170 สถานศึกษาแห่งราชวงศ์
18 – 23 นาที
—————————————————————
【–มุมมอง เอเกอร์–】
「ทหาร จัดแถว!」
「……อาา」
「ทำความเคารพ!」
ขณะผมยืนอยู่ตรงแท่นปราศัยในสถานศึกษาแห่งราชวงศ์ นักเรียนทั้งหมดหน้าผมยืนนิ่งเรียบร้อยแล้วจากนั้นทำความเคารพ
โอ้ใช่ ผมต้องบอกให้พวกเขาหยุด
「ตามสบาย」
「ตามสบาย!」
มันเกร็งๆอย่างมาก…… อืมผมเดาว่านั่นคือที่โรงเรียนทหารเป็นอย่างไร
ตอนนี้ผมต้องทำการทักทายแล้วฟังการแนะนำตัวเองของนักเรียนซึ่งเป็นปัญหาที่ผมน่าจะลืมภายหลัง
สถาบันศึกษาแห่งราศวงศ์ถูกแบ่งลงในกลุ่มของนักเรียน 20 คนแต่ละหนึ่งกลุ่ม มีเวลาเมื่อนักเรียนทั้งหมดจะทำกิจกรรมร่วมกัน แต่การทำงานส่วนใหญ่ทำในทีม 20
「แต่ฉันไม่ได้สนใจจริงๆนะ……」
มันผ่านไปประมาณห้าวินาทีตั้งแต่การแนะนำตัวเริ่มแล้วผมหมดแรงจูงใจในการจะทำต่อแล้ว
นั่นเพราะ 20 คนเหล่านี้ทั้งหมดใส่หมวกกับกางเกง…… และพวกเขาทั้งหมดคือผู้ชาย
มากกว่านั้น ทีมนี้เพิ่งก่อตั้งปีนี้และพวกเขาส่วนใหญ่ยังไม่ได้รับการศึกษา
ตอนนี้เมื่อผมคิดๆดูแล้ว มันชัดเจนว่ามันจะเป็นแบบนั้นเพราะทีมนี้คือห้องเรียนหลัก พูดอีกอย่าง เด็กๆผู้สมควรจะเติบโตมาสู้ผู้บัญชาการทหาร
ผมแน่ใจว่าจะไม่มีสาวๆมีวัฒนธรรมมากมายผู้จะตั้งใจมาต่อสู้เพื่อเป็นผู้บัญชาการ
อย่างไรทำไมพวกเขากังวลเกี่ยวกับสิ่งแวดล้อมที่เติมเต็มไปด้วยผู้ชาย?
มากว่านั้น พวกนักเรียนทั้งหมดรายล้อมรอบผมหลังจากแนะนำตัวของพวกเขาเสร็จแล้วคุยเกี่ยวกับเรื่องส่วนตัว ส่วนใหญ่ของพูดเขาพูดเกี่ยวกับตระกูลหรือครอบครัว
ไม่มีเด็กๆมากมายผู้มาจากตระกูลขุนนางชั้นสูงผู้อยู่ในสังกัดกองทัพ
เด็กๆเหล่านั้นหลายคนกลายมาเป็นผู้บัญชาการกองทัพได้แม้ว่าไม่ได้มาเรียนที่โรงเรียน
พวกเด็กๆที่นี่ส่วนใหญ่คือลูกชายคนที่สองจากครอบครัวขุนนางชั้นต่ำจนๆหรือลูกชายของครอบครัวอัศวินบางคนในบ้านนอกไกลๆหรือพวกลูกชายของผู้มีอิทธิพลในภูมิภาค
「ตอนนี้เอเกอร์ซามะคือหนึ่งในขุนนางผู้ยิ่งใหญ่อันเป็นผู้นำของอาณาจักรแล้วตำแหน่งของพี่นั้นสูงที่สุดที่มันจะไปถึงได้โดยไม่ต้องการเลือดราชวงศ์ จากตอนนี้ไป ไม่ว่าเมื่อไหร่ที่พี่ไปสถานที่ซึ่งผู้คนมีเป้าหมายจะได้รับตำแหน่งสูงๆ พวกเขาจะเริ่มแนะนำโฆษณาตัวเองกับตระกูลของพวกเขาอย่างทั่วถึง แต่ได้โปรด! อย่าไปถูกล่อลวงโดยพวกผู้หญิงโดยเฉพาะนะ!」
ผมถูกบอกโดยนนน่าก่อนผมออกมา
นั่นทำให้ผมจำใด้ นนน่ามีความสุขท่วมท้นทุกครั้งเมื่อตำแหน่งผมเลื่อนขึ้นหรือดินแดนผมกว้างขึ้นหรือบางทีเธอไม่ได้ดูพอใจ
บางทีนนน่าไม่ว่างแล้วจากแค่การคิดถึงลูกน้อยของเธอเอง
「ลอร์ดฮาร์ดเลตต์! ขอบคุณที่ดูแลพ่อผมมาตลอด」
นายคือใคร ฉันไม่รู้จักพ่อของนาย
「ในตอนการจบการศึกษาของผม ได้โปรดแต่งตั้งผมภายใต้กองทัพอันยอดเยี่ยมของท่านไม่ว่าจะอย่างไร!」
ไปบอกนั่นกับอีริช สถานที่เรียนนี้คือหนึ่งซึ่งเลี้ยงผู้บัญชาการของกองทัพอาณาจักร
「พี่ชายของผมอยู่ในกองทัพ ผมจะอยากขอให้ท่านผู้นำทักทายเขาในอนาคต……」
นั่นใคร บางทีฉันอาจจะไปเจอเขา ถ้านายถามเมื่อฉันว่าง
「พี่สาวผมอยากจะพบฮาร์ดเลตต์ซามะ……」
ฉันต้องขอถามรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับนายภายหลัง
「อ่ะเฮ่ม! ทุกคน กลับสู่ที่นั่ง」
ผู้ฝึกสอนแค่ดูโดยไม่ทำอะไรต่อไม่ได้แล้วตะโกนดังๆ สั่งนักเรียนให้กลับไปที่ของพวกเขาอย่างไม่เต็มใจ
「ถ้าอย่างนั้นตอนนี้ มาร์เกรฟฮาร์ดเลตต์ซามะได้โปรดเชิญเลย」
ผมคิดว่านี่จะเกิดขึ้น
ชั้นเรียนถูกขัดจังหวะเพื่อผมแล้วผมแค่พูดว่า “ทำเต็มที่แล้วทำงานให้หนักนะ” แล้วจบๆไปเลยไม่ได้
มันช่วยไม่ได้ ผมจะพูดบางอย่างซึ่งผมได้ยินซ้ำแล้วซ้ำอีกจากลีโอโพลต์กับไมล่า
「สุภาพบุรุษ ฉันมั่นใจว่ามีพวกนายไม่กี่คนผู้มีจิตใจของอัศวินหรือขุนนางซึ่งเรียนรู้มาเมื่อพวกนายยังเด็ก」
พวกนักเรียนเหล่านั้นผู้ปรากฏว่าเป็นพวกลูกชายของอัศวินและขุนนางยืดอกออกมาด้วยความภาคภูมิใจ ระหว่างคนเหล่านั้นผู้เป็นชนชั้นกลางกลายเป็นไม่กล้ามากขึ้นเล็กน้อย
「ยังไงก็ตาม อะไรพวกนั้นอาจเป็นอุปสรรคในองค์กรกองทัพ ในความเป็นจริง นายพูดได้ว่ามันจะเข้ามาขวางทาง」
ผู้คนในห้องเริ่มเอะอะ
พวกเขาน่าจะอยู่เงียบๆไม่ได้หลังจากเมื่อถูกบอกว่าความภาคภูมิใจของพวกเขาในฐานะขุนนางจะกลายเป็นอุปสรรค
หนึ่งหนุ่มน้อย…… ผู้แลดูจะประมาณ 16 ยกมือของเขาเพื่อคัดค้าน
「เฮ้ มาเกรฟยังอยู่ในระหว่าง-……」
「มันไม่เป็นไร ให้เขาพูด」
「ผมคือ…………. ลูกชายคนที่สามของตระกูลบารอนวิดร้า! ผมเห็นด้วยกับสิ่งที่เพิ่งพูดไม่ได้! ความภาคภูมิใจในฐานะขุนนางกับมารยาทควรจะสำคัญเพราะความเป็นจริงเราจะเป็นส่วนหนึ่งของกองทัพอาณาจักรผู้ทรงเกียรติ การตอสู้เหมือนกองโจรนั้นให้อภัยไม่ได้」
มันดูเหมือนเขาคือหนึ่งในนักเรียนไม่กี่คนจากตระกูลขุนนางดั้งเดิม
แน่นอน มันจะมีปัญหาถ้าทุกคนขโมยและข่มขืนบนสนามรบ
ในแง่นั้น ความภาคภูมิใจของขุนนางอาจสำคัญ
แต่นายชนะด้วยความภาคภูมิใจอย่างเดียวไม่ได้
「นายคือผู้บัญชาการหน่วยแค่ 100 คน ศัตรู 200 คนพุ่งเข้าตีมาสู่นาย นายจะทำอะไร?」
「มันไม่ต้องพูดถึงเลยครับ ผมจะนำทหารของผมไปสู่ข้างหน้า สู้ศัตรูอย่างกล้าหาญจนกว่าพวกเขาจะพ่ายแพ้!」
「โง่」
「โอ้ย! ท่านทำอะไรน่ะ」
ผมตีเขาเบาๆไปบนหัว
「อย่างแรกนายต้องดูแล้ววิเคราะห์แนวทหารของศัตรูก่อน ถ้าพวกเขามีทหารม้า ถ้าอย่างนั้นนายจะใช้หอก ถ้าพวกเขามีหอก ถ้าอย่างนั้นนายจะใช้นักธนู ถ้าพวกเขามีนักธนูนายจะใช้ทหารราบพร้อมโล่」
「ผมจะฝ่าฟันไปด้วยจิตวิญญาณกับพลังจะ-……โอ้ยย!」
ผมตีหัวเขาแรงขึ้นอีกนิดแล้วเด็กชายก็ตะโกนระหว่างจับหัวเขาในความเจ็บปวด
「แม้ว่านายมีจิตวิญญาณ ไม่ใช่อะไรซึ่งเจ็บตัวยังทำร้ายนายเหรอ? มันเจ็บยิ่งมากกว่านี้ถ้านายถูกแทงด้วยลูกธนูแล้วนายจะไม่สามารถสู้เหมือนเคยๆได้」
「แต่ตัวท่านเองสู้พร้อมร่างกายที่ต็มไปด้วยบาดแผลในอดีต……」
ผมพอจำได้ว่าทำบางอย่างแบบนั้น
「ถ้าอย่างนั้นนายจะสู้กับ 200 คนด้วยตัวเองหลังจากพวกพ้องของนายล้มตายหมดแล้วเหรอ? หรือนายคิดว่าทหารทุกคนจะยืนสู้ศัตรูด้วยพลังใจอย่างเดียว?」
「นะ-นั่น……」
ผมมองผ่านเด็กเงียบแล้วส่งคำพูดผมสู่ทุกคน
「อย่าคิดเกี่ยวกับการสู้อย่างยุติธรรมบนสนามรบ แค่คิดเกี่ยวกับนายจะสู้ยังไงให้ชนะ ขุดหลุมกับดักนั้นยอดเยี่ยม ซ่อนในเงาแล้วซุ่มโจมตีก็ไม่เป็นไร…… แค่เอาชนะ」
「ไม่ใช่นั่นขี้ขลาดเหรอครับ?」
「นายคิดผิดแล้ว คิดเกี่ยวกับมันดีๆ มาพูดว่านายมีคนทำเหมืองกล้ามเป็นมัดๆกับพ่อค้าฉลาดๆตรงหน้านาย นายใช้วิธีไหนก็ได้ตราบใดที่ชนะกับพวกเขา มีใครโง่พอจะไปต่อยตีกับคนทำเหมืองมั้ยหรือพยายามจะเอาชนะพ่อค้าในการต่อสู้ด้วยสติปัญญามั้ย? ฉันจะทำตรงกันข้ามกับอะไรที่พวกเขาต้องการเพื่อรับประกันชัยชนะ」
แต่ผมอาจจะโมโหในที่สุดแล้วซัดพวกเขาทั้งสอง
「คิดเกี่ยวกับว่านายจะชนะได้ยังไงโดยใช้บางอย่างที่คู่ต่อสู้นายอ่อนแอกับมัน แต่จะมีเวลาเมื่อนายทำอะไรไม่ได้แม้ว่าหลังจากพิจารณาแล้ว……」
ทุกคนเงี่ยหูขึ้นเพื่อฟังประโยคที่เหลือ
「นั่นเป็นเมื่อนายวิ่งหนีหางจุกตูด」
ไหล่ทุกคนห่ออย่างผิดหวัง
「หันหลังให้ศัตรูไม่ใช่ทางเลือก!」
ผมเมินคำพูดนั้นแล้วพูดต่อ
「นายไม่ได้สู้สงครามด้วยตัวนายเอง นายอาจมีกองกำลังทหารจำนวนเท่ากันกับศัตรูหรือนายอาจจะไปเจอศัตรูผู้มีกองกำลังเยอะกว่าเป็นครั้งคราว ถ้านายเลือกจะไม่หนีแล้วโดนสังหารหมู่ พวกพ้องของนายจะเสียส่วนหนึ่งของพลังทางทหารไปแล้วจะถูกบังคับให้เขาสู่สถานการณ์ซึ่งเสียเปรียบ ถ้านายถอยทัพแล้วไปเจอกับพวกพ้องของนาย นายอาจจะไปสู้บนจุดยืนเท่ากันได้」
「มันจริงว่าที่ท่านพูดคืออุดมคติ! ยังไงก็ตามขุนนางมีชีวิตอยู่ด้วยความภาคภูมิใจกับความเคารพตัวเอง การทำอะไรบางอย่างซึ่งจะทำให้ชื่อตระกูลแปดเปื้อนนั้น-……」
แต่ฉันไม่คิดว่าใช้แผนฉลาดๆบนสนามรบคือบางอย่างซึ่งจะทำให้ตระกูลใดๆเสียศักดิ์ศรี
「ฟุมุ พวกขุนนางของอาร์คแลนด์เก่าถูกเคารพอย่างสูง แล้วพวกเขาหลายคนคือบคคลผู้กล้าหาญ ถูกมั้ย?」
「นั่นคืออะไรที่ผมได้เคยได้ยินมา」
「แล้วพวกเขาอยู่ไหนแล้วล่ะตอนนี้?」
เด็กชายกลายเป็นเงียบไป
「ราชวงศ์เทรียก็ดูเหมือนจะมีจุดยืนทางสังคมสูงด้วย แต่พวกเขาอยู่ไหน?」
เพื่อพูดให้แม่นยำ จริงๆแล้วพวกเธออยู่ในลานหน้าคฤหาสน์ของผมกำลังดูแลดอกกุหลาบ
「…….」
「นั่นถูกต้อง พวกเขาไม่อยู่ใกล้ๆอีกต่อไปแล้ว นี่คืออะไรที่เกิดขึ้นเมื่อนายพ่ายแพ้ในการต่อสู้ แน่นอนทุกคนอยากชนะในท่าทางสวยงามและน่าภาคภูมิใจ ถ้านายมีพรสวรรค์จะทำอย่างนั้นได้ ไม่มีอะไรให้ฉันต้องพูด…… แต่ถ้านายไม่มี ถ้าอย่างนั้นมันดีกว่ามากในการจะชนะสมครามอย่างน่าเกลียดมากกว่าแพ้อย่างสวยงาม อย่างน้อยๆนั่นคืออะไรที่ฉันคิด」
เพื่อจะพูดตรงๆ ผมไม่เกลียดคนผู้สู้อย่างถูกต้องแล้วจากนั้นพ่ายแพ้ แต่ผมไม่อยากเป็นเหมือนพวกเขาซึ่งนั่นทำไมผมพูดอะไรที่ผมพูดไป
ไม่มีนักเรียนไม่พอใจอีกต่อไป
บางทีเพราะพวกเขารู้จักบางคนในตระกูลพวกเขาผู้ทำบางอย่างเสียศักดิ์ศรีตระกูลไป
「เมื่อกี้ ฉันบอกนายให้วิ่ง แต่ก็มีเวลาเมื่อนายหนีไม่ได้ไม่สำคัญว่าอะไร ยกตัวอย่างเช่น นายได้รับหน้าที่ให้ปกป้องบ้านเกิดหรือสาวผู้มีค่ากับนาย อะไรที่สำคัญกับนาย…… สถานการณ์อะไรที่นายจะไม่วิ่งหนี เรียนรู้เพื่อตัวเองในโรงเรียน」
ผมจบการพูดแล้วก้าวลงจากแท่นปราศัย
นักเรียบปรบมือพร้อมๆกันแล้วมองผมด้วยตาเป็นประกาย
ทำได้ดี มันคุ้มค้าในการฟังการพูดของลีโอโพลต์หลังจากทั้งหมด
อาา ถ้าแค่มีสาวสักคนในหมู่นักเรียนเหล่านี้……
「ลอร์ดฮาร์ดเลตต์ หนูประทับใจเลยค่ะ!」
「หนูด้วย!」
「อะไรน่ะ!?」
หันกลับไปอย่างรวดเร็ว ผมเห็นนักเรียนคนผู้แต่งตัวในกางเกงเหมือนกันกับนักเรียนคนอื่นแล้วมีทรงผมแบบสั้นๆแต่เสียงแหลมสูงนี้……
「มีผู้หญิงอยู่ที่นี่รึ?」
ผมถามผู้ฝึกสอนในเสียงเข้ม
「ค-ครับ มีผู้หญิงสองคนในทีมนี้…… แต่อย่างคาด มันจะยากเกินไปสำหรับสาวๆในกาารจะเป็นผู้บัญชาการเหรอครับ?」
「ช่างมหัศจรรย์!」
「ค-ครับ」
ผมขอบคุณผู้หญิงตาเป็นประกายสองคนแล้วคิดเกี่ยวกับการจะจับหน้าอกของพวกเธอระหว่างลูบไหล่ด้วยวิธีใดวิธีหนึ่ง
「ถ-ถ้าอย่างนั้น ได้โปรดมุ่งหน้าไปที่ห้องเรียนต่อไป ลอร์ฮาร์ตเลตต์จะต้องทักทายห้องเรียนทั้งหมดรวมถึงห้องเรียนที่มีผู้หวังอยากเป็นเจ้าหน้าที่กิจการ……」
เดี๋ยวอย่างน้อยให้ฉันได้แกล้งให้กำลังใจพวกเธอโดยการดันเอ็นใส่พวกเธอก่อนไป……
แต่เจตนาบริสุทธ์ของผมถูกเมิน
ผมเดาว่าผมจะต้องพอใจกับสาวๆแดงแล้วมีความสุขเต็มที่
「เฮ้…… เธอเห็นป่าวอ่ะ?」
「เห็น กางเกงเขาใช่ป่ะ? เธอเห็นทรงจากข้างนอกได้ชัดเลย ซึ่งหมายถึงมันต้องใหญ่มากแหง」
「ถ้าอย่างนั้นข่าวลือเกี่ยวกับที่ท่านเขามีอุปกรณ์ใหญ่แล้วรักผู้หญิงก็จริงน่ะสิ」
「เธอก็บอกได้ด้วยเหรอ? เขาพยายามจะเล็งมาที่หน้าอกของเราระหว่างจับไหล่ ถูกป้ะล้ะ?」
มันช่วยไม่ได้
ผมจะไปห้องเรียนอื่นแล้วหาอะไรมาพูด
หลังจากนั้น การทักทายจบลงโดยไม่มีปัญหาอะไรเป็นพิเศษ
ทีมผู้คาดหวังว่าจะเป็นผู้บัญชาการมีแค่ผู้หญิงหนึ่งหรือสองคนบางทีมนั้นไม่มีเลยสักคน ทำให้ผมเศร้าใจ
สำหรับประเด็นนั้น ทีมของผู้คาดหวังจะเป็นเจ้าหน้าที่กิจการภายในค่อนข้างมีหญิงจำนวนมากกว่าผู้วางแผนจะเป็นเลขาหรือผู้ช่วย
ผมมีเจตนาในการเน้นกับการหาผู้สมัครเป็นผู้ช่วยอดอล์ฟตั้งแต่แรก นั่นทำไมผมมีสมาธีเน้นเป้าของผมบนทีมนี้อย่างเป็นธรรมชาติ มันไม่ใช่เพราะผมมีแผนการซ่อนอยู่
อะไรซึ่งสาดแสงให้เห็นเงาของความล้มเหลวหนึ่งได้ชัดเจนคือการฝึกส่วนตัวที่ทำอยู่ด้านน้อก
เหตุผลของโรงเรียนนี้คือเลี้ยงผู้บัญชาการให้เติบโตเลยไม่ได้มีความจำเป็นพิเศษสำหรับพวกเขาว่าต้องเป็นนักต่อสู้ผู้เชี่ยวชาญ และพวกเขาจะได้รับการฝึกพอจะทำงานในฐานะทหารมันเลยไม่ได้เน้นมากในชั้นเรียนของพวกเขา
อย่างไรก็ตาม พวกเขาจะไม่สามารถรักษาการสั่งการถ้าพวกเขาพ่ายแพ้เร็วเท่าคริสตอฟ ดังนั้นพวกเขาจำเป็นต้องได้รับการฝึกขั้นต่ำ
นั่นคือเมื่อพวกเขาขอให้ผมมอบตัวอย่างให้พวกเขา
「ฟังนะ เพื่อรับมือกับศัตรูมีเกราะ นายยกดาบและจากนั้น ……ฟัน!」
ผมเหวี่ยงดาบสองมือในมือผมลงเต็มกำลัง
หมวกเกราะของตุ๊กตาสวมเกราะกลายเป็นเสียหายหนักแล้วตุ๊กตาทั้งตัวก็ร่วงล้มไปบนพื้น
「…….ท่านจะบอกให้เราฟันเขาให้ทะลุ ทั้งเกราะกับทั้งหมดนั้นเนี่ยนะ?」
「นายจะเอาชนะพวกเขาแบบอื่นได้ยังไงล่ะ?」
「แล้วถ้าศัตรูป้องกันด้วยดาบของพวกเขาล่ะ?」
「แค่ทำลายดาบเขาแล้วกำจัดพวกเขาในฟันทีเดียว」
ทั้งบริเวณถูกห้อมล้อมในม่านของความเงียบงัน
แต่ผมเพิ่งพูดอะไรซึ่งชัดเจน
「ถ-ถ้าอย่างนั้น ถ้าศัตรูโจมตีก่อนล่ะ」
「ดูอย่างตั้งใจ จากนั้นหลบ หรือไม่อย่างนั้นก็ป้องกันถ้านายหลบมันให้ทันไม่ได้……」
ผมขอให้ผู้ฝึกสอนเข้ามาฟันผมด้วยดาบแล้วจากทั้นสกัดกั้นการฟัน
「ส่งเขาบิน!」
ผมก้าวหลังจากดาบปะทะแล้วซัดผู้ฝึกสอนกระเด็นกลับไป เขาบินไปในแนวโค้งในอากาศก่อนลงพื้นแล้วกลิ้งนิดหน่อย
「เรียบง่าย ไม่ใช่เหรอ?」
「ไม่ นั่นเป็นไปไม่ได้สำหรับเรา」
ผมไม่รู้ว่าใครพูดนั่นแต่มันอยู่ในเสียงไม่อยากให้ได้ยิน
ผมควรพูดอะไรต่อดีในจุดนี้?
บรรยากาศก็แปลกเมื่ออิริจิน่าเข้ามาฝึก
「ฉันจะสอนนายให้สู้ด้วยหอก!! ศัตรูจะเข้ามาแบบฟิ้ว แล้วนายจะกันแก้ง จากนั้นนายควงๆวูบๆแล้วจากนั้นชะแว้บแล้วแทงตู้ม! เข้าใจมั้ย!?」
「………..」
「เมื่อนายใช้หอกระหว่างขี่ม้าทำให้ม้าวิ่งแบบบ่ะปุ้นแล้วจากนั้นดึงนะแบบ-……」
แม้แต่ผมก็ไม่เข้าใจอะไรเลยที่เธอกำลังพูด มันเป็นไปไม่ได้สำหรับอิริจิน่าในการอธิบายอะไรก็ตามด้วยคำพูด
มันจะต่างไปเมื่อเธอฝึกกับพวกเขาทุกวันเหมือนเมื่อเธอทำกับครอล…….
ตะวันกำลังตกดินแล้วผมเพิ่งกำลังจะจากสถานศีกษาแห่งราชวงศ์ไปและไปดื่มกับอิริจิน่าก่อนกลับบ้าน แต่รถม้าหยุดหน้าโรงเรียน
「โออ้ ลอร์ดฮาร์ดเลตต์ มันน่าชื่นชมสำหรับนายผู้จะทำการตรวจสอบ」
มันคือเคนเน็ธเองผู้ปรากฏหน้าผม
「นั่นไม่ใช่ใครนอกจากอธิบดีกิจการรัฐบาล…… ฉันไม่เห็นนายในโรงเรียน」
「ฮ่าฮ่าฮ่า เพราะทั้งหมดฉันไม่มีธุระอะไรในโรงเรียน」
ถ้าอย่างนั้นทำไมนายอยู่ที่นี่?
「อย่าเป็นคนแปลกหน้าเลย ลอร์ดฮาร์ดเลต์ ฉันจัดงานเลี้ยงต้อนร้บสำหรับนายได้ง่ายๆถ้านายบอกการมาถึงเมืองหลวงให้ฉัน……」
เราไม่ได้ดีกันขนาดนั้นที่ฉันจะอยากให้นายต้อนรับฉัน
「ฉันแค่อยากจะมาเยือนโรงเรียนด้วยเหตุผลส่วนตัว มันไม่ใช่บางอย่างคุ้มค่าแก่การประกาศ」
「โอ้ฉันเอ๋ย นายกับวลเกี่ยวกับโรงเรียนนี้มากพอ ที่ฝากความหวังไว้กับอนาคตของชาติเรา ที่อุส่าห์มาที่นี่ตลอดทางจากดินแดน นายโดดเด่นจริงๆ ขุนนางตัวอย่างสำหรับอาณาจักรเลย เคนเน็ธคนนี้ที่นี่ชื่นชมการกระทำแบบนั้น」
ผมไม่สนใจการเยินยอของเขาแล้วผมอยากจะไปดื่มกับอิริจิน่าจริงๆ
ผมจะซาบซึ้งถ้าเขาแค่คายอะไรที่เขาต้องการจริงๆมา
「จริงๆแล้ว ฉันมาที่นี่คืนนี้เพื่อชวนนายไปงานเลี้ยงเต้นรำซึ่งจะจัดในคฤหาสน์ของหนึ่งคนรู้จักฉัน มันไม่ได้วางแแผนไว้ แต่ได้โปรดคิดซะว่านี่คือการทดแทนสำหรับงานเลี้ยงต้อนรับของนาย ถ้านายมีแนวโน้มจะไป ได้โปรดเดินทางมากับฉันสู่งานปาร์ตี้ในรถม้านี้ คนไหนผู้จะอยากมาด้วยกันกับนายก็ยินดีต้อนรับที่จะเข้างานด้วย แล้วฉันก็จะส่งพวกเขาไปคฤหาสน์ด้วย」
「ฮ่าา…… แต่ในเสื้อผ้าเหล่านี้…..」
ผมรับรู้และเข้าใจหลังจากนั่นถูกพูดออกไปแล้ว
เสื้อผ้าอันผมใส่เพื่อทำการตรวจสอบโรงเรียนแรกคือเสื้อผ้าทางการ
มันไม่ได้เป็นชุดพิธีการยิ่งใหญ่ที่สุดแต่มันไม่แย่พอในการจะถูกพิจารณาว่าหยาบคายถ้าผมไปแสดงตัวในหมู่ขุนนางในชุดนี้
……เขาน่าจะรู้แล้วว่าผมมีเป้าหมายเป็นการเดินทางกลับ
ตอนนี้ ผมจะไม่สามารถอ้างได้ว่ามันจะใช้เวลานานเกินไปเพื่อเปลี่ยนชุด
「หืม? เราจะไปดื่มในงานเลี้ยงเต้นรำเหรอ?」
อิริจิน่า อย่าพูดอะไรทั้งสิ้น
พี่จะซื้อเหล้าเป็นถังๆให้ทีหลัง
「ไม่ แต่คืนนี้คือ……」
ความรู้สึกของผมตอนนี้คือความรำคาญแต่จริงๆแล้วผมไม่ถือจะตอบตกลง อย่างไรก็ตาม งานฉลองกับขุนนางใหม่คือพรุ่งนี้ถ้าผมจำไม่ผิดดังนั้นมันจะดูไม่ดีถ้าผมเข้าร่วมงานเลี้ยงอาหารค่ำของเคนเน็ธก่อน โดยเฉพาะ การไปในรถม้าเคนเน็ธทำให้มันแย่ลงอีกเป็นหลายเท่า
รับรู้ความลังเลของผม เคนเน็ธเปลี่ยนเป้าหมายสู่อิริจิน่า
「ยังไงซะ ดูก่อน มันจะไม่เหมาะสำหรับบร่างกายคุณดีถ้าคุณอยู่ข้างนอกในความหนาวนี้ ได้โปรดมาด้วยกันแล้วเข้ามาเถอะ จะมีเหล้าคุณภาพดีที่สุดอยู่ที่นั่น」
「ดูเหมือนมีเหล้าที่นั่นด้วย!!」
อิริจิน่าถูกดึงดูดโดยเหล้าแล้วขึ้นรถม้า
ผมยอมแพ้แล้วเข้าไปในรถม้าด้วย แต่ผมเป็นคนผู้มีเหตุผล ผมไม่ได้กัดเหยื่อล่ออันเป็นเหล้าเหมือนอิริจิน่าผู้คิดง่ายๆ
ผมยังไม่ได้ตัดสินใจจะไป
「ลอร์ดฮาร์ดเลตต์ ยินดีที่ได้รู้จัก」
「มันเป็นเกียรติที่ได้พบท่าน」
ข้างในรถม้าคือสองเลดี้…… พวกเธอดูเลย 20 มาเล็กน้อยแล้วใช่ชุดที่บางเกินไปเล็กน้อย แต่ไม่บางพอจะถูกเรียกว่าหยาบคาย
พวกเธอทั้งสองมีหน้าอกและตูดใหญ่มาก แล้วรอยยิ้มขวยเขินของพวกเธอทำให้พวกเธอเซ็กซี่สุดขีด
「สาวๆเหล่านี้คือลูกสาวของลูกน้องฉัน ฉันหวังว่านายไม่ถือ พวกเธอขอฉันว่าพวกเธออยากมาเจอนายฉันเลยให้พวกเธอมากับฉันด้วย」
ไม่ ฉันไม่ถือเลยสักนิด
สองสาวนั่งเคียงข้างกายผมแล้วนำริมฝีปากใกล้สู่หูของผม
「หนูชื่นชมท่านมาตลอด ฮาร์ดเลตต์ซามะ มันรู้สึกเหมือนอะไรก็ตามที่หนูทำกับท่าน……จะสนุก」
「จริงแล้วหนูชอบบางคนนี้ใช้กำลังนี้ดหน่อยน่ะ หนูอยากจะกลายเป็นของเล่นของฮาร์ดเลตต์ซามะจัง…… ล้อเล่นจ้า」
หน้าอกของผมเธอดันแนบกายผมจากท้งสองขนาบแล้วผมรู้สึกถึงลมหายใจของพวกเธอเป่าใสหูผมได้
มือของพวกเธอวางเบาๆบนต้นขาของผม แต่พวกเธอถูไม้เนื้อซึ่งปูดช้าๆเรื่อยๆของผมอย่างอ่อนโยน
「มมมุ……」
「ยังมีเวลาอยู่บ้างก่อนงานเลี้ยงเต้นรำ ฉันขอให้นายรอบนรถม้าสักนิดได้มั้ย?」
ผู้หญิงยิ่งดันหน้าอกเข้าสู่กายผมแรงขึ้นไปอีก
ผมทนนี่ไม่ไหวอีกแล้ว ผมจะแค่ไปงานเลี้ยงเต้นรำหรืออะไรก็ได้
「……ภรรยาของฉันและผู้ช่วยเธอไปคฤหาสน์ด้วยได้มั้ย?」
「แน่นอน ฮ่าฮ่าฮ่า ถ้าอย่างนั้นฉันจะไปรถม้าข้างหลัง」
ด้วยนั่นพูดมา เคนเน็ธลงจากรถม้า
ในพื้นที่กว้างข้างในรถม้า อิริจิน่าดื่มเหล้าดูแพงตรงจากขวดแทนที่จะเป็นแก้วระหว่างสองเลดี้สวยซบอิงกับผม
「หนูถูกบอกบ่อยว่าหนูน่ะเป็นผู้หญิงไม่เหมาะสม…… พวกเขานะพูดว่าหนูฟังดูเหมือนตัวเมียติดสัตว์เลย」
「หนูตัดสินใจนะว่าถ้าหนูจะมีลูกของบางคน มันจะดีกว่าว่าจะเป็นลูกของผู้ชายแข็งแกร่ง」
สาวๆถูง่ามขาผมอย่างเปิดเผยและลามกระหว่างผมก็ยืดมือไปสู่หน้าอกของพวกเธอ
—————————————————————
ไม่กี่ชั่วโมงหลังจากั้น
「ลอร์ดฮาร์ดเลตต์ นี่จะเป็นสถานที่จัดงานของวันนี้ – หัวหน้าของกิจการเกษตร คฤหาสน์เคานต์อิรฮิดแขกของนายที่เหลือถูกพามาที่นี้แล้วด้วยเหมือนกัน」
「การขอกระทันหันแบบนี้ทำให้หนูไม่ทันตั้งตัวจริงๆ……」
「หาวว หนูก็ด้วย」
หนึงผู้มาคือเมลกับลีอาห์ – เมลในฐานะภรรยาน้อยกับลีอาห์ในฐานะผู้ช่วยของเธอ อิริจิน่าผู้เป็นคนคุ้มกันดื่มเหล้าจนหมดแล้วถูกปล่อยไว้ให้เมาอยู่ในรถม้า
ผมจะลงโทษเธอพรุ่งนี้
「ขอโทษสำหรับการแจ้งนาทีสุดท้าย…… แล้วก็ลอร์ดบอลด์วิน สาวๆหลับไปแล้ว……」
สองสาวหลับไปในรถม้าถูกห่มด้วยผ้าห่ม
「อ๊านน…… หอกใหญ่ของพี่」
「ใส่หนูมาอีก……」
「ฉันขอโทษสำหรับนั่น แต่สาวๆเหล่านั้นไม่ได้ถูกเชิญมาสู่งานเลี้ยงดังนั้นมันไม่สำคัญถ้าพวกเธอหลับไป」
ผมถูกช่วย
ผู้หญิงสองคนถูกหุ้มอยู้ในผ้าห่มแหกเข่าแล้วครึ่งล่างถูกปกคลุมด้วยน้ำเงี่ยนหลังจากทั้งหมด
อย่างไรก็ตาม ถ้าสาวๆเหล่านั้นอยู่ในรถม้าแล้วพวกเธอไม่ได้ร่วมงานเลี้ยง นั่นหมายถึง……. อย่าบอกผมนะว่า ผมโดนเล่ห์เหลี่ยมใส่!
ผมแค่พูดว่าผมไม่เข้าร่วมไม่ได้แล้วตอนนี้เมื่ออิริจิน่ากินคลังเหล้าหมดรถแล้วผมซั่มผู้หญิงสองคน
ถ้าอย่างนั้นนี่คือโลกซึ่งคนผู้วางแผนมีชีวิตอยู่ – ดูเหมือนแผนเหยื่อกับเบ็ดตกปลาเป็นแผนอันน่ากลัวมาก
「ยังไงซะ ฉันเดาว่าฉันจะไปเพราะยังไงฉันก็มาตลอดทางถึงที่นี่แล้ว ฉันจะพยายามมีความสุข」
ผมโอบเมลผู้ใส่ชุดงดงาม แล้วทำหน้าที่เป็นคนไปส่งเธอ
「ออุ่ นี่น่าอายจัง ผู้หญิงวัยกลางคนนี้มีสามีผู้เด็กพอจะเป็นลูกเธอไปส่ง ทุกคนจะคิดถึงหนูยังไง……?」
「มันจะเป็นแบบนั้นเหรอ? แต่พี่คิดว่าหนูสวยงามเหลือเฟือแล้วนะ」
มันจริงว่าเมลดูค่อนข้างอายุมากกว่าผม
แต่เธอยังคงรักษาความสวยของเธอไว้จากวัยเยาว์
ถ้าเธอยิ้ม ผมมั่นใจว่าจะเป็นผมผู้รู้สึกถึงสายตาตั้งใจมองอย่างอิจฉาแทน
「อุนยยยี้……」
ลีอาห์มาในฐานะผู้ช่วยของเมลแล้วไม่ได้ใส่ชุดสวยเท่าเมลแต่เธอยังคงดูน่ารัก
ปรกติแล้วเธอไม่สนใจกับอะไรที่เธอใส่มากเกินไปดังนั้นเห็นเธอในเสื้อผ้าแบบนี้ดูสดชืื่นแล้วมันทำให้เธอยิ่งดึงดูดใจมากขึ้นไปอีก
เมื่อผมลูบหัวเธอ เธอมองขึ้นมาหาผมพร้อมรอยยิ้ม
「ยังไงซะ ทุกคนเขาอาจไม่ได้ถูกเชิญมาอย่างเป็นทางการแต่มาร์เกรฟฮาร์ดเลตต์เองและภรรยาของเขาสามารถหาเวลาจากการเดินทางของเขามาสู่เมืองหลวงเพื่อมาพร้อมกับการแจ้งล่วงหน้าส้นๆได้」
ทุกคนส่งเสียงเพื่อแสดงความตกใจของพวกเขาแล้วประทับใจเมลกับผมผู้ควงแขนแล้วเข้ามาในโถงงานเลี้ยง
ด้วยเหตุผลบางอย่าง เคนเน็ธเดินข้างหน้าแล้วนำทางเรา
「โอ้ โอ้ นี่เป็นครั้งแรกที่ฉันเจอเขาเลยนะ ภรรยาเขาก็สวยงามมากเลยด้วย」
「มันจะดีถ้าเรารู้จักกันและกันได้ในอนาคต」
「ทั้งหมดเพราะมีความสัมพันธ์อันดีในทั้งด้านนโยบายและทางทหารเพื่อดินแดนแม่」
รู้สึกพอใจ เคนเน็ธมองขณะขุนนางสร้างฝูงชนรอบเราแล้วเริ่มคุยกันเบาๆทันที
เข้าใจแล้ว เขาอยากจะบอกฝ่ายเขาอย่างดีว่าเขามีความความสัมพันธ์อันดีกับผมแม้ว่าเขาต้องนำผมมาด้วยการเตรียมการแบบเร่งรีบ
ผมเพิ่งเต้นเหยงๆอยู่บนฝ่ามือของชายผู้นี้เมื่อผมถูกล่อด้วยเลดี้สวยๆ
อย่างไรก็ตาม ผมสามรถมีความสุขกับรูของพวกเธอแล้วดูดหน้าอกใหญ่ๆของพวกเธอในการแลกเปลี่ยนผมเลยบ่นไม่ได้
มันเป็นไปได้ว่าผมทำพวกเธอท้องด้วย
「ถ้าอย่างนั้นนนน่าซามะ ผู้ฉันเห็นในงานเลี้ยงคราวก่อนท้องอยู่เหรอ?」
「ใช่ ฉันไม่อยากเสี่ยงอะไรเธอเลยพักอยู่ในดินแดนของฉัน」
「นั่นเข้าใจได้…… ถ้าอย่างนั้นหมั้นเมื่อไหร่ล่ะ?」
「ฮ๋าาา?」
「คนที่ลูกนายจะแต่งงานน่ะ……」
ลูกยังไม่ได้ถูกระบุเลยว่าเป็นเด็กผู้ชายหรือเด็กผู้หญิงไม้ต้องพูดถึงเกิด
ผมรู้ว่าขุนนางดั้งเติมแต่งงานลูกๆพวกเขาออกไปอย่างไม่เลือกเป็นพิเศษ แต่นี่มันเร็วเกินไปมาก
อะไรจะเกินขึ้นถ้าพวกเขาได้รับเพศผิด
มันอาจไม่เป็นไรสำหรับสาวๆสองคน แต่มันจะเป็นโศกนาฏกรรมสำหรับผู้ชายกับผู้ชายที่จะต้องแต่งงาน
การสนทนากับขุนนางเป็นแค่การคุยเล็กๆ ที่ผมได้รับการเยินยอและเจตนาไม่ดีส่งมาหาผมพอๆกัน
ไม่เหมือนขุนนางใหม่ ขุนนางดั้งเดิมเยอะดูถูกผมวาเป็นพวกขึ้นมาใหม่หัวรุนแรง
แคนเน็ธอาจไม่ได้แสดงจุดยืนของเขาอย่างเป็นทางการแต่ผมเห็นว่าเขายืนอยู่ที่ไหนได้โดยตั้งพื้นฐานจากท่าทางของเขา
เมลปรากฏตัวที่นั่นที่นี่ในงานเลี้ยงที่นนน่าจัดกลับไปในดินแดนของผมเธอเลยรู้ว่าจะปฏิบัติตัวอย่างไรในงานแบบนี้ถึงจุดหนึ่ง
มีแค่พิธีการไม่กี่อย่างในงานเลี้ยงนี้แต่ความหยาบคายของเมลถูกลบล้างออกไปได้เป็นส่วนใหญ่โดยการกระทำของผม
ผมควรจะพูดถึงว่าคาร์ล่าก็ปรากฏในงานเลี้ยงด้วยโดยใส่ชุดอันถูกเลือกด้วยนนน่า
อย่างไรก็ตามเธอต้องรู้สึกเหมือนอยากถอดชุดด้วยเพราะมันมีปัญหาเยอะมากเกินไป
เธอม้วนชุดเธอขึ้นในลานหน้าและฉี่ระหว่างยังคงยืน ซึ่งจากนั้นผลออกมาเป็นกัดกันกับนน่าเมื่อนนน่าเห็นเธอ
เพราะนั่น ค่อนข้างมีการเอะอะในหมู่ภรรยาท้องถิ่นเกี่ยวกับที่เหล่าภรรยาของตระกูลฮาร์ดเลตต์อยู่ในการพิพาทกัน
แม้ว่าจริงๆแล้วพวกเธอสนิทกันค่อนข้างดี
「มันดูเหมือนเราผ่านอะไรๆมาโดยไม่มีรอยขีดข่วนได้ครั้งนี้」
「หนูมั่นใจว่าจะไม่มีอะไรแย่ๆเกิดขึ้น」
「นี่ค่อนข้างเป็นงานเลี้ยงที่สนุกดีเนาะ ใช่มะ?」
ทันทีเมื่อสามเรามองกันแล้วยิ้ม ประตูใหญ่ของโถงเปิด
มีแค่ผู้ถูกเชิญในงานสมควรจะทำการเข้ามาได้ แต่มีเสียงดังตามมาด้วยกันกับการเคลื่อนไหวของประตู
—————————————————————
ตัวเอก: เอเกอร์ ฮาร์ดเลตต์ 23 ปี ฤดูหนาว
สถานะ: มาร์เกรฟอาณาจักรโกลโดเนีย ลอร์ดศักดินาผู้ยิ่งใหญ่ของบริเวณตะวันออก ราชาแห่งภูเขา เพื่อนของดวอร์ฟ
พลเมือง: 155,000 เมืองหลัก – ราเฟน: 22,000 ลินต์บลูม: 3500
สินทรัพย์: 60,600 ทอง (ค่าโรงแรมในเมืองหลวง -100)
มาด้วยกัน: เมล (ภรรยาน้อย), ลีอาห์ (คนรัก), อิริจิน่า (คนคุ้มกัน), ปีปี้ (คนรัก), โดโรเธีย (ผู้ดูแลคฤหาสน์, คนรัก), อลิส (รูตูด), ครอล (คุกเข่าสี่ขาสลดใจ)
คู่นอน: 151, เด็กผู้เกิดแล้ว: 32
—————————————————————
แปลโดย: wayuwayu
สนับสนุนผลงาน โดเนทได้ที่
067-3-63958-5
วายุ แซ่จิว
กสิกรไทย
ได้โปรดโดเนทสนับสนุนผู้แปล ติดตามข่าวสาร สปอนเซอร์ตอน ช่องทางติดต่อ Facebook : wayuwayu แปล / X : @wayutl