ยมทูตพาร์ตไทม์แห่งร้านหนังสือยามวิกาล – ตอนที่ 631 รูปหล่อกิริยางดงาม!

ยมทูตพาร์ตไทม์แห่งร้านหนังสือยามวิกาล

ตอนที่ 631 รูปหล่อกิริยางดงาม!

เฝิงซื่อที่แต่เดิมรูปหล่อกิริยางามสง่ากลายเป็นผู้หญิงวัยกลางคนรูปร่างอ้วนคนหนึ่ง ชุ่ยฮวาสาวใช้ของเขาถึงกับกลายเป็นหญิงชราอายุเจ็บสิบกว่าปี ใบหน้าเหี่ยวย่น แต่ลูกตากลับสดใสเป็นประกาย เวลาที่พูดจายังแฝงไปด้วยความออดอ้อนที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวของเธอ

แต่เพราะว่าเป็นแบบนี้ กลับยิ่งทำให้คนรู้สึกว่าไม่เข้ากัน ผู้หญิงอายุสิบสามปีทำตัวน่ารักอ้อนคุณ อย่างนั้นคือน่ารัก ผู้หญิงอายุยี่สิบสามยี่สิบสี่ปีอ้อนคุณ นั่นคือวัยสาว ผู้หญิงอายุสามสิบกว่าปีอ้อนคุณ นั่นคือเซ็กซี่ อายุสี่สิบปียังมีเสน่ห์ของวัยผู้ใหญ่เหมือนลูกท้อน้ำผึ้งที่สุกงอม แต่อายุเจ็ดสิบปี… จึงไม่แปลกใจเลยที่ทนายอันจะหัวเราะร่าขนาดนี้ เพราะเป็นฉากที่ชวนให้ตลกขบขันจริงๆ

ที่นี่มีเต็นท์เพียงสองหลัง เวลานี้เป็นช่วงบ่ายพอดี โจวเจ๋อ ทนายอัน รวมทั้งเฝิงซื่อจึงนั่งกับพื้น ไม่มีพิธีรีตองอะไร หลังจากนั่งลงแล้ว โจวเจ๋อจึงนึกได้เรื่องหนึ่ง นั่นก็คือหอฌาปนกิจท้องถิ่นของลี่เจียงไม่มีศพที่เหมาะสมแล้วจริงๆ หรือว่าเฝิงซื่อจงใจ

ถึงแม้ทนายอันจะมาพึ่งพิงทางนี้ก่อนแล้ว เฝิงซื่อก็ไม่สามารถทำตามทนายอันคุกเข่าต่อหน้าโจวเจ๋อ แล้วกล่าวว่า ‘ข้าน้อยเสี่ยวซื่อเอ๋อร์ขอน้อมคารวะท่าน’ แบบนั้นได้โดยตรง ทนายอันถูกลิดรอนอำนาจ มีความผิดติดตัว แต่เฝิงซื่อเป็นผู้ตรวจสอบของยมโลกตัวจริง

จำได้ว่าตอนที่เข้าร่วมการฝึกอบรมในตอนแรก ทุกคนยืนรออยู่หน้าประตูวัง เพื่อรอการมาถึงของท่านผู้พิพากษา ชุ่ยฮวาชี้หน้าด่าทุกคนว่าไม่มีจิตใจเห็นแก่ส่วนรวมเหยียบผักที่ตัวเองปลูกไว้ แม้แต่ผู้ตรวจสอบสองสามคนที่เป็นคนนำทีมก็ไม่พูดสักแอะ จึงมากพอที่จะแสดงให้เห็นว่า อย่างน้อยในแวดวงของผู้ตรวจสอบ เฝิงซื่อมีหน้ามีตาอย่างมาก ไม่อย่างนั้นสาวใช้ซึ่งเป็นลูกน้องของเขาคงไม่หยิ่งจองหองเช่นนี้

ชุ่ยฮวาเซ่อๆ ทึ่มๆ เล็กน้อย ชอบท่องคำคมของท่านสี่ แต่ชุ่ยฮวาไม่ใช่คนปัญญาอ่อน ควรพูดอะไรกับคนแบบไหน ทำอย่างไรถึงจะไม่ก่อเรื่องให้กับนายของตัวเอง เธอรู้ดีอยู่แก่ใจ

แต่กล่าวอีกนัยหนึ่ง ในเมื่อเฝิงซื่อได้ตกลงรับคำขอของทนายอันมาก่อนแล้ว ช่วยเขาสร้างหมอกหนาที่นั่น เห็นได้ชัดว่า เฝิงซื่อคอยสังเกตโจวเจ๋อมานานแล้ว เจ้านายของเขาในอดีตเข้ามาพึ่งพิงโจวเจ๋อก่อนแล้ว ทั้งยังเคยเผชิญหน้ากันเรื่องหยกผี และเจอหน้ากันตอนที่อยู่ในนรกอีก ได้กินบะหมี่ผักดองที่ต้มโดยชุ่ยฮวาด้วยกัน เมื่อมาถึงขั้นนี้ คุณคิดว่าเฝิงซื่อมองทุกอย่างทะลุปรุโปร่งแล้ว อาจจะไม่ใช่เสมอไป แต่ถ้าจะมองอะไรไม่ออกเลย คงจะดูถูกไอคิวของเขามากเกินไป

ดังนั้นเขาจึงไม่กล้าวางมาดอะไร ด้วยฐานะผู้ตรวจสอบบวกกับฐานะอันสูงศักดิ์อย่างข้าหลวงใหญ่ผู้แทนที่ยมโลกส่งมาตรวจสอบเป็นพิเศษ หากวางอำนาจบาตรใหญ่ต่อหน้าผู้จับกุมคนใหม่อย่างโจวเจ๋อ แลจะโง่เกินไป เขาจะไม่ทำเช่นนี้

เพราะฉะนั้นตอนที่มาที่นี่ตัวเขาเองรวมทั้งชุ่ยฮวาจึงจงใจเลือกกายเนื้อเช่นนี้เข้าไปอาศัยชั่วคราว ไม่ว่าอย่างไรสามารถแก้ไขปัญหาที่ติดขัดได้โดยตรง

ทุกคนหัวเราะ บรรยากาศครึกครื้น

“เรื่องราว พี่อันได้พูดกับข้าแล้ว คุณชายโจว ตอนนี้ข้าอยากจะถามความคิดของเจ้า เจ้าอยากจะสืบเรื่องของคนผู้นั้นออกมาให้ได้ใช่ไหม”

โจวเจ๋อพยักหน้า

เฝิงซื่อพยักหน้าเล็กน้อย “เข้าใจแล้ว” มีแค่สามคำ เขาไม่พูดว่าตัวเองจะไปทำอะไร และไม่พูดว่าจะเริ่มสืบจากตรงไหน แต่คิดว่าในเมื่อทนายอันเรียกเขามาอย่างกระตือรือร้นขนาดนี้ น่าจะรู้ดีถึงพลังของผู้ตรวจสอบของจริงคนนี้

อาจจะมีบางเรื่องที่ทนายอันเนื่องจากไม่มีตำแหน่งข้าราชการรองรับยากที่จะทำได้จริง แต่เขารู้ว่าผู้ตรวจสอบที่มีตำแหน่งทางการสามารถทำได้ ก็เพียงพอแล้ว

“หาเบาะแสของคนผู้นั้น ต้องใช้เวลานิดหน่อย ตอนนี้มีอะไรอยู่ใต้น้ำไม่ใช่เหรอ พวกเราลองค้นหาที่ใต้น้ำดู เพื่อเป็นการฆ่าเวลาก็แล้วกัน” เฝิงซื่อพูดจบ แล้วจึงมองไปทางโจวเจ๋อ “คุณชายโจว เจ้ามีความคิดเห็นว่าอย่างไร” ผู้ตรวจสอบใหญ่คนหนึ่งให้เกียรติเป็นอย่างมาก เวลานี้ขอความคิดเห็นจากผู้จับกุมถึงสองสามครั้ง ทนายอันที่นั่งอยู่ข้างๆ มองเห็นฉากนี้แล้ว รอยยิ้มบนใบหน้าของเขาเริ่มหายไป

ในพระราชวังสมัยโบราณหรือในบ้านของผู้ร่ำรวย ถ้าหากผู้หญิงท้องหรือมีประจำเดือน มักจะเป็นฝ่ายจัดหาพี่สาวน้องสาวของตัวเองหรือสาวใช้ที่แต่งเข้าบ้านตามภรรยาไปคอยปรนนิบัติผู้ชายของตัวเอง นี่คือวิธีการรั้งตำแหน่งคนโปรดให้แน่น และไม่ยอมแบ่งผลประโยชน์ออกไปให้คนนอกเด็ดขาด

แต่ความเจ็บปวดรวดร้าวใจแบบนี้ มีเพียงตัวเองเท่านั้นที่เข้าใจ

“ได้” โจวเจ๋อพยักหน้า แล้วลุกขึ้น เฝิงซื่อลุกขึ้นตาม สายตาประสานกับทนายอัน

แม่น้ำไม่ใหญ่มาก ดังนั้นจึงไม่ถึงกับมีคลื่นใหญ่ซัดสาดอะไร แน่นอนว่า โจวเจ๋อยังไม่เห็นสถานที่ใดที่คละคลุ้งไปด้วยกลิ่นคาวเลือดเหมือนในความฝันของตัวเอง

“ในเมื่อคนผู้นั้นอยากให้พวกเจ้าลงไป เช่นนั้นข้างล่างนี้จะต้องมีการเตรียมการของเขาถึงจะถูก” ขณะที่พูด เฝิงซื่อมองไปทางอิงอิงที่อยู่ข้างหลังโจวเจ๋อแล้วเอ่ยว่า “ลงไปสืบดู…”

“เธอกลัวน้ำ” โจวเจ๋อตัดบทคำพูดของเฝิงซื่อ โดยไม่ใช่น้ำเสียงของการปรึกษาหารือ

“…” อิงอิง

เฝิงซื่อพยักหน้า มองสีหน้าไม่ออกแต่อย่างใด แล้วจึงดีดนิ้วทันที

“ท่านสี่!” ชุ่ยฮวาที่อายุเจ็ดสิบกว่าปีเดินเข้ามา

“ลงไปดูแล้วทำลาย”

“เข้าใจแล้วเจ้าค่ะ ท่านสี่” ชุ่ยฮวาเริ่มถอดเสื้อผ้า ทุกคนหมุนตัวหลบทันที ถ้าหากชุ่ยฮวาอยู่ในอายุที่ปกติ ตอนที่ถอดเสื้อผ้าทุกคนจะไม่อาย หลบหน้ากลับยิ่งเหมือนการเสแสร้งมากกว่า ทว่าชุ่ยฮวาเวลานี้อยู่ในร่างของหญิงชราวัยเจ็ดสิบกว่าปี ไม่ใช่เพราะเจตนาป้องกันเรื่องระหว่างชายหญิง แต่ทนดูไม่ไหวจริงๆ

‘ตู้ม!’ ชุ่ยฮวากระโดดลงไปในน้ำ

เฝิงซื่อจ้องมองแม่น้ำ ไม่พูดอะไร โจวเจ๋อยืนอยู่ข้างๆ เฝิงซื่อ พูดจริงๆ นะ รู้สึกเหนื่อยล้าเล็กน้อย เดิมทีทุกคนเป็นคนรู้จักกัน สามารถทำตัวเป็นกันเองได้ แต่หลังจากเฝิงซื่อมาถึง ถึงแม้จะแสดงท่าทีถ่อมตัว แต่ม่านกั้นที่ฝังอยู่ในกระดูกยังคงอยู่ เหมือนกับเวลามีแขกอยู่ในบ้าน ต้องทำตัวมีระเบียบเพื่อไม่ให้แขกรู้สึกขำบ้านของตัวเอง

ผ่านไปไม่นาน เริ่มเกิดฟองอากาศบนผิวน้ำอย่างต่อเนื่อง เป็นฟองอากาศขนาดใหญ่ หลังจากผุดขึ้นมาแล้วระเบิดออก กระจายไอร้อนออกมา เฝิงซื่อแบมือ เดินไปริมแม่น้ำสองก้าว เวลานี้มีบางสิ่งลอยขึ้นมา เป็นขาข้างหนึ่ง เนื่องจากมันกลับหัว ส่วนที่โผล่มาเหนือน้ำมีเพียงเท้ากับน่องเท่านั้น คล้ายกับการแสดงระบำใต้น้ำ

โจวเจ๋อหรี่ตา ทนายอันแปลกใจอยู่บ้าง อิงอิงเอามือป้องปากของตัวเอง เพราะนี่ไม่ใช่ขาของชุ่ยฮวา พวกคนแก่บ้ากามบางคนหรือไม่ก็พวกที่คลั่งไคล้ส่วนเท้าของผู้หญิงสามารถทำได้ถึงขั้นที่ว่าเห็นเท้าก็รู้ว่าใคร แต่เวลานี้กลับไม่จำเป็น เพราะชุ่ยฮวาอยู่ในร่างของหญิงชรา ขาของคนอายุปูนนั้นถือว่าแยกแยะได้อย่างง่ายดาย

ขาที่ลอยขึ้นมาในเวลานี้ เป็นขาที่ขาวนวลข้างหนึ่ง ข้อเท้าถูกแขวนด้วยกระดิ่งอันหนึ่ง ถ้าหากอิงอิงลงไป และเกิดเหตุการณ์ไม่คาดคิดอย่างในตอนนี้ โจวเจ๋อคงอยู่ไม่นิ่งแน่นอน แต่เวลานี้เฝิงซื่อกลับเหมือนคนไม่เป็นอะไร ยืนแบมือดูอยู่ตรงนั้นต่อไป

ต่อจากนั้นมีมือข้างหนึ่งลอยขึ้นมา จากนั้นก็เป็นขาอีกแล้ว ภายในเวลาห้านาที ภาพที่ปรากฏอยู่ในความฝันของโจวเจ๋อได้กลายเป็นความจริง บนแม่น้ำเต็มไปด้วยแขนขาที่ถูกตัด และแขนขาเหล่านี้ไม่บวมอืดเลยสักนิด ควรทราบว่าต่อให้เป็นคนธรรมดาที่แช่น้ำเป็นเวลานานก็จะเกิดหนังสีขาว แต่แขนขามากมายเหล่านี้กลับมีความ ‘สดใหม่’ อย่างเห็นได้ชัด มีความสดมากกว่าอาหารทะเลในตลาดด้วยซ้ำไป

สวี่ชิงหล่างเดินเข้าไป ยื่นมือหยิบแขนข้างหนึ่งขึ้นมา เหมือนเด็ดรากบัวจากในแม่น้ำ เหล่าสวี่เหมือนพ่อครัวที่เลือกดูวัตถุดิบอาหารในตลาดอย่างละเอียด จากนั้นจึงหมุนตัว ยื่นแขนข้างนี้ไปทางโจวเจ๋อ มือของโจวเจ๋อสอดอยู่ในกระเป๋ากางเกง ไม่ยื่นมือมารับของพรรค์นี้

“เหอะๆ แขนขาขาดพวกนี้ถูกทำให้กันน้ำและกันเน่า นอกจากนี้ยังทำอย่างประณีตมาก ดูตำแหน่งที่ถูกตัด ตัดได้กลมเกลี้ยง ลายเส้นก็เป็นธรรมชาติเหลือเกิน เป็นงานตัดที่ละเอียดละเมียดละไม” สวี่ชิงหล่างกล่าวแนะนำ

“อย่างนั้นนายอยากเอาไปอบซอสแดงหรือนึ่งล่ะ” โจวเจ๋อเห็นเหล่าสวี่ตั้งใจขนาดนี้ จึงอดไม่ได้ที่จะให้ความร่วมมือ

สวี่ชิงหล่างตกตะลึงเล็กน้อย ก่อนจะส่ายหน้าเอ่ยว่า “ของที่ใส่ยากันบูดแล้วจะกินได้ยังไง” ขณะที่พูด สวี่ชิงหล่างโยนมือข้างนี้ลงไปในแม่น้ำอีกครั้ง

“ถ้านายยังไม่ล้างมือ ห้ามทำกับข้าว…อ้อไม่ วันนี้นายไม่ต้องทำกับข้าว พวกเราจะสั่งอาหารมาจากข้างนอก” โจวเจ๋อพูดเตือน

สวี่ชิงหล่างพยักหน้า ขานรับ จนกระทั่งตอนนี้ ชุ่ยฮวาที่ลงไปยังไม่ขึ้นมา เฝิงซื่อนั่งลงยองๆ อยู่ริมแม่น้ำ หยิบธูปออกมาหนึ่งดอก ปักลงไปริมแม่น้ำ กลิ่นธูปหอมเป็นธรรมชาติ หมุนเกลียวเป็นควันลอยขึ้นไป

หลังจากรอประมาณสิบนาทีผ่านไป เกิดการเปลี่ยนแปลงบนผิวน้ำอีกครั้ง สีแดงฉานผุดออกมาจากด้านล่าง แปดเปื้อนไปทั่วแม่น้ำสายนี้ ประกอบกับซากแขนขาที่ถูกตัดบนแม่น้ำสายนี้ ยิ่งเสริมซึ่งกันและกันให้เด่นชัดมากขึ้น

และในเวลานี้เอง เงาร่างสีดำของคนผู้หนึ่งได้ลอยขึ้นมาจากใต้น้ำ “ท่านสี่!”

คือชุ่ยฮวา เฝิงซื่อยิ้มเล็กน้อย แต่โจวเจ๋อกลับขมวดคิ้วทันที

เพราะเปื้อนไปด้วยน้ำเลือด ชุ่ยฮวาในเวลานี้เหมือนเป็นคนละคน เมื่อลองคิดเชื่อมโยงกับความฝันของตัวเองแล้ว โจวเจ๋อมองไปทางเฝิงซื่อทันที เตรียมจะพูดเตือน แต่ยังไม่ทันที่โจวเจ๋อจะเอ่ยปาก ในมือของเฝิงซื่อได้ปรากฏแส้หนังเส้นหนึ่ง แล้วฟาดลงไปบนผิวน้ำอย่างแรง ฟาดไปที่ผู้หญิงคนนั้นที่เรียกเขาว่าท่านสี่เมื่อครู่

ในปากของผู้หญิงเหมือนมีลำแสงสีขาวพ่นออกมา แต่ลอยออกไปไม่ไกลก็ถูกแส้หนังฟาดจนแตกสลาย และแรงตีจากแส้หนังเหมือนจะไม่ลดละ ฟาดลงไปบนร่างกายของผู้หญิงโดยตรง

‘ครืน!’

“อาๆๆๆๆ!!!!!!!!” ไอสีดำเป็นกลุ่มก้อนลอยขึ้นมา ทั่วทั้งแม่น้ำเริ่มเกิดเสียงปุดๆๆ เหมือนน้ำต้มเดือดในกะละมังหลังจากเฝิงซื่อเอ๋อร์เหวี่ยงแส้ออกไป ก็ใช้มืออีกข้างหนึ่งกดลง จากนั้นธูปหอมที่เผาไหม้ไปครึ่งหนึ่งจึงลอยขึ้นมา

“หยินหยางแยก คนผีจาก ถอย!” ควันสีขาวเป็นสายผุดออกมาอย่างรวดเร็ว และเงาดำแต่ละเงาที่โผล่ออกมาบนผิวน้ำเมื่อครู่ก็ถูกควบคุมโดยตรง

“ประตูนรกเปิด!” ด้านหน้าของเฝิงซื่อปรากฏวงกลมสีดำอันหนึ่ง เงาดำที่ถูกควบคุมตัวเหล่านั้นถูกยัดเข้าไปในวงกลมสีดำทันที ซึ่งก็คือถูกส่งไปยังนรก ชั่วเวลาเดียว ผิวน้ำที่เกิดเสียงดังวุ่นวายแต่เดิมฟื้นคืนสู่ความสงบในพริบตา ผู้หญิงคนนั้นเหมือนคิดจะมุดเข้าไปในแม่น้ำ แต่เห็นเพียงเฝิงซื่อพลิกข้อมือ ม้วนแส้หนังหนึ่งทีแล้วฟาดลงไปอีกครั้ง ผู้หญิงคนนั้นถูกมัดก่อน จากนั้นจึงถูกดึงขึ้นมาบนฝั่ง

หลังจากอยู่บนฝั่งแล้ว ร่างกายของผู้หญิงจึงหดตัวอย่างรวดเร็ว กลายเป็นเต่าแก่ๆ ตัวหนึ่ง และกระดองของเต่าแก่ตัวนี้เต็มไปด้วยขนยาวสีดำปกคลุม และยังงอกยาวไปตามข้างลำตัว

“นี่คือตัวอะไร” สวี่ชิงหล่างมองไปทางทนายอัน

ทนายอันเหลือบตามองแม่นางสวี่หนึ่งที แล้วเอ่ยว่า “ญาติสนิทของคุณ เทพเจ้าแห่งแม่น้ำ”

……………………………………………………………………….

ยมทูตพาร์ตไทม์แห่งร้านหนังสือยามวิกาล

ยมทูตพาร์ตไทม์แห่งร้านหนังสือยามวิกาล

Status: Ongoing
หลังจากการตายที่ไม่คาดคิด สิ่งที่เขาได้รับคือ ตัวตนใหม่ ร้านหนังสือใกล้เจ๊ง และตำแหน่งยมทูตจำเป็น

นิยายแนะนำ

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท