ตอนที่ 798 อู๋เสี่ยวเจี๋ยนกำลังมองหางาน
หลินเพ่ยติดต่อกับอู๋เสี่ยวเจี๋ยนสองวันต่อมา
แม้ระดับไอคิวของหล่อนจะไม่สูง แต่ระบบอีคิวก็ยังดีอยู่
มิฉะนั้น ในชีวิตที่แล้วเธอคงไม่เกลี้ยกล่อมผู้ชายหลายคน โดยเฉพาะชายหนุ่มอายุน้อยกว่าหล่อนที่มีบุคลิกเรียบง่ายได้
เหตุผลที่หล่อนเลือกติดต่ออู๋เสี่ยวเจี๋ยนในอีกสองวันต่อมา เพราะหล่อนรู้ว่าอู๋เสี่ยวเจี๋ยนหาหล่อนไม่เจอ และอาจกำลังเสียสติ
หากหล่อนปรากฏตัวในเวลานี้ อู๋เสี่ยวเจี๋ยนจะตื่นเต้นเมื่อเห็นหล่อนและกลัวที่จะสูญเสียหล่อนไปอีกครั้ง
หากหล่อนล้างสมองเขาในเวลานี้ อัตราความสำเร็จก็จะสูงที่สุด
อู๋เสี่ยวเจี๋ยนจะติดกับดักของหล่อนและขายน้อง ๆ ของเขาเพื่อแลกกับเงินเพื่อทำศัลยกรรมพลาสติก
หากปรากฏตัวเร็วเกินไป อู๋เสี่ยวเจี๋ยนจะไม่มีความรู้สึกโศกเศร้าและความสุขเสียดแทงหัวใจ
หากปรากฏตัวช้าเกินไป อู๋เสี่ยวเจี๋ยนอาจผ่านช่วงเวลาที่เจ็บปวดที่สุดไปแล้ว และหล่อนอาจกลายเป็นคนธรรมดาสามัญสำหรับเขา
ดังนั้นสองวันจึงเป็นเวลาที่ดีที่สุด
แน่นอนว่าเมื่ออู๋เสี่ยวเจี๋ยนเห็นหลินเพ่ย เขาก็หลั่งน้ำตาทั้งเสียใจและตื่นเต้น
เขากอดหลินเพ่ยแน่นในอ้อมแขนและพูดด้วยน้ำตาที่ไหลอาบใบหน้า “หลินเพ่ย คุณไปที่ไหนมาสองวันแล้ว ผมตามหาคนทุกวัน คุณรู้ไหมว่าสองวันมานี้ผมกินไม่ได้นอนไม่หลับ ผมเป็นห่วงคุณมาก”
หากในอดีตอู๋เสี่ยวเจี๋ยนต้องการกอดหลินเพ่ย หลินเพ่ยจะไม่ทำเช่นนั้นเพราะเขาไม่คู่ควร
แต่วันนี้แตกต่างจากในอดีต หลินเพ่ยถูกผู้ชายหลายคนข่มเหงไปแล้ว ดังนั้นหล่อนจึงอนุญาตให้อู๋เสี่ยวเจี๋ยนกอดหล่อน
นอกจากนี้ หล่อนยังต้องการให้อู๋เสี่ยวเจี๋ยนขายน้องชายและน้องสาวของเขาเพื่อแลกกับเงินเพื่อทำศัลยกรรมพลาสติกให้หล่อน
หล่อนต้องทำดีต่อเขาอย่างหน้าซื่อใจคดและปล่อยให้เขาลิ้มรสความหวาน เพื่อที่เขาจะได้ทำงานให้หล่อนอย่างถวายทั้งใจ
หลินเพ่ยกอดเอวของอู๋เสี่ยวเจี๋ยนและพูดอย่างอ่อนโยน “ฉันไม่ได้นัดหมายกับคุณก่อนเหรอคะว่าให้มารับฉันจากคุก?”
อู๋เสี่ยวเจี๋ยนคิดว่าหลินเพ่ยเข้าใจผิดว่าเขาไม่ได้ไปที่คุกเพื่อไปรับหล่อน
ก่อนที่หล่อนจะพูดจบ เขาก็รีบแก้ตัว “ผมไปรอรับคุณออกจากคุก วันที่ 14 เมษายน ผมออกเดินทางแต่เช้าตรู่ แต่มีบางอย่างเกิดขึ้นบนถนนจนทำให้ทุกอย่างล่าช้า พอผมไปถึงคุก คุณก็ออกไปแล้ว”
หลินเพ่ยปล่อยมือเขาและจ้องมองด้วยรแยยิ้ม “ฉันรู้ว่าคุณจะมารับฉัน ดังนั้นฟังสิ่งที่ฉันจะพูดนะคะ”
ทันทีที่หลินเพ่ยทำตัวเหมือนเด็กทารก ร่างกายของอู๋เสี่ยวเจี๋ยนก็ชาไปครึ่งหนึ่ง
หลินเพ่ยพูดต่อ “เป็นเพราะฉันนัดคุณไว้ พอฉันออกจากคุก ฉันไม่ได้ไปไหนเลย ฉันรอให้คุณมารับ แต่เฉาต้ากลับเข้ามาและบอกว่าจะพาฉันออกไป เขาจะจัดให้ฉันอยู่ในโรงแรมที่ดีที่สุด และก็พาฉันไปที่โรงแรม และเขายังสัญญากับฉันว่าให้เงินฉันทำศัลยกรรมเพื่อให้สวยเหมือนเดิม ฉันไม่อยากรับความใจดีของเขา ฉันเลยบอกเขาว่า คุณจะทำทุกอย่างเพื่อฉันแทน ฉันต้องใช้ความพยายามอย่างมากเพื่อให้เขาปล่อยฉันไป ไม่อย่างนั้นวันนี้คุณคงไม่ได้เจอฉัน”
หลินเพ่ยมองไปยังอู๋เสี่ยวเจี๋ยนด้วยแววตาแห่งความหวัง “เสี่ยวเจี๋ยน สิ่งที่เฉาต้าต้องการจะทำเพื่อฉัน คุณต้องทำให้มากกว่าเขา ฉันพูดจริง ๆ นะ”
สีหน้าของอู๋เสี่ยวเจี๋ยนแข็งทื่อ เขาเงียบไปครู่หนึ่ง จากนั้นจึงกัดฟัน “ได้ ผมขะทำเพื่อคุณ และจะทำให้ดีกว่าเฉาต้า”
หลินเพ่ยยิ้มอย่างภาคภูมิใจ
หล่อนรู้ดีว่าหากแต่งเรื่องเฉาต้าที่ซึ่งซึ่งไม่ได้ติดต่อกับหล่อนมาเป็นเวลานานขึ้น คนงี่เง่าคนนี้จะเสียสติอย่างแน่นอน
เธอแสร้งทำเป็นร่าเริง กระโดดเข้าสู่อ้อมแขนของเขาและจูบใบหน้าของอู๋เสี่ยวเจี๋ยนหลายครั้ง ทำให้หัวใจของอู๋เสี่ยวเจี๋ยนนั้นอบอุ่นเหลือหลาย
หลินเพ่ยพูดอย่างละเอียดอ่อน “ฉันรักคนไม่ผิดจริง ๆ ฉันรู้ว่าคุณคือคนที่ดีที่สุดสำหรับฉัน”
หล่อนซื้อเสื้อผ้าใหม่ให้ตัวเองด้วยเงินจำนวนเล็กน้อยทันทีที่ออกจากคุก จากนั้นก็เอ่ยยุยง
“ฉันใส่เสื้อผ้าใหม่ที่เฉาต้าซื้อให้ฉัน คุณจะซื้อเปลี่ยนให้ฉันเร็ว ๆ นี้ใช่ไหม?
ฉันไม่มีความสุขเลย ฉันไม่อยากใส่ชุดใหม่ที่เขาซื้อให้ฉัน
อู๋เสี่ยวเจี๋ยนอย่างมีเลศนัยและยอมรับอย่างช่วยไม่ได้
หลินเพ่ยกล่าวขึ้น “ว่าแต่ คุณจะหาเงินส่งฉันไปทำศัลยกรรมพลาสติกที่ฮ่องกงได้ยังไงคะ? เฉาต้าบอกว่าเขาจะหลอกให้ญาติของเขาหลายคนไปทำงานเป็นโสเภณีในหนานหยาง เพื่อที่เขาจะได้มีเงินส่งฉันไปทำศัลยกรรมพลาสติกที่ฮ่องกง แต่ฉันแนะนำเขาว่าอย่าทำเช่นนั้น มันผิดกฎหมาย แต่เขาบอกว่าครอบครัวของเขามีเรื่องบาดหมางกับญาติเหล่านั้น ด้วยการขายญาติเหล่านั้น คุณไม่เพียงสามารถแก้แค้นได้ แต่ยังได้เงินกับการทำศัลยกรรมพลาสติกของฉันด้วย ฆ่านกสองตัวด้วยหินก้อนเดียว ติดที่ฉันไม่ต้องการใช้เงินแบบนี้เพื่อทำศัลยกรรมพลาสติก เสี่ยวเจี๋ยน คุณคิดว่าฉันทำถูกไหม?”
อู๋เสี่ยวเจี๋ยนลูบไล้ใบหน้าที่บิดเบี้ยวไม่สมส่วนของหล่อน และพูดด้วยความรักใคร่ “คุณทำถูกต้องแล้ว หลินเพ่ยของผมใจดีที่สุด”
หลินเพ่ยเผยยิ้มอย่างมีเสน่ห์ แต่รอยยิ้มของหล่อนกลับดูสยดสยองอย่างมาก
เด็กที่ผ่านไปมาเห็นแล้วยังตกใจกลัวจนร้องไห้จ้า
แม่ของเด็กจ้องมองที่หลินเพ่ยพลางกล่าว “อย่าออกมาทำให้คนอื่นกลัว ดูสิ หน้าตาเธอน่าเกลียดซะจนลูกฉันตกใจหมดแล้ว!”
ผู้คนที่สัญจรผ่านไปมาหลายคนมองดูหลินเพ่ยทีละคน และหลินเพ่ยก็รู้สึกเขินอายมากจนอยากจะแทรกแผ่นดินหนี
อู๋เสี่ยวเจี๋ยนโกรธแค้นจยอยากทุบทำลายสองแม่ลูกคู่นี้
แต่คนพ่อผู้มีร่างกำยำตามมาข้างหลัง เขาจะกล้าเคลื่อนไหวได้อย่างไร?
เขาไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากพาหลินเพ่ยไปที่ร้านอาหารเล็ก ๆ ริมถนน และสั่งเกี๊ยวน้ำสองชามให้หล่อนด้วยเงินที่มี
หลินเพ่ยกินเกี๊ยวน้ำชิ้นเล็กสองชิ้นและถามอย่างฉุนเฉียว “เสี่ยวเจี๋ยน คุณยังไม่ตอบฉันเลยนะว่าคุณจะหาเงินมาทำศัลยกรรมให้ฉันยังไง?”
อู๋เสี่ยวเจี๋ยนยิ้มอย่างมั่นใจและกระซิบกับหลินเพ่ย ว่าเขาได้พบกับหญิงชราผู้ร่ำรวยชื่อฝูโช่วกุ้ย “คุณจะได้รับเงินสำหรับการทำศัลยกรรมพลาสติกจากยัยแก่คนนั้นแน่”
หลินเพ่ยเอามือปิดปากและยิ้ม “เสี่ยวเจี๋ยน คุณฉลาดมาก ~”
อู๋เสี่ยวเจี๋ยนรู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้รับคำชม
อย่างไรก็ตาม เขาบอกหลินเพ่ยว่าเขาได้สอนบทเรียนไป๋ซวงแล้ว
แม้หลินเพ่ยจะวิจารณ์ว่าเขาโหดร้ายเกินไป แต่จริง ๆ แล้วหล่อนก็มีความสุขมาก
เขามีความสุขมากเมื่อรู้ว่าสิ่งที่เขาทำนั้นสอดคล้องกับความปรารถนาของคนรัก
พวกเขาคิดว่าอู๋เสี่ยวเจี๋ยนเปลื้องผ้าไป๋ซวง เปลือยกายแล้วโยนหล่อนลงบนถนนเพื่อให้ผู้คนเฝ้าดู ซึ่งจะสร้างความเสียหายอย่างมากต่อไป๋ซวง แต่ในความเป็นจริง มันไม่ได้ส่งผลกระทบมากนัก
ไป๋ซวงเป็นโสเภณีที่มีชื่อเสียงเสื่อมเสียมานานแล้ว
หล่อนไม่อายที่จะนอนเปลือยบนถนนและถูกห้อมล้อมไปด้วยผู้คน
ตรงกันข้าม เหตุการณ์นี้ ทำให้ผู้ชายจำนวนมากหันมาอุปถัมภ์หล่อน
หลังจากที่หลินเพ่ยกินเกี๊ยวน้ำเสร็จ อู๋เสี่ยวเจี๋ยนก็พาหล่อนไปที่บ้านของฝูโช่วกุ้ย
เขาไม่มีเงิน ดังนั้นเขาจึงไม่สามารถจัดให้หลินเพ่ยเข้าพักในโรงแรมได้ เขาจึงจัดให้หล่อนพักที่บ้านของฝูโช่วกุ้ยชั่วคราว
เมื่ออู๋เสี่ยวเจี๋ยนแนะนำหลินเพ่ยให้รู้จักกับฝูโช่วกุ้ย แน่นอนว่าเขาจะไม่พูดว่าหล่อนเป็นคนรักของเขา
พวกเขาสร้างเรื่องโกหกโดยบอกว่าหลินเพ่ยเป็นญาติของเขา
หล่อนเป็นโรคประหลาดที่ใบหน้าและเดินทางมายังเมืองหลวงเพื่อรับการรักษา ทว่ากลับถูกขโมยเงินบนรถไฟ
เขาไม่มีเงินที่จะไปยังโรงพยาบาล ดังนั้นจึงพาหล่อนมาที่บ้าน โดยหวังว่าฝูโช่วกุ้ยจะอนุญาตให้หล่อนพักอาศัยสักสองสามวัน
ฝูโช่วกุ้ยไม่ใช่คนใจกว้างนัก
นางเต็มใจที่จะรับอู๋เสี่ยวเจี๋ยนมาอยู่เพราะเขาเป็นผู้ชาย
แม้ว่ารูปร่างหน้าตาของเขาจะไม่หล่อเหลานัก แต่ก็ไม่ได้น่าเกลียด
ผู้หญิงที่มีอายุมากบางคนชอบผู้ชายประเภทนี้
ฝูโช่วกุ้ยเป็นหญิงชรา นั่นเป็นเหตุผลที่นางพาอู๋เสี่ยวเจี๋ยนกลับบ้านและปล่อยให้เขากินและอยู่ร่วมกับนาง
อู๋เสี่ยวเจี๋ยนสร้างภาพด้วยการทำงานบ้านทุกอย่าง และพูดจาไพเราะ
ฝูโช่วกุ้ยพอใจกับเขามาก และรู้สึกว่าการเลี้ยงเขาไม่ได้เปล่าประโยชน์
ราวกับว่านางยังคงเป็นเก๋อเก๋อแห่งราชวงศ์ชิงที่มีขันทีน้อยอู๋เสี่ยวเจี๋ยนคอยรับใช้
แต่หล่อนไม่มีน้ำใจต่อหลินเพ่ย และปฏิเสธเพศเดียวกันโดยธรรมชาติ
ฝูโช่วกุ้ยมองไปยังหลินเพ่ยผู้มีใบหน้าอัปลักษณ์ และพูดอย่างเฉยเมย “อยู่สองหรือสามวันก็คงไม่เป็นไร แต่ไม่ควรอยู่นานกว่านี้ ฉันไม่ชอบให้คนนอกมาอยู่ในครอบครัวนานเกินไป”
การแสดงออกของอู๋เสี่ยวเจี๋ยนแปรเปลี่ยนทันที
เขาไม่ได้คาดหวังว่าฝูโช่วกุ้ยจะปล่อยให้หลินเพ่ยอยู่ที่บ้านเป็นเวลาสองหรือสามวันเท่านั้น
เขาคิดว่าหญิงชราคนนี้จะปล่อยให้หลินเพ่ยอยู่อย่างน้อยสิบวัน หรืออย่างมากก็ครึ่งเดือน
เขาวางแผนที่จะหางานในครึ่งเดือนนี้เพื่อหาเงินมาให้หลินเพ่ย และในขณะเดียวกันก็พยายามหลอกเอาเงินจากหญิงชราคนนี้ เพื่อที่หลินเพ่ยจะได้ไปทำศัลยกรรมพลาสติกที่ฮ่องกง
หากไม่ใช่เพราะความรักอันลึกซึ้งของเขาที่มีต่อหลินเพ่ย ทุกครั้งที่เขาเห็นใบหน้าที่อัปลักษณ์อย่างหาที่เปรียบมิได้ของหล่อน เขาคงอยากวิ่งหนีไปให้ไกล
ใบหน้านั้นช่างน่าขยะแขยง!
หลังอาหารเช้าวันรุ่งขึ้น อู๋เสี่ยวเจี๋ยนก็ออกไปหางานทำ
เขาได้รับประกาศนียบัตรมัธยมต้น แต่ดูถูกงานล้างจานและกวาดถนน เขาต้องการหางานที่เหมาะสม
แต่หลังจากหางานสองวันติดต่อกัน เขาก็ไม่พบงานที่เหมาะสม
ความยากในการหางานเป็นปัญหาอย่างมาก
ในทศวรรษที่ 1980 แม้ว่าจะมีการรับสมัครหน่วยต่าง ๆ แต่กรุงปักกิ่งก็ยังให้ความสำคัญกับการสรรหาคนในท้องถิ่นจากเมืองหลวง
คนต่างจังหวัดจะผ่านการคัดเลือกเฉพาะคนที่มีความสามารถเท่านั้น
แม้ว่าอู๋เสี่ยวเจี๋ยนจะได้รับใบรับรองการสำเร็จการศึกษาระดับมัธยมต้นเช่นเดียวกับหลินเพ่ย แต่เขาไม่มีพรสวรรค์ และยังเป็นมือดีในการทำร้ายผู้อื่น เป็นเรื่องปกติที่เขาจะหางานไม่ได้
เมื่ออู๋เสี่ยวเจี๋ยนกำลังจะยอมแพ้ สิ่งต่าง ๆ ก็เปลี่ยนไปในทันใด
…………………………………………………………………………………………………………………………
สารจากผู้แปล
ก็สมกันดีนะคะ ผีเน่ากับโลงผุ คอยดูเลยว่าจะดิ้นรนกันยังไง
ไหหม่า(海馬)