บทที่ 785 คิดเช่นเดียวกัน คิดถึงปีกไก่!
ครุฑปีกทองตะโกนลั่น เสียงอสนีบาตดังกัมปนาททั่วทั้งผืนฟ้าและผืนดิน สะท้านขวัญผู้ฝึกตนในอาณาจักรแห่งนี้จนไม่กล้าเงยหน้าขึ้นมอง พากันคว่ำหน้าลงพื้น
นี่คือสิ่งมีชีวิตจากแดนบรรพโกลาหลอย่างนั้นหรือ?
จนกระทั่งถึงตอนนี้แล้ว พวกเขาจะยังไม่เข้าใจได้อย่างไร การสังหารหมู่ในแดนต่าง ๆ รวมทั้งครุฑปีกทองตนนี้ ล้วนแต่มาจากแดนบรรพโกลาหล ไม่เช่นนั้นจะทรงพลังน่าหวาดหวั่นถึงเพียงนี้ได้อย่างไร?
ย่อมไม่มีทางเป็นไปได้!
ภายในใจของพวกเขาเศร้ารันทดอย่างถึงที่สุด ยิ่งไปกว่านั้นยังรู้สึกว่าตนเองน่าขันยิ่งนัก
เมื่อนึกย้อนกลับไปก่อนหน้านี้ที่พวกเขาเฝ้ารอให้แดนบรรพโกลาหลปรากฏบนโลกอย่างใจจดใจจ่อ อีกทั้งยังต้องการเข้าสู่แดนบรรพโกลาหลเพื่อแย่งชิงวาสนาการเปลี่ยนแปลง พวกเขาช่างโง่เขลาและน่าขบขันยิ่งนัก!
แย่งชิงอันใดกัน? ไขว่คว้าอันใดกัน?
พวกเขาล้วนตัวเล็กจ้อยและอ่อนแอ สิ่งมีชีวิตด้านในแดนบรรพโกลาหลสามารถกวาดล้างพวกตนได้อย่างง่ายดาย!
ฟิ้ว ฟิ้ว ฟิ้ว!
เส้นแสงเคลื่อนไหวพุ่งเข้ามา พวกต้าเต๋อปรากฏขึ้น โดยมีเซี่ยเหยียนนำหน้าพร้อมคันศรราชันในมือ
ยังมีคนอยากส่งตัวเองไปสู่หนทางตายอีกหรือ?!
เซี่ยเหยียนหรี่ตาลง ทว่าเมื่อเห็นครุฑปีกทอง ภายในใจของนางพลันรู้สึกยินดี
อ่า ปีกใหญ่สองข้างนั้นดูไม่เลว สามารถนำกลับไปให้คุณชายทำ ‘ปีกไก่ย่าง’ ได้
“เป็นพวกเจ้าหรือ? อย่าได้ก่อความวุ่นวาย…”
ครุฑปีกทองมองไปยังกลุ่มของเซี่ยเหยียน สีหน้าเต็มไปด้วยความดูแคลน “ขนยังไม่ทันขึ้นดีด้วยซ้ำ แต่กลับกล้าออกมาสร้างปัญหาเช่นนี้!”
พวกต้าเต๋ออายุเท่าไหร่กันเชียว ยังเป็นเพียงเด็กอายุไม่กี่ปี ส่วนเซี่ยเหยียนแม้โตกว่า แต่ก็ไม่ได้มีอายุมากแต่อย่างใด เพียงแค่ยี่สิบกว่าปีเท่านั้น
มันสามารถสัมผัสได้ถึงความเยาว์วัยและพลังชีวิตภายในลมหายใจ สิ่งนี้ไม่อาจปลอมแปลงได้ แสดงให้เห็นอย่างชัดเจนว่าอายุจริงของเซี่ยเหยียนและพวกต้าเต๋อไม่แตกต่างอันใดไปจากรูปลักษณ์ภายนอก
“กล้าลงมือแต่ไม่กล้าโผล่หัวอย่างนั้นหรือ? ปล่อยให้เหล่ากลุ่มเด็กขนยังไม่ขึ้นดีออกมาหาที่ตายเช่นนี้ ช่างน่าขันยิ่งนัก!”
มันหัวเราะเยาะเย้ย ไม่เชื่อว่าพวกเซี่ยเหยียนจะทรงพลังถึงเพียงนั้นได้
ไม่มีทางเป็นไปได้!
แม้กระทั่งในแดนบรรพโกลาหล ก็ไม่มีผู้ใดในวัยยี่สิบกว่าสามารถครอบครองความแข็งแกร่งทรงพลังถึงขั้นนั้นได้ ยิ่งไม่ต้องพูดถึงเด็กอายุไม่กี่ปีเลย
“ปีกไก่ย่าง ของโปรดของข้า…”
ต้าเต๋อจับจ้องไปยังปีกของครุฑปีกทอง น้ำลายพลันไหลออกมาจากปาก อดพึมพำไม่ได้
“คิดเหมือนกัน”
เซี่ยเหยียนยิ้ม ต้าเต๋อกับนางคิดเหมือนกันไม่ผิด ต่างก็มุ่งความสนใจไปที่ปีกของครุฑปีกทอง
“บ้าไปแล้วหรือ?!”
น้ำเสียงของครุฑปีกทองเปลี่ยนเป็นเย็นเยียบขึ้นมาทันที แสงเย็นยะเยือกเปล่งออกมาจากดวงตาทั้งสอง จิตสังหารพุ่งสูงอย่างไม่อาจหยุดยั้ง
คิดจะกินมันอย่างนั้นหรือ?
อีกทั้งยังเอ่ยว่าปีกของมันเป็น ‘ปีกไก่?!’
ตัวตนของมันเป็นเช่นไร จะไปเทียบกับ ‘ไก่’ ได้อย่างไร อีกทั้งยังจะมีสิ่งมีชีวิตหน้าไหนกล้าเอ่ยออกมาว่าอยากกินมัน!
“หากอยากตายก็ไม่ควรรนหาที่ตายด้วยวิธีเช่นนี้!”
“เกลียดชังที่ตนเองมีอายุยืนยาวไปหรือ!”
ในแดนบรรพโกลาหล สิ่งมีชีวิตจำนวนมากกำลังหัวเราะออกมา มีผู้หาญกล้าหยิ่งผยองต่อหน้าครุฑปีกทองเช่นนี้ นับเป็นครั้งแรกที่ได้เห็น!
ครุฑปีกทองทรงพลังเป็นอย่างมากในแดนบรรพโกลาหล ไม่มีสิ่งมีชีวิตใดกล้าแสดงท่าทางโอหังต่อหน้าครุฑปีกทองมาก่อน พวกเขาราวกับสามารถเห็นภาพในอนาคตที่พวกเซี่ยเหยียนจะถูกครุฑปีกทองฉีกออกเป็นชิ้น ๆ ครุฑปีกทองไม่มีทางปล่อยพวกเซี่ยเหยียนไปโดยง่าย
“…นางสามารถสับปีกคู่นั้นมาได้จริง ๆ!”
จักรพรรดิที่พาสมาชิกราชวงศ์กลับไปยังแดนบรรพโกลาหลเอ่ยขึ้นมา
พวกเขาได้เผชิญกับความน่าสะพรึงกลัวของเซี่ยเหยียนด้วยตาตนเอง ศรแสงราวกับมีพลังไร้ที่สิ้นสุด น่าสะพรึงกลัว เขารู้สึกว่าศรแสงของเซี่ยเหยียนนั้นสามารถสังหารตัวตนเช่นจ้าวดินแดนได้!
ทว่าเขามีความกล้าเพียงพูดอยู่ในใจ ไม่กล้าเอ่ยออกมาต่อหน้า
หากพูดออกมา เหล่าสิ่งมีชีวิตในแดนบรรพโกลาหลจะไม่มีทางปล่อยตนไป ตอนนี้สิ่งมีชีวิตทั้งหมดในแดนบรรพโกลาหลเห็นได้ชัดว่าอยู่ในสภาพ ‘จับมือเพราะมีศัตรูร่วมกัน’ สิ่งที่เขาเอ่ยจะเท่ากับการหมิ่นศักดิ์ศรีของฝั่งแดนบรรพโกลาหล เช่นนั้นแล้วสิ่งมีชีวิตในแดนบรรพโกลาหลจะปล่อยเขาไปได้อย่างไร
“พวกเจ้าทุกคนต้องตาย!”
ครุฑปีกทองลงมือทันที พลังอันน่าสะพรึงกลัวมุ่งเป้าไปทางพวกเซี่ยเหยียน
มันไม่ได้ประมาทแต่อย่างใด ลงมืออย่างดุร้าย การโจมตีนั้นเพียงพอที่จะสังหารสิ่งมีชีวิตในขั้นหกของขอบเขตโกลาหล
แน่นอน มันย่อมไม่คิดว่าพวกเซี่ยเหยียนจะมีความแข็งแกร่งถึงขั้นหกของขอบเขตโกลาหล
เป้าหมายของมัน เพื่อป้องกันสิ่งมีชีวิตที่ยังไม่ปรากฏออกมา
ไม่ต้องสงสัยเลย บนอาณาจักรแห่งนี้จะต้องมีสิ่งมีชีวิตที่ทรงพลังเป็นอย่างยิ่ง ไม่เช่นนั้นสิ่งมีชีวิตชายขอบแดนบรรพโกลาหลจะไม่หนีกลับไปด้วยสภาพเช่นนั้น
“เจ้าคิดมากเกินไปแล้ว”
เซี่ยเหยียนยกมือขึ้นรั้งคันศร นางบรรลุขั้นเก้าของขอบเขตโกลาหลเรียบร้อยแล้ว สิ่งมีชีวิตในขั้นแปดอย่างครุฑปีกทองจะสามารถเทียบเคียงได้อย่างไร
พลังจากศรแสงที่แผ่ออกมาน่าสะพรึงกลัวยิ่ง สามารถทำลายการโจมตีของครุฑปีกทองได้ในทันที
รูม่านตาของครุฑปีกทองหดลง ไม่คาดคิดสักนิดว่าจะเกิดเรื่องเช่นนี้ขึ้น
เดิมทีมันคิดว่าเซี่ยเหยียนไม่อาจนับเป็นสิ่งใดได้ ทว่ากลับกลายเป็นเซี่ยเหยียนนั้นทรงพลังและแข็งแกร่งเป็นอย่างมาก!
มันตอบสนองอย่างรวดเร็ว พริบตาเดียวก็เคลื่อนออกไปไกลลิบโดยไร้ความลังเล ต้องการจะหลบเลี่ยงศรแสงนี้
ครุฑปีกทองถือกำเนิดขึ้นมาพร้อมกับความเร็วอย่างถึงที่สุด สิ่งมีชีวิตอื่นล้วนไม่อาจเทียบเคียง หากมันใช้ความเร็วเต็มกำลัง แม้จะเป็นจ้าวดินแดน หรือกระทั่งสิ่งมีชีวิตที่อยู่ขั้นเก้าขอบเขตโกลาหลก็ไม่มีทางไล่ตามมันทันอย่างแน่นอน!
มันรวดเร็วเป็นอย่างยิ่ง ความเร็วทลายขีดจำกัดจนผู้คนไม่อาจรับรู้ตำแหน่งของมันได้
ทว่าเมื่ออยู่ต่อหน้าเซี่ยเหยียน ความเร็วสูงสุดนี้ก็ไม่ต่างอะไรกับเรื่องตลก
ศรแสงปักเข้ากลางอกของครุฑปีกทอง กระแทกมันลงกับพื้น ขนนกปลิวว่อน เช่นเดียวกับโลหิตที่สาดกระเซ็น
“อันใดกัน!”
สิ่งมีชีวิตแดนบรรพโกลาหลที่เฝ้ามองอยู่อดตื่นตะลึงไม่ได้ บนใบหน้าเต็มไปด้วยความไม่อยากเชื่อ
ความเร็วถึงขีดสุดของครุฑปีกทองนั้นเลื่องชื่อในแดนบรรพโกลาหลเป็นอย่างยิ่ง ทว่าตอนนี้กลับถูกทำลาย พวกเขาจะไม่ตื่นตะลึงได้อย่างไร!
น่าสะเทือนขวัญเกินไปแล้ว!
แม้พวกเขาจะเห็นด้วยตาตนเอง แต่ก็ยังคงรู้สึกราวกับไม่ใช่ความจริง ประหนึ่งภาพฝัน
โฮก!
ครุฑปีกทองส่งเสียงกู่ร้อนดั่งลั่น สั่นสะเทือนทั้งขุนเขาและธารน้ำ มันคลุ้มคลั่งราววิปลาส มันไม่เคยต้องประสบกับความเลวร้ายเช่นนี้มาก่อน ขนจำนวนมากของมันพุ่งออกมา กลายเป็นคมดาบพุ่งไปทางเซี่ยเหยียน!
“ไร้ประโยชน์”
เซี่ยเหยียนยิงศรแสงออกไปอีกครั้งด้วยใบหน้านิ่งสงบ
ลูกศรทะยานผ่านขนนกจำนวนมาก เพียงพริบตาเดียว ขนนกทั้งหมดก็ร่วงลงสู่พื้น สูญเสียความเปล่งประกาย ไร้แสงใดประหนึ่งขนไก่ธรรมดา
ภายในใจของครุฑปีกทองสั่นสะท้านอย่างรุนแรง ตอนนี้เหตุใดมันจึงไม่ตระหนักได้ถึงช่องว่างของตนเองกับเซี่ยเหยียน นี่เป็นตัวตนที่มันไม่อาจต่อกรได้อย่างสมบูรณ์!
มันสะบัดปีกทั้งสองข้าง หวังหนีไปจากสถานที่แห่งนี้กลับไปยังแดนบรรพโกลาหล
ทว่าทันทีที่ทะยานบิน ลูกศรดอกหนึ่งก็พุ่งเข้าใส่หน้าอกของมัน ครั้งนี้มันล้มลงกับพื้น เลือดสาดกระเซ็นจนเจิ่งนองเป็นแอ่ง!
ตอนนี้มันหวาดกลัวอย่างถึงที่สุด ภายในใจเต็มไปด้วยความเสียใจอย่างสุดซึ้ง มันอยู่ในแดนบรรพโกลาหลก็ดีแล้ว เหตุใดจึงต้องออกมาหาเรื่องใส่ตัวด้วย?
ดูเสีย คราวนี้มันอาจส่งตัวเองไปสู่หนทางตายจริง ๆ!
ขณะเดียวกัน มันก็ไม่เข้าใจเป็นอย่างยิ่ง เหตุใดเซี่ยเหยียนจึงน่าสะพรึงกลัวได้ถึงเพียงนี้?
ด้วยความแข็งแกร่งเช่นนี้ กระทั่งในแดนบรรพโกลาหลยังเป็นเรื่องยากที่จะฝึกฝน การที่เซี่ยเหยียนสามารถครอบครองพลังอันแข็งแกร่งน่าสะพรึงกลัวเพียงนี้ได้ เป็นได้เพียงแต่เรื่องละเมอฝัน ไม่น่าเชื่อเลยแม้แต่น้อย!”
ฉับ ฉับ!
เซี่ยเหยียนเปลี่ยนพลังให้กลายเป็นใบมีด ตัดปีกทั้งคู่ของครุฑปีกทองทันที “กลับไปเสีย อย่าได้ออกมาอีก ไม่เช่นนั้นครั้งต่อไปจะเป็นหัวของเจ้าที่ถูกตัด!”
“เข้า… เข้าใจแล้ว!”
ครุฑปีกทองพยักหน้าครั้งแล้วครั้งเล่า ก่อนจะรีบหนีกลับไปยังแดนบรรพโกลาหล
ใบหน้าของมันมืดครึ้ม รู้สึกอับอายเป็นอย่างยิ่ง รีบหลบหนีออกจากสายตาของเหล่าสิ่งมีชีวิตให้แดนบรรพโกลาหล โดยไม่รั้งรอแม้แต่ครู่เดียว
“นะ… นี่?”
“ครุฑปีกทองถูกตัดปีก?!”
สิ่งมีชีวิตในแดนบรรพโกลาหลต่างตื่นตะลึง ขนลุก หนังศีรษะชาวาบ
พวกเขาไม่คิดเลยว่าผลลัพธ์สุดท้ายจะออกมาเป็นเช่นนี้!
ครุฑปีกทองแข็งแกร่งถึงเพียงนี้ แต่กลับถูกตัดปีก นี่คืออันใดกัน อาณาจักรภายนอกน่าสะพรึงกลัวถึงปานนี้เลยหรือ?!
…
แดนฮวง
บนเกาะแห่งหนึ่ง
เมื่อสิ่งมีชีวิตที่อยู่บนเกาะเห็นการต่อสู้ ดวงตาก็แทบถลนออกมา ความหวาดกลัวอันไร้ที่สิ้นสุดปรากฏขึ้นในใจ
“ยังดีที่ข้าไม่ได้ทำสิ่งใดร้ายแรง เพียงอยู่ที่นี่อย่างสงบสุข!”
ในใจของเขาเต็มไปด้วยความยินดี ไม่คาดคิดแม้แต่น้อยว่าจะมีตัวตนทรงพลังน่าหวาดหวั่นเช่นนี้อยู่ภายในอาณาจักรแห่งนี้
ใช่แล้ว เขาเองก็เป็นสิ่งมีชีวิตจากแดนบรรพโกลาหลเช่นเดียวกัน ทว่าไม่ได้ออกมาหลังจากผนึกคลายออก แต่ร่วงลงมาจากรอยแยกเมื่อนานมาแล้ว
หลังจากออกมาเขาก็อยู่แค่บนเกาะเท่านั้น ไม่ได้ออกไปไหนเลย
เขาคือยอดฝีมือจากแดนบรรพโกลาหลที่บรรพจารย์ฝูเคยมาหา
“แต่เกรงว่าเรื่องราวอาจไม่จบลงโดยง่ายถึงเพียงนั้น…”
เขารำพึง “เผ่าครุฑปีกทองมีชื่อเสียงด้านการเข้าข้างพรรคพวก บรรพจารย์ของตระกูลไม่ใช่ตัวอย่างที่ดีแต่อย่างใด เมื่อครั้งครุฑปีกทองตนนี้ยังเด็ก เคยต่อสู้แต่กลับพ่ายแพ้จนต้องเสียขนไป บรรพจารย์ก็ไปเยือนบ้านคู่ต่อสู้ จากนั้นก็ทำลายกองกำลังทั้งหมดของคนผู้นั้นทิ้ง!”
ครั้งนี้ครุฑปีกทองถูกตัดปีกทั้งสองข้าง ทั้งยังอาจถูกนำไปย่างกิน บรรพจารย์ครุฑปีกทองย่อมไม่อาจปล่อยไป จะต้องแก้แค้นในภายหลังอย่างแน่นอน
เรื่องนี้ไม่อาจมองในแง่ดีได้เลย
อย่างไรเสียบรรพจารย์ครุฑปีกทองก็ดุร้ายเป็นอย่างยิ่ง นับได้ว่าอยู่บนเพดานของแดนบรรพโกลาหล บรรลุขั้นเก้าขอบเขตบรรพโกลาหลมานานจนไม่อาจนับปี ตอนนี้เกรงว่าน่าจะยิ่งแข็งแกร่งกว่าเดิม!
“ช่างเถิด ช่างเถิด ทั้งหมดล้วนแล้วไม่เกี่ยวข้องกับข้า เพียงแค่อยู่เฉย ๆ ไม่ก่อเรื่องสร้างความวุ่นวายอันใด!”
เขาเอ่ยกับตนเอง ตอนนี้ไม่สามารถทำตามอำเภอใจได้ ไม่เช่นนั้นชีวิตคงสูญสิ้น
สิ่งมีชีวิตจากแดนบรรพโกลาหลที่ตกลงมาตั้งแต่ตอนก่อนหน้า ต่างก็เห็นพ้องต้องกัน อย่าเสนอหน้าออกไปจะเป็นการดีที่สุด
“ไม่นะ!”
ณ สถานที่แห่งหนึ่ง บรรพจารย์ฝูมองเซี่ยเหยียนที่มีท่าทางไร้พ่ายแล้ว ก็เข้าใจได้ทันทีว่าหญ้าที่เขาคิดว่าล้ำค่าล้วนเป็นของปลอมทั้งหมด!
เหตุผลที่ใบหญ้าสามารถปะทุพลังที่น่าสะพรึงกลัวถึงเพียงนั้น ไม่ใช่เพราะตัวหญ้าทรงพลังเป็นอย่างมาก แต่เนื่องจากหลี่จิ่วเต้านั้นแข็งแกร่งเกินไป เพียงแค่หญ้าใบเดียวก็สามารถสังหารศัตรูทั้งหมดสิ้น!
“ไม่น่าแปลกใจเลยที่ยอดฝีมือจากแดนบรรพโกลาหลทุบตีข้าเช่นนั้น ทั้งยังเหยียบย่ำหญ้าที่ข้านำไปจนเละเทะ! โชคดีแค่ไหนที่ข้ายังมีชีวิตอยู่!”
เหงื่อเย็นเยียบหลั่งชโลมทั่วร่างของเขา นึกถึงตอนที่ตนเองนำหญ้าเหล่านั้นไปให้ยอดฝีมือจากแดนบรรพโกลาหล
นั่นเป็นเพียงแค่หญ้าธรรมดาจริง ๆ นับเป็นโชคอย่างใหญ่หลวงที่ยอดฝีมือแดนบรรพโกลาหลไม่สังหารตน!
…
เมืองชิงซาน
ที่แห่งนี้สงบสุขเป็นอย่างยิ่ง ไม่มีเรื่องวุ่นวายใด ๆ แม้ด้านนอกเกิดเรื่องใหญ่ ด้านในก็ไม่ได้รับผลกระทบแม้แต่น้อย
กระทั่งชาวบ้านปุถุชนทั่วไปก็ยังไม่ได้รับผลกระทบแต่อย่างใด
ในลานเล็ก ๆ ของหลี่จิ่วเต้า
หลี่จิ่วเต้ายังคงวาดภาพอยู่ในห้องหนังสือ ภาพที่เขาวาดเสร็จเรียบร้อยมีอยู่จำนวนมาก ตอนนี้ภาพทิวทัศน์ทั้งหมดในดินแดนหยินเสร็จเรียบร้อยแล้ว
ลั่วสุ่ยยืนอยู่เงียบ ๆ ข้างโต๊ะ คอยช่วยฝนหมึกให้คุณชายใช้วาดภาพ
“ภาพวาดเหล่านี้มีความหมายเช่นไรกัน?”
ภายในใจนางสงสัยเป็นอย่างยิ่ง ช่วงเวลาที่ผ่านมานี้ คุณชายหมกมุ่นอยู่กับการวาดภาพ ตัวนางเองก็รู้สึกมาตั้งแต่แรกว่าเรื่องนี้ไม่ธรรมดาอย่างแน่นอน
เกรงว่าภาพเหล่านี้จะสามารถสร้างผลกระทบได้อย่างมหาศาล!