บทที่ 828 ลู่ฉาวอวี่ตกอยู่ในอันตราย
บทที่ 828 ลู่ฉาวอวี่ตกอยู่ในอันตราย
กุบกับ! กุบกับ!
ลู่ฉาวอวี่กำลังควบม้าไปตามที่ราบหุบเขา
ตอนนี้มีคนจำนวนนับไม่ถ้วนไล่ตามอยู่ข้างหลัง เพื่อกำจัดคนที่ไล่ตามมาเหล่านี้ ไม่มีทางอื่นนอกจากต้องรีบควบม้าหนีออกไปจากที่นี่
ครึ่งชั่วยามที่แล้ว กลุ่มอารักขาถูกโจมตี อีกฝ่ายมีคนเยอะกว่า พวกเขาล้วนมีทักษะพิเศษ มองเพียงปราดเดียวก็รู้แล้วว่าไม่ใช่โจรขี่ม้าธรรมดา
พวกนักฆ่าเหล่านั้นปลอมตัวเป็นโจรเพื่อลอบโจมตีพวกเขาและใช้แม้กระทั่งประทัดในการจัดการ
เมื่อเห็นว่ากลุ่มอารักขาที่มาส่งลู่จื่ออวิ๋นกำลังเพลี่ยงพล้ำ ลู่ฉาวอวี่จึงตัดสินใจล่อพวกเขาบางส่วนออกไปเพื่อให้อีเจี้ยนและคนอื่น ๆ จัดการกับมือสังหารที่เหลือ
ทว่า…
ท้ายที่สุดแล้ว เขาก็ยังคงประเมินฝีมือการต่อสู้ของศัตรูต่ำเกินไป
ใต้เท้าลู่น้อยได้รับบาดเจ็บแล้ว
ลู่ฉาวอวี่มองลูกธนูที่ปักคาอยู่ที่แขนของตนเอง
เขาไม่กล้าดึงมันออก มิเช่นนั้นเขาจะเสียเลือดมากเกินไปและจะถูกคนเหล่านั้นจับได้ภายในหนึ่งร้อยก้าว
“เจ้าเด็กคนนี้หนีได้เร็วจริง ๆ!”
“จับเป็น!”
“ชีวิตเขามีค่า พวกเราเข้าใจ”
พวกนักฆ่าไล่ล่าลู่ฉาวอวี่ขณะตะโกน
“ไอ้หนูที่อยู่ตรงหน้า หยุดหนีได้แล้ว เจ้าหนีจากเงื้อมมือของพวกข้าไม่ได้หรอก!”
“ฮ่าฮ่าฮ่า…”
ลู่ฉาวอวี่เหลือบมองอาวุธที่ซ่อนอยู่บนข้อมือของตนเอง
ทุกคนในสกุลลู่มีอาวุธซ่อนอยู่ในร่างกาย แต่พวกนักฆ่าเหล่านี้ล้วนเป็นผู้ฝึกยุทธ์ ดังนั้นอาวุธที่ซ่อนอยู่จึงไม่สามารถจัดการกับพวกเขาได้เลย
ทันใดนั้น คนกลุ่มหนึ่งก็ปรากฏตัวขึ้นข้างหน้า
คนเหล่านี้สวมเสื้อผ้าแปลกตา แต่ละคนขี่ม้าและม้าแต่ละตัวก็กำลังลากของอยู่
ความจริงแล้วมีคนหลายสิบคนอยู่ในกลุ่มนั้น
“อย่าไปที่นั่น…” นักฆ่าดึงบังเหียนม้าไว้ “นั่นคนเผ่าถ่าลา”
“คนเผ่าถ่าลา…” พวกนักฆ่าคนอื่นมีสีหน้าหวาดกลัว
คนเผ่าถ่าลาอาศัยอยู่ในเขตแดนตรงกลางระหว่างอาณาจักรเฟิ่งหลินกับอาณาจักรเหลียง ซึ่งอยู่ในพื้นที่นอกปกครอง
บริเวณนั้นไม่ค่อยกว้างขวางนัก แต่บังเอิญว่าชนเผ่าถ่าลาสามารถอยู่รอดที่นั่นได้
ชนเผ่าถ่าลามีนิสัยดุร้าย สถานที่ที่พวกเขาอาศัยอยู่นั้นซับซ้อนเปรียบเสมือนเขาวงกต เมื่อเข้าไปแล้วจะหลงทางได้ง่าย
“เจ้าเด็กคนนั้นมีมูลค่าหนึ่งหมื่นตำลึงทอง…” พวกนักฆ่าจำต้องยอมแพ้อย่างไม่เต็มใจนัก เมื่อเห็นว่าอีกไม่นานเขาก็จะสามารถจับลู่ฉาวอวี่ได้อยู่แล้ว
“ชีวิตหรือเงินสำคัญกว่า?” หัวหน้ากลุ่มพูด “ไปกันเถอะ”
พวกนักฆ่าจากไป และในที่สุดลู่ฉาวอวี่ก็ทนพิษบาดแผลไม่ไหว
โครม! เขาตกจากหลังม้า
ก่อนที่จะหมดสติไป ชายหนุ่มมองเห็นร่างในชุดสีน้ำเงินราง ๆ ดูเหมือนว่าชายคนนั้นกำลังพูดอะไรบางอย่างกับเขา แต่เขากลับได้ยินไม่ชัดเจนนัก
เมื่อลู่ฉาวอวี่ตื่นขึ้นมาอีกครั้งก็พบว่าตัวเองนอนอยู่ในห้องที่แปลกตา
“ท่านตื่นแล้ว” เสียงหวานดังขึ้น
ลู่ฉาวอวี่มองเจ้าของเสียง
พบว่าเป็นหญิงสาวที่ใส่ผ้าคลุมหน้าสีน้ำเงิน
นางหันหลังให้เขา โดยที่กำลังทำอะไรบางอย่างอยู่
หลังจากง่วนอยู่สักพัก นางก็ตักสิ่งนั้นใส่ชาม แล้วถือมันเดินมาหาเขาไอรีนโนเวล
“ลูกธนูมีพิษ แม้จะทำความสะอาดแผลแล้วแต่ก็ยังมีพิษเหลืออยู่ นี่เป็นสมุนไพรล้างพิษ รับประทานแล้วพิษที่เหลือก็จะถูกขับออกมา”
ลู่ฉาวอวี่มองนางอย่างระแวดระวัง “เจ้าเป็นใคร? ที่นี่ที่ไหน? เหตุใดข้าถึงมาอยู่ที่นี่ได้?”
เห็นได้ชัดว่าหญิงสาวไม่ได้คิดว่าลู่ฉาวอวี่จะระแวงถึงเพียงนี้
นางคิดอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะวางของในมือลงแล้วถอดผ้าคลุมหน้าออก
“ข้าชื่อสิงเจียซือ ท่านยังจำข้าได้หรือไม่?”
“คุณหนูสิง” ลู่ฉาวอวี่ประหลาดใจ
“ใช่ ข้าเอง” สิงเจียซือยกยิ้ม “ไม่ได้เจอกันนานหลายปี ข้าไม่คิดว่าจะได้ช่วยท่านเมื่อเราพบกันอีกครั้ง”
ลู่ฉาวอวี่มองหญิงสาวที่สดใสตรงหน้า
นาง… งดงามยิ่งนัก
เขายังจำครั้งสุดท้ายที่เห็นนางได้ ดวงตาของนางเต็มไปด้วยความเศร้าโศกและมืดมน ราวกับก้นเหวลึกที่ไม่อาจมองเห็นเดือนเห็นตะวัน
บัดนี้หมอกอันมืดมนสลายไป ดวงอาทิตย์ส่องแสงอีกครั้งแล้ว
นางเติบโตเป็นเด็กสาวที่สง่างามสดใส ดั่งดอกไม้ที่ผลิบานอวดรูปลักษณ์ที่สวยงามที่สุด
“ข้าจำได้ว่าเจ้าบอกว่าจะไปชายแดนเพราะตายายของเจ้าอยู่ที่นั่น”
“ถูกต้อง” สิงเจียซือกล่าว “ข้าคิดไม่ถึงเลยว่าท่านจะจำได้ ข้าพาน้องชายของข้าไปที่ชายแดนและพบว่าตายายของข้าเสียชีวิตแล้ว ข้ากับน้องชายสูญเสียญาติคนสุดท้ายของเราไปจึงไม่อยากกลับเมืองหลวงก็เลยตั้งรกรากอยู่ที่นั่น ข้าบังเอิญได้ช่วยเหลือลูกสาวหัวหน้าเผ่าถ่าลาไว้และได้เป็นเพื่อนกับนาง หลังจากนั้นข้าก็เข้าร่วมเผ่าถ่าลาและท่องเที่ยวไปทั่วแคว้นกับพวกเขา”
“ใต้เท้าลู่น้อย เหตุใดท่านถึงมาที่นี่? และเหตุใดท่านถึงถูกไล่ล่า?”
“เรื่องมันยาว แต่ข้าเป็นห่วงคนของข้า ข้าต้องออกไปจากที่นี่เดี๋ยวนี้”
“ท่านลุกจากเตียงเดินไปมาเช่นนี้ไม่ได้ ยาพิษบนลูกธนูที่เหลืออยู่ยังไม่ถูกกำจัดออกไป หากท่านขยับไปรอบ ๆ พิษที่หลงเหลือจะกระจายทั่วร่างกาย ถึงตอนนั้น แม้แต่ทวยเทพก็ไม่สามารถช่วยท่านได้แล้ว” สิงเจียซือกล่าว “หากท่านไม่รังเกียจ ข้าจะบอกให้พวกเขาไปตามคนของท่านมาให้แค่มอบเหรียญตราให้ข้าก็พอ”
“ขอบคุณ”
ไม่กี่ชั่วยามต่อมา ชนเผ่าถ่าลาก็พบหลี่กู่หยวน อีเจี้ยน และคนอื่น ๆ จากนั้นจึงพาพวกเขามายังดินแดนของชนเผ่าถ่าลา
หลี่กู่หยวนและอีเจี้ยนเห็นว่าลู่ฉาวอวี่ยังสบายดี จึงขอบคุณคนในเผ่าถ่าลายกใหญ่
ลู่ฉาวอวี่พักอยู่ในห้องเป็นเวลาห้าวันและไม่ได้ออกไปข้างนอกจนกว่าพิษที่เหลืออยู่จะหมดไป
เมื่อออกมาก็ได้เห็นว่าที่นี่เป็นถิ่นทุรกันดาร
ลู่ฉาวอวี่จำเรื่องราวเกี่ยวกับเผ่าถ่าลาที่เคยได้ยินมาก่อนหน้านี้ได้ คนอื่น ๆ กล่าวว่าที่นี่เป็นพื้นที่นอกปกครอง เพราะชนเผ่าถ่าลากล้าหาญและเก่งเรื่องการต่อสู้จึงไม่มีใครกล้ายั่วยุ
ที่นี่ค่อนข้างรกร้างแต่ผู้คนก็ใช้ชีวิตเรียบง่ายและซื่อสัตย์ ผู้หญิงทำงานหนัก ส่วนผู้ชายกลับมาจากการล่าสัตว์ในป่าและกำลังจัดการเหยื่อ
“น่าหม่า วันนี้เจ้าไม่ได้เรื่องเลย จับกระต่ายได้แค่สามตัวเท่านั้น เมื่อคืนเจ้าใช้เรี่ยวแรงไปกับเมียมากเกินไปหรือเปล่า? เจ้ามีลูกตั้งห้าคนแล้ว ใจเย็น ๆ หน่อยเถอะ”
“ไปให้พ้น ข้าไม่อยากฆ่าคน เจ้านั่นแหละ เจ้าหลงรักเสี่ยวซือ เมื่อไหร่จะบอกนางเสียที?”
“เสี่ยวซือยังเด็กอยู่!”
“นางยังเด็กอยู่ก็จริง แต่หลายคนในเผ่ากำลังหมายปองนาง”
“เหตุใดท่านถึงออกมาเล่า?” สิงเจียซือกลับมาพร้อมกับอ่างน้ำ เมื่อเห็นลู่ฉาวอวี่ออกมา นางก็วางอ่างน้ำลงบนพื้น แล้ววิ่งเหยาะ ๆ ไปหา “อาการบาดเจ็บของท่านยังไม่หายดี!”
เมื่อสิงเจียซือตะโกนขึ้นมาเช่นนี้ ทุกคนก็จับจ้องไปที่นางเป็นตาเดียว
“โอ้โห เขาคือคนที่เสี่ยวซือช่วยชีวิตไว้หรือ? รูปงามยิ่งนัก!”
“ข้าไม่เคยเห็นบุรุษตาดีถึงเพียงนี้มาก่อน แบบนี้เรียกว่าหล่อปานเทพบุตรหรือเปล่า? เหตุใดเขาถึงได้หล่อเหลาเพียงนี้เล่า?”
น่าหม่าผลักเพื่อนที่อยู่ข้าง ๆ แล้วเอ่ยว่า “เห็นหรือไม่? หากเจ้าไม่สารภาพความรู้สึก ผู้ชายจากอาณาจักรฮุ่ยจะพาเสี่ยวซือออกไปแล้ว ข้าได้ยินมาว่าเสี่ยวซือก็มาจากอาณาจักรฮุ่ยเช่นกัน และเขากับนางยังเคยรู้จักกันมาก่อนด้วย”
เมื่อชายคนนั้นได้ยินก็คิดว่าไม่ได้การแล้ว
เขาสูงเกือบหกฉื่อ ร่างกายกำยำแข็งแรง ผิวคล้ำ สมกับที่เป็นนักรบในเผ่าถ่าลา
ชายคนนั้นเดินไปหาสิงเจียซือแล้วพูดอย่างไม่มั่นใจนัก “เสี่ยวซือ เจ้าคิดจะไปกับเจ้าหนุ่มหน้าหล่อคนนี้หรือ?”
สิงเจียซือตกตะลึง “เจ้ากำลังพูดถึงเรื่องอะไร?”
“เจ้าหนุ่มหน้าหล่อคนนี้ไม่คู่ควรกับเจ้า” เขากล่าว “เพราะเขาอ่อนแอเกินกว่าจะปกป้องเจ้าได้”
ลู่ฉาวอวี่ “…”
เขาไม่ได้เตี้ยกว่าชายร่างสูง เพียงแต่ร่างกายไม่กำยำเท่า แล้วที่ว่าอ่อนแอ อีกฝ่ายหมายความว่าอย่างไร?