ระบบวายร้ายแห่งโชคชะตา – บทที่ 530 พลังสามสั่นสะเทือน

บทที่ 530 พลังสามสั่นสะเทือน

บทที่ 530 พลังสามสั่นสะเทือน

ฝ่ามือของฟั่นโจวที่จับดาบปราศจากความผันผวนปราณวิญญาณ แต่ดาบยาวของฟั่นจี้ที่เต็มไปด้วยปราณวิญญาณกลับไม่สามารถสะบั้นลงไปได้แม้แต่น้อย!

ขณะฟั่นโจวยกแขนขึ้นทีละน้อย ดาบยาวที่ฟั่นจี้กดลงมาก็ถูกยกขึ้นไปเช่นกัน

ดวงตาของฟั่นจี้เต็มไปด้วยความตกตะลึง ตอนนี้เองเขาคล้ายกับสัมผัสได้ถึงความแตกต่างในตัวฟั่นโจวก่อนจะเอ่ยด้วยความประหลาดใจ “พลังสามสั่นสะเทือนหรือ? เจ้าไปเรียนรู้พลังสามสั่นสะเทือนตั้งแต่เมื่อไหร่?”

ฟั่นโจวเงยหน้าขึ้นเล็กน้อยขณะจิตสังหารปรากฏในดวงตา

“พลังสามสั่นสะเทือนไม่ใช่ทักษะลับ เหตุใดข้าจะเรียนรู้ไม่ได้?!”

ฝ่ามือของฟั่นโจวขยับเล็กน้อย จากนั้นกลิ่นบนร่างของเขาก็ลึกล้ำ แล้วพายุหมุนก็เริ่มหมุนวนออกมา!

เพล้ง!

เสียงคมชัดดังขึ้นก่อนดาบยาวจะพลันแตกหัก!

เมื่อเห็นเช่นนี้ ลู่หยวนก็เผยแววตาสนใจเล็กน้อย

แม้ดาบยาวจะไม่ใช่ของดี แต่มันก็ยังอยู่ระดับราชัน ด้วยกายเนื้อในตอนนี้ของฟั่นโจว เขาย่อมสามารถหักมันได้ทันที

เห็นได้ว่าสิ่งที่เรียกว่า ‘พลังสามสั่นสะเทือน’ นี้ทำให้กายเนื้อของฟั่นโจวแข็งแกร่งขึ้นมาก!

ดาบยาวหัก ส่วนฟั่นจี้กระเด็นออกไปหลายหมี่เพราะแรงสั่นสะเทือนของพายุหมุน

ดวงตาของเขาเผยความไม่อยากเชื่อขณะสีหน้าเต็มไปด้วยความตกตะลึงเล็กน้อย เห็นได้ชัดว่ายังไม่หายจากอาการตกใจเมื่อครู่!

แม้พลังสามสั่นสะเทือนนี้ไม่ใช่ทักษะลับ แต่ใช่ว่าทุกคนในตระกูลฟั่นจะสามารถเรียนรู้ได้

ถึงอย่างไรสิ่งนี้จำเป็นต้องใช้ความเข้าใจระดับสูง ในบรรดาคนรุ่นก่อน มีเพียงคนเดียวที่สามารถเรียนรู้ได้ ซึ่งผู้นั้นก็คือประมุขตระกูลฟั่นผู้เป็นพ่อของฟั่นจี้!

ส่วนคนรุ่นใหม่ในตอนนี้ยังไม่มีใครสามารถทำความเข้าใจได้!

วันนี้ ฟั่นโจวใช้พลังสามสั่นสะเทือน ทำให้เขากลายเป็นอันดับหนึ่งในหมู่คนรุ่นใหม่!

สายตาของฟั่นจี้ตกสู่ความเงียบงันขณะมองฟั่นโจวด้วยจิตสังหารที่มากขึ้น

ส่วนคนอื่นก็เคลื่อนไหวตาม พวกเขาทุกคนต่างมีจิตสังหาร

หนึ่งในพวกเขาเอ่ย “พี่ใหญ่ ผู้ที่ทำความเข้าใจพลังสามสั่นสะเทือนได้ย่อมมีคุณสมบัติในการเป็นประมุขน้อย! หากพวกเราไม่ฆ่าเขาในวันนี้ก็จะไม่มีใครในตระกูลฟั่นสามารถเทียบเคียงได้!”

ฟั่นจี้ตะโกนอย่างเย็นชา “ข้ารู้แล้ว!”

คนผู้นั้นตกตะลึงก่อนจะไม่กล้าเอ่ยคำใดอีก

ฟั่นจี้หยิบอาวุธอีกชิ้นขึ้นมาพร้อมกับถือยันต์จำนวนมากไว้ที่มือข้างซ้าย

“เจ้าเด็กคนนี้เพิ่งเข้าใจพลังสามสั่นสะเทือน ทั้งตอนนี้ก็เพิ่งใช้เพียงส่วนเดียวเท่านั้น เขาไม่น่าจะเป็นคู่ต่อสู้ของพวกเรา! โจมตีพร้อมกัน!”

สิ้นคำ ฟั่นจี้นำคนจำนวนมากเพื่อสังหารฟั่นโจว!

แต่ฟั่นโจวยังคงยืนนิ่งอยู่กับที่ สีหน้าของเขายังคงไม่แปรเปลี่ยนขณะรายล้อมไปด้วยความสงบราวกับคนเหล่านี้ไม่ใช่ภัยคุกคามอีกต่อไป!

ไม่มีใครทราบว่าในตอนนี้มีร่างของผู้หญิงปรากฏขึ้นในใจของเขา แม้จะไม่มีความผันผวนปราณวิญญาณจากการเคลื่อนไหว แต่นางก็ระเบิดพลังมหาศาลออกมา!

ฟั่นโจวสามารถสัมผัสได้อย่างชัดเจนว่าพลังนี้คล้ายกับสามารถทะลวงท้องนภา! สั่นสะเทือนดาราจักรได้!

ร่างของพวกฟั่นจี้ซึ่งอยู่ตรงหน้าเขาคล้ายกับช้าลงอย่างไร้ที่สิ้นสุด

ฟั่นโจวขยับร่างกายขณะกำหมัดมั่น โดยพายุหมุนขนาดเล็กหมุนวนอยู่ภายใน

เขาค่อยสะบัดมือ แล้วตอนนี้ปราณวิญญาณรอบข้างถึงกับเริ่มหยุดนิ่ง!

ร่างของพวกฟั่นจี้เริ่มหยุดนิ่งเพราะความเชื่องช้าของปราณวิญญาณ!

ทุกการเคลื่อนไหวของฟั่นโจวยิ่งรวดเร็วก่อนจะซ้อนทับกับร่างของผู้หญิงที่อยู่ในใจ!

พวกฟั่นจี้ที่ตรงเข้ามาสังหารในตอนนี้ต่างตกตะลึงที่ถูกแยกออกจากกัน แล้วปราณวิญญาณรอบข้างที่หยุดนิ่งเริ่มเคลื่อนตัวด้วยความเร็วสูง แล้วร่างกายของพวกเขาก็ไม่ถูกพันธนาการอีกต่อไป!

ยันต์เข้ามาถึงก่อน ตามด้วยอาวุธทั้งหลายที่ฟาดฟันเข้ามาพร้อมกัน!

ฟั่นโจวในตอนนี้กำลังตั้งหมัดที่หน้าอก เขาหรี่ตาขณะทั่วร่างไม่ขยับเขยื้อน

ฟั่นจี้ไม่เข้าใจว่าฟั่นโจวกำลังสร้างสัตว์ประหลาดแบบใด เขาเพียงอยากสังหารอีกฝ่ายให้ได้โดยไว!

ทันทีที่ยันต์มาถึง จุดแสงสีแดงก็หมุนวนรอบข้าง!

พลังระเบิดมหาศาลพลันกระจายออกไป!

ตูม! ตูม! ตูม!

ควันธุลีพลันพวยพุ่งขณะพื้นดินพังทลาย! ร่างของฟั่นโจวถูกปกคลุมขณะอาวุธของผู้คนทั้งหลายพลันแทงเข้าไป!

ติ๊ง! ติ๊ง! ติ๊ง!

สิ่งที่ปรากฏในตอนนี้กลับไม่ใช่เสียงอาวุธสัมผัสเนื้ออย่างที่ฟั่นจี้คิด แต่กลับเป็นเสียงติ๊งที่คมชัด!

ฟั่นจี้ใจสลาย เขาอยากจะถอยกลับและจากไปในทันที

แต่แรงดูดมหาศาลกลับกักขังพละกำลังทั้งหมดของพวกเขาเอาไว้จากที่ใดไม่ทราบ ทำให้ไม่แม้แต่จะสามารถก้าวถอยหลังได้!

“ฟั่นจี้ เจ้ายังไม่เคยได้เห็นพลังสามสั่นสะเทือนมาก่อนสินะ วันนี้ข้าจะแสดงให้ได้เห็นเอง”

เสียงอันแผ่วเบาดังมาจากควันธุลี แต่เมื่อเข้าหูของฟั่นจี้ มันคล้ายกับราชาแห่งนรกที่ต้องการชีวิตของเขา

“พลังสามสั่นสะเทือน การสั่นสะเทือนที่หนึ่ง สั่นสะเทือนภูผา!”

สิ้นเสียงของฟั่นโจว พลังมหาศาลก็ระเบิดออกมา!

ตูม!

คลื่นอากาศสั่นสะเทือนในทันที ทำให้พื้นดินพังทลายลงไปหลายหมี่ แล้วควันธุลีที่อบอวลไปมาก็ถูกซัดออกไปไกลหลายสิบหมี่อีกครั้ง!

กลิ่นอายของลู่หยวนเพิ่มขึ้นเล็กน้อยขณะสะกดควันธุลีทั้งหลายที่กระแทกเข้ามา!

พรวด!

พวกฟั่นจี้ล้วนตกตะลึงขณะรู้สึกเจ็บปวดสุดแสนอยู่ภายในจนกระอักโลหิตออกมา ทำให้พวกเขารู้สึกไม่สบายตัวยิ่งนัก

“พลังสามสั่นสะเทือน การสั่นสะเทือนที่สอง สั่นสะเทือนทะเล!”

ตูม!

คลื่นอากาศไร้ใครเทียบประหนึ่งคลื่นทะเลที่ซัดสาดเข้าใส่จากทุกทิศทางครั้งแล้วครั้งเล่า!

ห้วงอากาศรอบข้างฟั่นโจวเริ่มสั่นสะเทือนเป็นระยะหลายหมี่

พวกฟั่นจี้เริ่มแน่นหน้าอก!

“พลังสามสั่นสะเทือน การสั่นสะเทือนที่สาม!”

“สะเทือน! สวรรค์!”

คลื่นอากาศที่มองไม่เห็นและไร้พลังซึ่งอยู่รอบตัวฟั่นโจวโจมตีออกไป พวกมันปกคลุมภายในรัศมีหลายสิบหมี่ทันที!

โลกขนาดเล็กที่มีรัศมีหลายสิบหมี่พลันสูญสิ้นสีสัน!

ราวกับว่ากลิ่นอายทั้งหลายหมองหม่น แม้กระทั่งพละกำลังรอบข้างลู่หยวนก็คล้ายกับกำลังจางหาย!

ทว่าสภาพนี้กินเวลาเพียงไม่กี่อึดใจ ทำให้ผู้คนรู้สึกเหมือนตกอยู่ในภวังค์

แต่การสั่นสะเทือนครั้งสุดท้ายเมื่อครู่นี้ส่งผลต่อลู่หยวน

อู๋เต้ากับเจิ้งชิงเทียนก็สัมผัสได้เช่นกัน!

ทั้งคู่ตกตะลึงในพริบตา ขนาดลู่หยวนผู้มีระดับการบ่มเพาะขั้นนั้นยังได้รับผลกระทบ ฟั่นโจวผู้นี้เป็นใครกันแน่?

แรงสั่นสะเทือนเมื่อครู่ส่งผลต่อกลิ่นอายของลู่หยวนจริง!

หากระดับการบ่มเพาะเด็กคนนี้ทัดเทียมกับลู่หยวน แล้วพลังสั่นสะเทือนนี้เทียบเคียงกับอีกฝ่ายได้ ต่อให้เป็นอู๋เต้ากับเจิ้งชิงเทียนก็ไม่มั่นใจว่าใครจะชนะ!

ศัตรูของฟั่นโจวล้มลง แล้วพวกฟั่นจี้ก็ถึงแก่ความตาย

พละกำลังทั้งหมดในร่างของฟั่นโจวสลายไปเช่นกัน แล้วเขาก็ล้มลงกับพื้นในสภาพอิดโรย แม้กระทั่งเรี่ยวแรงหายใจอย่างหนักก็ไม่มี

มุมปากของลู่หยวนยกยิ้ม เจิ้งชิงเทียนคุ้นเคยกับรอยยิ้มนี้มากที่สุด ทุกครั้งที่อีกฝ่ายทำเช่นนี้ย่อมมีความหมายว่าใครบางคนกำลังจะตาย!

“พลังสามสั่นสะเทือนหรือ? ช่างน่าสนใจ”

ลู่หยวนพึมพำอย่างแผ่วเบา

จากนั้นเขาถามระบบในใจทันที “หากข้าใช้กำลังเพื่อสังหารฟั่นโจว ข้าจะได้รับพลังสามสั่นสะเทือนนี้หรือไม่?”

[แจ้งเตือนจากระบบ : พลังสามสั่นสะเทือนคือหนึ่งในสุดยอดอุบายของบุตรแห่งโชคชะตาฟั่นโจว หากท่านสังหารเขาก็จะสืบทอดพลังดังกล่าวด้วยเช่นกัน!

[หากท่านได้รับพลังสามสั่นสะเทือนก็จะสามารถพัฒนามันได้ด้วยค่าโชคชะตาวายร้ายโดยไม่ต้องทำความเข้าใจด้วยตัวเอง!]

ลู่หยวนคิ้วขมวด แค่นี้ก็ได้แล้วหรือ!

เขามีค่าโชคชะตาเก้าหมื่นแต้ม!

ลู่หยวนจับจ้องไปทางฟั่นโจวขณะจิตสังหารประหนึ่งเคียวนรกเคลื่อนตรงไปที่คอของอีกฝ่ายทันที!

เพียงพริบตา ฟั่นโจวถูกกดทับจนหายใจไม่ออก!