”วันนี้เราจะทำอะไรกันดี” ตี้จวินมักทำอะไรตามใจตัวเองอยู่เสมอราวกับว่าเขาเกิดมาเพื่อทำเช่นนั้น หรือจะพูดอีกอย่างก็คือเขาเป็นเหมือนกับต้นไผ่และต้นบ๊วยที่มีเอกลักษณ์ในตัวมันเอง
คนอื่นๆ ย่อมไม่มีทางเข้าใจความหมายในสิ่งที่เขาพูด
แต่หงส์เพลิงเข้าใจ นางหยิบม้วนกระดาษโบราณที่พกมาด้วยออกมา จากนั้นจึงกระซิบบอกเขาขณะมองไปยังกฎข้อที่หก ”หากดูจากความก้าวหน้าแล้ว วันนี้พวกเราควรจะจับมือกันได้แล้ว แต่ถ้าพวกเราทำเช่นนั้นระหว่างมื้ออาหาร มันจะไม่ดูแปลกๆ หรือ”
ชายหนุ่มมองหงส์เพลิง เขาไม่ได้ว่าอะไร แต่กลับลงมืออย่างฉับไว เขายื่นมือออกไปหานาง ออกแรงเพียงนิดเดียวเขาก็สามารถจับมือนางไว้ได้อย่างแน่นหนา
หงส์เพลิงชะงักไปครู่หนึ่ง นางก้มหน้าลงแล้วมองไปทางชายหนุ่ม ”ทำเช่นนี้แล้วข้าจะกินข้าวได้อย่างไร”
”ข้าจะป้อนเจ้าเอง” จากนั้นชายหนุ่มจึงชี้นิ้วไปที่กฎข้อที่เจ็ดที่อยู่บนม้วนกระดาษโบราณ ”ทำข้อเจ็ดด้วยแล้วกัน แสดงความรักในที่สาธารณะหรือ วันนี้เป็นโอกาสดีที่จะทำเช่นนี้พอดี”
หงส์เพลิงเห็นด้วย เพราะคนจากภพภูมิทั้งหกทุกคนล้วนแต่ได้รับคำเชิญให้เข้าร่วมงานเลี้ยงสวรรค์ในครั้งนี้ ดังนั้นงานเลี้ยงนี้จึงมีคนหนาแน่นกว่างานเลี้ยงของพระพุทธศาสนาเมื่อครั้งก่อนมากนัก และนั่นตรงตามเงื่อนไขของข้อที่เจ็ดพอดี
ใครบางคนก็ฉลาดเอาการทีเดียว เมื่อคิดว่านางจะสามารถทำกฎทั้งสองข้อให้สำเร็จลุล่วงไปได้ในวันเดียว หงส์เพลิงก็รู้สึกประสบความสำเร็จอย่างมาก นางยอมนั่งลงข้างตี้จวินแต่โดยดีด้วยรอยยิ้ม
แต่สิ่งที่เกิดขึ้นนี้กลับมีผลกระทบต่อบรรดาทวยเทพและพระอรหันต์ได้อย่างใหญ่หลวง!
”ข้าตาฝาดหรือเปล่า ข้าเห็นตี้จวินจับมือหงส์เพลิงอยู่!”
”ที่สำคัญ แทนที่นางจะใช้ดาบวงพระจันทร์หั่นเขาเป็นชิ้นๆ นางกลับดูมีความสุขเสียอีก?!”
”ฮ่าๆๆ จะต้องมีอะไรผิดพลาดแหงๆ ต้องมีอะไรผิดปกติแน่!
”ข้าทนไม่ไหวแล้ว ข้าจะไปตามขอความรักจากเทพธิดาสุดที่รักของข้าเดี๋ยวนี้ ในเมื่อตี้จวินกับหงส์เพลิงยังลงเอยกันได้ เช่นนั้นทำไมข้าจะอยู่กับฉางเอ๋อร์บ้างไม่ได้!”
คนที่ชื่อฉางเอ๋อร์พูดไม่ออกเมื่อได้ยินเช่นนี้…
เมื่อเห็นความโกลาหลที่อยู่ด้านล่าง ในที่สุดหงส์เพลิงก็สามารถทำความเข้าใจกับความหมายของคำว่าความสุขที่ชายหนุ่มมีได้ นางมีความสุขยิ่งนักเมื่อได้เห็นคนอื่นๆ ตกอยู่ในความสับสน
แม้ว่าดอกบัวทองคำจะได้เป็นพระอรหันต์หลังคนอื่นๆ แต่ด้วยสาเหตุที่นางเกิดที่หน้าประตูแห่งพระอรหันต์ จึงทำให้นางได้ที่นั่งด้านหน้าในงานเลี้ยงนี้ ดังนั้นนางจึงมองเห็นทุกอย่างที่พวกเขาทำได้ ใบหน้าสวยของนางแข็งตึงขึ้นในวินาทีแรก จากนั้นนางจึงยิ้มออกมา แล้วกล่าวว่า ”อรหันต์หงส์เพลิง ทำไมท่านถึงไม่เคยแจ้งเรื่องนี้ให้พวกเราทราบมาก่อนเล่า ตอนนั้นข้ายังตั้งใจว่าจะแนะนำเทพจากภูเขาเทียนซานให้ท่านรู้จักอยู่เลย เวลานั้นข้าไม่รู้ว่าท่านตกลงปลงใจกับตี้จวินเสียแล้ว เรื่องนี้นับว่าเหนือความคาดหมายนัก ข้าไม่รู้จริงๆ ว่าข้าควรจะพูดอะไร”
หงส์เพลิงเงยหน้าขึ้นมองไปทางดอกบัวทองคำหลังจากได้ยินคำพูดของนาง ปากของนางโค้งขึ้นกลายเป็นรอยยิ้ม นางดูเกียจคร้าน แต่ลูกประคำที่อยู่บนข้อมือของนางกลับเปล่งแสงออกมา นางเอ่ยขึ้นราวกับอ่านใจอีกฝ่ายได้ว่า ”ในเวลาเช่นนี้ เพียงแค่กล่าวคำอวยพรก็น่าจะพอแล้วมิใช่หรือ”
”จริงสิ!” ดอกบัวทองคำชะงักไปครู่หนึ่ง แล้วจึงพูดต่อ ”แน่นอนว่าข้าต้องแสดงความยินดีให้กับท่านอยู่แล้ว นี่เป็นเรื่องที่น่าประหลาดใจจริงๆ! ย้อนกลับไปตอนอยู่ในงานเลี้ยงของพระพุทธศาสนา อรหันต์ยังสู้กับตี้จวินอยู่เลยด้วยซ้ำ แต่ผ่านไปเพียงไม่กี่วัน ตอนนี้ท่านกลับเข้ากับตี้จวินได้ดียิ่งนัก หากสมเด็จรู้เรื่องนี้เข้า เขาจะต้องยินดีกับท่านแน่นอน”
ทันทีที่ได้ยินเช่นนี้ คนอื่นๆ จากภพทั้งหกก็เริ่มพูดคุยกัน
”จริงด้วย เมื่อไม่กี่วันก่อน ทุกครั้งที่ตี้จวินกับหงส์เพลิงพบหน้ากัน พวกเขายังปะทะคารมกัน หรือไม่ก็สู้กันอยู่เลย แล้ววันนี้พวกเขาอยู่ร่วมกันอย่างสงบสุขได้อย่างไรกัน”
ชายหนุ่มยกขาขึ้นนั่งไขว่ห้าง ดวงตาลึกล้ำราวกับฟ้าพร่างดาวของเขาเหลือบมองไปทางคนที่อยู่เบื้องล่าง ”วันนั้นหงส์เพลิงมีเหตุผลที่ทำเช่นนั้น”
จริงอยู่ที่นางทำเช่นนั้นเพราะนางมีเหตุผล แต่เขาไม่น่าจะรู้เหตุผลนั้น…
หงส์เพลิงค่อนข้างงงงวย
จากนั้นนางก็ได้ยินเทพและพระอรหันต์ที่อยู่ข้างล่างถามขึ้นว่า ”เหตุผลอะไรหรือขอรับ”
”ความหึงหวง” ชายหนุ่มเอ่ยด้วยน้ำเสียงมีความสุข ”ความจริงหงส์เพลิงตามขอความรักจากข้ามาได้ระยะหนึ่งแล้ว นางไม่ชอบให้ข้าพูดคุยกับหญิงอื่น โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อมีใครบางคนพยายามที่จะแนะนำหญิงอื่นให้กับข้าด้วย”
พระอรหันต์และบรรดาทวยเทพทุกองค์ต่างนึกไม่ถึงว่าจะได้คำตอบกลับมาเช่นนี้
อันที่จริง แม้กระทั่งหงส์เพลิงเองก็ยังนึกไม่ถึงว่านี่จะเป็นเหตุผลเหมือนกัน!
นางหันหน้าไปมองชายหนุ่ม
”วางใจได้ จากนี้ไปข้าจะไม่มองผู้หญิงคนอื่นอีก” ตี้จวินเอ่ยอย่างหนักแน่น เขากำลังเล่นละครอยู่
หงส์เพลิงไม่รู้ว่านางควรจะพูดอะไร ดังนั้นนางจึงเลือกที่จะเงียบ
แต่เสียงกระซิบกระซาบที่ดังขึ้นรอบตัวกลับมีแต่จะดังขึ้นเรื่อยๆ
”สรุปว่าที่จริงแล้วพวกเขาสู้กันก็เพราะเรื่องนี้หรอกหรือ เช่นนั้นหมายความว่าก่อนหน้านี้ที่พวกเขาเอาแต่สู้กันอยู่เรื่อยก็เพราะหงส์เพลิงหึงเวลาที่ตี้จวินไปพบกับหญิงอื่นหรือ”
”มีความเป็นไปได้สูงทีเดียว…”
เสียงเอะอะนั้นทำลายอารมณ์ดื่มเหล้าของผู้เฒ่าจันทราจนไม่เหลือ
เขามองไปทางคนทั้งสองที่นั่งอยู่บนสุด แล้วคิดกับตัวเองว่า เจ้าหมายความว่าอย่างไรที่ว่ามีความเป็นไปได้สูง
ทั้งสองเกิดมาพร้อมกับชะตากรรมที่ว่า ’จากสองคน จะมีเพียงคนเดียวเท่านั้นที่มีชีวิตอยู่’ มันไม่มีทางที่พวกเขาจะสนิทสนมกันได้อยู่แล้ว
ยิ่งกว่านั้น หนึ่งในนั้นก็ยังเป็นหงส์เพลิงของพระพุทธศาสนาอีกด้วย
หงส์เพลิงไม่อาจมีความรักได้ มิฉะนั้นคนจากพระพุทธศาสนาก็คงไม่ยอมเก็บนางไว้เหมือนกัน
นางเป็นคนคนเดียวที่ได้กลายเป็นพระอรหันต์เพราะการเข่นฆ่า
พระพุทธศาสนายังต้องการดาบเล่มนี้อยู่ ถ้าดาบมีอารมณ์ความรู้สึก นางจะยังไร้เทียมทานและช่วยเหลือทุกสรรพสิ่งในภพภูมิทั้งหกได้อย่างไร
ต่อให้นางมีความรู้สึก แต่นางก็ควรเก็บความรู้สึกนั้นไว้ให้กับคนในพระพุทธศาสนา
แต่ถ้าคนที่นางมีความรู้สึกให้คือตี้จวินที่อยู่นอกเหนือการควบคุมของภพทั้งหกแล้วละก็…
เดี๋ยวสิ!
หรือจะมีบางอย่างผิดพลาด
ผู้เฒ่าจันทราผุดลุกขึ้นยืนทันที เขาเดินออกไปข้างนอกด้วยใบหน้าซีดเผือด โดยไม่สนใจเสียงร้องเรียกจากทางด้านหลังอีกด้วย เขารีบร้อนกลับไปที่วิหารผู้เฒ่าจันทรา แล้วถามผู้ช่วยทั้งสองของตัวเองว่า ”ด้ายที่ข้าบอกให้เจ้าเตรียมไว้ให้ตี้จวินอยู่ที่ไหน”
ผู้ช่วยทั้งสองสบตากัน ”ท่านอาจารย์ขอรับ ปกติมันก็อยู่ในกระเป๋าของท่านตลอดมิใช่หรือ ท่านอาจารย์ นี่ท่านเมาอีกแล้วหรือขอรับ”
”กระเป๋าของข้าหรือ…” ผู้เฒ่าจันทราเหมือนเพิ่งจะนึกอะไรขึ้นได้ จากนั้นเขาจึงล้วงมือเข้าไปในเสื้อคลุมยับยู่ยี่ของตัวเอง แต่มันกลับว่างเปล่า นั่นรวมถึงสมุดบันทึกของเขาด้วย ”เป็นไปได้อย่างไร พวกมันหายไปไหน”
ผู้ช่วยทั้งสองมองหน้ากันอีกครั้ง ก่อนจะเอ่ยอย่างช้าๆ ว่า ”ท่านอาจารย์ นิสัยลืมข้าวของหลังจากเมาของท่านชักจะมีปัญหาแล้วนะขอรับ เมื่อคราวก่อนตอนที่ตี้จวินนำเหล้ากุ้ยฮวามาให้ท่าน ท่านก็ชอบใจเสียจนยอมแลกมันกับของที่อยู่ในกระเป๋าท่านมิใช่หรือขอรับ ตี้จวินยังพูดด้วยนะขอรับว่าหากแลกกันแล้ว ท่านจะเอามันกลับคืนไปไม่ได้ แล้วท่านก็ยังพยักหน้าตอบตกลงเสียด้วย”
”โอ้ สวรรค์! จบสิ้นแล้ว!” ผู้เฒ่าจันทราตบศีรษะของตัวเองอย่างแรง สมองของข้าช่างความจำสั้นเสียนี่กระไร ข้าควรจะระวังตัวเวลาอยู่กับคนคนนั้น แต่ข้ากลับเล่าทุกอย่างให้เขาฟังง่ายๆ เลยหรือ
แต่ถึงจะเป็นเช่นนั้นก็เถอะ ตี้จวินหนอตี้จวิน ทำไมท่านถึงใช้ด้ายแดงของตัวเองเลือกหงส์เพลิง แทนที่จะเป็นคนอื่นเล่า ท่านคิดจะทำอะไรกันแน่!
ผู้เฒ่าจันทรารู้จักตี้จวินดี คนคนนี้เป็นคนอารมณ์แปรปรวน ดังนั้นจึงเป็นไปไม่ได้ที่เขาจะตกหลุมรักหงส์เพลิง เขาจะต้องวางแผนการอย่างอื่นเอาไว้อย่างแน่นอน
ผู้เฒ่าจันทราคาดการณ์ได้อย่างถูกต้อง ชายหนุ่มมีแผนการของตัวเองอยู่จริงๆ โดยเฉพาะแผนที่จะใช้กับหงส์เพลิง ”คืนนี้มานอนที่ห้องข้า”