บทที่ 776 พระอมิตาภะพุทธเจ้าหวนคืน หมายจะโปรดสรรพชีวิตทั้งปวง!
วัตถุดิบอาหาร?
หลังสัตว์อสูรจากแดนบรรพโกลาหลได้ยินคำนี้ ต่างมีสายตาดุดันขึ้น จิตสังหารพลุ่งพล่าน
หมายความว่าอย่างไร คนกลุ่มนี้คิดจะกินพวกมันหรือ?
พวกมันส่งเสียงคำรามกราดเกรี้ยวดังกึกก้อง บารมีดุดันซัดสาด บุกนำออกไปหมายจะฉีกหลี่จิ่วเต้าเป็นชิ้น ๆ
สุนัขดำแค่นเสียงเย็น ย่างออกไปทีละก้าว มันยังคงอยู่ในร่างพิการ จนเป็นที่จับตามองของสัตว์อสูรและมนุษย์คนอื่น ๆ จากแดนบรรพโกลาหล
รู้สึก…คุ้นเคยนิดหน่อย!
ม่านตาพวกเขาหรี่ลง ต่างรู้สึกว่ารูปลักษณ์สุนัขดำช่างดูคล้ายราชันสุนัขผู้เป็นตำนานในแดนบรรพโกลาหลยิ่งนัก
ทว่าพวกเขาปัดความคิดนั้นตกไปในเวลาต่อมา
ราชันสุนัขแข็งแกร่งปานใด มิฉะนั้นคงมิได้รับการกล่าวขานว่าเป็นตำนาน และผู้ที่ราชันสุนัขชิงชังที่สุดก็คือเผ่ามนุษย์ แล้วไฉนเลยจะสวามิภักดิ์ใต้บัญชาหลี่จิ่วเต้า
สุนัขดำตัวนี้ไม่มีทางเป็นราชันสุนัข
“ฆ่า!”
ยอดฝีมือเผ่ามนุษย์จากแดนบรรพโกลาหลพากันเคลื่อนไหวเช่นกัน พวกเขารู้สึกถึงอันตรายจากตัวสุนัขดำ แม้จะเป็นเรื่องเหลือเชื่อ กระนั้นพวกเขาก็มิกล้าชะล่าใจแม้แต่น้อย ลุยด้วยกำลังทั้งหมดที่มี!
ห้วงมิติสั่นไหว ดวงอาทิตย์สิ้นแสง อาณาจักรทั้งผืนสั่นคลอนรุนแรง พวกเขาออกโรงกันพร้อมเพรียง สำแดงวิชาบรรพโกลาหลออกมามากมาย หมายจะทำลายอาณาจักรทั้งผืนให้แหลกลาญ!
“โฮ่ง!”
สุนัขดำมีสีหน้าเย็นชา มิได้ลนลานแตกตื่น มันแหงนหน้าคำราม คลื่นแสงไร้ลักษณ์แผ่ขยาย อภินิหารและพลังทั้งหมดถูกลบล้างในบัดดล!
ยอดฝีมือสัตว์อสูรและเผ่ามนุษย์จากแดนบรรพโกลาหลล้มหน้าคะมำกับพื้น สภาพยับเยินเป็นที่สุด!
“ว่าอะไร!”
“นี่มัน…เป็นไปได้อย่างไร!?”
ใบหน้าพวกเขาเต็มไปด้วยความหวาดผวา อย่างไรก็เชื่อไม่ลง แม้กระทั่งราชันสุนัขในแดนบรรพโกลาหลยังมิได้ดุดันผิดมนุษย์มนาเช่นนี้ สุนัขดำตัวนี้อยู่ในขอบเขตใดกัน!?
คำรามเสียงเดียวก็ลบล้างการโจมตีและพลังทั้งหมดของพวกเขาลงได้ น่ากลัวเกินไปแล้ว! พวกเขาต่างมีเหงื่อเย็นไหลโซมออกมาตามสันหลัง สั่นสะท้านไปทั้งดวงวิญญาณ
“หา!?”
พระเก้าประทีปพุทธเจ้ากลัวจนแทบปัสสาวะราด ความรู้สึกประเดประดังเข้ามาในใจ รู้สึกแย่เป็นที่สุด
หรือว่าหนนี้เขาต้องล้มเหลวอีกแล้ว!?
ภาพตรงหน้านี้ช่างคล้ายกับประสบการณ์ในอดีตของเขาเหลือเกิน ก่อนนี้ หลายครั้งที่เขาคิดว่าเอาชนะต้าเต๋อได้แน่ แต่สุดท้ายก็เป็นเพียงความเพ้อฝันของเขา แต่ละครั้งต้องถูกต้าเต๋อกำราบอยู่ร่ำไป ลงเอยด้วยความพ่ายแพ้
สุนัขดำเดินแหงนศีรษะเข้ามา ขนสีดำของมันส่องประกายวาววาม แม้จะเดินกะเผลก ทว่าบรรดายอดฝีมือสัตว์อสูรและเผ่ามนุษย์จากแดนบรรพโกลาหลต่างรู้สึกตื่นตระหนก หวาดผวาเหลือแสน
พรวด!
มันตัดปีกของนกใหญ่ตัวนั้น นี่คือของที่คุณชายออกปากจะเอา
หากมิใช่ว่าคุณชายขอให้อย่าหนักมือไป มันจึงต้องควบคุมพลัง ด้วยเสียงคำรามเมื่อครู่ของมันก็เพียงพอจะคร่าชีวิตของเหล่าสัตว์อสูรและเผ่ามนุษย์จากแดนบรรพโกลาหลแล้ว
“ขาแพะตัวนี้ก็ไม่เลว”
หลี่จิ่วเต้าก้าวเข้ามาด้วยสายตาเป็นประกาย ตั้งใจเลือกวัตถุดิบอาหาร
สัตว์อสูรรูปร่างคล้ายแพะตัวหนึ่งถูกเขาหมายตา สุนัขดำตัดเท้าสี่ข้างของมันทันที
จากนั้น หลี่จิ่วเต้าเลือกอีกสามสี่อย่าง สุนัขดำลงมือฉะฉาน ตัดทุกสิ่งที่คุณชายต้องการลงมาหมด
“อามิตาพุทธ! ที่พวกเจ้าทำอยู่เป็นบาปหนา!”
“พวกเจ้าฆ่าพวกเราจนเกลี้ยงได้ แต่หัวใจของเราจะติดตามอยู่ข้างกายพระอมิตาภะพุทธเจ้าเสมอ พวกเจ้ามิอาจลบล้างพลังศรัทธาของพวกเรา!”
สมาชิกพุทธศาสนามากมายนั่งขัดสมาธิ ปากบริกรรมพระธรรม สีหน้าเลื่อมใสเป็นที่สุด
หลี่จิ่วเต้าขมวดคิ้ว นี่เขากำลังมองอะไรอยู่?
ในสายตาของเขา สมาชิกพุทธศาสนาเหล่านี้ต่างหากคือ ‘มารร้าย’ อย่างแท้จริง ไม่เหลือความรู้สึก แยกแยะผิดชอบชั่วดีไม่ได้ รู้เพียงรับฟังคำสั่ง
อย่างเช่นก่อนหน้านี้ที่พระเก้าประทีปพุทธเจ้าเอ่ยว่าต้าเต๋อคือความชั่วร้าย ต้องกำจัดให้สิ้นซาก สมาชิกพุทธศาสนาเหล่านี้ต่างร่ำร้องว่าจะกำจัดต้าเต๋อ ไร้ซึ่งการวิเคราะห์แยกแยะของตัวเอง
ธรรมะจริง ๆ ไม่มีทางเป็นเช่นนี้
การบำเพ็ญธรรมด้วยความเลื่อมใสก็สามารถรักษาหัวใจจริงแท้ของตน แยกแยะผิดชอบชั่วดีได้ มิใช่การเชื่อฟังเพียงลูกเดียว
“มีความศรัทธาในใจถือเป็นเรื่องดี แต่ไม่ควรสูญเสียหัวใจจริงแท้ของตนเพราะความศรัทธา จนถูกความศรัทธาควบคุม! ไม่ว่าเมื่อไร ไม่ว่าที่ไหน จะต้องปฏิบัติตามหัวใจจริงแท้ของตน แยกแยะความดีความชั่วให้ออก!”
หลี่จิ่วเต้าเรียกก้านหลิวก้านหนึ่งออกมา ก่อนจะโยนออกไป จากนั้น ก้านหลิวก้านนั้นลอยขึ้นไปบนฟ้า แสงสว่างสาดส่องลงไปเป็นผืน ราวกับมีฝนแสงโปรยปราย
นี่คือก้านหลิวชะล้าง มีพลังแห่งการชะล้าง ช่วยชะล้างวิญญาณให้หัวใจจริงแท้กลับมา
เขาเคยใช้ก้านหลิวท่อนนี้ชะล้างความมืดมิดในใจสุนัขดำ ช่วยให้สุนัขดำได้หัวใจจริงแท้กลับมา
แสงสว่างมากมายสาดส่องลงมา พร้อมด้วยพลังพิเศษบางอย่าง พุทธสาวกทั้งหมดในที่นี้สีหน้าเปลี่ยนกันหมด สายตาพวกเขาที่เคยไร้ชีวิตชีวากลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้ง
“เหตุใด…พวกเราถึงมาอยู่ที่นี่!?”
“ช่วงที่ผ่านมาข้าทรมานเหลือเกิน! ต้องนั่งสวดมนต์ทุกวี่ทุกวัน ซ้ำยังต้องศรัทธาในพระอมิตาภะพุทธเจ้า ช่างน่าเจ็บปวดยิ่งนัก!”
สิ่งมีชีวิตไม่น้อยพากันปริปาก แต่เดิมพวกเขามิได้ศรัทธาในพระพุทธอยู่แล้ว ต่อมาถูกพระอมิตาภะพุทธเจ้ากำราบ ได้ฟังเทศนาบทหนึ่ง แล้วถึงก้าวสู่เส้นทางบำเพ็ญธรรม
อันที่จริง พวกเขามิได้ถูกขู่เข็ญให้บำเพ็ญธรรม
หลักธรรมนั้นพิเศษมาก พวกเขาก็ไม่เข้าใจในสถานการณ์จริง ๆ หลังได้ยินพระอมิตาภะพุทธเจ้าเทศนาธรรม พวกเขาก็ก้าวสู่เส้นทางบำเพ็ญธรรมอย่างอดมิได้
และในระหว่างการบำเพ็ญธรรม พวกเขาเริ่มสูญเสียตัวเองไปโดยไม่รู้ตัว ไม่เหลือความรู้สึก บูชาแต่เพียงพระอมิตาภะพุทธเจ้า
คิดจะลบผลกระทบนี้และตื่นขึ้นจากหลักธรรมหาใช่เรื่องง่าย แม้แต่สุนัขดำยังห่างชั้นจากก้าวนั้นอีกไกล
หากมิใช่หลี่จิ่วเต้าลงมือ พวกเขาไม่มีทางคืนสภาพกลับมาแน่นอน
“น่ากลัวเหลือเกิน นั่นคือพระอมิตาภะพุทธเจ้าจริง ๆ หรือ”
พระสังฆราชได้สติก็ผวาในใจเป็นที่สุด พระอมิตาภะพุทธเจ้าที่ปรากฏตัวในครานี้เหนือความคาดหมายของเขาไปมาก หลักธรรมที่ใช้เทศนาก็ต่างจากที่เขาเคยบำเพ็ญสุด ๆ
หลักธรรมเช่นนี้ เมื่อบำเพ็ญจนถึงท้ายที่สุดจะกลายเป็น ‘ความบริสุทธิ์’ ถูกลบล้างจิตใต้สำนึกไปอย่างสมบูรณ์!
ทว่าหลักธรรมที่เขาเคยบำเพ็ญก่อนหน้านี้มิใช่เช่นนั้น จิตใต้สำนึกของตนจะยังคงอยู่ ยังรู้จักปฏิเสธ รู้จักตั้งข้อกังขา
พระเวทโพธิสัตว์และพระโพธิสัตว์องค์อื่นต่างนึกกลัวขึ้นมา จุดประสงค์ของหลักธรรมมิใช่เช่นนั้นแน่นอน เกิดอันใดขึ้นกับพระอมิตาภะพุทธเจ้าที่หวนคืนมาครานี้ เหตุใดถึงเปลี่ยนแปลงไปเช่นนี้ ต่างกันเกินไปแล้ว!
พระเก้าประทีปพุทธเจ้าตัวสั่นระริก เขาต่างจากสิ่งมีชีวิตตนอื่น เขามิได้เปลี่ยนแปลงไปอย่างใด
เขาไม่รู้จักต่อต้านพระอมิตาภะพุทธเจ้าที่หวนคืนมาเลยสักนิด ยอมสวามิภักดิ์ทั้งใจ คล้ายว่าพระอมิตาภะพุทธเจ้าเล็งเห็นข้อนี้ของเขา ถึงได้แต่งตั้งเขาเป็นพระสังฆราชองค์ใหม่ ความรู้สึกนึกคิดทั้งหมดของเขายังอยู่ มิได้มีพลังหลักธรรมพิเศษในตัว
สิ่งที่ก้านหลิวชะล้างขจัดออกไปคือพลังหลักธรรมพิเศษ ในกายเขาไม่มี จึงมิได้เปลี่ยนแปลงไป
ต้าเต๋อมองเรื่องนี้ออกเช่นกัน
เขาก้าวไปอยู่ตรงหน้าพระเก้าประทีปพุทธเจ้าพร้อมกล่าว “มนุษย์เราต้องรู้จักเอาชนะความกลัว อีกอย่าง วัวออกจะยอดเยี่ยม เหตุใดเจ้าต้องต่อต้านวัวถึงปานนั้นด้วย”
“มิใช่แค่วัว เหมือนว่าเขามีท่าทีเช่นนี้กับหมูด้วย ทั้งยังเคยออกคำสั่งให้เชือดหมูทุกตัว!”
พระสังฆราชเดินเข้ามาพลางบอก
“เป็นเช่นนี้นี่เอง”
ต้าเต๋อเอ่ยตอบพระสังฆราช “ต้องรบกวนพระสังฆราชแล้ว ช่วยหาวัวและหมูมาอย่างละตัว แล้วให้พวกมันอยู่กับเก้าประทีปทุกวี่วัน จวบจนเก้าประทีปไม่เหลือความหวาดกลัวและความคิดอื่นอีก”
“อย่านะ!”
พระเก้าประทีปพุทธเจ้าหน้าเขียว ให้เขาอยู่กับวัวกับหมู เขายอมตายเสียดีกว่า!
ได้ยินคำว่าวัวและหมูแล้ว เขารู้สึกปวดก้นขึ้นมาราง ๆ เรื่องราวในอดีตอนาถเกินกว่าจะย้อนรำลึก
“เช่นนี้เรียกว่าจัดยาให้สอดคล้องกับอาการ ที่ทำไปก็เพื่อประโยชน์ของเจ้า!”
ต้าเต๋อกล่าว ลงมือสะกดพลังในตัวพระเก้าประทีปพุทธเจ้า ขอให้พระสังฆราชพาตัวออกไป
“หากพวกเจ้าต้องการอยู่ในพุทธศาสนาของเราต่อย่อมอยู่ต่อได้ แต่หากไม่ต้องการ ข้าจะไม่บังคับพวกเจ้า การบำเพ็ญธรรมนั้นอยู่ที่วาสนา เหนือกว่านั้นคืออยู่ที่จิตใจ ไม่ว่าจะฝึกตนด้วยทางใด ก็เป็นสิทธิที่สิ่งมีชีวิตทุกตนพึงมี พวกเราจะไม่บังคับจิตใจผู้ใด”
ต้าเต๋อมองเหล่าสิ่งมีชีวิตที่เข้าร่วมพุทธศาสนาในภายหลังขณะกล่าว
สิ่งมีชีวิตเหล่านี้มิได้ต้องการบำเพ็ญธรรมอย่างแท้จริง เพียงแต่ถูกหลักธรรมเทศนาของพระอมิตาภะพุทธเจ้าล้างสมองเท่านั้น ถึงได้เลือกเข้าร่วมพุทธศาสนา
“ข้าไม่อยากเป็นคนหัวโล้น! มันน่าเกลียดเกินไป!”
“ลาก่อน!”
หลังได้ยินคำกล่าวของต้าเต๋อ สิ่งมีชีวิตจำนวนมากไปจากเขาญาณทันที
หลักธรรมนั้นพิศวงเกินไป มีโอกาสเกิดปัญหาสูง พวกเขาไม่ต้องการเกี่ยวพันกับหลักธรรมจากใจจริง
สิ่งมีชีวิตจากแดนบรรพโกลาหลเหล่านั้นก็พากันเอ่ย ‘คำลา’ แล้วรีบร้อนไปจากที่นี่
ให้ตายสิ ไม่หนีแล้วให้รอลงหม้อหรืออย่างไร
“ไยพวกเจ้าต้องรีบหนีไวปานนั้นด้วย! ข้าไม่กินมนุษย์! ผู้ที่อยู่ในรูปลักษณ์มนุษย์ข้าก็ไม่กิน!”
หลี่จิ่วเต้าเอ่ยอย่างจนใจ
บรรดาสัตว์อสูรหนีไปอย่างรวดเร็วนั้นเขายังพอเข้าใจได้ แต่พวกมนุษย์กลับหนีเร็วยิ่งกว่าสัตว์อสูร เพราะเหตุใดกันเล่า!
“ทำได้ไม่เลว วันหน้า เจ้าจะกลายเป็นพระพุทธอย่างแท้จริง!”
ชายหนุ่มก้าวไปอยู่ข้างกายต้าเต๋อและตบไหล่เขาเบา ๆ พึงพอใจในวิธีการเมื่อครู่ของต้าเต๋อมาก แม้ต้าเต๋อจะยังเล็ก กระนั้นมีความเป็นผู้ใหญ่ในหลาย ๆ ด้าน
“ขอบคุณคุณชายที่ชม!”
ต้าเต๋อลูบหัวโล้นน้อย ๆ นั่นพลางเอ่ยตอบแย้มยิ้ม
“ไปเถิด ไม่ต้องให้เจ้าคอยรับรองแล้ว ขืนให้เจ้ารับรอง น่ากลัวว่าพวกเราคงได้กินแต่อาหารเจ ได้ดื่มแต่น้ำเปล่า”
หลี่จิ่วเต้าเอ่ยยิ้ม ๆ
ที่นี่คือพุทธศาสนา ต้าเต๋อจะรับรองด้วยสิ่งใดกันเล่า พวกเขากลับไปยังที่พำนัก เตรียมทำปิ้งย่าง
หลังกลิ่นหอมจากเนื้อย่างโชยชายออกมา เสียงท่องพระนามอามิตาพุทธดังสะท้อนไปทั่วเขาญาณ รวมถึงเสียงกลืนน้ำลายอย่างบ้าคลั่งด้วย
พระภิกษุในเขาญาณเคยได้กลิ่นหอมเนื้อย่างขนาดนี้ที่ไหน พวกเขาต่างสะกดกลั้นอย่างสุดฤทธิ์ บริกรรมพระธรรม เบนความสนใจออกไป
“ไม่ต้องอดทนหรอก การบำเพ็ญธรรมนั้นบำเพ็ญที่ใด มิใช่ที่ศีลข้อห้าม!”
ต้าเต๋อลากพระสังฆราช พระเวทโพธิสัตว์ และพระโพธิสัตว์องค์อื่น ๆ มาด้วย เริ่มแรก พระสังฆราช พระเวทโพธิสัตว์ และพระโพธิสัตว์องค์อื่น ๆ ต่อต้านเป็นที่สุด แต่หลังจากพวกเขาได้กินเนื้อเข้าไปชิ้นหนึ่ง ดื่มสุราเข้าไปหนึ่งอึก ก็ปลดปล่อยตัวเองอย่างสิ้นเชิง สวาปามอย่างดุเดือด ประหนึ่งว่าเป็นวิญญาณตายอดตายอยากกลับชาติมาเกิด
หลายวันผ่านไป จู่ ๆ แสงพุทธะก็ส่องสว่างในเขาญาณ เสียงพุทธะดังกังวานอยู่ในปฐพี พระอมิตาภะพุทธเจ้ากลับมาแล้ว!
เขานั่งขัดสมาธิอยู่กลางอากาศ เปล่งประกายสีทองอร่าม ใต้ที่นั่งมีบงกชทองรองอยู่ ยิ่งใหญ่อลังการ ศักดิ์สิทธิ์เหลือแสน มองเห็นกันทั้งใต้หล้า!
“อามิตาพุทธ!”
เขาท่องพระนาม ก่อนจะเริ่มเทศนาธรรม แสงพุทธะสาดส่องทาบทับ เสียงบริกรรมบทสวดดังกึกก้องไปยังทุกระเบียดนิ้วในอาณาจักรนี้
เขาต้องการโปรดสรรพชีวิตทั้งปวง ให้สรรพชีวิตทั้งหลายเข้าร่วมพุทธศาสนา เลื่อมใสต่อเขา
ชั่วพริบตานั้น สิ่งมีชีวิตมากมายในอาณาจักรนี้ต่างหยุดทุกอย่างที่ทำอยู่ สองมือประนมอย่างอดมิได้ บริกรรมบทสวดตาม
ภาพนี้น่าสะท้านอย่างยิ่งยวด!
“สรรพชีวิตล้วนต้องเข้าร่วมพุทธศาสนา มิมีผู้ใดได้รับข้อยกเว้น ทั้งหมดจักต้องบูชาอาตมาเป็นนาย!”
พระอมิตาภะพุทธเจ้ามีความมั่นใจเต็มเปี่ยม