”ทำไมล่ะ” ชายหนุ่มหัวเราะ ท่าทางของเขายากจะอธิบายออกมาเป็นคำพูดได้ ”เพราะในภพภูมิทั้งหก ข้าเป็นเพียงคนเดียวที่หน้าตาดีกว่าเจ้าสินะ”
หงส์เพลิงชะงักไปครู่หนึ่ง จากนั้นจึงตระหนักได้ว่านางไม่มีทางหักล้างคำพูดของเขาได้!
นางต้องยอมรับว่าเขาหน้าตาดีกว่านางจริงๆ
เขาเป็นผู้ร้ายที่สามารถฆ่าคนในภพทั้งหกได้ด้วยหน้าตาของเขาเพียงอย่างเดียว
มีแค่เขาเพียงคนเดียวที่สามารถประชันโฉมกับสตรีได้
”ข้าขอคิดก่อน” จู่ๆ หงส์เพลิงก็นึกอะไรขึ้นมาได้ นางจึงถามว่า ”ข้าคิดว่าท่านมีดอกบัวทองคำดอกนั้นแล้วเสียอีก”
ชายหนุ่มขมวดคิ้ว ”เจ้าหมายถึงใครหรือ”
”ดอกบัวทองคำที่เป็นพระอรหันต์นั่นอย่างไร” หงส์เพลิงเตือนความจำเขา
ชายหนุ่มยังคงขมวดคิ้ว ”ข้าจำไม่เห็นได้ว่ามีคนเช่นนั้นอยู่”
ทันใดนั้นหงส์เพลิงก็ตระหนักได้ว่าความพยายามทั้งหมดที่คนจากพระพุทธศาสนาทำให้ตลอดหลายวันมานี้ล้วนแต่ไร้ประโยชน์ สมเด็จช่างน่าสงสารนัก เขาหรืออุตส่าห์วางแผนที่จะประจบเอาใจตี้จวินด้วยสาวงาม แต่ทุกอย่างกลับต้องมาเสียเปล่า
”ข้าได้ยินว่าเจ้ากำลังช่วยต้นโพธิ์บำเพ็ญเพียรอยู่” ชายหนุ่มเอ่ยเบาๆ ”น้ำศักดิ์สิทธิ์ทั่วทั้งภพสวรรค์ต่างอยู่ในความดูแลของข้า จากนี้เป็นต้นไปเจ้าสามารถไปนำมันมาได้โดยไม่ต้องละเมิดกฎของพระพุทธศาสนาอีก”
หงส์เพลิงมองใบหน้าหล่อเหลาไร้ที่ตินั้นพร้อมกับหัวเราะออกมาทันที ”ฟังดูเป็นแผนการที่เข้าท่าดีทีเดียว แต่เราคงแต่งงานกันจริงๆ ไม่ได้ใช่หรือเปล่า แผนการนี้มีระยะเวลานานเท่าใดหรือ”
”ประมาณสี่สิบวัน” ตี้จวินยกจอกเหล้าแนบปาก แล้วจิบมัน ”หลังจากนี้สี่สิบวัน ระหว่างภพสวรรค์และพระพุทธศาสนาจะเกิดการต่อสู้กันอย่างรุนแรง นั่นคือเวลาที่เราจะแยกกัน”
หงส์เพลิงเคี้ยวถั่วลิสงแล้วจึงบอกว่า ”ข้าไม่อยากเชื่อเลยว่าท่านจะถึงขั้นนำความลับของศัตรูมาบอกข้าด้วย เอาล่ะ ในเมื่อท่านคุ้นเคยกับการอยู่กับสตรี เช่นนั้นท่านก็คงรู้เรื่องความสัมพันธ์พวกนี้เป็นอย่างดี”
”ข้าไม่รู้” หลังจากพูดทุกสิ่งที่ต้องการจบแล้ว ชายหนุ่มก็รู้สึกว่ามันคงถึงเวลาที่เขาต้องกลับเสียที เขายืนขึ้นด้วยขาเรียวยาว พร้อมกับโยนม้วนกระดาษโบราณให้กับนาง ”แต่ข้าก็มีสามัญสำนึกเหมือนๆ กับคนอื่น เจ้าลองอ่านและทำความเข้าใจกฎพวกนี้ดูก็แล้วกัน วันพรุ่งนี้ข้าจะมาทานอาหารมังสวิรัติกับเจ้าที่นี่ และเมื่อถึงเวลานั้น เจ้าก็ควรสวดมนต์ให้ข้าฟัง”
หงส์เพลิงพลิกม้วนกระดาษโบราณ แล้วขมวดคิ้วบางของตัวเองเข้าหากัน ”กิจวัตรประจำวันของคู่สามีภรรยาบนโลกมนุษย์หรือ”
กฎข้อแรกคือการทานอาหารร่วมกัน?!
”ท่านเป็นคนเขียนมันขึ้นมาหรือ” หงส์เพลิงสงสัย
ชายหนุ่มปัดฝุ่นออกจากนิ้วมือ แล้วเผยรอยยิ้มทรงเสน่ห์ออกมา ”ข้าหยิบมันมาจากผู้เฒ่าจันทรา”
”เป็นเช่นนี้นี่เอง” คงมีแค่ชายคนนี้เพียงคนเดียวที่สามารถทำให้คำว่า ’หยิบ’ ฟังดูดูกฎได้เช่นนี้ หงส์เพลิงมีความสนใจในของของผู้เฒ่าจันทรามาตลอด ดังนั้นนางจึงตัดสินใจที่จะตั้งใจศึกษากฎที่ถูกเขียนเอาไว้ในม้วนกระดาษโบราณดู นางถามขึ้นว่า ”ท่านอ่านจบแล้วหรือ”
”ยัง แต่เจ้าอ่านจบแล้วค่อยเล่าให้ข้าฟังก็แล้วกัน” ชายหนุ่มไม่สนใจเรื่องพวกนี้เลยแม้แต่นิดเดียว แต่ ”ข้ายังมีอีกสิ่งหนึ่งอยู่ในใจ”
”อะไรหรือ” หงส์เพลิงดูสนใจขึ้นมาทันที
เมื่อชายหนุ่มเห็นดวงตาเป็นประกายของนาง เขาก็คิดว่าตัวเองเห็นภาพสัตว์ตัวเล็กๆ ขนฟู ภาพนั้นยิ่งกระตุ้นให้เขาอยากสัมผัสนาง
อย่างไรร่างเดิมของนางก็เป็นหงส์เพลิง
”ถ้าเกิดมีใครถามว่าระหว่างพวกเราสองคน ใครเป็นคนถูกตามตื๊อเพื่อขอความรัก เราควรตอบคำถามให้ตรงกันเพื่อป้องกันไม่ให้พวกเขารู้ความจริงเข้า และคำตอบนั้นก็คือข้า”
หงส์เพลิงที่กำลังกินทั่วลิสงอยู่ชะงักไปทันทีที่ได้ยินดังนั้น ”ทำไมถึงไม่ใช่ข้าล่ะ”
”เจ้าคิดว่าข้าดูเหมือนที่จะไล่ตามขอความรักจากคนอื่นหรือ” ชายหนุ่มถามด้วยน้ำเสียงราบเรียบ
หงส์เพลิงชำเลืองมองเขา เขาก็ดูไม่เหมือนคนเช่นนั้นจริงๆ เขาเหมือนคนที่แค่ยกนิ้วขึ้นก็สามารถทำให้ใครต่อใครวิ่งไล่ตามเขาได้มากเท่าที่เขาต้องการ
แต่นางก็ไม่ใช่คนที่จะวิ่งตามขอความรักจากใครเช่นกัน
”ข้าเป็นคนขอเจ้าแต่งงานในขณะที่เจ้าเป็นคนตามตื๊อข้า เช่นนี้ถึงจะยุติธรรม” คำพูดของชายหนุ่มค่อนข้างสมเหตุสมผลทีเดียว
หงส์เพลิงทำเพียงส่งเสียงเออออตอบรับ แล้วเอ่ยว่า ”ข้าได้ยินมาว่ามีหลายสิ่งที่เราต้องทำเวลาที่ตามขอความรักจากใครสักคน”
”นั่นมันก่อนที่เจ้าจะทำสำเร็จ ตอนนี้ข้าเป็นของเจ้าแล้ว” ชายหนุ่มเอ่ยด้วยน้ำเสียงเยือกเย็นดังเดิม
หงส์เพลิง : …
ข้ายังไม่ทันได้ทำอะไรเลยสักอย่าง แต่ข้าทำสำเร็จแล้วหรือ
เหมือนที่โบราณว่าไว้ไม่ผิด ผู้หญิงตามขอความรักจากผู้ชายย่อมง่ายดายกว่าผู้ชายตามขอความรักจากผู้หญิง
”เอาล่ะ เช่นนั้นก็เป็นอันตกลงตามนี้” หงส์เพลิงเงียบไปครู่หนึ่ง จากนั้นจึงกล่าวว่า ”วันพรุ่งนี้ท่านอย่าลืมนำน้ำศักดิ์สิทธิ์มาด้วยล่ะ”
ชายหนุ่มที่กำลังเตรียมตัวกลับถึงกับชะงักไปเล็กน้อย แล้วเอ่ยด้วยน้ำเสียงห่างเหินว่า ”ได้”
มันเป็นอย่างที่ทุกคนในภพทั้งหกพูดกัน
ต้นโพธิ์ต้นนั้นเป็นข้อยกเว้นเพียงหนึ่งเดียว
นอกเหนือจากมันแล้ว หงส์เพลิงแห่งพระพุทธศาสนาก็ไม่สนใจไยดีสิ่งใดเลย…
”ตี้จวินขอรับ” สามเณรรีบเดินเข้ามาทันทีที่เห็นชายหนุ่มออกมา แต่เขาบอกไม่ได้ว่าชายหนุ่มอารมณ์ดีอยู่หรือไม่ สิ่งเดียวที่เขารู้สึกได้มีเพียงบรรยากาศเย็นยะเยือกที่อยู่รอบกายเขา เขาเอ่ยตะกุกตะกักว่า ”ท่านกับอรหันต์หงส์เพลิง ท่านสองคน?”
ชายหนุ่มหัวเราะ แล้วตอบว่า ”ไม่มีอะไร”
เมื่อสามเณรได้ยินคำว่า ’ไม่มีอะไร’ เขาก็เชื่อว่ามันไม่มีอะไรเกิดขึ้นจริงๆ แล้วถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งอก!
สามเณรน้อยรู้สึกว่าเขาเดาถูก ดังนั้นเขาจึงนำกล่องอาหารเข้าไปให้หงส์เพลิงเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
”พระอรหันต์ ข้าได้ยินมาว่าท่านไม่ได้รับคำขอแต่งงานของตี้จวิน”
หงส์เพลิงกำลังอ่านกิจวัตรข้อที่สามบนม้วนกระดาษโบราณม้วนนั้นอยู่ตอนที่นางได้ยินสิ่งที่สามเณรน้อยพูด ดังนั้นนางจึงเงยหน้าขึ้นมองเขา ”ขอบใจที่เจ้าเชื่อใจข้า แต่ข้าตอบตกลงเขาไปแล้ว”
ตุ้บ!
กล่องอาหารในมือของสามเณรน้อยร่วงลงกับพื้น!
จากนั้นเขาจึงหัวเราะออกมา ”พระอรหันต์ขอรับ ท่านคงล้อข้าเล่นอยู่สินะ ท่านพูดเรื่องเช่นนั้นออกมาง่ายๆ ได้อย่างไรขอรับ”
”ข้าพูดจริง ข้าตอบตกลงคำขอแต่งงานของเขาไปแล้ว” ยิ่งเสียงของหงส์เพลิงฟังดูเกียจคร้านเพียงใด สามเณรน้อยก็ยิ่งคิดว่านางกำลังล้อเขาเล่นอยู่
แต่คงไม่มีใครเชื่อว่าวันหนึ่งหงส์เพลิงกับตี้จวินที่เกลียดขี้หน้ากันมาโดยตลอดจะสามารถญาติดีกันได้
วันต่อมา แม้ตี้จวินจะมาร่วมมื้ออาหารกับหงส์เพลิง แต่คนอื่นๆ ต่างก็ยังคิดว่าพวกเขาเปลี่ยนจากการทำสงครามซึ่งหน้ามาทำสงครามจิตวิทยากันแทน
สถานการณ์นี้ดำเนินต่อมาจนถึงวันที่ห้า วันนั้นภพสวรรค์เชิญคนของพระพุทธศาสนาเข้าร่วมงานเลี้ยง และเทพเซียนทุกองค์ต่างก็อยู่ที่นั่นกันอย่างพร้อมหน้า
ตอนนั้นเองทุกคนจึงตระหนักได้ว่าทั้งสองดูเข้าขากัน แตกต่างจากเมื่อก่อนลิบลับ!
ภพสวรรค์เป็นเจ้าภาพงานเลี้ยงนี้ ดังนั้นแน่นอนว่าเก้าอี้ประธานจึงเป็นของตี้จวิน แต่ไม่ว่าใครจะเดินเข้ามา เขาก็ไม่มีปฏิกิริยาเลยแม้แต่นิดเดียว
จนกระทั่งหงส์เพลิงที่อยู่บนก้อนเมฆมาถึง ทันใดนั้นจู่ๆ ใบหน้าหล่อเหลาของเขาจึงเงยขึ้นมองนาง
ริมฝีปากของชายหนุ่มกระตุกขึ้นเล็กน้อยขณะจ้องมองร่างอันเงียบสงบและสง่างามท่ามกลางผู้คนนั้น ความสุขปรากฏขึ้นในดวงตาสีดำของเขาขณะที่เขาเอ่ยขึ้นว่า ”มานี่สิ”
ทันทีที่ได้ยินเสียงของเขา หงส์เพลิงก็ชะงักไป ดวงตาสีดำสนิทของนางปกคลุมไปด้วยม่านหมอกบางๆ
จากนั้นทุกคนก็หันมาจ้องมองนางในขณะที่นางเดินตรงเข้าไปหาเขาอย่างเป็นธรรมชาติ
คนหนึ่งยืน คนหนึ่งนั่ง แม้ระหว่างพวกเขาจะยังดูมีระยะห่างอยู่ แต่ระหว่างพวกเขาก็คล้ายจะมีความสัมพันธ์อันคลุมเครืออันยากจะอธิบายได้แฝงอยู่
เกิดความวุ่นวายขึ้นรอบตัวพวกเขาครู่หนึ่ง บรรดาพระอรหันต์และเทพทุกองค์ที่อยู่ที่นั่นหยุดมือในสิ่งที่ตัวเองกำลังทำอยู่แล้วมองไปทางพวกเขา
สถานการณ์นี้มันอะไรกัน
ทำไมพวกเขาถึงไม่สู้กันล่ะ
ไม่ใช่แค่ไม่มีการต่อสู้ แต่ทำไมพวกเขากลับดูเข้ากันได้ดีถึงเพียงนี้ล่ะ
ใช่ พวกเขาเข้ากันได้ดีทีเดียว
ต่างจากเหล่าทวยเทพและพระอรหันต์ บรรดาปีศาจที่เป็นสัตว์เลี้ยงของตี้จวินต่างก็กำลังจ้องมองหงส์เพลิง
หงส์เพลิงแห่งไฟ สูงส่งเหนืออรหันต์ทั้งปวง นางเป็นจุดเปลี่ยนจากสวรรค์โดยแท้
ตัวตนของนางสูงส่งราวกับไม่ได้อยู่บนโลกใบนี้ แต่นางบริสุทธิ์เกินไป!
นอกจากความบริสุทธิ์ของนางแล้ว ดวงตาของนางก็ยังงดงามเช่นกัน พวกมันเป็นสีดำราวกับน้ำหมึก หากใครเผลอจ้องมองมันนานเกินไป คนคนนั้นย่อมตกหลุมรักมันอย่างแน่นอน
ไม่แปลกใจเลยที่ตี้จวินสนใจอยากไล่ล่านาง
เท่าที่พวกเขารู้ ยิ่งสิ่งนั้นงดงามเท่าใด ตี้จวินก็ยิ่งอยากกำราบมันมากเท่านั้น…