บทที่ 774 วัวนี่ดีออก กำยำแข็งแรง!
“อามิ…ข้าต้าเต๋อฝอ ข้าพระต้าเต๋อไร้เกศา เจ้าแน่ใจหรือว่าอย่างข้าต้องได้รับอนุญาตก่อนกลับเขาญาณ”
ต้าเต๋อถลึงตาเล็ก ๆ คาดคั้นพระภิกษุรูปนั้น
เขาหรือต้องได้รับอนุญาต อย่ามาพูดให้ขำหน่อยเลย!
ก่อนนี้มีสิ่งมีชีวิตไม่น้อยมาก่อกวนพุทธศาสนา อย่างเช่นเซียวฮุ่ย แต่ไม่ว่าครั้งไหน ล้วนเป็นเขาที่กำราบลงได้
มีผู้ใดในพุทธศาสนาไม่ตระหนักถึงความสามารถของเขาบ้าง
เขาถูกขวางทางคราวนี้ น่าแปลกยิ่งนัก!
“สามหาวนัก! เจ้ากล้าดีอย่างไรเรียกขานตนว่าพระ พระพุทธองค์อันแท้จริงเพียงหนึ่งเดียวในใต้หล้านี้คือพระอมิตาภะพุทธเจ้า พระที่เหลือล้วนต้องได้รับแต่งตั้งจากพระอมิตาภะพุทธเจ้าเท่านั้น!”
พระภิกษุรูปนั้นตวาด ทำทีราวกับไม่รู้จักต้าเต๋อจริง ๆ ไม่พอใจที่ต้าเต๋อแทนตนเสมือนเป็นพระอมิตาภะพุทธเจ้าอย่างมาก
“เดี๋ยวก่อน เหตุใดข้าถึงไม่เคยเห็นเจ้ามาก่อน”
ต้าเต๋อหรี่ตาลง รู้สึกถึงความไม่ชอบมาพากล พระภิกษุผู้มีหน้าที่อารักขาเขาญาณคล้ายจะถูกเปลี่ยน ก่อนหน้านี้เขาไม่เคยเห็นพระรูปนี้มาก่อน
และสิ่งที่ทำให้เขาตงิดใจที่สุดคือ ขอบเขตของพระภิกษุรูปนี้…สูงมาก!
ใช่ สูงมาก เป็นพระภิกษุขอบเขตมหาจักรพรรดิรูปหนึ่ง!
เรื่องนั้นเป็นไปได้อย่างไร!?
ก่อนนี้ที่เขายังอยู่ในพุทธศาสนา เคยช่วยสาวกพุทธศาสนาฝึกฝน กำลังอำนาจโดยรวมของพุทธศาสนาแข็งแกร่งขึ้นกว่าเก่าหลายเท่าก็จริง
แต่หลายเท่าที่ว่า ก็มิได้แข็งแกร่งขึ้นถึงปานนี้ แม้กระทั่งพระภิกษุผู้อารักเขาญาณยังบรรลุขอบเขตมหาจักรพรรดิแล้ว!
อย่างน้อยก่อนเขาไปก็มิใช่เช่นนี้
ก่อนเขาไป พระสังฆราชคือผู้ที่ก้าวหน้าไวที่สุดภายใต้ความช่วยเหลือของเขา กระนั้นก็ยังเพิ่งบรรลุขอบเขตจักรพรรดิเท่านั้น เป็นเพียงจักรพรรดิตนหนึ่ง
แต่บัดนี้ แม้กระทั่งพระภิกษุผู้อารักขาเขาญาณยังอยู่ในขอบเขตมหาจักรพรรดิ จะให้นิยามด้วยคำว่าประหลาดเพียงอย่างเดียวได้ที่ไหน!
มิหนำซ้ำ หลังเขาคลี่แผ่ญาณสัมผัสออกไปตรวจจับจนทั่วเขาญาณ ก็ยิ่งต้องตะลึง
เขาญาณกลับตาลปัตรไปหมด เปลี่ยนแปลงไปอย่างสิ้นเชิง!
ไม่ต้องเอ่ยถึงขอบเขตมหาจักรพรรดิเช่นนี้ ในเขาญาณมีสิ่งมีชีวิตขอบเขตเซียนอยู่จำนวนมาก มิหนำซ้ำ เขายังตรวจจับสิ่งมีชีวิตขอบเขตโกลาหลซึ่งเหนือขอบเขตเซียนขึ้นไปได้อีกด้วย!
‘มีผู้อื่นยึดครองเขาญาณโดยที่ข้าไม่รู้หรือ’
สีหน้าต้าเต๋ออึมครึมขณะคิดในใจ
ยังดีที่เขากลับมา มิฉะนั้น เขาคงไม่รู้ว่าเกิดเรื่องใหญ่ขนาดนี้ในเขาญาณ!
มีสิ่งมีชีวิตเหนือขอบเขตโกลาหลอยู่ด้วยเชียวหรือ หรือว่าเป็นยอดฝีมือที่ร่วงหล่นจากแดนบรรพโกลาหลที่เข้ามายึดครองเขาญาณ?
“อามิตาพุทธ ผู้มาเยือนย่อมเป็นแขก ในเมื่อประสกและสีกาทุกท่านต้องการเข้ามาในเขาญาณย่อมมิใช่ปัญหา เขิญเข้ามาเถิด”
เวลานั้นเอง สิ่งมีชีวิตตนหนึ่งก้าวออกจากเขาญาณ
นี่คือหมีดำตัวหนึ่ง เดินสองขาตัวตรง มือประนมกันไว้ สวมจีวรสีแดง
สีหน้าต้าเต๋อเปลี่ยนไปเล็กน้อย ก่อนนี้เขาไม่เคยเห็นหมีดำตัวนี้เช่นกัน
“ผู้มาเยือนย่อมเป็นแขก?”
จู้จื่อคลี่ยิ้มกว้าง “พี่ต้าเต๋อนี่เหลือเกิน!”
“หาใช่ความจริงไม่!”
ต้าเต๋อตะโกน “ไปเถิด เราเข้าไปดูข้างในกันหน่อย”
จากนั้น พวกเขาเข้าไปในเขาญาณ
สิ่งแวดล้อมในเขาญาณยังคงเดิม ทว่าผู้ที่อยู่ในนั้นมิคงเดิม ต้าเต๋อได้เจอสิ่งมีชีวิตระหว่างทางไม่น้อย ส่วนใหญ่แล้วล้วนเป็นผู้ที่ไม่เคยเห็นมาก่อน ก่อนหน้านี้ไม่เคยพานพบกัน
เขาใคร่รู้อย่างมาก ยอดฝีมือแดนบรรพโกลาหลที่ยึดครองเขาญาณก็บำเพ็ญธรรมด้วยหรือ?
เหตุใดสิ่งมีชีวิตเหล่านี้ต่างแต่งกายเฉกเช่นพุทธสาวก
หากมิได้บำเพ็ญธรรม ก็ไม่มีความจำเป็นสักนิด ไม่เห็นต้องให้สิ่งมีชีวิตเหล่านี้โกนหัวสวมจีวร
นอกจากนี้ เขายังเห็นสิ่งมีชีวิตแปลกหน้ามากมายสวดมนตร์ ถกกันถึงธรรมะ ราวกับเข้าร่วมพุทธศาสนาด้วยใจจริง เรื่องนี้ยิ่งน่าแปลกเข้าไปใหญ่
ยอดฝีมือแดนบรรพโกลาหลที่ยึดครองเขาญาณคิดจะเผยแผ่ธรรมะอย่างสุดความสามารถหรืออย่างไร
‘หรือว่า…ในแดนบรรพโกลาหลก็มีธรรมะเช่นกัน ความจริงแล้ว ธรรมะในอาณาจักรเรามีต้นกำเนิดจากแดนบรรพโกลาหล’
ต้าเต๋อคิดอย่างอดมิได้
หมีดำพาพวกต้าเต๋อมาอยู่เบื้องหน้าวิหารแห่งหนึ่ง เอ่ยว่าพวกต้าเต๋อพำนักที่นี่ก่อน
“พาข้าไปหาพระสังฆราช” ต้าเต๋อกล่าว
เขาสัมผัสได้ว่าพระสังฆราช พระเวทโพธิสัตว์และพระโพธิสัตว์องค์อื่นต่างอยู่ในเขาญาณ ซ้ำยังอยู่ในสภาวะดีเยี่ยม ทั้งยังยกระดับขอบเขตขึ้นไปมากเช่นกัน
“ได้”
หมีดำมิได้ปฏิเสธ อันที่จริง เขาได้รับคำสั่งจากพระสังฆราชถึงได้ยอมให้พวกต้าเต๋อเข้ามาในเขาญาณ
มิฉะนั้น พวกต้าเต๋อไม่มีทางเข้ามาได้
เขาญาณถือเป็นดินแดนศักดิ์สิทธิ์ในพุทธศาสนา ใช่ว่าใคร ๆ ต่างเข้าไปได้
“คุณชายพักกันที่นี่ก่อน ข้าขอไปดูหน่อยว่าสถานการณ์เป็นอย่างไรกันแน่!”
ต้าเต๋อบอกกับคุณชาย
“มีอะไรก็เรียกพวกเราได้”
หลี่จิ่วเต้าบอก ตระหนักได้เช่นกันว่าอาจเกิดเรื่องบางอย่างขึ้นที่นี่ มิฉะนั้น เหตุใดต้าเต๋อถึงกลับบ้านมิได้
“ได้เลยคุณชาย!”
ได้ยินคุณชายเอ่ยเช่นนี้ ต้าเต๋อไม่เหลือความกังวลใจอีก
มีคุณชายหนุนหลังเขา แล้วเขาต้องกลัวอะไร
หลังจากนั้น เขาตามหมีดำไปจากที่นี่ มาอยู่ในวิหารต้าสยง
“ไม่เจอกันนาน…”
ภายในวิหารต้าสยงมีพระภิกษุเฒ่ารูปหนึ่ง หลังเห็นต้าเต๋อก็เอ่ยกับเขายิ้ม ๆ
“เก้าประทีปหรือ?”
ต้าเต๋อมองปราดเดียวก็ดูออกว่าคนผู้นี้คือใคร แม้ว่ารูปลักษณ์ของเขามิใช่สามเณรอย่างก่อน ทว่าพลังปราณนั้นไม่เปลี่ยน
เขาหันมองหมีดำข้าง ๆ “ข้าบอกให้เจ้าพาข้าไปพบพระสังฆราช เหตุใดเจ้าถึงพาข้ามาพบเจ้าตัวนี้”
“บังอาจนัก! ท่านผู้นี้คือพระสังฆราชองค์ปัจจุบัน!”
หมีดำตวาดลั่น “นี่คือพระสังฆราชผู้ได้รับแต่งตั้งจากพระพุทธองค์โดยตรง เจ้ากล้าเสียมารยาทเช่นนี้ได้อย่างไร!”
“พระพุทธองค์? พระอมิตาภะพุทธเจ้ากลับมาแล้วหรือ”
ต้าเต๋อผงะ คิดไม่ถึงนิดหน่อย
พระอมิตาภะพุทธเจ้าอยู่ต่อในภพเซียน และภพเซียนอยู่ในสภาวะปิดผนึกสนิท ตามปกติแล้ว พระอมิตาภะพุทธเจ้าไม่สามารถออกจากภพเซียนได้
อีกอย่าง ก่อนหน้านี้เขาเคยคลี่แผ่ญาณสัมผัสตรวจจับสถานการณ์ในเขาญาณ ไม่พบว่าพระอมิตาภะพุทธเจ้าอยู่ในเขาญาณแห่งนี้
“แน่นอน!”
พระเก้าประทีปพุทธเจ้ากล่าว “เจ้าคิดไม่ถึงใช่หรือไม่ว่าพระพุทธองค์จะหวนกลับมา ซ้ำยังจัดระเบียบพุทธศาสนาอีกด้วย! ยุคสมัยที่เจ้าเป็นใหญ่ในพุทธศาสนาได้จบลงแล้ว!”
เขากล่าวต่อ “เจ้าไม่ยอมปฏิบัติตามศีลข้อห้าม ทรยศหลักธรรม กลายเป็นสาวกนอกรีต เมื่อพระพุทธองค์หวนคืนก็รับรู้ทุกอย่าง ขจัดความขบถ คืนสู่คุณธรรม ช่วยให้อาตมาได้กลับมาอยู่ในพุทธศาสนาอีกครั้ง ทั้งยังแต่งตั้งอาตมาเป็นพระสังฆราช ปกครองพุทธศาสนาอีกครั้ง!”
“เจ้าพูดเหลวไหลอะไร!”
หลังต้าเต๋อได้ยินดังนั้นก็เกิดความร้อนใจ ด่ากราดออกไป “จิตชั่วร้ายเช่นเจ้าน่ะหรือกล้าเรียกตนว่ามีคุณธรรม ก่อนนี้ข้ายึดถือความเมตตาปรานี มิได้กำจัดเจ้าให้สิ้นซาก ไว้ชีวิตเจ้า บัดนี้เจ้ากลับเอ่ยวาจาเช่นนี้ต่อหน้าข้า หน้าด้านเกินไปหรือไม่!”
“อามิตาพุทธ! พระพุทธองค์เคยตรัสว่า วางดาบลง จักบรรลุพุทธะ แม้ว่าอาตมาเคยเป็นจิตชั่วร้ายของเจ้าจริง ทว่าในใจของอาตมาฝักใฝ่ธรรมะมาตลอด! เจ้ามิได้เป็นเช่นนั้น เจ้ายึดถือแต่ตัวเจ้าเอง นี่ต่างหาก ความชั่วร้ายอย่างแท้จริง!”
พระเก้าประทีปพุทธเจ้าเอ่ย “ด้วยความวุ่นวายที่เจ้าก่อ ทำเอาพุทธศาสนาอลหม่าน ไม่เหลือเค้าความเป็นพุทธศาสนาสักนิด และเพราะเหตุนี้ พระพุทธองค์ถึงแต่งตั้งอาตมาเป็นพระสังฆราชองค์ใหม่ สั่งให้อาตมาปฏิรูปพุทธศาสนา ทำให้พุทธศาสนากลับสู่เส้นทางที่ถูกต้องอีกครั้ง”
“พระพุทธองค์อยู่ที่ใด”
ต้าเต๋อคร้านจะสนใจพระเก้าประทีปพุทธเจ้า เขาต้องการพบพระพุทธองค์ ดูว่าเกิดอะไรขึ้นกับพระพุทธองค์
ความจริงหาได้เป็นดั่งที่พระเก้าประทีปพุทธเจ้าว่า
เขาเคยพบพระพุทธองค์ในภพเซียน และได้รับการยอมรับจากพระพุทธองค์อย่างสูง พระพุทธองค์ไฉนเลยจะมองว่าเขาคือความชั่วร้ายอย่างแท้จริงตามที่พระเก้าประทีปพุทธเจ้าอ้าง!
เรื่องนี้เต็มไปด้วยพิรุธ มีปัญหามากทีเดียว
นอกจากนี้ ยังมีประเด็นสำคัญที่สุด เขาสัมผัสพลังปราณของยอดฝีมือขอบเขตโกลาหลจากในเขาญาณได้ไม่น้อย พระพุทธองค์ไฉนเลยจะกำราบคนเหล่านี้ลงได้
เป็นไปได้ที่ไหน!
พระพุทธองค์ที่เขาได้พบ อย่าว่าแต่ยอดฝีมือขอบเขตโกลาหลเลย แม้กระทั่งสิ่งมีชีวิตขอบเขตเซียนยังจัดการมิไหว มิฉะนั้น คงไม่ถูกบังคับให้อยู่ในตระกูลกู่ของภพเซียน
“พระพุทธองค์ไม่อยู่”
พระเก้าประทีปพุทธเจ้าตอบ “พระพุทธองค์มีเรื่องสำคัญต้องออกไป มิได้ประทับอยู่ในเขาญาณ ทว่าอีกไม่กี่วันพระพุทธองค์จะกลับมาเทศนาธรรมในเขาญาณ”
พูดมาถึงนี่ เขาหัวเราะออกมา
“เพียงแต่เจ้าคงไม่ได้เห็นแล้ว วันนี้อาตมาจะหลอมเจ้าให้สิ้นซาก ให้เจ้าผสานเป็นหนึ่งกับอาตมาอย่างสมบูรณ์!”
เขามองต้าเต๋อพลางกล่าว
“หลอมข้าหรือ น่าขัน เจ้ามีปัญญาหรือ”
ต้าเต๋อมองพระเก้าประทีปพุทธเจ้า “เลิกเพ้อฝันเสียที!”
“วันนี้มิเหมือนในอดีต อาตมาได้รับคำชี้แนะจากพระพุทธองค์ กลายเป็นเซียนโพธิสัตว์ตนหนึ่งแล้ว เจ้ายังคิดว่าอาตมาเป็นคนเก่าอยู่อีกหรือ”
พระเก้าประทีปพุทธเจ้าเอ่ย “มิฉะนั้น อาตมาไฉนเลยจะเป็นพระสังฆราชองค์ใหม่ได้”
“เซียนโพธิสัตว์?”
ต้าเต๋อมีสีหน้าประหลาดไป พระเก้าประทีปพุทธเจ้ามัวเสแสร้งอะไรต่อหน้าเขาอยู่!
เซียนโพธิสัตว์ตนหนึ่งเท่านั้น มิใช่เซียนสมบูรณ์ด้วยซ้ำ เพียงแค่บรรลุขอบเขตเซียนแล้วเท่านั้น
พลังขอบเขตระดับนี้เหลวเป๋วยิ่งกว่าอุจจาระเมื่ออยู่ต่อหน้าเขา
เขาในยามนี้ เป็นถึงว่าที่จักรพรรดิเซียนตนหนึ่ง จามเพียงครั้งเดียวก็ปลิดชีพพระเก้าประทีปพุทธเจ้าได้แล้ว
เพียงแต่เขามิได้เผยพลังปราณออกไปเท่านั้น พระเก้าประทีปพุทธเจ้าถึงยังมองว่าเขามีพลังเหมือนเก่า
“เป็นอันใดไป ไม่เห็นเซียนโพธิสัตว์อยู่ในสายตาหรือ อาตมารู้ว่าเจ้ามีวิถีสวรรค์คอยคุ้มครอง มียอดศาสตราบางอย่างหนุนหลัง บางทีเซียนโพธิสัตว์อาจแผ้วพานเจ้ามิได้ ทว่าวันนี้เจ้ามิอาจกำเริบสืบสาน จะต้องถูกกำจัด!”
พระเก้าประทีปพุทธเจ้าตวาด มั่นใจเต็มร้อย
พระพุทธองค์หวนคืน สำแดงอิทธิฤทธิ์ยิ่งใหญ่ เผยแผ่พุทธศาสนา รับยอดฝีมือไว้คณานับ และตัวเขาได้รับความเชื่อใจจากพระพุทธองค์ ได้รับการแต่งตั้งเป็นพระสังฆราชองค์ใหม่ ปกครองพุทธศาสนา ยอดฝีมือเหล่านี้ต่างอยู่ใต้บัญชาของเขา ไพ่ตายของต้าเต๋อหาได้มีน้ำยาในสายตาเขา
เขาพบเห็นความแข็งแกร่งของยอดฝีมือมาก เกินกว่าขอบเขตความเข้าใจของเขาไปอย่างสิ้นเชิง แม้ว่าเขาบรรลุเซียนแล้ว ก็มิอาจเข้าใจได้อยู่ดี เหนือระดับความรู้เขาไปมาก!
“วันนี้วิถีสวรรค์ที่คอยคุ้มครองเจ้าย่อมมิกล้าโผล่หัว ยอดศาสตราที่หนุนหลังเจ้าจะสูญเสียประกายทั้งหมดในวันนี้ด้วย!”
พระเก้าประทีปพุทธเจ้ามองต้าเต๋อด้วยสีหน้าแช่มชื่น บรรยายไม่ถูกว่าสะใจเปรมปรีดิ์ปานใด
เขารอวันนี้มานานเหลือเกิน!
“หยุดล้อข้าเล่นเสียที ข้าไม่มีเวลาสนใจเจ้า”
ต้าเต๋อโบกมือด้วยความรำคาญ เขารู้ว่าพระเก้าประทีปพุทธเจ้าพึ่งพิงสิ่งใด จะเป็นอะไรได้นอกจากยอดฝีมือขอบเขตโกลาหลเหล่านั้น
ทว่ายอดฝีมือโกลาหลเหล่านั้นสู้ได้จริงหรือ
คิดอะไรอยู่!
หากมีเพียงเขา ยอดฝีมือขอบเขตโกลาหลเหล่านั้นอาจเป็นอันตรายต่อเขาอย่างมาก
แต่เขามิได้อยู่ตามลำพัง…
พวกคุณชายอยู่ที่นี่กันถ้วนหน้า!
“ไปนำเนื้อวัวมา แล้วจัดอาหารที่มีเนื้อจานอื่นไว้ด้วย ข้าจะตั้งโต๊ะจัดเลี้ยง”
ต้าเต๋อบอกกับพระเก้าประทีปพุทธเจ้า
วัว!
หลังพระเก้าประทีปพุทธเจ้าได้ยิน ‘คำนี้’ ก็เดือดดาลขึ้นมาในบัดดล เด้งตัวขึ้นมาด้วยโทสะแรงกล้า
“เป็นอันใดไป ชิงชังวัวถึงเพียงนี้เชียวหรือ วัวนี่ดีออก กำยำแข็งแรง เนื้อเด้งน่าเคี้ยว!”
ต้าเต๋อเอ่ยอย่างฉงน ไม่เข้าใจจริง ๆ ว่าเหตุใดพระเก้าประทีปพุทธเจ้าถึงมีปฏิกิริยารุนแรงเช่นนี้
กำยำแข็งแรง!
หลังพระเก้าประทีปพุทธเจ้าได้ยินคำนี้ ก็แทบมีไฟปทะุออกจากตา
วัว แข็งแรง คำเหล่านี้ล้วนกระตุ้นอดีตอันเจ็บปวดของเขาขึ้นมา!