บทที่ 546 พลังปรภพ
บทที่ 546 พลังปรภพ
ซ่งชิงบังคับตัวเองให้สงบสติอารมณ์ มันคล้ายกับว่ามีบางอย่างที่ทำให้หัวใจของเขาปั่นป่วนมากเกินไป! ประหนึ่งทุกการเคลื่อนไหวอยู่ภายใต้การควบคุม
ซ่งชิงถ่ายทอดพลังเข้าสู่ร่างกายเพื่อเริ่มทำการสัมผัส
ชายชรามีสีหน้าตกตะลึงจนไม่มีเวลาที่จะปกปิดเอาไว้
ลู่หยวนเห็นทุกสิ่งในดวงตา แล้วสีหน้าของเขาก็ยิ่งดูแคลน
“ขยะ เหตุใดยังไม่รินชาเล่า?”
ลู่หยวนเงยหน้าก่อนจะพบว่าโลกที่นี่ถูกปกคลุมด้วยหมอกหนา แรงกดดันในอาณาเขตของชายชราเข้าครอบคลุมทั่วบริเวณ!
เนื่องจากบ้านร้างพังทลาย สัตว์ร้ายที่ถอยกลับไปก็กลับมาอีกครั้ง พวกมันแผดเสียงคำรามราวกับกำลังข่มขู่ลู่หยวน!
ชายชราสะกดสีหน้าตกตะลึงเอาไว้แล้วเอ่ย “เหอะ ถ้าเจ้ารู้แล้วมันจะเป็นไร? หนึ่งในพวกเจ้าสองคนจะต้องชนะ ในเมื่อวันนี้ก็อยู่กันพร้อมหน้าแล้ว ข้าก็อยากเห็นกับตานักว่าใครจะเป็นผู้คว้าชัย”
“พอได้เห็นเจ้าแล้ว ลู่หยวน หากว่ากันตามความแข็งแกร่ง เจ้าก็มีโอกาสชนะมากกว่า ข้าขอบอกตามตรง หากกู้ชิงหรันไม่ฝืนก้าวออกจากที่นี่ในวันนี้ ข้าก็อาจจะเดิมพันทั้งหมดกับเจ้า แต่คาดไม่ถึงว่านางจะเข้ามาจนทำให้เหตุต้นผลกรรมกำลังจะมาเยือน! เจ้าไม่มีโอกาสชนะอีกแล้ว! นี่คือลิขิตฟ้า!”
“อย่างนั้นรึ?”
ลู่หยวนเผยรอยยิ้มอย่างเย็นชา “ลิขิตฟ้าหรือ? เจ้าสุนัขเฒ่า ลองดูว่านี่ใช่ลิขิตฟ้าหรือไม่!”
สิ้นคำ ห้วงอากาศรอบข้างลู่หยวนก็เริ่มสั่นไหว
พลังที่ไม่ได้เป็นส่วนหนึ่งของความผันผวน ปราณวิญญาณกำลังกลืนกินรอบข้างอย่างต่อเนื่อง!
“นี่มัน?!”
หลังจากเห็นกลิ่นอายนี้ ชายชราก็เผยสีหน้าไม่มั่นใจออกมา
พลังที่ปะทุออกมาจากร่างของลู่หยวนถึงกับมีกลิ่นอายแห่งความตายเล็กน้อย กลิ่นอายนี้ยังคงกระจายออกไป จากนั้นแผ่ขยายอย่างรวดเร็วก่อนจะปกคลุมทั่วหล้า!
วิ้ง!
เพียงพริบตา อาณาเขตที่ยากจะอธิบายก็ปรากฏขึ้นก่อนจะปกคลุมอาณาเขตของชายชราทั้งหมด!
อาณาเขตนี้มีกลิ่นอายแห่งความตายที่ไม่อาจต้านทานได้ มันกำลังกลืนกินอาณาเขตที่แผ่ออกมาจากชายชราทีละน้อย!
“ปรภพรึ?!”
ชายชราตะโกนออกมาด้วยความไม่แน่ใจ
ลู่หยวนหัวเราะ จากนั้นก็ถอยออกไปหลายสิบหมี่ทันที เขายืนเอามือไพล่หลังอยู่ในห้วงอากาศประหนึ่งราชา “เจ้าสุนัขเฒ่า เจ้ายังพอสัมผัสได้สินะ”
“เป็นไปไม่ได้!”
ชายชราเอ่ยขึ้นอีกครั้งขณะจับจ้องด้วยสายตาเย็นชา “เจ้าหนู มนุษย์ควบคุมปรภพได้อย่างไร?! เจ้ารู้หรือไม่ว่าพื้นที่สีเทานี้ปรากฏขึ้นตั้งแต่ที่แผ่นดินหยวนหงถือกำเนิด ซึ่งโลกดังกล่าว แม้กระทั่งมหาจักรพรรดิในแดนเซียนก็ไม่สามารถควบคุมมันได้ แล้วเจ้าทำได้อย่างไร?!”
“เหอะ…”
ลู่หยวนยื่นมือขวาออกไป แล้วพลังที่เป็นของปรภพก็เคลื่อนลงมาอีกครั้งขณะถาโถมใส่อาณาเขตของชายชราเร็วยิ่งขึ้น
“ข้าบอกเมื่อไหร่ว่าตนเองเป็นผู้ควบคุมปรภพแห่งนี้?”
หลังจากลู่หยวนเอ่ยจบ เขาก็เห็นร่างหนึ่งเคลื่อนเข้ามาอย่างเนิบช้า
เขาไม่ใช่ใครอื่นนอกจากอูโจ้วผู้อยู่ในปรภพ!
ทันทีที่อูโจ้วปรากฏ เขาก็มาอยู่ข้างกายลู่หยวนด้วยสีหน้าประจบสอพลอ “นายท่าน ท่านปลดปล่อยกลิ่นอายปรภพเพียงพอแล้วหรือยัง? ท่านต้องการเพิ่มหรือไม่? ท่านอยากให้ข้าบีบนวดไหล่เพื่อคลายความเหนื่อยล้าหรือไม่?”
ลู่หยวนไม่ได้เรียกอูโจ้วมานาน ทำให้อีกฝ่ายผู้ฝึกฝนอยู่ในปรภพเพียงลำพังเบื่อหน่ายจนเจียนตาย
เขามีความสุขที่ถูกลู่หยวนเรียกในวันนี้จนถึงขั้นกระโดดสูงสามจั้ง
หากได้รับใช้ลู่หยวนมากเท่าไหร่ก็ยิ่งใกล้ชิดกับการเป็นภรรยาในอนาคตมากเท่านั้น!
“เผ่าสาปมารหรือ?”
ชายชรามองอูโจ้วก่อนจะรับรู้เผ่าของอีกฝ่ายได้ทันที
ชายชราอยู่ในแผ่นดินหยวนหงมาหลายปีและใช้เคล็ดวิชาลับจนอยู่รอดมาได้ แน่นอนว่าเขาเคยได้ยินเกี่ยวกับเรื่องทั้งหลายในแผ่นดินดังกล่าว
แน่นอนว่าชายชราทราบเรื่องเผ่าสาปมารไม่มากก็น้อย
เมื่อเผ่าสาปมารหายเข้าไปในกลีบเมฆก็ไม่มีข่าวคราวอะไรอีก แม้กระทั่งชายชราก็คิดว่าเผ่าดังกล่าวตายหมดแล้ว คาดไม่ถึงว่าจะยังมีใครบางคนในเผ่าสาปมารที่รอดชีวิตมาได้จนถึงวันนี้?!
เขาถึงขั้นระดมพลังปรภพได้งั้นหรือ?!
ชายชรารู้สึกทันทีว่าเขายังคงไม่รู้อะไรเกี่ยวกับพลังของลู่หยวน!
ความจริงแล้วอูโจ้วผู้นี้ไม่สามารถระดมพลังปรภพได้ แต่ตอนนี้เขาสามารถมีชีวิตอยู่ได้ภายในสถานที่พิเศษแห่งนั้นจนถึงขั้นเปิดทางเข้าออกได้ตามต้องการ
ด้วยเหตุนั้น วันนี้อูโจ้วจึงมีความสามารถมากพอที่จะเปิดเส้นทางสู่ปรภพเพื่อปลดปล่อยกลิ่นอายภายในนั้นออกมากำราบกลิ่นอายของชายชราเอาไว้
ปรภพเป็นสถานที่แตกต่างจากโลกอื่น มันทั้งเงียบสงัดและหมองหม่น ซึ่งกลิ่นอายของมันทำให้สถานที่นี้กลายเป็นพื้นที่สีเทา!
กลิ่นอายปรภพจะกลืนกินกลิ่นอายอื่นจนกว่าจะถึงแก่ความตาย!
กลิ่นอายของชายชราที่ปกคลุมทั่วท้องนภาพังทลายทีละชั้น
ลู่หยวนกุมง้าวมังกรครามแปดแดนร้างเอาไว้มั่น “ตาเฒ่าอย่างเจ้ายังทำอะไรได้อีก?”
ชายชราจ้องมองไปทางลู่หยวน ในเมื่อเขาเลือกซ่งชิงก็ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงอะไรได้อีกแล้ว!
อย่าว่าแต่ย้ายข้างในตอนนี้เลย ลู่หยวนก็ไม่ชอบขี้หน้าเขาเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว หากเข้าแดนเซียนในภายภาคหน้าขึ้นมา อีกฝ่ายย่อมไม่ให้การช่วยเหลืออย่างแน่นอน
ตอนแรกเขาใช้เคล็ดวิชาต้องห้ามเพื่อต่ออายุขัยให้ตัวเอง หากไม่สามารถคิดหาวิธีอื่นได้ ชีวิตของตนเองย่อมไม่มีทางคงอยู่ได้อีกต่อไป
นี่เป็นสาเหตุที่เขาต้องเข้ามาแทรกแซงเรื่องของลู่หยวนกับซ่งชิง
สองคนนี้ถูกกำหนดโดยลิขิตสวรรค์ ผู้ชนะจะต้องมีอนาคตสดใส หากเข้าสู่แดนเซียน เขาก็สามารถปกครองโลกได้เช่นกัน!
ขอเพียงชายชราเดิมพันถูกฝั่ง ในอนาคตเขาก็จะสามารถไปถึงจุดสูงสุดได้ด้วยความช่วยเหลือจากพลังของคนผู้นี้!
แน่นอนว่าทุกสิ่งในชีวิตมีทางออก!
ชายชราค่อยมุ่งมั่นมากขึ้น เนื่องจากเดิมพันข้างซ่งชิงตั้งแต่แรก เขาก็ต้องเดิมพันต่อไป!
ไม่ว่าลู่หยวนจะแข็งแกร่งแค่ไหนก็ไม่มีทางเหนือกว่าผู้มาจากโลกศักดิ์สิทธิ์แดนเซียน!
เหอะ ขอเพียงกู้ชิงหรันยืนอยู่ข้างกายลู่หยวน อัตราการชนะของอีกฝ่ายก็คงไม่มากไปกว่านี้!
เพียงหนึ่งอึดใจ ชายชราก็เคลื่อนมาอยู่ข้างซ่งชิง จากนั้นส่งแหวนเก็บของพร้อมเอ่ยด้วยท่าทางสนิทสนม “เสี่ยวซ่งเอ๋ย ข้าคาดหวังในตัวเจ้าไว้มาก ทั้งหมดนี้คือสิ่งที่ข้าสั่งสมมาตลอดชั่วชีวิต เจ้าต้องดูแลพวกมันให้ดี! ในอนาคต เจ้าจะต้องฆ่าลู่หยวนเพื่อเข้าแดนเซียนให้ได้! หลังจากนี้ข้าขอพึ่งใบบุญเจ้าหน่อยแล้วกัน!”
ซ่งชิงคิ้วขมวดเล็กน้อย เมื่อครู่ชายชรามีท่าทีสูงส่ง แต่ตอนนี้กลับทำตัวประจบสอพลอพร้อมเสนอของบางอย่างให้
เขาไม่เอ่ยคำใด แต่เมื่อใช้จิตเทวะทำการตรวจสอบก็พบว่ามีของดีมากมายอยู่ภายในแหวนเก็บของ!
แค่แหวนเก็บของวงเดียวก็มีค่าเทียบเท่าของดีทั้งหมดในซากปรักหักพังแห่งนี้!
ลู่หยวนเหลือบมองสักพัก เพียงพริบตา เขาก็หันง้าวมังกรครามแปดแดนร้างไปทางซ่งชิง!
อาณาเขตของชายชราแพ้พ่าย ส่วนอูโจ้วก็ปิดเส้นทางของปรภพเอาไว้ชั่วคราว ปราณวิญญาณจึงฉวยโอกาสเข้าเติมเต็มห้วงอากาศก่อนจะปกคลุมทั่วทั้งฟ้าดินแห่งนี้!
ปราณวิญญาณในร่างของลู่หยวนรวมตัวอย่างรวดเร็ว ขณะพลังในมือยังคงเพิ่มมากขึ้น!
ร่างของเขาปรากฏตัวตรงหน้าซ่งชิงกับชายชราในพริบตา
สายตาของเขาจับจ้องไปที่แหวนเก็บของ ในเมื่อเห็นเป็ดอยู่ตรงหน้า ลู่หยวนจะปล่อยให้หลุดมือได้อย่างไร?!
———————————