ตอนที่ 803 ปฏิเสธที่จะลดราคา
แม้ว่าจะมีชายฉกรรจ์เฝ้าดูหลินเพ่ยอย่างลับ ๆ
แต่เมื่อหลินเพ่ยและอู๋เสี่ยวเจี๋ยนสมรู้ร่วมคิดกำจัดหลินม่าย เขาก็ออกจากเจียงเฉิงไปที่ชนบทเพื่อสอบถามเกี่ยวกับที่อยู่ของเฉาต้า ดังนั้นเขาจึงไม่ทราบแผนการของคู่รักมหาประลัยคู่นี้
เหมาฉงไม่รู้ และยิ่งเป็นไปไม่ได้ที่หลินม่ายจะรู้
ทุกวันนี้เธองานยุ่งมาก และธุรกิจถุงน่องของเธอก็เป็นผู้นำในทุกย่างก้าว เธอทำเงินได้อย่างรวดเร็วในเมืองขนาดเล็กและขนาดกลางทางตอนเหนือและตอนใต้
ต่อให้มีผู้ผลิตรายอื่นทำตามและขายถุงน่องในเมืองขนาดเล็กและขนาดกลางทางตอนเหนือและตอนใต้ เธอก็ยังคงทำเงินได้มากมายและได้รับความนิยม
เมื่อมีผู้ผลิตถุงน่องขายมากขึ้น การแข่งขันก็จะสูงขึ้น
ถุงน่องของหลินม่ายขายคู่ละห้าหยวน แต่ถุงน่องยี่ห้ออื่นขายเพียงสามหยวน ทำให้ยอดขายถุงน่องเจี่ยเม่ยลดลง
ผู้จัดการซุนเสนอว่า หลินม่ายควรลดเหลือชิ้นละสามหยวน แต่เธอปฏิเสธ
แทนที่จะต่อสู้กับสงครามราคา หลินม่ายชอบที่จะขายคุณภาพของผลิตภัณฑ์ โดยให้เป็นสินค้าระดับกลางถึงระดับไฮเอนด์
เธอชำระบัญชีกับผู้จัดการซุน
แม้ว่าถุงน่องยี่ห้ออื่นจะตีตลาดด้วยราคาต่ำจนทำให้ยอดขายถุงน่องของเจี่ยเม่ยลดลง แต่กำไรที่เกิดจากปริมาณการขายในปัจจุบันยังคงมีมาก ซึ่งเป็นกำไรที่เกิดจากผลประโยชน์ของแบรนด์
หากราคาลดลง อัตราส่วนการกำไรจะลดลงมากเกินไป และเงินหมุนเวียนก็จะลดน้อยลงไปด้วย
เธอรู้สึกว่าไม่จำเป็นต้องลดราคาสินค้าระดับกลางถึงระดับไฮเอนด์เพื่อให้มียอดขายดี
เธอต้องใช้ความพยายามอย่างมากในการสร้างแบรนด์จากสาธารณะไปสู่ระดับไฮเอนด์ แต่มันง่ายมากที่จะสร้างจากระดับไฮเอนด์สู่สาธารณะ
ผู้จัดการซุนไม่คัดค้าน
หลินม่ายกำลังเดินอยู่บนถนน เธอสวมถุงน่องสีดำซึ่งไม่เป็นที่ยอมรับของผู้หญิงหลายคนในยุคนี้ เมื่อเห็นว่าบนถนนเต็มไปด้วยผู้หญิงทันสมัยที่สวมถุงน่องสีเนื้อ เธอค่อนข้างรู้สึกสะเทือนใจ
เมื่อก่อนตอนที่เธอเพิ่งเกิดใหม่ ถุงน่องขายได้เฉพาะชาวต่างชาติเท่านั้น และราคาก็แพงมาก คู่ละห้าหยวน
สมัยนั้นค่าจ้างไม่สูงเท่าปัจจุบัน
ค่าจ้างเพิ่มขึ้นค่อนข้างเร็วในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา และเงินห้าหยวนในปัจจุบันมีค่าน้อยกว่าในปี 1983 มาก
แต่เนื่องจากถุงน่องไม่ใช่สินค้าฟุ่มเฟือย ถุงน่องที่เพิ่งออกสู่ตลาดในจีนแผ่นดินใหญ่ก็ขายได้ในราคาเพียงห้าหยวนเท่านั้น และเธอก็ไม่ได้กำไรมหาศาลจากการขายถุงน่องในตอนนั้นอีกต่อไป
อาจกล่าวได้ว่า การพัฒนานั้นรวดเร็วเกินไป
หลินม่ายคว้าโอกาสนี้ส่งมอบธุรกิจถุงน่องให้กับผู้จัดการทั่วไปซุนเพื่อให้เธอได้มีเวลาพักผ่อน
เธอเองก็เรียนและยุ่งกับงาน จะไม่ให้รู้สึกเหนื่อยได้อย่างไร?
ทว่าก่อนที่หลินม่ายจะได้พักหายใจ คณะกรรมการจัดงานงานแฟชั่นนานาชาติแห่งฮ่องกงก็ส่งจดหมายเชิญไปยังห้องเสื้อจิ่นซิ่ว
คณะกรรมการจัดงานเทศกาลแฟชั่นนานาชาติฮ่องกงหวังว่าเถาจืออวิ๋น หัวหน้านักออกแบบของห้องเสื้อจิ่นซิ่วจะนำผลงานเข้าร่วมในเทศกาลแฟชั่นของพวกเขา
ในวันที่ได้รับคำเชิญ หลินม่ายรู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่ง
เธอไม่เคยคาดคิดว่าการประกวดนางแบบแห่งห้องเสื้อจิ่นซิ่วที่ตัวเองเป็นเจ้าภาพจะดึงดูดความสนใจของอุตสาหกรรมแฟชั่นฮ่องกงจนมีจดหมายเชิญส่งถึงเธอได้
นี่เป็นโอกาสดีที่ห้องเสื้อจิ่นซิ่วจะได้ไปต่างประเทศ
ฮ่องกงเป็นมหานครระดับนานาชาติที่ดึงดูดความสนใจจากทั่วโลก
การปรากฏตัวของห้องเสื้อจิ่นซิ่วบนเวทีใหญ่ของมหานครแห่งนี้จะดึงดูดความสนใจจากแวดวงแฟชั่นในต่างประเทศได้มากขึ้น
และจะดียิ่งขึ้นหากเถาจืออวิ๋นได้รับรางวัลจากเทศกาลแฟชั่นฮ่องกง
ด้วยคะแนนความนิยมของหล่อน หล่อนสามารถปรับปรุงรูปแบบเสื้อผ้าของจินซิ่วได้
เทศกาลแฟชั่นนานาชาติฮ่องกงจะจัดขึ้นที่ฮ่องกงสเตเดียมในวันที่ 5 พฤษภาคม
ตอนนี้เป็นช่วงสิ้นเดือนเมษายนแล้ว เหลือเวลาอีกไม่มากสำหรับเถาจืออวิ๋น
แม้จะสามารถนำผลงานก่อนหน้านี้ของเถาจืออวิ๋นไปร่วมงานแฟชั่นนานาชาติแห่งฮ่องกงได้ แต่ฤดูร้อนแห่งเดือนพฤษภาคมกระจายเข้าสู่เมืองทางตอนใต้หลายแห่งแล้ว และฮ่องกงก็เข้าสู่ฤดูร้อนเร็วกว่าปกติเช่นเดียวกัน
หลินม่ายต้องการคว้าโอกาสนี้เพื่อเปิดตัวเสื้อผ้าฤดูร้อน
บางทีตัวแทนจำหน่ายในฮ่องกงอาจสนใจและสั่งซื้อกับเธอ นี่ก็เท่ากับว่าเธอได้โอกาสนี้เปิดตลาดต่างประเทศไม่ใช่เหรอ?
หากเธอนำเสื้อผ้าฤดูใบไม้ผลิและฤดูใบไม้ร่วงมาที่เทศกาลแฟชั่นนานาชาติฮ่องกง ก็จะไม่มีตัวแทนจำหน่ายรายใดสั่งซื้อไม่ว่ารูปแบบเสื้อผ้านั้นจะดีแค่ไหน
อุตสาหกรรมเสื้อผ้าเป็นเช่นนี้ ถือของใหม่และเหยียบย่ำของเก่า
แม้จะเป็นเสื้อผ้าของฤดูกาลที่เพิ่งผ่านไป แต่ก็จะไม่มีตัวแทนขายคนใดสนใจสั่งซื้อ
เถาจืออวิ๋นอยู่ภายใต้แรงกดดันอย่างมากในการออกแบบเสื้อผ้าสำหรับฤดูร้อนหลายสิบชุด
เพื่อให้ได้รับแรงบันดาลใจ หลินม่ายได้วาดภาพและส่งแฟกซ์แบบเสื้อผ้าแฟชั่นฤดูร้อนมากมายของเธอจากโดยมีแรงบันดาลใจจากแฟชั่นแดนผักดองเผ็ดและประเทศเกาะในยุคหลัง
แม้ว่าหลินม่ายจะไม่ชอบสองประเทศนี้มากนัก
โดยเฉพาะประเทศเกาะที่เคยรุกรานบ้านเกิดเมืองนอนของเธอมาก่อน
แม้ว่าพวกเขาจะยอมจำนน แต่พวกเขาก็ไม่เคยสารภาพต่อความผิดที่ตนก่อ
ส่วนแดนผักดองเผ็ดก็พยายามขโมยวัฒนธรรมมาลอกเลียนแบบหรือสร้างใหม่เป็นของตัวเอง
หลินม่ายไม่สามารถหาข้อดีของสองประเทศนี้ได้
แต่เสื้อผ้าที่ออกแบบโดยประเทศเหล่านี้ดูดีอย่างมาก ในชีวิตก่อนหลินม่ายชอบซื้อเสื้อผ้าผู้หญิงจากสองประเทศนี้
นอกจากการรับมือกับเทศกาลแฟชั่นนานาชาติฮ่องกงแล้ว หลินม่ายยังต้องติดตามโครงการของชุมชนครอบครัวธนาคารด้วย
ที่ดินของชุมชนครอบครัวของธนาคารที่หลินม่ายซื้อไว้มีทำเลที่ดี แต่ที่น่าตกใจคือมีหมู่บ้านรวมอยู่ในที่ดินด้วย
โชคดีที่คณะกรรมการหมู่บ้านและชาวบ้านเหล่านั้นไม่ได้เลวร้าย และพวกเขายังไม่ได้ทำให้หลินม่ายลำบาก
ชาวบ้านยังตกลงที่จะชดเชยการรื้อถอนในอัตราส่วนหนึ่งต่อหนึ่ง
ในสัญญาที่ลงนามโดยหลินม่ายและธนาคารกล่าวว่าจะเริ่มต้นสร้างบ้านในปีหน้า นั่นคือในวันเทศกาลปีใหม่
ธนาคารต้องการจัดสรรบ้านให้กับพนักงานก่อนสิ้นปี เพื่อให้พวกเขามีความสุขในเทศกาลปีใหม่
ตอนนี้ใกล้จะถึงเดือนพฤษภาคมแล้ว และเทศกาลปีใหม่ในปีหน้าจะตรงกับวันที่ 20 กุมภาพันธ์ เหลือเวลาอีกเพียงเก้าเดือนเท่านั้น
เพื่อให้โครงการนี้สำเร็จเร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้โดยที่ยังมั่นใจในคุณภาพ หลินม่ายจึงจำเป็นต้องจ้างแรงงานต่างถิ่นจำนวนมาก
เดิมทีเจียวอิงวางแผนที่จะรับสมัครผู้รับเหมารายใหญ่สองหรือสามคนในท้องถิ่น แต่ตอนนี้ดูเหมือนว่าจะไม่เพียงพอ
ว่ากันว่าต้องจ้างผู้รับเหมารายใหญ่อย่างน้อยหกราย
เมื่อข่าวแพร่ออกไปก็มีผู้รับเหมาหลายคนมาแนะนำตัว
แม้ว่าผู้รับเหมาเหล่านี้จะถูกเจียวอิงเรียกว่าผู้รับเหมาท้องถิ่น แต่แท้จริงแล้วพวกเขาเป็นชาวต่างชาติ และพวกเขาประจำการอยู่ในเมืองหลวงเพื่อรับโครงการเท่านั้น
แม้ว่าเจียวอิงจะรับผิดชอบโดยตรง แต่หลินม่ายก็ยังมาเยี่ยมชมสถานที่รับสมัคร
เธอเห็นใบหน้าที่คุ้นเคยของหลายคนที่นั่น และผู้รับเหมาหลายคนคือคนที่หลินม่ายเคยเห็นในสถานที่ประมูลของธนาคาร
ผู้รับเหมาเหล่านั้นคิดว่าหลินม่ายมาที่นี่เพื่อขโมยธุรกิจจากพวกเขา จึงไม่มีใครสนใจเธอ และเมื่อเห็นว่าเธอยังเป็นเด็กสาวตัวเล็ก ๆ พวกเขาจึงกีดกันเธอ
เมื่อหลินม่ายและเจียวอิงนั่งด้วยกัน เหล่าผู้รับเหมาก็รู้ทันทีว่าเธอเป็นเจ้าของว่านถงกรุ๊ป และพวกเขาทั้งหมดก็ตกตะลึง
พวกเขารู้สึกเสียใจเป็นอย่างมากที่เคยเพิกเฉยและปฏิบัติไม่ดีต่อเธอก่อนหน้านี้
พวกบริษัทรับเหมาพวกนั้นไม่มีทีมงานจริงจังด้วยซ้ำ
พวกเขาต่างคุยโวโอ้อวดว่าแต่ละทีมมีจำนวนลูกน้องกี่คน
พวกเขาได้ทำโครงการใหญ่อะไรบ้าง และแรงงานต่างถิ่นทุกคนของพวกเขาก็มีประสบการณ์โชกโชน ดังนั้นหลินม่ายจึงเกือบจะเชื่อเรื่องนั้น
หลินม่ายไม่ได้แทรกแซงและไม่ได้เตือนเจียวอิงให้ปฏิเสธการว่าจ้างผู้รับเหมาเหล่านี้ เธอเพียงนั่งดูอย่างเงียบงัน
…………………………………………………………………………………………………………………………
สารจากผู้แปล
ต้องทำใจหน่อยน่ะค่ะว่านิยายจีนมันก็จะมีแซะเพื่อนบ้านบ้าง จะพยายามแปลให้ซอฟต์ที่สุดนะคะ เพราะประโยคต้นฉบับคือแรงหน้าชาอยู่
ม่ายจื่อมาขนาดนี้ จะมีใครกล้าซิกแซกเสนอตัวเป็นผู้รับเหมาไหม
ไหหม่า(海馬)