ยมทูตพาร์ตไทม์แห่งร้านหนังสือยามวิกาล – ตอนที่ 581 น้ำแข็งชั้นแล้วชั้นเล่า!

ยมทูตพาร์ตไทม์แห่งร้านหนังสือยามวิกาล

ตอนที่ 581 น้ำแข็งชั้นแล้วชั้นเล่า!

เด็กชายไม่ชอบเมืองเซี่ยงไฮ้แห่งนี้ ไม่ใช่เพราะตึกสูงระฟ้าที่นี่ และไม่ใช่เพราะความเสียงดังจอแจของคนที่นี่ แต่เป็นเพราะเมื่อยืนอยู่ในที่สูงและมองไปรอบๆ ก็มักจะรู้สึกว่าไม่ว่าจะเป็นการจราจรหรือผู้คนที่สัญจรไปมารอบตัวล้วนรวดเร็วด่วนจี๋จนเกินไป เขาเกลียดความรู้สึกแบบนี้ เกลียดอย่างไม่รู้สาเหตุ มันก็ใช่อยู่ เขาเคยพบถ้ำแห่งหนึ่งและอาศัยอยู่ที่นั่นมานับหลายร้อยปี จะไปชอบความรู้สึกแบบนี้ได้อย่างไร

“เป็นอะไร หน้าบึ้งตึง อารมณ์ไม่ดีหรือ” นักพรตเฒ่าในเวลานี้เดินออกมาจากปากบันไดดาดฟ้า แม้ว่าเขาจะมาถึงที่นี่แล้วก็ไม่มีประโยชน์อะไรอยู่ดี แต่ก็ต้องยืนเฝ้ายาม และให้รู้ถึงการมีตัวตนอยู่สักหน่อย

ในโลกนี้เรื่องที่ไร้ประโยชน์แต่ต้องทำไปตามพิธีนั้นมีมากมายเกินไปจริงๆ

ไม่ใช่ว่าทุกคนจะโง่เขลาเบาปัญญา ชอบทำแต่เรื่องอะไรที่ไร้ประโยชน์ แต่เป็นเพราะว่าไม่มีทักษะอื่นๆ เลย จึงได้แต่ทำเรื่องไร้ความหมายให้ตัวเองรู้สึกว่ากำลังยุ่งอยู่กับการทำอะไรบางอย่าง อย่างเช่นนักพรตเฒ่าในตอนนี้

“จุ๊ๆ ดาดฟ้านี่หนาวจังเลยนะ”

“ข้าไม่ชอบความรู้สึกของที่นี่ พวกเขาเร็วจี๋” เด็กชายพูด

“อ๋อ เจ้าหมายถึงจังหวะการดำเนินชีวิตน่ะหรือ”

“จังหวะการดำเนินชีวิตหมายความว่าอะไร”

“อา จังหวะการดำเนินชีวิตแบ่งออกเป็นเร็วและช้า แน่ละ จริงๆ แล้วหลายๆ คนก็ไม่เข้าใจสิ่งนี้ แต่กลับพูดคล่องปากเท่านั้น ยกตัวอย่างเช่น เวลาหลายๆ คนพูดถึงหรงเฉิงล้วนบอกว่าหรงเฉิงเป็นเมืองที่มีจังหวะการดำเนินชีวิตแบบช้าๆ แท้จริงแล้วคำพูดแบบนี้มันผิดนะ แค่ไปเที่ยวหรือไปชมเมืองแห่งหนึ่งมันดูไม่ออกถึงขนาดนั้นหรอก มันเป็นบรรยากาศอย่างหนึ่งละมั้ง

ตัวอย่างเช่น ข้างกายเจ้ามีเพื่อนสิบคน แปดคนหรือเก้าคนในนั้นเอาแต่คิดถึงเรื่องเก็บเงินหาเงินอยู่ทุกวัน เจ้าก็จะถูกจังหวะแบบนี้กระตุ้นขึ้นมาโดยไม่รู้ตัว แต่ถ้าเพื่อนสิบคนข้างกายเจ้าแค่พอใจหลังจากหาเงินได้เล็กๆ น้อยๆ ทุกวันแล้วไปดื่มชาที่โรงน้ำชา ไปเล่นไพ่นกกระจอกที่ร้านไพ่นกกระจอก เจ้าก็จะรู้สึกผ่อนคลายลงมาหน่อย สงบจิตสงบใจมาก”

เด็กชายพยักหน้าอย่างใช้ความคิด

“อันที่จริง ไม่ต้องไปสัมผัสความรู้สึกของการดำเนินชีวิตแบบช้าๆ ถึงหรงเฉิงหรอก ข้ารู้สึกว่าการหาที่ที่มีจังหวะการดำเนินชีวิตแบบช้าๆ ยิ่งกว่าร้านหนังสือของเราบนโลกใบนี้นั้นยากมากแล้วละ”

รู้ว่าเขาพูดติดตลก แต่เด็กชายก็หัวเราะอย่างให้ความร่วมมือ

“ยังไม่สิ้นสุดอีกหรือ” นักพรตเฒ่าเสียใจที่ไม่สวมเสื้อบุนวมตัวใหญ่ขึ้นมา เขามีเสื้อโค้ตทหารที่ใส่มานานหลายปีอยู่ตัวหนึ่ง เฮ้อ แม้ว่าสไตล์จะเฉิ่มเชยมากก็ตามและคนหนุ่มสาวไม่ชอบสักเท่าไร แต่เสื้อตัวนั้นน่ะมันอบอุ่นจริงๆ

แต่ในตอนนี้เอง สายตาของเด็กชายชะงักค้างไปครู่หนึ่งและเอ่ยว่า “มีสัญญาณแล้ว”

“อะไรนะ” นักพรตเฒ่าไม่เห็นเด็กชายล้วงมือถือออกมาและไม่ได้ยินเสียงเตือนดัง เด็กชายกลับแย้มยิ้ม ร่างกายค่อยๆ ยืนตัวตรง และอีกฝั่งหนึ่งมีเสียงลิงโหยหวนดังแว่วมา คิดไม่ถึงว่าเจ้าลิงจะกลายร่างเป็นปีศาจวานร ส่วนสถานที่ฝั่งตรงข้ามนั้น ผมของไป๋อิงอิงเปลี่ยนเป็นสีขาวโพลน บริเวณรอบเท้าปกคลุมไปด้วยชั้นน้ำแข็ง เบื้องล่างไกลออกไปนั้น ใบหน้าของสวี่ชิงหล่างปรากฏอักขระสีเขียวสายแล้วสายเล่า ไม่น่าเกลียด แต่กลับดึงเสน่ห์แปลกประหลาดออกมา แม้แต่รูม่านตาในเบ้าตาก็แตกออกเป็นหลายส่วนในขณะนี้

นักพรตเฒ่ารีบคลำเป้ากางเกงและถามด้วยความสงสัยเล็กน้อย “พวกเจ้าเป็นอะไร”

“เจ้าไม่รู้สึกหรือ”

เวรเอ๊ย ข้าไม่รู้สึกถึงอะไรเลย!

เด็กชายโน้มตัวไปข้างหน้าและร่อนตัวลงพื้นอย่างอิสระ ขณะเดียวกันเสียงของเขาดังแว่วมาอย่างแผ่วเบา “สัมผัสได้ถึงรังสีสังหารของเถ้าแก่”

เหล่าจางเพียงรู้สึกว่าประสบการณ์ครั้งหนึ่งในนรกนั้นเหมือนฝันร้ายฉากหนึ่ง คล้ายกับหลงผิดตามกรุ๊ปทัวร์ที่หลอกเอาเงินลูกค้าในโลกความเป็นจริง เที่ยวไปรอบหนึ่งอย่างสับสนมึนงง และรู้สึกว่าช่างแปลกประหลาดไปเสียทุกอย่าง โชคดีที่แม้ว่าเมื่อจากออกจากพระราชวังผู้พิพากษาผู้นั้นก็ไม่อยู่แล้ว แต่ยังมีผู้ตรวจสอบสองท่านจัดการพาพวกเขาออกไป และไม่ตรวจสอบผลการฝึกฝนแต่อย่างใด

ภายใต้สถานการณ์ในขณะนั้น พญายมผู้ยิ่งใหญ่ทั้งเจ็ดตำหนักนำกองทัพยมโลกไปทำศึกนองเลือดกับอิ๋งโกว ส่วนเวลาที่เหลือจะมีใครไปสนใจได้อีก หลังจากเรื่องนี้สิ้นสุดลง เส้นทางน้ำพุเหลืองคลายผนึก ผู้ตรวจสอบในชุดสีน้ำเงินผู้นั้นเปิดดอกบัวสีขาวอีกครั้ง แล้วนำคนกลุ่มนี้กลับคืนสู่โลกมนุษย์โดยด่วน หลังจากนั้นก็ไม่รอช้ากลับไปที่นรกอีกครั้งทันที

หลังจากผ่านศึกครั้งนี้ ยมโลกเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ พวกเขาไม่มีเวลาและคุณสมบัติที่จะไปพักผ่อนหย่อนใจอะไรที่โลกมนุษย์อีกแล้วจริงๆ ทำได้เพียงรีบรุดกลับไปนรกโดยไม่หยุดพักเพื่อตรวจสอบสถานการณ์

เหล่าจางกลับมาแล้ว เมื่อลืมตาขึ้นกลับพบว่าเนื้อกายของเขายังปวดร้าวอยู่เล็กน้อย คล้ายกับไม่ได้เคลื่อนไหวมานานพอสมควรเสียอย่างนั้น ซึ่งในความเป็นจริงก็เป็นเช่นนี้จริงๆ

คนกลุ่มใหญ่รอบๆ นั่งขัดสมาธิ เวลานี้วิญญาณคนมากกว่าครึ่งได้กลับคืนมาแล้ว แต่ยังมีบางคนที่ยังนั่งขัดสมาธิไม่ขยับเขยื้อนอยู่ตรงนั้น เหล่าจางมองโจวเจ๋อแล้วพบว่าโจวเจ๋ออยู่ในกลุ่มคนที่นิ่งไม่ไหวติง ซึ่งทำให้เหล่าจางรู้สึกสงสัยเล็กน้อยและจิตใจร้อนรนอยู่บ้าง ตัวเองปลอดภัย แต่กลับเกิดเรื่องกับเถ้าแก่เสียได้ มันอธิบายได้ยากเหลือเกิน แต่ทว่าเขารู้ถึงความสามารถเถ้าแก่ของเขาดี และไม่คิดว่าเถ้าแก่จะสู่ขิตทันที เหล่าจางยังไม่รู้ว่าโจวเจ๋อไปสร้างเรื่องอะไรในนรก จริงๆ แล้วในเวลานั้นเขาถูกแช่แข็งเอาไว้

“เหอะๆ ดูเหมือนว่าจะมีผีเคราะห์ร้ายไม่น้อยเลยนะเนี่ย” หญิงสาวคนหนึ่งเอ่ยพลางหัวเราะ

ทุกคนล้วนเป็นคนที่เข้าร่วมการฝึกฝนในนรกด้วยกัน แม้ว่าการฝึกฝนนี้จะเริ่มต้นดีแต่จบไม่สวยไปบ้าง อีกทั้งแม้พวกเขาจะไม่รู้แน่ชัดว่าเกิดอะไรขึ้น แต่ก็พอเข้าใจว่านรกน่าจะเกิดเรื่องราวใหญ่โตขึ้นแล้ว เพียงแต่ด้วยคุณสมบัติและสถานะของพวกเขา จริงๆ แล้วเรื่องของนรกนั้นไม่เกี่ยวข้องอะไรกับพวกเขามากนัก พวกเขามองไม่เห็นด้วยซ้ำ นับประสาอะไรกับการสร้างปัญหา แถมครั้งนี้ยังสามารถรอดกลับมาได้ก็นับว่าเป็นบุญหัวมากโขแล้ว

คนที่นั่งขัดสมาธิน้อยกว่าครึ่งในที่นี้ เห็นได้ชัดว่าเป็นหนึ่งในกลุ่มคนโชคร้าย

การต่อสู้ครั้งใหญ่ระหว่างพญายมผิงเติ่งหวังลู่และชายดุจสตรีก่อนหน้านี้ พลังที่ระบายออกมาไม่ยั้งทำลายลงมาอย่างบ้าดีเดือด เป็นเหมือนการ ‘สุ่มจับรางวัล’ จริงๆ ไม่รู้ว่ากวาดล้างเอายมทูตตายไปแล้วกี่คน เหตุการณ์ผันผวนตามมาเป็นระลอกๆ ทำให้คนที่รอดเองต่างรู้สึกสับสนงงงวยอยู่บ้าง เดาว่าคนที่ตายไปก็ตายไปอย่างไม่รู้เรื่องราวชัดเจนเช่นกัน

ช่วยไม่ได้ วิถีทางโลกมันก็เป็นเช่นนี้ ในฐานะข้าราชการยมโลกชั้นล่างสุด คนเขายังสามารถนำ ‘รถ’ ส่งตัวเองและคนอื่นๆ กลับมาได้ก็นับว่าเป็นการให้เกียรติครั้งสุดท้ายแล้ว เรื่องอื่นๆ ก็ไม่มีใครไปพูดถึงแล้ว

ขณะนี้เอง หลังจากผ่านอารมณ์ซับซ้อนที่พ้นคราวเคราะห์รอดชีวิตมาได้ ชายหนุ่มที่เชิญชวนโจวเจ๋อเข้าไปหาหมอนวดเพื่อความสนุกแต่กลับถูกโจวเจ๋อหักหน้าไปก่อนหน้านี้ ในเวลานี้จู่ๆ ก็เดินไปหยุดตรงหน้าโจวเจ๋อและโน้มตัวเอื้อมมือไปโบกไกวๆ ด้านหน้าโจวเจ๋อ เมื่อเห็นโจวเจ๋อไม่ตอบสนองใดๆ ก็หัวเราะดังลั่นทันที “โอ๊ะโอ ลูกพี่ทงเฉิงท่านนี้ดันคุกเข่าลงด้วยสินะ ฉันยังนึกว่าคนประเภทนี้ที่เก่งกาจขนาดนี้จะต้องมีชะตากรรมอะไรแตกต่างจากเราอยู่เล็กน้อย ดูเหมือนว่าจะไม่มีอะไรต่างกันเลยนี่”

โจวเจ๋อยังนั่งขัดสมาธิอยู่ ท่ามกลางสายตาของคนรอดชีวิตในที่นี้ เห็นได้ชัดว่าไม่กลับมา ไม่กลับมาก็หมายความว่าตายในพระราชวังอย่างคลุมเครือ สายตาคนไม่น้อยในที่นี้มองมาด้วยความยินดีในความทุกข์ของผู้อื่น มันเป็นเพราะก่อนหน้านี้ชื่อเสียงของโจวเจ๋อและพลังอำนาจของยมทูตทงเฉิงยิ่งใหญ่เกินไปในวงการยมทูตจริงๆ และก่อนจะลงไป ท่าทีที่โจวเจ๋อนั่งอยู่บนโซฟาเพียงลำพังนั้นก็บ่งบอกได้ว่าไม่เห็นทุกคนอยู่ในสายตา

เวลานี้โจวเจ๋อตายแล้ว ในใจของทุกคนกู่ก้องอย่างยินดี นี่เป็นธรรมชาติของมนุษย์

ชายหนุ่มรออยู่พักหนึ่งพร้อมเอื้อมมือไปสัมผัสโจวเจ๋อ นิสัยดีๆ ประเภทนี้ เถ้าแก่โจวเองก็มี

หลังจากฆ่าใครคนหนึ่งแล้วก็มักจะค้นตัวคนอื่นดูว่ามีอะไรที่สามารถหยิบเก็บเอาไปได้บ้าง คล้ายกับฆ่าคนแล้วเก็บไอเทมในเกมออนไลน์ พวกเขาเป็นยมทูต คุ้นเคยกับความเป็นความตาย ไม่มีอะไรที่ต้องหวาดกังวลด้วยซ้ำ

ในตอนนี้เองเหล่าจางพุ่งเข้าไปตรงหน้าโจวเจ๋อ และถลึงตามองชายหนุ่มคนนี้พลางเอ่ยเสียงต่ำ “คุณจะทำอะไร” ขณะที่พูด สองมือวางมือระหว่างเอวของตัวเองโดยไม่รู้ตัว ไม่ได้พกกุญแจมือมา ปืนก็ไม่ได้พกมาด้วยเช่นกัน ครู่หนึ่ง เหล่าจางรู้สึกไม่ชินเล็กน้อย

ชายหนุ่มมองเหล่าจาง พินิจพิเคราะห์อยู่ครู่หนึ่งก่อนแล้วเอ่ยขึ้น “เจ้านายแกตายไปแล้ว แกยังปกป้องร่างไร้วิญญาณของเขาอยู่อีกเหรอ” ขณะที่พูด ชายหนุ่มก็โบกมือ

เหล่าจางเพียงรู้สึกชาวาบที่หน้าอกของตัวเอง สัญชาตญาณการต่อสู้แต่เดิมของเขาแข็งทื่อไปชั่วขณะทันที พร้อมกับกินกำปั้นของชายหนุ่มอย่างกะทันหันจนล้มลงกับพื้น ตอนนี้เหล่าจางอยากจะคลานขึ้นมา แต่แค่ออกแรงทรวงอกของตัวเองก็รู้สึกรวดร้าว เขาไม่มีความสามารถพิเศษอะไร ถึงจะเป็นยมทูตแต่จริงๆ ก็แค่มีหนังสือรับรองเพิ่มมาหนึ่งอย่าง กลับไม่มีพลังที่ยมทูตพึงมี

แต่ทว่าในเวลานี้เอง เหล่าจางใช้มือที่สั่นเทาล้วงมือถือออกมาจากในอก ชายหนุ่มเห็นดังนั้นก็ไม่ได้หยุดเขา กลับเป็นเหล่าจางเองที่ตะลึงไปชั่วครู่ แบตเตอรี่โทรศัพท์มือถือดันหมดเสียได้!

มีแต่สวรรค์ที่รู้ว่าตัวเขาและคนอื่นๆ ท่องนรกไปนานแค่ไหนกันแน่!

นรกมีเพียงพระจันทร์ ไม่มีดวงอาทิตย์ และไม่สามารถแยะแยะระหว่างกลางวันและกลางคืนได้ แต่ทว่าในเวลานี้เขารู้สึกเสียใจที่ไม่ได้เปลี่ยนเป็นโทรศัพท์รุ่นที่แบตเตอรี่อึดทน และมันก็สายไปเสียแล้ว

“หึๆ” ชายหนุ่มหัวเราะ ยมทูตสองสามคนรวมตัวกันรอบตัว หนึ่งในนั้นใจร้อนมาก โน้มตัวยื่นมือลงไปกระชากเสื้อผ้าโจวเจ๋อ คนประเภทนี้ที่จู่ๆ ก็ผงาดขึ้นมาและสร้างชื่อเสียงยิ่งใหญ่ในวงการยมทูต ส่วนมากจะมีของวิเศษให้พึ่งพา ทุกคนไม่ได้โง่ การซ้ำเติม เดิมทีก็เป็นสัญชาตญาณของมนุษย์ เพียงแต่ว่า ทันใดนั้นยมทูตที่เอื้อมมือไปกระชากเสื้อผ้าก็สั่นสะท้าน ยมทูตสองสามคนที่เหลืออยู่รอบๆ ก็ตกตะลึงไปตามๆ กัน 艾琳小說

ทั้งๆ ที่ก่อนหน้านี้ยังนั่งขัดสมาธิอยู่ ทั้งๆ ที่ก่อนหน้านี้ไม่เห็นวิญญาณยมทูตทงเฉิงผู้นี้กลับมาบนดอกบัวสีขาว คิดไม่ถึงว่าในตอนนี้จะลืมตาโพลง!

ครู่หนึ่ง ยมทูตทั้งหมดต่างตกตะลึงเล็กน้อย บ้างก็มีคนสงสัยในใจว่า หรือคนที่ตกรถบัสขากลับคนนี้ จะออกมาจากเส้นทางน้ำพุเหลืองกลับโลกมนุษย์ด้วยตัวเองกันนะ

ยมทูตหนุ่มที่เพิ่งต่อยเหล่าจางก่อนหน้านี้กำลังจะแสร้งทำเป็นประหลาดใจและเอ่ยแสดงความยินดี แต่ในชั่วพริบตาในดวงตาของโจวเจ๋อกลับถูกปกคลุมไปด้วยสีแดงฉาน

หิว เขาหิว เป็นคนสองภพสองชาติ เถ้าแก่โจวยังไม่เคยมีตอนที่หิวถึงขนาดนี้มาก่อน!

ตอนที่เดินบนสะพานไน่เหอก่อนหน้านี้เขาอดทนจนเจ็บปวดและทรมานจริงๆ คนที่กระหายหิวถึงขีดสุดมีอาหารเลิศรสที่สุดวางอยู่รอบตัวแต่กลับไม่สามารถลงมือ นี่เป็นการทรมานครั้งใหญ่จริงๆ!

ตอนนี้เขากลับมาแล้ว เขาทนไม่ไหวแล้ว เขาต้องการอาหาร!

“ฆ่า ไม่เว้นแม้แต่คนเดียว!”

………………………………………………………………..

ยมทูตพาร์ตไทม์แห่งร้านหนังสือยามวิกาล

ยมทูตพาร์ตไทม์แห่งร้านหนังสือยามวิกาล

Status: Ongoing
หลังจากการตายที่ไม่คาดคิด สิ่งที่เขาได้รับคือ ตัวตนใหม่ ร้านหนังสือใกล้เจ๊ง และตำแหน่งยมทูตจำเป็น

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท