สตรีแกร่งตระกูลไป๋ – ตอนที่ 1201 เวลาเคลื่อนทัพ

สตรีแกร่งตระกูลไป๋

ตอนที่ 1201 เวลาเคลื่อนทัพ

เมื่อแกล้งหลอกพวกเขาหลายรอบ ยามที่ไป๋ชิงเหยียนเคลื่อนทัพจริงซีเหลียงจะได้ตั้งตัวไม่ทัน

เป็นดั่งที่ไป๋ชิงเหยียนคาดการณ์เมื่อแม่ทัพชราชุยซานจงกลับไปยังค่ายทหารซีเหลียง เขาสั่งให้ทหารทุกคนเตรียมพร้อมรับมือกับกองทัพต้าโจวในคืนนี้…

แม่ทัพชราชุยซานจงคิดว่าไป๋ชิงเหยียนเป็นคนเจ้าแผนการ ตอนที่หญิงสาวทำสงครามกับอวิ๋นพั่วสิงนางจะพากองทัพหน่วยย่อยบุกไปโจมตีค่ายทหาร เผาเสบียงและเผาค่ายทหารของศัตรูในยามวิกาลเสมอ

วันนี้ไป๋ชิงเหยียนกล่าวออกมาอย่างเปิดเผยว่าคืนนี้จะยกทัพบุกมาโจมตีค่ายทหารของซีเหลียง หากพวกเขาทำเป็นไม่สนใจพวกเขาอาจหลงกลไป๋ชิงเหยียนได้

ตอนนี้ซีเหลียงกำลังขาดแคลนเสบียงอาหารขั้นร้ายแรง แม่ทัพชราชุยซานจงจำเป็นต้องป้องกันไว้ก่อน แม่ทัพชราชุยซานจงจะทำลายกองทัพหน่วยย่อยที่ไป๋ชิงเหยียนส่งมาโจมตีค่ายทหารซีเหลียงยามวิกาลทั้งหมด ยิ่งกองกำลังในเมืองเจียงจือน้อยลงเท่าใดยิ่งเป็นผลดีต่อซีเหลียงมากเท่านั้น

หากสุดท้ายเขาหลอกล่อกองทัพใหญ่ของต้าโจวให้กลับมาช่วยเหลือไป๋ชิงเหยียนไม่ได้ หากกองทัพใหญ่ของต้าโจวใกล้บุกถึงเมืองอวิ๋นจิง แม่ทัพชราชุยซานจงจำเป็นต้องเปลี่ยนแผนบุกไปจับเป็นไป๋ชิงเหยียนในเมืองเพื่อนำไปต่อรองกับกองทัพใหญ่ของต้าโจวให้ได้

ตอนนี้เขาหวังว่าคนที่เขาส่งไปส่งข่าวที่ด่านเย่เฉิงจะทำให้แม่ทัพที่คุ้มกันด่านเย่เฉิงส่งสายลับมาสืบข่าวที่เมืองเจียงจือ จากนั้นส่งข่าวไปรายงานกองทัพใหญ่ของต้าโจวที่กำลังมุ่งหน้าไปยังเมืองอวิ๋นจิงโดยเร็วที่สุด ถึงเวลานั้นเมื่อกองทัพคุ้มกันด่านเย่เฉิงที่นำทัพกลับมาช่วยเหลือจักรพรรดินีแห่งต้าโจวถูกโจมตีระหว่างทาง กองทัพใหญ่ของต้าโจวต้องย้อนกลับมาช่วยเหลือทางนี้อย่างแน่นอน

แม่ทัพชราชุยซานจงถอนหายใจยาวออกมา เขาเงยหน้ามองท้องฟ้าที่มืดครึ้มพลางกล่าวขึ้น “ให้ทหารหน่วยลาดตระเวนจับตาดูความเคลื่อนไหวของต้าโจวไว้ให้ดี หากประตูเมืองเจียงจือถูกเปิดออกเมื่อใดจงรีบมารายงานข้าทันที”

หลิ่วผิงเกาไม่วางใจจึงขึ้นไปสำรวจสถานการณ์บนกำแพงเมืองแต่ละทิศด้วยตัวเอง

ตู้ซานเป่าเห็นหลิ่วผิงเกาเดินขึ้นมาจึงยกมือคารวะ พลางกล่าวขึ้น “ใต้เท้าหลิ่ว ได้ข่าวว่ากองทัพซีเหลียงขาดแคลนเสบียง ท่านว่าพวกเราควรย่างเนื้อกินบนกำแพงเมืองดีหรือไม่ขอรับ ลมบนกำแพงพัดไปทางค่ายทหารของซีเหลียงพอดี พวกนั้นคงน้ำลายไหลแน่ขอรับ”

หลิ่วผิงเกาที่กำลังยืนเอามือไขว้หลังสะบัดแส้ม้าที่กำอยู่ในมือไปมา จากนั้นกล่าวขึ้น “ดีเสียจริง พวกเขากำลังหิวโหย พวกเจ้ากลับคิดย่างเนื้อกินบนนี้ พวกเจ้าไม่รู้หรืออย่างไรว่าคนอดอยากสามารถทำได้ทุกอย่าง เจ้ากำลังเร่งให้แม่ทัพชุยบุกโจมตีเมืองของพวกเรา รีบร้อนอยากไปเกิดใหม่หรืออย่างไร!”

หลิ่วผิงเกาตวาดตู้ซานเป่าเสียงนิ่ง

ตู้ซานเป่าเม้มปากแน่น ขมวดคิ้วเล็กน้อยพลางกล่าวขึ้น “หากวิธีของข้าไม่ดีแม่ทัพไม่ใช้ก็สิ้นเรื่อง ไม่จำเป็นต้องกล่าวถึงเพียงนี้ เมื่อก่อนตอนที่ข้าติดตามแม่ทัพหวังสี่ผิง แม่ทัพหวังชอบให้พวกข้าคิดหาวิธีมากที่สุด ถึงแม้แผนการจะใช้ไม่ได้ ทว่า อย่างน้อยพวกข้าก็พยายามคิดหาวิธีแล้ว!”

“เช่นนั้นข้าต้องเอ่ยชมเจ้าใช่หรือไม่” หลิ่วผิงเกาตวัดแส้ม้าไปที่บ่าของตู้ซานเป่าเบาๆ จากนั้นขยับเข้าไปใกล้ตู้ซานเป่า กล่าวด้วยน้ำเสียงที่อ่อนโยนลงกว่าเดิม “ตอนนี้ฝ่าบาทประทับอยู่ในเมืองกับพวกเราด้วย พวกเจ้าต้องทำทุกอย่างด้วยความรอบคอบ ข้าชอบที่เจ้าพยายามช่วยคิดหาวิธี ทว่า เจ้าชอบลงมือทำก่อนมารายงานข้า ตอนนี้ฝ่าบาททรงอยู่ที่นี่กับพวกเราด้วย นี่ไม่ใช่เวลาที่เจ้าจะมาทดลองวิธีใหม่ๆ เจ้าจงทำตามคำสั่งของฝ่าบาทอย่างเคร่งครัด เมื่อฝ่าบาทเสด็จกลับเมืองหลวงแล้ว เจ้าอยากทำสงครามเช่นไรข้าจะปล่อยให้เจ้าทำอย่างเต็มที่”

เมื่อได้ยินหลิ่วผิงเกากล่าวเช่นนี้ตู้ซานเป่าจึงยกหมัดคารวะ “ใต้เท้าหลิ่วกล่าวมีเหตุผล ตู้ซานเป่าจะไม่ทำสิ่งใดโดยพลการเด็ดขาด ข้าจะทำตามคำสั่งของฝ่าบาทและใต้เท้าหลิ่วทุกเรื่องขอรับ”

หลิ่วผิงเกาหัวเราะออกมาเบาๆ จากนั้นเคาะแส้ม้าลงบนหมวกเกราะของตู้ซานเป่าเบาๆ “ฝ่าบาททรงจำเจ้าได้ อนาคตของเจ้ายังอีกยาวไกล อย่าทำสิ่งใดโดยพลการเด็ดขาด เข้าใจหรือไม่”

“ขอรับ” ตู้ซานเป่ารับคำ ความไม่พอใจในตัวหลิ่วผิงเกาหายไปในทันที

มองส่งหลิ่วผิงเกาจากไป ลูกน้องของตู้ซานเป่าวิ่งเข้าไปหาชายหนุ่ม เขาขยับหมวกเกราะของตัวเองเล็กน้อยจากนั้นเอ่ยถาม “ท่านแม่ทัพ พวกเราจะเปิดประตูเมืองเมื่อใดขอรับ”

“ไม่ต้องรีบร้อน…” ตู้ซานเป่ามองไปยังค่ายทหารของซีเหลียงที่ตั้งอยู่ห่างออกไป “ตอนนี้ค่ายทหารซีเหลียงยังจุดไฟสว่างอยู่ รอให้พวกมันเริ่มหลับก่อนพวกเราค่อยเปิดประตูเมืองทำให้พวกมันตกใจเล่น!”

ลมหนาวพัดผ่าน เสียงของลมโหยหวนราวกับเสียงคำราม

โคมไฟที่อยู่บนกำแพงเมืองเจียงจือแกว่งไปมาตามแรงลม ค่ายทหารซีเหลียงที่ตั้งอยู่ห่างออกไปสว่างไสวไปด้วยแสงไฟราวกับแสงของทางช้างเผือกที่โอบล้อมเมืองเจียงจือไว้ทุกทิศ หากไม่ใช่เพราะสองแคว้นกำลังจะทำสงครามกัน หากมองจากที่ไกลๆ ภาพนี้คงเป็นภาพที่งดงามอีกภาพหนึ่ง

วันที่สิบเอ็ด เดือนสองคือวันที่ไป๋ชิงเหยียนตั้งใจจะบุกโจมตีค่ายทหารของซีเหลียง วันนั้นนางจะทำให้กองกำลังที่เตรียมไปดักปล้นเสบียงของต้าโจวและกองกำลังที่ดักซุ่มโจมตีทัพเสริมของต้าโจวปรากฎตัวขึ้น เมื่อแยกกองกำลังห้าหมื่นนายของซีเหลียงออกจากกันได้ ต้าโจวจะรับมือกับพวกเขาได้ง่ายกว่าเดิม

ทว่า ก่อนหน้านี้ไป๋ชิงเหยียนต้องการความช่วยเหลือจากชาวบ้านในเมืองเจียงจือให้ได้มากที่สุด

คืนนี้ทหารต้าโจวบนกำแพงเมืองเจียงจือนอนหลับอย่างสนิท ทว่า ทหารซีเหลียงที่อยู่นอกเมืองกลับไม่ได้โชคดีเช่นนั้น

แม่ทัพชราชุยซานจงไม่ได้นอนทั้งคืนเช่นเดียวกัน เขาให้ทหารดับไฟในค่ายทหาร จากนั้นนั่งรอการบุกโจมตีของต้าโจวอยู่ในกระโจมของตัวเอง

เมื่อพวกเขาดับไฟได้ไม่นาน สายลับที่เขาส่งไปจับตาดูความเคลื่อนไหวของต้าโจวก็กลับมารายงานว่าประตูเมืองทิศตะวันตกถูกเปิดออกแล้ว

ทหารซีเหลียงทุกคนเตรียมพร้อมรับมือทันที ทหารซีเหลียงที่ล้อมเมืองเจียงจืออยู่ทางด้านนอกกำดาบในมือของตัวเองแน่น

ทว่า พวกเขารออยู่กว่าหนึ่งชั่วยามก็ยังไม่เห็นวี่แววกองทัพของต้าโจว ต่อมาได้ยินว่าประตูทิศตะวันออกถูกเปิดออก ทหารซีเหลียงที่อยู่ทางประตูทิศตะวันออกเตรียมรบขึ้นมาอีกครั้ง ทว่า รออยู่นานก็ยังไม่มีกองทัพบุกออกมาโจมตี

แม่ทัพชราชุยซานจงนั่งอยู่ในกระโจมของตัวเอง เขาสั่งให้ทหารที่อยู่รอบกำแพงเมืองทั้งสี่ทิศเตรียมตั้งรับตลอดเวลา นี่คือแผนล่อลวงกองทัพซีเหลียงของไป๋ชิงเหยียนแน่นอน

ทว่า เมื่อประตูทิศเหนือถูกเปิดออกกว่าหนึ่งชั่วยามแล้วยังไม่เห็นวี่แววของกองทัพต้าโจว แม่ทัพชราชุยซานจงจึงเริ่มรู้สึกผิดสังเกตขึ้นมา

ตอนนี้เลยเวลาเที่ยงคืนมาแล้ว ทหารซีเหลียงที่เตรียมตั้งรับมาเกือบครึ่งคืนไม่พบกองทัพของต้าโจวแม้แต่คนเดียว พวกเขารู้สึกอ่อนเพลียมากแล้ว

พวกเขาไม่เพียงกินไม่อิ่ม ตอนนี้ยังพักผ่อนไม่เพียงพออีก ทหารในค่ายทหารเริ่มสงสัยในการคาดการณ์ของแม่ทัพชราชุยซานจง เริ่มบ่นว่าแม่ทัพชราชุยซานจงอาจแก่จนเลอะเลือนแล้ว

การที่ต้าโจวเปิดปิดประตูซ้ำอยู่อย่างนี้ทำให้แม่ทัพชราชุยซานจงที่สั่งให้ทหารเตรียมรับมือตลอดเวลาเริ่มมั่นใจว่านี่คือแผนการของไป๋ชิงเหยียนเท่านั้น

หญิงสาวต้องการสร้างความวุ่นวายให้ค่ายทหารซีเหลียง เปิดประตูเมืองเพื่อต้องการข่มขู่ให้พวกเขาหวาดกลัวเท่านั้น ไม่ได้คิดบุกมาโจมตีค่ายทหารจริงๆ

แม่ทัพชราชุยซานจงกล่าวกับทหารซีเหลียงทุกคน “ต่อไปต้าโจวต้องเปิดประตูเมืองทิศใต้แน่นอน หากข้าคือจักรพรรดินีแห่งต้าโจวข้าต้องไม่ส่งกองทัพออกมาจากประตูทิศใต้แน่นอน นางแค่ต้องการข่มขู่พวกเราเท่านั้น เมื่อซีเหลียงลดความหวาดระแวงลง พวกมันต้องเปิดประตูเมืองอีกครั้งและบุกออกมาโจมตีพวกเราแน่ ส่งคนไปจับตาดูความเคลื่อนไหวที่ประตูทิศใต้เพิ่มว่ามีกองทัพบุกออกมาหรือไม่”

ซีเหลียงส่งสายลับไปยังประตูทิศใต้เพิ่มทันที ประตูทิศใต้ค่อยๆ ถูกเปิดออก ไม่มีกองทัพต้าโจวบุกออกมาอย่างที่คิดไว้จริงๆ

เมื่อสายลับกลับมารายงาน เหล่าทหารต่างพากันชื่นชมว่าแม่ทัพชราชุยซานจงคาดการณ์ได้อย่างแม่นยำ

แม่ทัพชราชุยซานจงกัดฟันกรอด เขาลุกขึ้นยืนพลางกล่าวอย่างมั่นใจ “ครั้งหน้าที่ประตูเมืองถูกเปิดออก ต้าโจวต้องเคลื่อนทัพออกมาอย่างแน่นอน!”

สตรีแกร่งตระกูลไป๋

สตรีแกร่งตระกูลไป๋

Status: Ongoing
นิยายจีนโบราณเข้มข้น ปะทะคารม ทดสอบไหวพริบ สนุกถึงใจ!เพราะถูกคนชั่วหลอกใช้ชาติก่อนคนทั้งตระกูลของนางจึงต้องตายอย่างน่าอนาถ ไร้ซึ่งคนทวงถามความเป็นธรรมชาตินี้นางหวนกลับมาก่อนเรื่องราวเกิดขึ้น แม้เพียงเล็กน้อยแต่หากสามารถช่วยเหลือคนในครอบครัวได้แม้สักคนนางก็ยินดีทุ่มเทกำลังให้ถึงที่สุดสตรีตระกูลไปแต่ไรมาแกร่งกล้ำเพียบพร้อมบุ๋นบู๊ แม้ไร้ซึ่งที่พึ่งพิงแล้วจริงแต่ก็จะไม่ยอมให้ผู้ใดมากดขี่ได้!และเพราะเรื่องราวที่เปลี่ยนแปลงไปนางจึงได้พบกับ ‘เขา’ ไวกว่าชาติก่อนเขาผู้นี้แม้ภายนอกดูป็นมิตรและสง่งามกว่าใคร แต่นงแจ่มแจ้งดีว่าเขาเจ้าเล่ห์และอำหิตมากเพียงไหนชาติก่อนแม้ยืนกันคนละฝั่งแต่บุรุษผู้นี้กลับเป็นผู้มอบทางรอดให้แก่นาง อย่างนั้นชาตินี้นางก็ย่อมตอบแทนเขาเป็นอย่างดีเช่นกัน“แม่นางไปช่วยเหลือข้าหลายครั้งหลายครา ใช่ว่าชื่นชอบข้าหรือไม่?”“คุณชายเข้าใจผิดแล้วล่ะ”“ข้าช่วยเหลือแม่นางไปมาหลายครั้งหลายครา แม่นางไปมีใจชื่นชอบข้าบ้างหรือไม่?”“…”

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท