อย่างไรเสีย หลินเยวียนและหยางจงหมิงก็เป็นเพียงส่วนน้อย
นักประพันธ์เพลงคงอื่น ส่วนมากคิ้วขมวดมุ่น และตกอยู่ภายใต้แรงกดดันอันหนักอึ้ง
รายการนี้ เป็นการแข่งขันของนักประพันธ์เพลงมากกว่าการแข่งขันของนักร้อง
ถึงแม้กฎการแข่งขันนี้ออกจะวุ่นวายอยู่บ้าง
ความเร็วในการเขียนเพลงไม่ใช่เกณฑ์ในการวัดความแข็งแกร่งของพ่อเพลง
นักประพันธ์เพลงบางคนอาจต้องใช้เวลาหนึ่งถึงสองปีในการเขียนเพลงที่ดีออกมาสักเพลง
แต่คุณภาพของเพลงระดับนั้น คนอื่นอาจเขียนออกมาไม่ได้ทั้งชีวิต
แต่คำกล่าวนี้ขึ้นอยู่กับว่าพูดอย่างไร
พ่อเพลงซึ่งเขียนเพลงออกมาไม่ได้ในระยะเวลาอันสั้น ไม่ใช่เพราะฝีมืออ่อนด้อยเสมอไป
ทว่าพ่อเพลงซึ่งเขียนเพลงตามคีย์เวิร์ดออกมาได้ในเวลาอันสั้นนั้นแข็งแกร่งมาก!
คนที่นั่งอยู่ในที่นี้ล้วนเป็นอันดับต้นๆ ในอุตสาหกรรม
ไม่มีใครกล้าพ่ายแพ้ให้กับคนข้างๆ
หลังจากนี้ เป็นการจับสลากเลือกคีย์เวิร์ด
นักประพันธ์เพลงสิบคนซึ่งถูกประกาศชื่อก่อนจะจับสลากก่อน หลินเยวียนไม่ได้อยู่ในรายชื่อ
กล่าวอีกนัยหนึ่งคือ
สัปดาห์นี้ไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกับหลินเยวียน
เขาไม่ได้รับคีย์เวิร์ดของตนเองในสัปดาห์นี้ ทั้งนี้ก็เพื่อการันตีความยุติธรรมของเวลาในการสร้างสรรค์ผลงานของนักประพันธ์เพลง ดังนั้นเขาแทะเมล็ดแตงโมรอก็พอ
อิ่นตงถูกขานชื่อ
ชั่วขณะนั้น เขาผ่อนลมหายใจ
เยี่ยจือชิวซึ่งอยู่ด้านข้างตื่นเต้นขึ้นมา “อิ่นตง คุณถอนหายใจอย่างโล่งอกแบบนี้หมายความว่าไง”
“ผมทำแบบนั้นหรือ?”
“ทำสิ!”
“ไม่ได้ทำ”
“ผมได้ยิน!”
“เพราะรอบนี้ไม่มีหยางจงหมิง”
อิ่นตงซึ่งเป็นอัมพาตใบหน้าตอบ
เยี่ยจือชิวหยอกล้อ “บังเอิญจริงๆ รอบนี้ก็ไม่มีเซี่ยนอวี๋”
ผู้ชมต่างหัวเราะลั่น
มีเพียงเซี่ยนอวี๋ซึ่งมีสีหน้างุนงง ไม่รู้ว่าทุกคนหัวเราะอะไรกัน
อันที่จริงเหตุผลที่ทุกคนหัวเราะนั้นเรียบง่ายมาก
ก่อนหน้านี้อิ่นตงพ่ายแพ้ต่อเซี่ยนอวี๋ บนโลกออนไลน์ต่างบอกว่าอิ่นตงคือลูกคนรองตลอดกาลคนใหม่
ภายใต้สถานการณ์เช่นนี้ อิ่นตงจึงไม่ต้องการเผชิญหน้ากับเซี่ยนอวี๋
ที่เขาผ่อนลมหายใจเมื่อครู่ ต้องเป็นเพราะเซี่ยนอวี๋อย่างแน่นอน
ความจริงเป็นเช่นนั้น
อิ่นตงยอมเป็นคู่ต่อสู่กับหยางจงหมิง ดีกว่าเจอกับเซี่ยนอวี๋
ถ้าเกิดเซี่ยนอวี๋ข่มให้เขาเป็นอันดับที่สองอีก เช่นนั้นเขาคงจะถูกปณิธาณลูกคนรองตลอดกาลทุบหลังแทบหักอีกครั้ง
ถึงกระนั้น เขาไม่มีทางเอ่ยยอมรับง่ายๆ
หลังจากกระแอมเล็กน้อย อิ่นตงหยิบลูกบอลออกมาจากกล่องสลากหนึ่งลูก ในนั้นเขียนไว้ว่า
ดอกท้อ!
อันหงประกาศทันใด “คีย์เวิร์ดที่อาจารย์อิ่นตงคือดอกท้อครับ เพราะฉะนั้นรายการในสัปดาห์นี้ อาจารย์อิ่นตงจะต้องสร้างสรรค์ผลงานเพลงในธีมดอกท้อ”
เยี่ยจือชิวซึ่งอยู่ด้านข้าง “ดอกท้อ ดูท่ารอบนี้คุณคงต้องเขียนเพลงสไลต์โบราณแน่เลย…”
อิ่นตงพยักหน้า น่าจะมีความคิดใกล้เคียงกัน
หลังจากนั้น อู่หลงก็จับสลากบ้าง
คีย์เวิร์ดของอู่หลงคือ ‘ความสงบ’
“นับว่ารายการนี้ยังใจดีอยู่บ้าง”
นักประพันธ์เพลงหลายคนมีสีหน้าผ่อนคลายลง เห็นทีคีย์เวิร์ดเหล่านี้ของรายการไม่นับว่ายากเย็นเสียทีเดียว
เป็นอย่างที่คิด
คีย์เวิร์ดซึ่งนักประพันธ์เพลงคนอื่นๆ จับได้นั้นไม่นับว่าซับซ้อน
ตัวอย่างเช่น ‘ดนตรี’
ตัวอย่างเช่น ‘จิตสำนึก’
ส่วนมากมักจะเป็นคำศัพท์ หรือไม่ก็สำนวนภาษิต
คีย์เวิร์ดซึ่งยากที่สุดในนั้นคือ ‘ลูกโป่ง’
เซี่ยนอวี๋ในยุคแรกๆ เคยเขียนเพลงซึ่งมีชื่อเดียวกันว่า ‘ลูกโป่ง’
นั่นทำให้แนวทางในการเขียนเพลงในหัวข้อ ‘ลูกโป่ง’ ของนักประพันธ์เพลงคนหนึ่งนั้นยากขึ้นมาทันที
……
หลังจากการจับสลากสิ้นสุดลง อันหงจึงเดินนำนักประพันธ์เพลงเข้าไปยังห้องเล็ก
ตามกฎของรายการ หลายวันหลังจากนี้นักประพันธ์เพลงทั้งหลายจะพักอยู่ในศูนย์ดนตรีกลาง ทีมงานรายการจะจัดเตรียมที่พักไว้ให้
จับขังในห้องดำ!
ขังไว้จนกระทั่งพวกเขาเขียนเพลงออกมา!
ส่วนนักร้องต่างเตรียมพร้อมเสมอสำหรับการเลือกของนักประพันธ์เพลง
ในสัปดาห์นี้หลินเยวียนไม่ถูกขังอยู่ในห้องดำ สัปดาห์หน้าจึงถึงตาของเขา
ทว่าต่อให้สัปดาห์หน้าถึงตาของหลินเยวียน หลินเยวียนไม่มีทางถูกขังในห้องดำอยู่นานนัก
เพราะเขามีระบบ
เมื่อได้รับคีย์เวิร์ดมา ค่อยไปค้นหาเพลงที่เกี่ยวข้องในระบบก็ได้แล้ว
ไม่ว่าหลินเยวียนจะจับได้คีย์เวิร์ดอะไร เขาก็มั่นใจว่าจะค้นหาเพลงที่ต้องการได้อย่างรวดเร็ว
……
เมื่อสิ้นสุดการบันทึกเทปในวันนี้ หลินเยวียนจึงตรงไปยังกองถ่ายซีรีส์บันทึกการเดินทางสู่ประจิมทิศ และสังเกตการณ์การถ่ายทำอยู่สักพัก
ตัวละครของซุนหงอคง กำหนดแล้ว
นั่นก็คือเหรินเหยียน
เดิมทีทีมงานในกองถ่ายหลายคนไม่พอใจกับเหรินเหยียนในฐานะซุนหงอคง ถึงอย่างไรเหรินเหยียนก็ไม่ได้มีชื่อเสียง
ทว่าเมื่อเหรินเหยียนแสดงบทบาทซุนหงอคง ก็เอาชนะใจทุกคนได้ในทันที
ยอดเยี่ยมมาก!
ซุนหงอคงซึ่งแสดงโดยเหรินเหยียน มีทั้งความเป็นลิงและความเป็นมนุษย์ ผสมผสานกันได้อย่างลงตัว!
คราวนี้จึงไม่มีใครคิดว่าเหรินเหยียนไม่เหมาะสมกับบทซุนหงอคงอีกต่อไป
หลินเยวียนได้เห็นการแสดงของเหรินเหยียนขณะถ่ายทำอยู่สักพัก
สิ่งที่เขาคิดคือ ถ้าเกิดไม่ได้ผลขึ้นมาจริงๆ เขาจะลอบใช้นำ้ยานักแสดง
แต่ผลปรากฏว่า…
ไม่จำเป็นต้องใช้น้ำยานักแสดง
เหรินเหยียน ใช้ได้เลย!
ฝีมือยอดเยี่ยมไม่ต่างจากลิ่วเสี่ยวหลิงถง!
บอกได้เพียงว่า สมแล้วที่เป็นต้นกล้าจากตระกูลงิ้วลิง
……
ต่อจากนั้นหลายวัน ถ้าหลินเยวียนไม่มีอะไรทำ ก็มักจะไปเดินเตร็ดเตร่อยู่ในกองถ่าย
และในวันที่รายการเพลงของเราตอนใหม่ออกอากาศ จู่ๆ พี่สาวก็เสนอให้ทั้งครอบครัวไปกินหม้อไฟที่ร้านของซุนเย่าหั่วสักมื้อ
พี่สาวเป็นผู้ที่มีใจรักในหม้อไฟ
โดยเฉลี่ยแล้ว เธอจะชวนทุกคนไปกินหม้อไปที่ร้านของซุนเย่าหั่วทุกๆ ครึ่งเดือน
หลินเยวียนเอ่ย “ช่วงนี้รุ่นพี่เย่าหั่วต้องอัดรายการ”
พี่สาวบอก “พวกเราไปกินหม้อไฟ ไม่ได้ไปหาซุนเย่าหั่วสักหน่อย”
เหยาเหยาตื่นเต้น “หนูเห็นด้วย”
ผู้หญิงคล้ายกับว่าจะชื่นชอบหม้อไฟมากกว่าผู้ชาย
แม่ส่ายหน้า “พวกลูกไปกันเถอะ แม่ไม่ไป คืนนี้จะดูการแข่งขัน”
หลินเยวียนชะงัก “การแข่งขัน?”
แม่พยักหน้าด้วยสีหน้าจริงจัง “ช่วงนี้มีคนกลุ่มนึงมาแย่งเขตแดนของพวกแม่ พวกเขาเต้นเพลงลำนำพื้นเมืองสุดเจ๋งด้วย”
หลินเยวียน “…”
การเต้นรำกลางจัตุรัสมีแบตเทิลด้วย?
เห็นทีคงเป็นความบาดหมางระหว่างบรรดาแม่ๆ ในยุทธจักร
เขาช่วยอะไรไม่ได้
เมื่อเป็นเช่นนี้
หลินเยวียนจึงพาพี่สาวและน้องสาวไปยังเยี่ยนเยี่ยนหม้อไฟสาขาในละแวกใกล้บ้าน
ปัจจุบันนี้เมืองซูมีเยี่ยนเยี่ยนหม้อไฟสามสาขา
หนึ่งสาขาใกล้กับสตาร์ไลท์
หนึ่งสาขาใกล้กับมหาวิทยาลัย
อีกหนึ่งสาขาใกล้กับบ้านของหลินเยวียน
บังเอิญจริงๆ
ทุกสาขาล้วนใกล้กับสถานที่ที่หลินเยวียนมักจะไป
ในวันนี้หลินเยวียนไปยังเยี่ยนเยี่ยนหม้อไฟสาขาซึ่งใกล้บ้านที่สุด
ปรากฏว่าคนในครอบครัวเพิ่งนั่งลงได้ไม่นาน หลินเยวียนก็ได้ยินเสียงอันคุ้นเคยดังขึ้นจากด้านหน้าประตู
“รุ่นน้องมากินข้าวทั้งทีทำไมไม่บอกฉันล่วงหน้าล่ะ ฉันจะได้เตรียมอาหารพิเศษไว้ให้”
เห็นได้ชัดว่าคนที่อยู่หน้าประตูคือซุนเย่าหั่ว
พี่สาวเอ่ยด้วยความสงสัย “นายไม่ได้ไปอัดรายการหรอกเหรอ?”
สีหน้าของซุนเย่าหั่วชะงัก ตอบกลับอย่างกระดากอาย “ผมไม่ได้ยุ่งขนาดนั้น…”
พี่สาวเอ่ย “ฉันคิดว่าพวกนายยุ่งอยู่กับการอัดรายการซะอีก งั้นมานั่งกินด้วยกันสิ ไม่ต้องเกรงใจ คิดซะว่าเป็นบ้านตัวเอง”
ซุนเย่าหั่ว “…”
จู่ๆ เหยาเหยาก็เอ่ยขึ้นด้วยสีหน้าคาดหวัง “ในเมื่อพวกพี่ไม่ยุ่ง งั้นก็เชิญพวกซย่าฝานกับเจียงขุยมากินด้วยสิคะ!”
พี่สาวหยอกล้อ “ที่อยากเชิญจริงๆ ไม่ใช่ซย่าฝาน แต่เป็นเจียงขุยสินะ?”
เหยาเหยาหน้าแดง
เธอคุ้ยเคยกับซย่าฝานเป็นอย่างดี ทว่าไม่ได้รู้จักกับเจียงขุย
หลังจากได้ดูรายการราชาหน้ากากนักร้อง ต้าเหยาเหยาจึงกลายเป็นแฟนคลับของเจียงขุย และร้องขอให้หลินเยวียนแนะนำเจียงขุยให้เธอรู้จักอยู่บ่อยครั้ง แต่หลินเยวียนมักจะลืมเรื่องนี้ทุกครั้งไป
ซุนเย่าหั่วตอบอย่างกระอักกระอ่วน“เจียงขุยกับซย่าฝานไม่ว่าง…”
เหยาเหยาได้ยินดังนั้น จึงอดรู้สึกผิดหวังไม่ได้
พี่สาวสับสน “ทำไมสองคนไม่ว่าง แต่นายว่าง?”
ซุนเย่าหั่วกระอักกระอ่วนใจยิ่งกว่าเดิม “สองคนนั้นถูกนักประพันธ์เพลงในรายการเลือกไป รอบหน้าต้องร่วมงานกัน”
พี่สาวเอ่ยตามสัญชาตญาณ “ไม่มีนักประพันธ์เพลงคนไหนเลือกนาย?”
พูดจบ เธอถึงได้รู้สึกว่าคำพูดนี้ทำร้ายจิตใจอยู่บ้าง
ซุนเย่าหั่วอธิบายเสียงแผ่วเบา “สไตล์อาจไม่ค่อยเหมาะ”
บรรยากาศกระอักกระอ่วนขึ้นมา
พี่สาวพยายามทำลายความกระอักกระอ่วนนี้ จึงกล่าวกลั้วหัวเราะ
“งั้นเฉินจื้ออวี่กับพี่ห่าวอวิ้นน่าจะว่างใช่ไหม ที่จริงฉันอยากรู้จักนักร้องในราชวงศ์ปลาของพวกนายมาก ไหนๆ วันนี้มากินหม้อไฟพอดี คนเยอะจะได้คึกคัก!”
“สองคนนั้นไม่สะดวก”
ซุนเย่าหัวใกล้จะร้องไห้อยู่รอมร่อ “เฉินจื้ออวี่กับพี่ห่าวอวิ้นเย็นนี้ก็ไม่ว่างเหมือนกัน พวกเขาถูกนักประพันธ์เพลงเลือกไปแล้ว เย็นนี้ต้องไปซ้อม”
พี่สาว “…”
คนในราชวงศ์ปลาตั้งมากมายเข้าร่วมรายการเพลงของเรา แม้แต่เฉินจื้ออวี่และพี่ห่าวอวิ้นยังได้รับเลือกจากนักประพันธ์เพลง เหลือแค่คุณที่ไม่มีนักประพันธ์เพลงคนไหนอยากเลือก?
บรรยากาศยิ่งกระอักกระอ่วนขึ้นไปอีก
ในเวลานั้นเอง
จู่ๆ หลินเยวียนกับต้าเหยาเหยาก็จ้องหน้ากัน
“พี่สั่งเห็ดเข็มทองมาเหรอ?”
“ไม่ได้สั่ง!”
“พี่?”
ทั้งสองคนมองไปยังหลินเซวียนพร้อมกัน เกินไปแล้วนะ อุตส่าห์ออกมากินหม้อไป ยังบังคับให้พวกเขากินผักอีก
หลินเซวียนพยักหน้า “พี่ไม่ได้สั่ง”
ซุนเย่าหัวอ้าปากพะงาบ “เห็ดเข็มทองนี้ร้านเราให้ฟรีน่ะ…”
หลินเซวียนคลึงขมับ
สองคนนี้ช่วยทำลายความกระอักกระอ่วน
เพราะสองคนนี้ไม่รู้เลยว่าบรรยากาศในขณะนี้กระอักกระอ่วนมากแค่ไหน
“ฉันกินเอง ฉันชอบกินเห็ดเข็มทอง”
ซุนเย่าหั่วปรับสภาพอารมณ์สักพัก ก่อนจะนั่งลง และยิ้มแย้มอย่างเป็นปกติ
“สู้ๆ ~”
หลินเซวียนพูดกับซุนเย่าหั่วโดยไม่เปล่งเสียง
ซุนเย่าหั่วรู้สึกขมขื่นในใจ จนแทบสติแตก
ทว่าทันใดนั้นเอง หลินเยวียนก็พูดกับซุนเย่าหั่ว “เจอกันพรุ่งนี้ครับ”
ซุนเย่าหั่วงุนงง
หลินเยวียนลอบถอนหายใจ รุ่นพี่เย่าหั่วไม่เข้าใจมุกเห็ดเข็มทอง[1]สินะ
[1] มุกเห็ดเข็มทอง เป็นมุกตลกจากโลกออนไลน์ เนื่องจากเห็ดเข็มทองเป็นอาหารซึ่งย่อยค่อนข้างยาก และมักจะปรากฏเป็นรูปเป็นร่างในโถชักโครกในวันถัดมาหลังจากที่กินเข้าไป จึงเกิดเป็นมุกตลกว่า ‘เจอกันพรุ่งนี้’