บทที่ 780 อำมหิตใช้ได้ ไม่ธรรมดาเลย!
“ผู้อาวุโสเซินออกโรง พวกเจ้าต้องถูกสังหารลงทั้งหมด!”
เทียนลู่หัวเราะลั่น มั่นใจในตัวผู้อาวุโสเซินมาก นี่คือผู้อาวุโสผู้อยู่ในขอบเขตลอยชายขั้นเก้าตอนปลายท่านหนึ่ง เป็นยอดฝีมืออันดับต้น ๆ ในตระกูลเทียนของพวกเขา ทรงพลังแกร่งกล้าแน่นอน
ทว่าลมหายใจต่อมา รอยยิ้มกว้างบนใบหน้าเขาก็ต้องแข็งทื่อไป กลายเป็นสีหน้าเหลือเชื่อ
พรวด!
ทวนยาวที่ผู้อาวุโสเซินเรียกออกมาแทงทะลุหน้าอกของเขา!
“ผู้อาวุโสเซิน ท่านมือลื่นหรืออย่างไร!?”
เขาหันกลับไปถามด้วยสีหน้าตะลึง นี่มันเรื่องอะไรกัน เหตุใดถึงแทงถูกตัวเขาได้?
“มือลื่นหรือ พี่ใหญ่ อย่าพูดให้ขำหน่อยเลย ท่านคิดว่าตัวตนระดับผู้อาวุโสเซิน มือลื่นได้ด้วยหรือ”
เทียนหมิงส่งเสียงหัวเราะเย้ยหยัน เหตุใดพี่ใหญ่ของเขาถึงไร้เดียงสาเช่นนี้!
“ถูกต้อง!”
ผู้อาวุโสเซินยกเทียนลู่ขึ้นด้วยทวน “เจ้าคิดว่าข้ามาที่นี่เพื่อการใดเล่า ข้ามาเพื่อส่งเจ้าไปที่ชอบ ที่ชอบ!”
“โอ้โห ทำเช่นนี้ได้ด้วยหรือ!”
เต่าชราหัวเราะออกมาอย่างกลั้นไม่อยู่ เขามองเทียนลู่พลางเอ่ย “ผู้ที่เจ้าเรียกมาฆ่าเรา ฆ่าเจ้า? เจ้าตั้งใจมาเล่นตลกให้เราดูหรือ หากเป็นเช่นนี้จริง ข้าเอ่ยได้เพียงว่า ‘สุดยอด!’ เล่นตลกด้วยชีวิตของตน เจ้าคือคนแรกนับแต่โลกใบนี้อุบัติขึ้น!”
ซีเองก็นิ่งอึ้งไป มีเรื่องราวเช่นนี้ด้วยหรือ
“อ๊ากกก!! พราะเหตุใด”
เทียนลู่คำรามกราดเกรี้ยว คิดไม่ตกเลยว่าไยจึงกลายเป็นเช่นนี้ เขากับผู้อาวุโสเซินมิมีความแค้น เหตุใดผู้อาวุโสเซินต้องคิดฆ่าเขาด้วย
“เพราะเหตุใดหรือ ลำพังประโยคที่ท่านถามนี้ ท่านก็สมควรตายแล้ว”
ผู้อาวุโสเซินเอ่ยด้วยสีหน้าเย็นชา “คนไร้สมองไฉนเลยจะเป็นผู้นำตระกูลเทียนได้ ทำเช่นนั้น รังแต่จะนำพาตระกูลเทียนลงเหว ก้าวสู่ความล่มสลาย!”
“พี่ใหญ่ พวกเราคือพี่น้องที่รักใคร่กลมเกลียว เลือดย่อมข้นกว่าน้ำ ท่านควรต้องรักใคร่เอ็นดูพี่น้องใช่หรือไม่ น้องห้าคิดว่า ตราบใดที่พี่ใหญ่ไม่ตาย น้องห้าก็ไม่อาจสบายใจได้ ถึงอย่างไร น้องห้าก็อยากเป็นผู้นำตระกูลรุ่นต่อไปของพวกเราตระกูลเทียนนี่นา”
เทียนหมิงคลี่ยิ้มสดใส จิตใจอำมหิตโดยแท้ “เพราะฉะนั้น พี่ใหญ่ตายด้วยความรักที่มีต่อน้องห้าคงไม่เกินไปใช่หรือไม่”
“ที่เจ้าพูดมานั่นยังมีความเป็นมนุษย์อยู่หรือไม่!?”
เทียนลู่เบิกตากว้าง คิดไม่ถึงว่าเทียนหมิงจะเป็นคนเช่นนี้ แต่เล็กจนโต ภาพพจน์ของเทียนหมิงเป็นคนว่านอนสอนง่าย โอบอ้อมอารีมีคุณธรรมมาโดยตลอด เขาเองก็นึกว่าสายใยพี่น้องของพวกเขานั้นแน่นแฟ้น ทว่าบัดนี้ เขาเพิ่งเข้าใจขึ้นมาว่า ทั้งหมดล้วนเป็นเรื่องเท็จ เป็นการแสดงของเทียนหมิง
นิสัยใจคอที่แท้จริงของเทียนหมิงนั้นเป็นคนเลือดเย็นไร้ความรู้สึก โหดเหี้ยมอำมหิตยิ่งกว่าผู้ใด
นาทีนี้ เขาถึงตระหนักได้ว่า ก่อนนี้ที่อูถง บริวารของเทียนหมิงแอบนำเรื่องซีมาบอกเขา น่ากลัวว่าเป็นแผนของเทียนหมิงที่หวังให้เขาตายด้วยมือซีเหมือนกัน
ทว่าซีมิได้เอาชีวิตเขา มิได้ฆ่าเขา เทียนหมิงถึงจงใจเอ่ยถึงผู้อาวุโสเซินออกมา และเสนอให้ผู้อาวุโสเซินเดินทางมาช่วยพวกเขาที่นี่
ลองไตร่ตรองดูแล้ว ก่อนนี้เกรงว่าผู้อาวุโสเซินยังมิได้ออกจากเทวโลกด้วยซ้ำ เป็นเทียนหมิงที่ติดต่อผู้อาวุโสเซินไปในยามนั้น ผู้อาวุโสเซินถึงออกมา
“น่าแค้นใจนัก!”
เขาเคียดแค้นสุดขีด ตำหนิตัวเองที่ไม่เคยระแวงเทียนหมิง เมื่อคราวเทียนหมิงติดต่อผู้อาวุโสเซินเขามิได้อยู่ด้วย เทียนหมิงมาบอกเขาในภายหลังว่าตนได้บอกผู้อาวุโสเซินแล้ว
“ไปสู่สุคติเถิดพี่ใหญ่ หากชาติหน้ามีจริง หวังว่าท่านจะมีสมองมากกว่านี้!”
เทียนหมิงหัวเราะร่วน อารมณ์เบิกบานเป็นพิเศษ หลังกำจัดพี่ใหญ่ของเขา จะไม่มีผู้ใดแย่งชิงตำแหน่งผู้นำตระกูลกับเขาอีก
“ฆ่า!”
ผู้อาวุโสเซินลงมือ ทวนยาวเปล่งประกายสยดสยอง หมายจะปลิดชีพเทียนลู่ลง ณ ที่นี่
ทว่าเวลานั้นเอง ซีลงมือ!
ท่วงท่าของนางสง่าคล่องแคล่วประดุจลำแสงลำหนึ่ง พริบตาที่ยกมือก็เรียกกระบี่ยาวออกมาหนึ่งเล่ม แทงใส่ผู้อาวุโสเซิน
“หา”
เต่าชรางุนงง มันไม่เข้าใจ นี่ซีจะช่วยเทียนลู่หรือ
“ไสหัวไปเสีย!”
ผู้อาวุโสเซินแค่นเสียงเย็น มิเคยเห็นซีในสายตา เขาเตะเท้าออกไปพร้อมด้วยพลังอันน่ากลัว ห้วงมิติพังครืนลงมาแถบใหญ่
ตู้ม!
เวลานั้นเอง อสนีบาตสีทองผ่าลงมาจากท้องฟ้าฉับพลัน ไวเสียจนผู้อาวุโสเซินตั้งตัวไม่ทัน ถูกสายฟ้าผ่าใส่เต็ม ๆ
ผู้อาวุโสล้มตึงลงกับพื้น บาดเจ็บจากอสนีบาตนี้ไม่เบา ตัวเขาชักกระตุก น้ำลายฟูมปาก ไม่อาจรับมือได้ทัน
เขามั่นใจในตัวเองเกินไป แม้ว่าเทียนลู่เคยกล่าวถึงสถานการณ์นี้กับเขามาแล้ว ว่ามีพลังบางอย่างคอยคุ้มครองซีอยู่ กระนั้นเขาก็มิได้ใส่ใจนัก เทียนลู่ไฉนเลยจะเทียบกับเขาได้
ผลที่ตามมาคือเขามิได้ป้องกัน นำไปสู่การบาดเจ็บหนัก!
ทวนยาวที่เคยกำอยู่ในมือก็พลันร่วงหล่น ตรึงเทียนลู่ไว้ที่พื้น เทียนลู่คิดหนีไปจากที่นี่ กลับพบว่าทำมิได้ พลังในทวนยาวพันธนาการเขาไว้อย่างแน่นหนา
นัยน์ตาเทียนหมิงไหวระริก คิดไม่ถึงอย่างยิ่งว่า ต่อให้ผู้อาวุโสเซินมิได้ตั้งรับด้วยกำลังทั้งหมด ก็มิควรอยู่ในสภาพอนาถเช่นนี้
พลังที่คอยคุ้มครองซีไม่ธรรมดามาก!
“ผู้อาวุโสเซิน ไม่ว่าอย่างไรก็ต้องฆ่านางให้ได้!”
ดวงตาของเขาเปล่งประกายดุดัน ซีบังอาจเลือกช่วยเทียนลู่ ไม่ว่าอย่างไร พวกเขาก็ปล่อยซีไปมิได้ มิฉะนั้น หากเทียนลู่มีชีวิตต่อไปได้ พวกเขาต้องจบเห่กันหมด
“เข้าใจแล้ว!”
ผู้อาวุโสเซินคืนสภาพ เด้งตัวขึ้นจากพื้นอย่างรวดเร็ว เขาเองก็ตระหนักดีว่าเรื่องนี้ร้ายแรงเพียงใด วันนี้ ทั้งซีทั้งเทียนลู่จะต้องตายอยู่ที่นี่ ปล่อยไปมิได้แม้แต่คนเดียว!
มิฉะนั้น พวกเขาต้องตายกันหมด
เขาเรียกระฆังลูกใหญ่ออกมา เคาะลงไปอย่างแรง เสียงระฆังเสมือนอาวุธคมกล้าไร้เทียมทานบุกสังหารใส่ซีอย่างรวดเร็ว
ทันทีที่เสียงระฆังไปถึงซี ซีต้องตายแน่นอน!
ทว่าเสียงระฆังนั้นไม่มีทางไปถึงซี
ครืนคราน!
เสียงฟ้าร้องดังขึ้นทันที ก่อนที่อสนีบาตสีทองจะถล่มลงมาอย่างรวดเร็ว ทำลายพลังที่แฝงไว้กับเสียงระฆังจนราบคาบ
“ฆ่า!”
ผู้อาวุโสเซินมีสีหน้าเย็นชา ระเบิดพลังในกายออกมาเต็มรูปแบบ ลำแสงเจิดจ้านับล้านปะทุ ส่องสว่างไปทั้งจักรวาล ความมืดมิดอันตรธานจนสิ้น
นี่มิใช่ระฆังใหญ่ธรรมดา หากแต่เป็นสมบัติล้ำค่าแห่งตระกูลเทียนของพวกเขา เขาถึงยังมั่นใจว่าสามารถสังหารซีได้ หากปราศจากระฆังลูกนี้ เขาไม่มั่นใจจริง ๆ ว่าจะสังหารซีได้หรือไม่
หง่าง!
เสียงระฆังดังขึ้นอีกครั้ง ปฐพีพังทลาย จักรวาลโกลาหลทั้งผืนนี้สั่นคลอนใกล้แตกสลายเต็มที ราวกับเกิดแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ ผู้อาวุโสเซินเร่งพลานุภาพระฆังใหญ่นี้เต็มที่ พลังที่สำแดงออกมาสามารถสู้กับขอบเขตผู้บงการซึ่งอยู่เหนือขอบเขตลอยชายได้เลยทีเดียว เขาไม่เชื่อว่าขนาดนี้แล้วยังฆ่าซีมิได้!
อีกด้าน เทียนหมิงเคลื่อนไหว เขาเป็นคนแยบคายมาแต่ไหนแต่ไร จึงคิดจะถือโอกาสที่ผู้อาวุโสเซินกับซีกำลังสู้กันดุเดือดเพื่อปลิดชีพเทียนลู่
ซีตายหรือไม่นั้นเป็นเรื่องรองลงมา สิ่งสำคัญคือเทียนลู่ต้องตาย มิฉะนั้น พวกเขาไม่มีทางรอดเลย
“เจ้าช่างเป็นน้องชายแสนดีของข้าจริง ๆ!”
เมื่อเทียนลู่เห็นเทียนหมิงบุกเข้ามา เขาทั้งโกรธทั้งเดือดดาล
ทว่าทวนยาวแทงทะลุหน้าอกของเขา พลังในนั้นสะกดพลังของเขา กับการบุกเข้ามาของเทียนหมิง เขาทำได้เพียงมองดู ไร้ซึ่งหนทาง
“เจ้าฆ่าเขาไม่ได้!”
ตัวของซีสูงส่งไร้มลทิน ไม่แยแสการโจมตีจากผู้อาวุโสเซินสักนิด ปรี่เข้ามาอยู่เบื้องหน้าเทียนลู่ เข้าปัดป้องการโจมตีจากเทียนหมิง
ครืนคราน!
อสนีบาตผ่าลงจากฟากฟ้าสองสาย สายหนึ่งทลายการโจมตีจากระฆังใหญ่ สายหนึ่งผ่าลงบนตัวเทียนหมิง จนเทียนหมิงเนื้อหนังปริออก
ผู้อาวุโสเซินขบฟันแน่น มิได้ยอมแพ้ ควงระฆังใหญ่บุกไปสังหารซีอีกครั้ง
ซีจะรอดมิได้ มิฉะนั้น พวกเขาต้องตายกันหมด!
ตู้ม!
อสนีบาตสีทองสายหนึ่งผ่าลงมาใส่ระฆังใหญ่ในมือผู้อาวุโสเซินจนแตกเป็นเสี่ยง ๆ!
“เป็นไปได้อย่างไรกัน!”
ผู้อาวุโสเซินเชื่อไม่ลง นี่คือสมบัติล้ำค่าชิ้นหนึ่งเชียวนะ กำลังรบขอบเขตผู้บงการยังทำลายมิได้ กลับถูกทำลายด้วยอสนีบาตสายเดียวอย่างนั้นหรือ!?
เสี้ยวลมหายใจนั้น เขาหนาวสะท้านไปทั้งร่าง นี่มิใช่พลังที่เขาต่อกรด้วยได้เลย!
เวลานั้น อสนีบาตสีทองผ่าลงมาอีกสาย มุ่งเป้ามาที่เขาโดยตรง เร็วจนจินตนาการไม่ออก ถล่มใส่ตัวเขาในพริบตาเดียว
พรวด! พรวด! พรวด!
เศษเนื้ออันมีโลหิตปนอยู่กระจัดกระจาย ร่างของเขาระเบิดแหลกลาญในบัดดล พลังปราณลดฮวบ อสนีบาตเพียงสายเดียวเท่านั้นก็เกือบเอาชีวิตเขาได้ บัดนี้เหลือเพียงลมหายใจเฮือกสุดท้ายเท่านั้น
“เหตุใดถึงเป็นเช่นนี้!!!”
เทียนหมิงหน้าเขียว สภาพของเขาก็มิได้ดีไปกว่ากันนัก อสนีบาตเมื่อครู่เกือบคร่าชีวิตเขาได้แล้ว เขาเองก็เหลือลมหายใจเพียงเฮือกสุดท้ายเท่านั้น
เขาคิดไม่ถึงจริง ๆ ว่าผลลัพธ์สุดท้ายจะเป็นเช่นนี้!
แผนนี้วิเศษยิ่งนัก กำจัดพี่ใหญ่ของเขา แล้วโบ้ยทุกอย่างให้ซี แล้วค่อยกำจัดซีทิ้ง เรียกได้ว่าสมบูรณ์แบบ
ทว่าพลังที่คอยคุ้มครองซีอยู่น่าประหวั่นพรั่นพรึงเกินไป ผู้อาวุโสเซินสู้ด้วยสมบัติล้ำค่ายังมิไหว แผนของเขาล้มเหลวอย่างสิ้นเชิง
“อย่าฆ่าข้า พวกเราเจรจากันได้!”
ถึงอย่างไรเขาก็มีจิตใจแยบคายต่างจากคนทั่ว ๆ ไป หลังแน่ใจแล้วว่าต่อกรกับซีไม่ไหว ก็ตัดสินใจเจรจากับซี
“ระหว่างเรานั้นมิมีหนี้แค้น ก่อนนี้ระหว่างเราก็จากกันด้วยดี ข้ามิได้ลงมือต่อเจ้า ตรงกันข้าม พี่ใหญ่ของข้าต้องการกำจัดเจ้ามาตลอด!”
เขารีบเอ่ยอย่างรวดเร็ว “ขอเพียงวันนี้เจ้าปล่อยข้าไป และยอมให้ข้าฆ่าพี่ใหญ่ของข้า ข้ารับประกันได้เลย ทั้งยังสาบานต่อเจ้าด้วยว่า ไม่ว่าเจ้าต้องการสิ่งใด ข้าจะหามาให้เจ้าทั้งหมด!”
ซีมิได้ตอบ นางหรี่ตาลง เทียนหมิงผู้นี้อำมหิตใช้ได้ จวบจนบัดนี้ยังมิมีท่าทีแตกตื่น คงไว้ซึ่งความเยือกเย็น สามารถเจรจากับนางต่อ
คนผู้นี้ใจคดยิ่งนัก!
“เชื่อข้าเถิด ขอเพียงพี่ชายข้าตายไป จากนี้ข้าจะได้เป็นผู้นำตระกูลเทียนแน่นอน รากฐานตระกูลเทียนลึกล้ำเกินหยั่ง ย่อมช่วยให้เจ้าสมปรารถได้ทุกอย่าง”
เทียนหมิงมองซีพลางเอ่ย “นอกจากนี้ เจ้าไม่จำเป็นต้องปกป้องพี่ชายของข้า เขาคิดจะฆ่าเจ้าถึงสองครา ไม่ควรเก็บไว้อย่างยิ่งยวด”
“ขออภัย ข้าเพียงแต่ไม่ถูกชะตากับเจ้า จึงไม่อยากร่วมมือกับเจ้า”
ซีเอ่ยด้วยสีหน้าราบเรียบ
“เดี๋ยว! พวกเราไม่จำเป็นต้องหันหลังให้ผลประโยชน์!”
เทียนหมิงขบกราม จิตใจเหี้ยมเกรียมอย่างแท้จริง ตัดสิ่งที่ควรตัดได้เสมอ เขาเอ่ยต่ออย่างรวดเร็ว “หากเจ้าไม่พอใจในเงื่อนไขที่ข้ากล่าวไปเมื่อครู่ ข้าจะปฏิญาณตนว่าจะสวามิภักดิ์ต่อเจ้า เชื่อฟังคำสั่งของเจ้าตลอดไป! เมื่อเป็นเช่นนี้ เจ้าย่อมได้ผลประโยชน์มหาศาล เพราะทั้งตระกูลเทียนจะอยู่ใต้บัญชาของเจ้า!”
เพื่อให้ได้ร่วมมือกับซี เขายอมเป็นบริวารของซีไปตลอดกาล เขานั้นเด็ดขาดฉะฉานอย่างแท้จริง
สีหน้าของซีเย็นชา หลังได้ประจักษ์ถึงความเหี้ยมเกรี้ยมอำมหิตของเทียนหมิง ก็ยิ่งไม่มีทางร่วมมือกับอีกฝ่าย
ผู้ที่โหดร้ายกับตนเองได้ปานนั้น ขืนได้ร่วมมือกันคงเต็มไปด้วยภยันตรายในภายหลัง
นอกจากนี้ นางไม่เคยเห็นเทียนหมิงอยู่ในสายตาแต่แรก
เทียนหมิงสังหารพี่ชายแท้ ๆ ได้โดยไม่ลังเล คนเช่นนี้ไร้ซึ่งความเป็นมนุษย์ เก็บไว้มิได้เด็ดขาด
“เจ้าอยากเข้าไปที่เทวโลกมิใช่หรือ ตระกูลเทียนมีฐานะสูงส่งในเทวโลก ปล่อยข้าไป เจ้าไม่เสียหายแน่ มีแต่จะได้รับผลประโยชน์มากมาย!”
เทียนหมิงโน้มน้าวต่อ