีเหลียงบุกไปยังดินแดนของต้าเยี่ยน พวกเขาสังหารชาวบ้านของพวกเรา ปล้นเสบียง ฉุดคร่าสตรีและเผาบ้านเรือนของพวกเราจนหมดสิ้น พวกเราเมตตาพวกเขามากแล้ว…”
แม่ทัพซ่งกล่าวจบจึงเงยหน้ามองไปทางเซียวหรงเหยี่ยน
“ทว่า จักรพรรดินีแห่งต้าโจวตรัสกับชาวบ้านซีเหลียงในด่านเย่เฉิงว่าหากพวกเขายินดีกลายเป็นชาวบ้านของต้าโจว ต้าโจวจะมอบบ้านและที่ดินให้ ผู้ใดไม่ยินดีต้าโจวจะมอบเงินให้เดินทางไปจากด่านเย่เฉิง” เซียวหรงเหยี่ยนกวาดสายตามองดูแม่ทัพทุกคนของต้าเยี่ยน “ชาวบ้านซีเหลียงเป็นคนกระจายข่าวการกระทำของต้าโจวจากปากต่อปากทำให้เรื่องนี้น่าเชื่อถือมากยิ่งขึ้น ส่วนต้าเยี่ยน ทหารต้าเยี่ยนเป็นคนบอกกับชาวบ้านซีเหลียงว่าจะมอบสิ่งใดให้พวกเขาบ้าง หากพวกเจ้าคือชาวบ้านซีเหลียงพวกเจ้าจะเลือกเป็นชาวบ้านของแคว้นใดกัน”
เมื่อเห็นบรรดาแม่ทัพต่างเงียบกริบเซียวหรงเหยี่ยนจึงกล่าวต่อ “พวกเจ้าก็คงเลือกกลายเป็นชาวบ้านของต้าโจวเช่นเดียวกัน จะไปโทษชาวบ้านซีเหลียงเหล่านั้นได้อย่างไร ชาวบ้านซีเหลียงย่อมต้องหาทางรอดให้ตัวเองเป็นธรรมดา ต้าเยี่ยนของพวกเราควรเรียนรู้ไว้บ้าง”
“เรียนรู้จากต้าโจวอย่างนั้นหรือ” แม่ทัพซ่งขมวดคิ้วแน่น “ท่านอ๋อง จักรพรรดินีแห่งต้าโจวไม่ได้สืบเชื้อสายมาจากราชวงศ์อย่างแท้จริง หากต้าเยี่ยนของพวกเราเรียนรู้จากต้าโจวเท่ากับเป็นการบอกให้ทุกคนรับรู้ว่าต้าเยี่ยนของพวกเราสู้ต้าโจวไม่ได้จนต้องเรียนรู้ระบอบการปกครองจากต้าโจวอย่างนั้นหรือพ่ะย่ะค่ะ”
“เช่นนั้นแม่ทัพซ่งคิดว่า…” เซียวหรงเหยี่ยนเท้าแขนบนที่วางแขน จากนั้นเปลี่ยนเป็นนั่งไขว่ห้าง ชายหนุ่มเงยหน้ามองไปทางแม่ทัพซ่งด้วยแววตาเรียบนิ่ง “ต้าเยี่ยนต้องการชาวบ้านซีเหลียงหรือต้องการรักษาภาพพจน์ของตัวเองกันแน่”
แม่ทัพซ่งถูกสายตาเรียบเฉยของเซียวหรงเหยี่ยนมองมาจนขนลุกซู่ไปทั้งร่าง ทว่า ความจงรักภักดีที่เขามีต่อมู่หรงลี่ทำให้เขาเข้มแข็งขึ้น “แน่นอนว่าต้องได้ทั้งชาวบ้านและจะเสียหน้าไม่ได้เด็ดขาด อ๋องเก้าคือผู้สำเร็จราชการแห่งต้าเยี่ยน ท่านอ๋องต้องมีวิธีที่สามารถจัดการเรื่องนี้ได้อย่างสมบูรณ์แบบแน่นอน มิเช่นนั้นหากต้าเยี่ยนต้องเรียนรู้จากจักรพรรดินีที่เพิ่งขึ้นครองราชย์กลางคันเช่นนี้เท่ากับเป็นการเหยียบหน้าจักรพรรดิแห่งต้าเยี่ยนของพวกเรา ท่านอ๋องเก้าคงรับผิดชอบไม่ไหวแน่พ่ะย่ะค่ะ”
แม่ทัพซ่งกล่าวพลางยกมือคารวะไปทางเมืองหลวงของต้าเยี่ยนที่จักรพรรดิแห่งต้าเยี่ยนประทับอยู่ กิริยาท่าทางและน้ำเสียงเต็มไปด้วยความเคารพมู่หรงลี่
เยว่สือเงยหน้ามองแม่ทัพซ่ง “แม่ทัพซ่งยังรู้หรือว่าท่านอ๋องเก้าคือผู้สำเร็จราชการแห่งต้าเยี่ยน แม้แต่ไทเฮาและฝ่าบาทยังไม่เคยตรัสกับท่านอ๋องเก้าด้วยท่าทีแข็งกร้าวเช่นนี้มาก่อน แม่ทัพซ่งช่างใจกล้าจริงๆ ท่านอ้างบารมีของจักรพรรดิแห่งต้าเยี่ยนเพื่อขัดคำสั่งผู้สำเร็จราชการแห่งต้าเยี่ยนอย่างนั้นหรือ”